โจทย์ชีวิต….เรื่องที่ใครหลายคนลืมคิด


คุณกำลังตั้งโจทย์ชีวิตที่ผิดอยู่หรือเปล่าครับ

โจทย์ชีวิต….เรื่องที่ใครหลายคนลืมคิด 

ผมว่าเพื่อนๆ หลายคนอ่านชื่อเรื่องแล้ว ต้องหาว่าผมเพี้ยนไปแน่ๆ จริงๆ แล้วผมก็เคยคิดแบบนี้ครับตอนฟังเรื่องนี้ ผมคิดว่าคนพูดถ้าจะสติดไม่ดีแหงมๆ แต่หลังจากผมฟังเสร็จ นี่แล่ะครับใช่เลยมันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันเราโดยที่เราเองก็ไม่เคยรู้ตัว บางทีมันอาจจะเป็นปัจจัยอย่างนึงเลยด้วยซ้ำที่ทำให้หลายคนพูดประโยคยอดฮิตว่า “ทำไมเราถึงไม่รวยสักที” หรือ “ทำไมเราไม่ประสบความสำเร็จสักที”

ผมลองเล่าให้ฟังดีหรือป่าวครับ เพราะผมเองก็เป็นคนนึงที่เคยคิดแบบที่เค้าเรียกว่า “โจทย์ชีวิตที่ผิด”

ตอนผมเด็กๆ ที่บ้านผม จริงๆ ผมว่าทุกบ้านครับ ต้องเคยพูดกับพวกเราว่า ลูกตั้งใจเรียนนะ จบมาจะได้ทำงานดีๆ มีเงินเดือนสูงๆ ซึ่งตอนนั้นผมก็ทำตามที่บ้านบอกจริงๆ ผมตั้งใจเรียนจบเภสัชมาคิดว่า โห เงินเดือนน่าจะเยอะ แถมเปิดร้านยาได้ด้วย ทั้งๆ ที่ตอนนั้น ผมเองตอน ม.ปลาย ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่าเภสัชกรทำงานแบบไหน ต้องทำไรบ้าง รู้แต่ว่ามันเท่ห์ดี เงินดี สุดท้ายผมก็จบเภสัชสมใจครับ แล้วก็เริ่มหางานทำ

เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมครับว่าเราเองหางานยังไง หลายคนเลือกงานตามที่ผมจะบอกเลยครับ

  • เป็นงานที่เราถนัด
  • เป็นงานที่เราชอบ
  • เป็นงานที่เรามีความรู้
  • เป็นงานที่สบาย อาจจะใกล้บ้านเรา
  • หรือสุดท้าย เป็นงานที่เค้ารับเราที่แรก

สุดท้ายเพื่อนๆ ก็ได้งานทำครับ แต่เชื่อสิครับ บางคนไม่พอใจเงินเดือนที่ตัวเองได้สักเท่าไหร่ ทำไป 3-5 ปี หลายคนก็เริ่มมองหางานใหม่ครับ สุดท้าย เพื่อนๆ จะเลือกงานแบบไหนครับ กลับไปข้างบนเลยครับ อาจจะเพิ่มไปอีกข้อคือ งานที่เรามีประสบการณ์ แล้วเราก็ทำงานไปเรื่อยๆ ครับ บางคน หรือผมเอง ผ่านไป 5-6 ปี ยัง งงๆ กับตัวเอง ว่า สิ่งที่ผมทำอยู่หรืองานที่ผมทำอยู่จะพาผมไปไหน ทำไปทำมาผมก็ยังวนๆ เวียนๆ อยู่ที่เดิม

 

ผมเองก็มีเป้าหมายนะครับ อาจจะไม่ใช่แบบเวอร์ๆ  แบบที่หลายคนคิด ยกตัวอย่างหละกันครับ

  • มีรายได้ต่อเดือนเกิน 200,000 บาท
  • มีเงินเก็บสัก 10 ล้านไว้ช่วยที่บ้าน
  • พาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ ได้ทุกปี
  • ซ่อมแซมต่อเติมบ้านหลังเดิม
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินๆ ทองๆ พออยู่ได้ไม่สร้างหนี้

แต่พอทำงานผ่านไป 10 ปีแทนที่จะถึงรายได้ที่คิดไว้พอทำงานมากขึ้น รายจ่ายชักมากขึ้นเป็นเงาตามตัว หลายคนเป็นคนที่หยุดทำงานไม่ได้ หรือถ้าหยุดทำงานหนี้สินที่สะสมไว้ ก็ไม่รู้จะทำยังไง หลายคนเป็นแบบที่ผมว่าจนกระทั้ง อายุ 60 ปี ผมรู้ได้ไง เพราะผมเห็นคนอายุเกิน 60 ปี ยังต้องทำงานอยู่เลยครับ เป็นคนใกล้ตัวผมทั้งนั้น หรือไม่ก็กลายเป็นคนล้มเหลวไปก็หลายคน เพราะพอได้เงินก้อนตอนเกษียณก็เอาไปลงทุนแต่ดันเจ๊ง สุดท้ายกลายเป็นหนี้สินพ้นตัว

แปลกหรือป่าวครับ เวลาเราจะนั่งรถเมล์ไปที่ไหนสักที่ ผมว่าทุกคนต้องกำหนดว่าจะไปที่ไหนก่อนจริงหรือป่าวครับ คงไม่มีใครโดดขึ้นรถเมล์ไปเลย โดยไม่รู้ว่าคันที่ขึ้นมาไปไหน สมมุติว่าอยู่ลาดพร้าวจะไปสยาม เราคงไม่ขึ้นคันที่เขียนว่าไปรังสิต หรือไม่คันที่ไปแค่อนุเสาวรีย์จริงหรือป่าวครับ เราก็จะรอคันที่ไปสยามเท่านั้น ผมว่าเรื่องขึ้นรถเมล์เป็นเรื่องง่ายๆ มาก แต่ลองมาดูในชีวิตจริงดิครับ เราดันเลือกงานโดยที่ไม่รู้เลยว่างานที่เราเลือกพาเราไปถึงเป้าหมายหรือป่าว

ผมลองเปลี่ยนวิธีครับ คือจริงๆ ผมมีเป้าหมายเหมือนเดิม แต่ที่ผ่านมางานทำให้ผมก้าวไปไม่ถึงเป้าหมายซักที ผมคิดใหม่ครับ ผมอยากจะลองทำอะไรในช่วง 3-5 ปีที่จะถึงนี้ครับ มันอาจจะเป็นงานแบบข้างล่างคือ

  • งานที่ไม่ถนัด
  • งานที่ไม่ชอบ
  • งานที่ไม่มีประสบการณ์
  • งานที่ไม่เท่ห์
  • แต่ถ้ามันให้ผลลัพธ์คือเป้าหมายผมได้ ผมก็อยากจะลองทำดู

งานที่ผมคิดไว้ ต้องเป็นงานที่ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ เป็นการลงทุนระยะยาว แต่สามารถให้ผมถึงเป้าหมายได้ งานที่ผมไม่เคยคิดไว้เลยคือ ธุรกิจเครือข่ายครับ จนกระทั้งผมได้ลองมาศึกษาจริงๆ ดู ผมก็เข้าใจว่าธุรกิจเครือข่ายเป็นงานนึงที่น่าสนใจมากๆ อาศัยเวลาทำคู่กับงานประจำได้เลย รายได้ทีเกิดขึ้นแรกๆ อาจจะดูน้อย แต่พอเราสร้างเครือข่ายคนใช้สินค้ามากขึ้น ช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ เราเองก็จะประสบความสำเร็จไปด้วย

หากลองคิดง่ายๆ ครับ ผมเองผมว่าผมเป็นคนนึงที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก งานที่ตัวเองถนัด มาเกือบทั้งชีวิตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นงานด้านวิศวกรรม การเป็นวิทยากร การได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ เรียกว่าอะไรที่อยากได้หรืออยากทำแทบไม่เคยพลาดแต่ถามว่ามันพาผมไปถึงจุดหมายยัง ก็ยังครับ วันนี้ลองธุรกิจเครือข่ายๆ ที่จริงๆ ผมว่ามันแทบไม่ใช่ตัวผมเลย แต่คิดแค่ว่า ลองทำสิ่งใหม่ๆ ก็อาจจะได้อะไรใหม่ๆ กลับมาได้ ตอนนี้ ก.ค. 53 ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไงต่อ แต่ผมโคตรมั่นใจ ก.ค. 54 ปีหน้า มันจะต้องไม่เป็นแบบนี้ ปีนี้กับปีหน้ามันต้องไม่เหมือนเดิม มันต้องมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นบ้าง

ที่สำคัญธุรกิจเครือข่ายสามารถส่งต่อความสำเร็จเป็นมรดกให้ครอบครัวผมได้ ลองคิดเล่นๆ หากผมทำไปได้ซักพัก (ประมาณ 3 ปี) ผมมีรายได้เดือนละ 200,000 บาทตามที่คิด เกิดผมเป็นไรไป ครอบครัวผมแค่ซื้อกินซื้อใช้เดือนละ 900 บาท เค้าก็สามารถมีรายได้เหมือนกับที่ผมมีแล้ว ผมว่ามันเยี่ยมมากๆ เพราะผมก็ไม่รู้ครับ ลูกผม หรือ หลานผม เค้าจะเรียนเก่งหรือป่าว สังคมยิ่งแข่งขันกันขึ้นทุกวัน แต่ผมแน่ใจว่าถ้าผมทำถึงจุดนึง เกิดผมเป็นไรไป ลูกผมหรือหลานผมต้องมีความสามารถซื้อของจาก aimstar ได้เดือนละ 900 บาทแน่นอน

ผมเล่ามาถึงจุดนึง ผมว่าเพื่อนน่าจะเข้าใจธุรกิจเครือข่ายมากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะธุรกิจ Snatur ผมเองไม่เคยไปขายของให้ใคร ไม่เคยไปบังคับใครสมัคร หน้าที่ผมคือเป็นสะพานให้คนที่รู้จักหรือคนที่รัก ก้าวไปถึงเป้าหมายของตัวเอง ผมเองเป็นคนคอยช่วย โดยผมคิดเสมอถ้าผมช่วยใครให้สำเร็จแล้ว ผมเองก็จะเป็นคนนึงที่จะสำเร็จได้แน่นอน

 http://www.phongsak-snatur2success.com/

หมายเลขบันทึก: 378257เขียนเมื่อ 24 กรกฎาคม 2010 06:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 15:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท