แนวทางใช้ชีวิต.....ด้วยจิตวิญญาณ


 

Movedbythespirit

อ่านหนังสือเรื่อง Moved by the Spirit จบไปสองวันแล้วก็ยังรู้สึกว่ามีเรื่องที่ควรจะบันทึกเอาไว้อีกก่อนจะเอาไปคืนห้องสมุดคณะแพทย์ของเรา ทั้งสำหรับตัวเองและคิดว่าคงจะมีประโยชน์สำหรับทุกท่านที่ได้อ่าน เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ได้คิดวิเคราะห์ด้วยตัวเองว่าควรจะนำไปปฏิบัติหรือไม่ สิ่งที่เป็นคุณค่าทางใจ ทางจิตวิญญาณนั้นเราจะสัมผัสได้ด้วยตัวเองจากการปฏิบัติเองเท่านั้นจริงๆค่ะ ข้อไหนที่ทำได้แล้ว เราก็จะยิ่งรู้ซึ้งว่าหมายความว่าอย่างไร เป็นบทสรุปที่คุณ Jon Carlson หนึ่งในบรรณาธิการของหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเอาไว้ในบทสุดท้ายของหนังสือค่ะ มีทั้งหมด 28 ข้อ

1. เพาะกล้าความรักและความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเป็นสองสิ่งสำคัญที่ค่อยๆพัฒนาได้ในช่วงชีวิตของเรา เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย

2. อยู่กับปัจจุบันทุกขณะ ซึ่งเป็นชีวิตของเรา เพราะบ่อยครั้งที่เรามัวแต่คิดถึงอดีตหรือคาดหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ลืมชั่วขณะที่เราอยู่ไป

3. มุ่งความสนใจถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อจิตวิญญาณของเรา จิตใจที่แจ่มใสจะไม่ยึดติดกับสิ่งใด การทำสมาธิ สวดมนต์ มีส่วนช่วยได้

4. ปฏิบัติต่อทุกชีวิตด้วยความเห็นอกเห็นใจ ทุกสิ่งเกี่ยวข้องกัน ตระหนักว่าทุกชีวิตเป็นหนึ่งเดียว ไม่แบ่งแยก ไม่มีใครสูงกว่าใคร แต่ล้วนเชื่อมโยงกัน

5. เรียนรู้ที่จะไปด้วยกันให้ได้กับคนสำคัญๆในชีวิตของเรา สุขภาพจิตและความสุขจะเกิดได้เมื่อเรามีความสัมพันธ์ที่น่าพอใจกับคนที่สำคัญๆในชีวิตของเรา

6. ทำสิ่งที่แตกต่างและให้โอกาสตัวเองที่จะทำสิ่งที่ฝันเอาไว้ การจะเข้าถึงจิตวิญญาณของตนเองนั้น บางครั้งก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง

7. เชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองและพยายามพัฒนาสิ่งนั้นในตนเอง

8. พิจารณาให้ลึกซึ้งทั้งภายในและภายนอกตัวตนของเรา เพื่อค้นหาจิตวิญญาณที่แท้จริงของตัวเราเอง

9. ตระหนักว่าความเจ็บป่วยทางกายมักมาจากโรคภัยในจิตวิญญาณของเรา เพราะจิตใจ ร่างกายและจิตวิญญาณของเราล้วนเกี่ยวเนื่องกัน หากเรารู้สึกว่าร่างกายมีปัญหา ก็เกิดมาจากการใช้ชีวิตของเราเองที่ไม่สอดคล้องกับจิตวิญญาณ

10. มุ่งหาความสงบบนทางสายกลาง หลีกเลี่ยงความสุดโต่ง ความมากไป น้อยไปของทุกสิ่งจะนำไปสู่ความทุกข์ ความพอดีคือหนทางแห่งจิตวิญญาณ

11. ทำตามกฏแห่งกรรม ไม่พูด ไม่คิด ไม่กระทำสิ่งที่เป็นผลร้ายแก่ผู้อื่น ฝึกฝนจิตใจที่ปรารถนาให้ผูอื่นมีความสุขและความสวัสดี

12. ละการให้ความสำคัญต่อตัวตนของเราเอง เรียนรู้ที่จะมีเมตตา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เรามักจะหลงไปกับความสำเร็จของตนเอง หากรู้สึกตัวเมื่อใดให้เปลี่ยนความสนใจไปที่ผู้อื่น ฝึกความมีเมตตากรุณาให้เกิดขึ้นแทน

13. ปฏิเสธบริโภคนิยม ตระหนักไว้ว่าความต้องการทางสถานะ ทรัพย์สิน และอำนาจเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนเราไปจากการรับรู้ถึงสิ่งที่มีความสำคัญจริงๆต่อชีวิตของเรา

14. มีความอดทน เมื่อพบความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ทุกคนต่างเร่งรีบ ความอดทนช่วยให้เราลดจังหวะชีวิตลง ไม่เร่งรีบ บีบบังคับ ผลักดันสิ่งต่างๆ หากแต่พร้อมรับกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต

15. ฝึกฝนความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นให้เป็นวิถีชีวิต ทำความดีง่ายๆในชีวิตตลอดทั้งวัน ระลึกเอาไว้ว่า การทำดีกับคนดีนั้นทำได้ง่าย แต่เป็นการยากมากที่จะทำดีกับคนที่ร้ายกับเรา แต่คนกลุ่มนี้แหละที่กำลังมีความทุกข์และต้องการความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง

16. เรียนรู้ที่จะรักทุกคนอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมทั้งตัวเราเองด้วย โดยเฉพาะผู้ที่แตกต่างจากตัวเรามากที่สุด

17. ตระหนักว่าการกระทำแม้เพียงเล็กน้อย อาจเปลี่ยนโลกได้

18. เรียนรู้ที่จะอยู่และให้คุณค่ากับความเงียบ ให้เวลาในการหายใจและเพ่งถึงศูนย์กลางของตัวเรา กำหนดใจให้อยู่กับปัจจุบันขณะ

19. รับรู้ว่าความเปลี่ยนแปลงมีทั้งแบบค่อยเป็นค่อยไปและแบบฉับพลันทันที ทำความเข้าใจว่าความพอใจนั้นอยู่ที่ระหว่างการเดินทางไม่ใช่ที่จุดหมายปลายทาง

20. ค้นหาพิธีกรรมที่จะเชื่อมโยงกับบรรพบุรุษของตัวเราเอง ตระหนักว่าเป็นเพราะท่านเหล่านั้นที่ทำให้เรามีชีวิตขึ้นมาได้ ให้ความเคารพนับถือทั้งทางความคิดและการกระทำ

21. เพิ่มความมีคุณค่าด้วยการบำบัดดูแลผู้อื่น สิ่งนี้จะเกิดเมื่อเราทำสิ่งเล็กๆน้อยเพื่อผู้อื่น 

22. ลดหรือรู้จักหลีกเลี่ยงอารมณ์ที่ทำลายล้างอย่างเช่น อารมณ์โกรธ ความเกลียด ความโกรธเป็นศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งทำให้เราสูญเสียความสงบในจิตใจและสร้างกรรมร้ายหากทำอะไรไปในยามโกรธ

23. เข้าใจว่าจิตวิญญาณมีอยู่เสมอ และด้วยศรัทธาและจิตวิญญาณที่ทำให้ชีวิตน่้าพึงพอใจ

24. เข้าใจว่ามีพระเจ้าเพียงหนึ่งเดียว แต่มาในวิธีเรียกและรูปแบบหลากหลาย

25. เรียนรู้ที่จะฟังร่างกายของตัวเอง เพื่อรับรู้ข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับตนเอง

26. ทำในสิ่งที่รักที่สุด ฟังหัวใจตนเองและปฏิบัติตามที่ได้ยิน

27. ชื่นชมธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องเสียเงิน และเป็นสถานที่อันยิ่งใหญ่ที่จะนำเราไปสู่การบำบัดภายใน

28. ดูแลตัวเอง มีผู้คนมากมายที่ลืมรักษาดูแลตัวเอง 

ซึ่งท่านได้สรุปไว้ว่า แต่ละข้อทุกท่านน่าจะเคยได้ยินมาแล้วในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งจากศาสนาและวัฒนธรรมต่างๆ แต่อย่างที่เขียนตอนแรกนั่นแหละนะคะ การรับรู้ก็เป็นเรื่องดี แต่หากต้องการรู้ซึ้งถึงประโยชน์ที่ได้กับตัวเราเองนั้นก็ต้องฝึกฝนลองปฏิบัติเองในชีวิตจริงดูนะคะ

 

หมายเลขบันทึก: 385450เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2010 02:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท