โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

แผ่นดินสวิสเซอร์แลนด์-1


18 ตุลาคม 2547 ปลายฤดูใบไม้ร่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อุณหภูมิราว 12 องศาในเมืองซูริค ประเทศสวิสถือว่าไม่หนาวเกินไปนักสำหรับการทักทายคณะอาคันตุกะผู้มาเยือนยามเช้าตรู่

แผ่นดินสวิสเซอร์แลนด์-1

โสภณ  เปียสนิท

........................

 

                18 ตุลาคม 2547 ปลายฤดูใบไม้ร่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว อุณหภูมิราว 12 องศาในเมืองซูริค ประเทศสวิสถือว่าไม่หนาวเกินไปนักสำหรับการทักทายคณะอาคันตุกะผู้มาเยือนยามเช้าตรู่ จากแผ่นดินไทยซึ่งไกลอีกซีกหนึ่งของโลก เป็นความหนาวที่คาดการณ์ล่วงหน้าแล้ว มองเห็นคุณค่าของชุดสูทมากกว่าที่อยู่เมืองเรา ซึ่ง “เท่แต่ร้อน”

 

                ศึกษาข้อมูลพบว่า ประเทศสวิสเป็นประเทศเล็ก อยู่กลางกลุ่มยุโรป มีนโยบายเน้นความเป็นกลางไม่ขึ้นกับกลุ่มใด ผู้คนหลายเชื้อชาติรวมกันอยู่เป็นชาติได้อย่างมั่นคงน่าแปลกใจ ภาษาที่ใช้มีทั้งภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาเลี่ยน และโรมัน เมืองใหญ่ที่สุดคือเมืองซูริคมีประชากรราว 5 แสนคน เมืองหลวงชื่อเบิร์น เศรษฐกิจสำคัญคือ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม สินค้าและบริการ

 

                ธงชาติเป็นผ้าขาวมีกากบาดสีแดงอยู่ตรงกลาง เหมือนสัญลักษณ์สภากาชาดไทย แบ่งเขตแดนเป็นรัฐ หรือเรียกว่า แคนโทนจำนวน 23 รัฐด้วยกัน มีเนื้อที่ทั้งหมด 41,285 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าประเทศไทย 12 เท่าเศษ พื้นที่ส่วนมากเป็นภูเขา บ้านเรือนส่วนมากจึงอยู่บนเขา ทุกหลังมีห้องใต้ดินไว้สำหรับเก็บอาวุธปืน เนื่องจากรัฐบาลสนับสนุนให้ทุกบ้านมีปืน เพื่อเอาไว้ป้องกันประเทศยามคับขันคราวเกิดสงคราม ชาวสวิสมีชื่อเสียงเรื่องความซื่อสัตย์รักความสงบ

 

                แม้ว่าจะเหนื่อยล้าจากการนอนหลับไม่เต็มตาเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าทุกคนต่างไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อนให้เห็น มัคคุเทศก์ทำหน้าที่ตรวจกระเป๋าสัมภาระของลูกทัวร์อย่างละเอียด บางคนมีกระเป๋าเดียว บางคนมีสองกระเป๋า ผมแอบมองการทำหน้าที่ของเขาด้วยความสนใจ

 

                บางคนทำภารกิจส่วนตัวที่สนามบินแห่งนี้ เข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน เปลี่ยนเครื่องทรงให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศแล้วมาขึ้นนั่งประจำที่บนรถบัสขนาดกลาง ข้างล่างคุณชาตรีมัคคุเทศก์ง่วนอยู่กับการนับกระเป๋าสัมภาระ ก่อนจะเดินมาขึ้นรถ สำรวจจำนวนคณะของเราและสั่งเริ่มต้นการเดินทาง

 

                ผมรู้สึกสนใจความเป็นมัคคุเทศก์ อาจเป็นเพราะผมร่ำเรียนมาทางภาษาต่างประเทศ คือภาษาอังกฤษ แนวทางในการดำเนินอาชีพไม่ห่างไกลกับมัคคุเทศก์เท่าใดนัก ไม่เป็นครูก็เป็นมัคคุเทศก์ หรือไม่ก็เป็นล่าม หรือไม่ก็เป็นนักแปล หรือไม่ก็นักการฑูต หรือไม่ก็เป็นพ่อค้าระหว่างประเทศ พ้นจากอาชีพเหล่านี้แล้วจะเป็นอะไรได้

 

                แต่ดูว่าการเป็นมัคคุเทศก์เป็นงานบริการที่ค่อนข้างหนักเอาการ เพราะต้องทำให้ลูกค้าอยู่พึงพอใจในทุกด้าน ตลอดการเดินทาง กำหนดการ ยานพาหนะ อัฐบริขาร อาหารเครื่องดื่ม การหลงลืมสิ่งของ จับจองที่พัก ตระหนักในความรู้ เคียงคู่การบันเทิง กล่าวได้ว่าต้องดูแลให้ประทับใจเข้าไว้

 

                ระหว่างการเดินทางมัคคุเทศก์เล่าเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยให้ลูกทัวร์ฟังได้เรื่อย ๆ คงเตรียมตัวหาข้อมูลมาไม่น้อย ผมมองความแปลกใหม่สองข้างทางด้วยความสนใจ รูปลักษณ์ของบ้านเรือน ถนน ต้นไม้ ภูเขา สะพานลอย หูฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่มัคคุเทศก์นำมาเล่าด้วยความสนใจไม่แพ้กัน

 

                การซื้อของในประเทศสวิสถ้าเกิน 100 ฟรังส์ ต้องยื่นหนังสือเดินทาง passport ด้วย เพื่อว่าจะได้ทำหนังสือลดหย่อนภาษีได้ และย้ำว่าหนังสือเดินทางต้องอยู่กับตัวเสมอ หายไปต้องพักอยู่ที่ประเทศนี้ รอจนกว่าการทำเรื่องตามขบวนการให้เรียบร้อยก่อนจึงเดินทางต่อไปได้ มีบางคนอยากให้หนังสือเดินทางหาย จะได้พักอยู่อีกหลายวัน แต่ค่าโรงแรมแต่ละคืนราว ๆ 70 เหรียญยูโร ไม่มากดอกครับ ลองคูณด้วย 52 บาทเข้าก็จะได้จำนวนจริง คือ ราว 3600 กว่าบาท ค่าอาหารก็แค่ 50 ยูโรต่อมื้อเท่านั้น วันหนึ่งก็ 150 เหรียญ หรือ 7800 บาท

 

 

หมายเลขบันทึก: 381786เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2010 19:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 15:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

มาชม

เรื่องเล่าทางยุโรปนะครับผม...

ขอบคุณครับพี่ยูมิ

เคยไปแค่ครั้งเดียวแหละครับ 10 วัน เขียนบันทึกเป็นปีเลย อันนี้ต้องฮาหน่อย

เล่าได้เห็นภาพ...ราวกับว่าได้มาเที่ยวด้วยคนค่ะ

เรียนคุณมาตายี

ตอนนั้นตื่นเต้นครับ ได้ไปไกลขนาดนั้น เลยบันทึกไว้ตลอด กลับมาก็เขียนขยายความกันสนุก....

เข้ามาเยี่ยมครับ อ.โสภณ ... มีโอกาสผมก็อยากไปครับ

 

ไปเถอะครับ ได้ความรู้จากโลกกว้าง

ถ้ามีเงินเหลือพอนะครับ

  เรียนท่านอาจารย์โสภณ

     อยากไปค่ะ แต่คงไม่ได้ไปเพราะเหตุผลหลายประการ เช่น

1. ไม่มีตังค์ค่ะ

2. กลัวความสูง (สำคัญมากๆ ไม่กล้าขึ้นเครื่องค่ะ)

ภาพสิงห์โตแสดงความกล้าหาญของทหารสวิสที่ยอมตายทั้งกองทัพไม่ยอมทำร้ายชาวบ้าน ได้รับการกล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง เป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่

สวัสดีค่ะอาจารย์ อ่านบันทึกของอาจารย์ ถ้ามีโอกาสอยากไปเที่ยวอีกค่ะ

 

Ico48เรียน ดร. ครับ

คราวนี้ถ้าเที่ยวละก้อ อย่าลืมถ่ายภาพสวยๆ

เท่ๆ มาฝากกันบ้านนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท