"ศิลปะ ใครว่ามีไว้สำหรับมนุษย์เท่านั้น" นั่นคือคำจำกัดความของศิลปินผู้นี้ พศิน เวียงแก้ว ชายผู้ที่ไม่อาจทราบประวัติได้อย่างแน่ชัด เขาปะปนกับมนุษย์ได้อย่างแนบเนียนจนไม่สามารถดูออกได้ว่า "มันไม่ใช่มนุษย์"
นี่คือบทสัมภาษที่ถอดมาจากเทปลับอันเป็นที่ต้องการขององค์กรหลายองค์กร
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม: ผมขอเริ่มคำถามแรกเลยนะครับ "คุณมาที่โลกมนุษย์นี้ทำไม!"
ผู้ถูกถามนิ่งไปชั่วครู่ แล้วตอบอย่างใจเย็น
พศิน: ผมต้องการมาเพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมของมนุษย์ โดยอาศัยร่างเนื้อของมนุษย์ มันอาจเป็นร่างที่สมมุติขึ้นเพื่อการแทรกซึมได้โดยง่าย
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม: ผมได้ข่าวมาว่า เหตุผลที่คุณมาที่นี่เพราะดาวของคุณใกล้จะแตกดับ
พศิน: ใช่...ผมหนีสงครามมา มันเป็นเกมส์แห่งการล่า ผมเล็งเห็นว่าสงครามยังไม่หยุด มนุษย์โลกก็มีแต่ฆ่าฟันกัน แต่เกมส์ที่ผมเขียนนี่มันสนุกนะ ไม่ซีเรียสเหมือนเรื่องจริง ผมสนุกสนานกับสงครามและความทุกข์
ผู้ถามเริ่มปวดหัวกับคำตอบและจุดบุหรี่สูบเพื่อผ่อนคลายอารมณ์
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม: มีความคิดเห็นยังไงกับพวกมนุษย์ รู้สึกยังไง
ผู้ถามพยายามถามคำถามเพื่อจี้ใจดำพวกต่างดาว
พศิน: มันมีหลากหลายอารมณ์ บางคนก็พิการ บางคนก็หล่อ สวย คนสวยรูปร่างดีก็อาจทำให้เราต้องการ คนขี้เหร่และพิการอาจทำให้เราเศร้า
อืมม...ฟังดูมีเหตุผล ผมไม่ละความพยายามจ้วงถามคำถามที่แคบเข้ามาสู่เนื้อหาซึ่งน่าจะทำมาตั้งนานแล้ว
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม: ทำไมตอนเด็กๆถึงได้ชอบวาดรูป
ผมถามคำถามที่ดูจะสามัญชนมากๆ
พศิน: จากที่เห็นบุคคลที่เป็นพ่อวาดรูปจึงอยากวาดบ้าง แรกๆก็ไม่เวิร์ค หลังๆเริ่มลงเงาได้จนเกือบสมบูรณ์ จนปัจจุบันก็เพี้ยนไปอีก เริ่มจากความสะเปะสะปะ แล้วค่อยเข้าหาเหตุผล
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม: ช่วยพูดถึงงานในปัจจุบันหน่อย
พศิน: ช่วงนี้ผมทำงานเยอะ ทำๆไปก่อน ตามอารมณ์ โดยไม่ต้องไปสนใจเนื้อหา อยากหยิบอะไรใส่ก็ใส่ไป ไร้ซึ่งแรงกดดัน ไม่มีความหิวกระหายใคร่อยาก ผมชอบสนุกสนาน โดยใช้โลกส่วนตัวเป็นตัวกำหนด ไม่ค่อยอยากจะตอบเหตุผลนัก
ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม: แล้วคุณต้องการที่จะบอกอะไรชาวโลก?
พศิน: ผมอยากสร้า้งโลกใหม่ด้วยงานของผม ให้ทุกคนเริ่มจากศูนย์ใหม่ จะได้ปราศจากความแตกต่าง
อ่า....ผมได้คำตอบที่ผมต้องการแล้ว
สิ่งที่"ศิลปินพศิน"ต้องการจะบอกเป็นนัยๆนั้น ทุกๆืท่านที่เข้ามาอ่านคงล้วนแล้วแต่เอือมระอากับความเพี้ยนและเข้าใจยาก แต่ผมเองอยากจะให้มองให้ลึกและพยายามตีความประโยคที่ซับซ้อน เพราะมันอาจซ่อนความหมายที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้
.
.
.
.
พศิน เวียงแก้ว เดิมชื่อ ศุภศิลป์ เวียงแก้ว จบ ม.ปลาย จากโรงเรียนอุดรพิทยานุกูล จากนั้นเข้าศึกษาต่อ ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขา จิตรกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่นในปี พ.ศ.2543 หลังจากจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ได้เข้าทำงานในหลากหลายอาชีพ แต่ยังเคลื่อนไหวผลงานอยู่ตลอดจนเมื่อเวลาประจวบเหมาะจึงตัดสินใจศึกษาต่อในระดับมหาบัณฑิตทีี่่่สาขา ทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจนจบหลักสูตรและได้เข้าทำงานในตำแหน่งอาจารย์ในภาควิชาศิลปะ คณะมนุษศาสตร์ มหาวิทยาลัยราฎภัฐอุดรธานี
ผลงานในช่วงมัธยมบางส่วน
ผลงานตอนเรียนมหาวิทยาลัย
ผลงานระหว่างปี 2004-2007 บางส่วน เพราะมีมากถึง 155 ชิ้น
ผลงานปริญญาโทก่อนศิลปนิพนธ์
ผลงานศิลปนิพนธ์
ผลงานในปัจจุบัน
อืม ...... ดีนะ ขอยาวกว่านี้ได้ปะ กำลังสนุกเลย
ขออยู่บนโลกใบนั้นด้วยอีกคน เบื่อโลกใบนี้แล้ว อยากหลุด ทำไงจะทำได้
แหล่ม ชอบๆ งานดีครับ
ฝากถามหน่อย รู้จักเดนเด้ เปล่า
อีกไม่กี่เดือนร่างที่เค้าอาศัยคงต้องสูญสลาย จำต้องหาร่างใหม่เพื่อคงอยู่บนโลกมนุษย์
ศิลปินคนนี้มีชีวิตที่น่าสนใจ การใช้ชีวิตเผชิญกับปัญหา
ที่แทบจะหาทางแก้ไม่ได้ ท้ายที่สุดเขาได้ใช้ศิลปะบำบัด
จนชีวิตค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นลำดับ ต้องขอบคุณเหยี่ยวเป็น
อย่างมากที่มีส่วนในการเผยแพร่ความดีงามแห่งศิลปะ
ซึ่งน่าจะช่วยให้อีกหลาย ๆชีวิตได้ศึกษาเป็นแนวทางว่า
"ศิลปะ.. ไม่ทำให้ผู้รักสิ้นหนทาง ..."
ผมพึ่งจะรู้ว่าในทางศิลปะแล้วคนที่"ดาวนาเม็ก"เขาบ้ากันหยั่งงี้เองเหรอ แล้ว"ดาวนาธาน"หละพี่เป็นยังไงช่วยอธิบายตามหลักวิชาการด้วย
จากมนุษย์"ดาวนาปี"