SOS “รู้ - ตื่น- เบิกบาน” ส่งสัญญาณ...เยาวชนจิตอาสา

“การทำงานเยาวชนเพื่อบ่มเพาะ แตกหน่อ และต่อยอดให้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ความงาม และความจริง ถือเป็นการสร้างทุนที่ดีให้แก่สังคม ยิ่งเราบ่มเพาะเยาวชนให้มีจิตอาสารู้จักสร้างความสุขแก่ผู้อื่นด้วยก็ยิ่งจะเป็นการติดอาวุธทางปัญญาที่ทำให้เด็กและเยาวชนเข้มแข็งและเป็นที่พึ่งของสังคมได้” แม่ชีย้ำ

รูดม่านปิดฉากลงไปแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นที่ยังอบอวลไม่คลาย กับค่ายชื่อแปลก “SOS” – Seed of Spirituality “บ่มเพาะ แตกหน่อ ต่อยอด เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา” ที่จัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 6 โดยเสถียรธรรมสถาน เป้าหมายเพื่อ“หนุนเสริม” ให้เยาวชนไทยมีจิตอาสา หาญกล้ารับใช้สังคม พร้อม “รู้ ตื่น เบิกบาน” ไปกับการรู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง แต่เชื่อว่าถึงค่ายจะจบ แต่สิ่งสวยงามที่เกิดขึ้นในใจเยาวชนทั้ง 260 คนตลอด 7 วัน 6 คืนไม่ได้จบลงไปด้วย แม่ชีจ๋า – ศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน ให้โอวาทว่า เยาวชนที่สังคมต้องการจะต้องเป็นผู้หาญกล้าอาสาออกรับใช้ผู้คน “ยอมตนให้คนใช้ ฝึกตนเพื่อใช้คน และไม่รอให้ใครใช้” ทั้งนี้แล้ว ในการทำงานอาสา เรายังจะต้องลดอัตตาลงด้วย “การทำงานเยาวชนเพื่อบ่มเพาะ แตกหน่อ และต่อยอดให้เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ความงาม และความจริง ถือเป็นการสร้างทุนที่ดีให้แก่สังคม ยิ่งเราบ่มเพาะเยาวชนให้มีจิตอาสารู้จักสร้างความสุขแก่ผู้อื่นด้วยก็ยิ่งจะเป็นการติดอาวุธทางปัญญาที่ทำให้เด็กและเยาวชนเข้มแข็งและเป็นที่พึ่งของสังคมได้” แม่ชีย้ำ จากแนวคิดแปลงสู่กิจกรรมอันลงตัว ค่ายครั้งนี้ เยาวชนได้เรียนรู้การทำงานจิตอาสาผ่านเวิร์คช็อปศิลปะที่อยู่ในความสนใจ 8 แขนงด้วยกัน ได้แก่ การถ่ายภาพนิ่ง การทำมิวสิควิดีโอ ครีเอทีฟมูฟเมนต์ การทำนิตยสาร การทำเพลงและคอนเสิร์ต การทำอาหาร การวาดภาพ และการจัดสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่ แต่ละกิจกรรมมีวิทยากรที่มีฝีไม้ลายมือขั้นเทพคอยให้คำแนะนำ และทั้งหมดยังถูกออกแบบไว้ให้เชื่อมร้อยเข้าด้วยกันด้วยคอนเซ็ปต์ “รู้ ตื่น เบิกบาน” อันเป็นธีมหลักของงาน สำหรับผลงานที่ได้ ได้มีการนำไปจัดแสดงในเทศกาล “สวนศิลป์ สวนธรรม: ธรรมะ ดนตรี กวี ศิลป์” ซึ่งจัดขึ้นภายในค่าย งานนี้มีกระทรวงวัฒนธรรมให้การสนับสนุน นอกจากนั้นน้องๆ ยังได้มันส์สุดเหวี่ยงกับการแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ ป๊อด โมเดิร์นด็อก จิ้มจุ้มเอเอฟ 1 ป๊อบ –วิน แคลอรี บลา บลา แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร และสุนิสา สุขบุญสังข์ ฯลฯ สร้างความสนุกสนานและภาคภูมิใจ ก่อนปิดท้ายด้วยการถอดบทเรียนสิ่งที่ได้รับในวันสุดท้าย ปอม – กิตติศักดิ์ โยตุลิด เยาวชนค่ายจากชมรมเยาวชนอาสาเมืองจันทบุรีเล่าถึงฉากเด็ดที่ประทับใจว่า “เช้าวันที่ 5 ของค่าย พี่ๆ อนุญาตให้พวกผมนอนตื่นสายหน่อยได้ เพราะเมื่อคืนก่อนหน้าพวกเราทำกิจกรรมกันจนดึกมาก เช้าวันนั้นจึงไม่ต้องตื่นขึ้นมาทำวัตรตั้งแต่ตี 4 เหมือนวันอื่นๆ พอผมตื่นขึ้นมาเห็นแม่ชีหลายรูปกำลังกวาดลานธรรมอยู่ ก็คิดว่าไหนๆ เราก็มาอยู่ที่นี่แล้วน่าจะทำประโยชน์อะไรได้บ้าง จึงหยิบไม้กวาดเข้าไปช่วย “พอเรากวาดลานธรรม เพื่อนคนอื่นๆ เห็น เขาก็หยิบไม้กวาดขึ้นมาช่วย จาก 1 เป็น 2 คน จาก 2 เป็น 4 และเพิ่มขึ้นเป็นสิบโดยไม่มีการร้องขอ” ปอมเล่ายิ้มโชว์ฟันสวยก่อนเผยว่า ครั้งหนึ่งงานจิตอาสาได้เปลี่ยนตัวเขาจากประธานนักเรียนที่ไม่รู้จักฟังใครให้ลดอัตตา -ความเป็นตัวตนเมื่อได้ทำงานคลุกคลีกับชุมชนและยอมทำงานหนักเพื่อชุมชนบ้านเกิดสมดั่งโอวาทที่แม่ชีให้ไว้ ตูน-อธิวัฒน์ พงษ์พานิช ก็เป็นอีกหนึ่งเยาวชนที่ได้รับแง่มุมจิตอาสาติดใจกลับไปจากเวิร์คช็อปการถ่ายภาพ “ในกิจกรรมถ่ายภาพนิ่งที่ผมสมัครเข้าร่วม พี่วิทยากรจะย้ำเสมอว่าเราไม่ได้ถ่ายภาพเพื่อตนเองนะ แต่ให้ใช้การถ่ายภาพของเราสร้างความสุขให้ผู้อื่น" ในกิจกรรมหนึ่งพี่วิทยากรยังให้ให้น้องๆ จับคู่บัดดี้ผูกขาข้างหนึ่งไว้ด้วยกันก่อนปล่อยให้ไปถ่ายรูปตามโจทย์ที่ให้ "กิจกรรมนี้สอนให้เราได้แลกเปลี่ยนมุมมองการถ่ายภาพกับเพื่อนๆ หากเราไม่มีจิตใจที่จะให้ ก็จะแบ่งปันมุมองกับเพื่อนๆ ไม่ได้” ตูนเล่า ด้าน หนัง –วรัญญู หันจันทร์ เยาวชนโครงการ "กล้าใหม่...ใฝ่รู้" ระดับมัธยมศึกษาของธนาคารไทยพาณิชย์ฯ จากจังหวัดสระแก้ว บอกว่า มาที่นี่แล้วได้ทั้งประสบการณ์และเพื่อนใหม่นิสัยดี แม่ชีเองก็สอนให้มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อ อยากเห็นและอยากทำให้ผู้อื่นมีความสุข ในค่ายหนังและเพื่อนๆ จึงนำเสนอมุมมองของการ “รู้ ตื่น เบิกบาน” ผ่านมิวสิควิดีโอ ซึ่งหวังว่าจะช่วยสร้างความสุขให้คนอื่นได้ อีกทั้งค่ายนี้ยังจุดประกายให้เขากล้าทำดีมากขึ้น “เมื่อก่อนเวลามีคนแบกของหนักๆ ผ่านมา ผมก็จะช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง เพราะกลัวๆ กล้าๆ บ้างก็ขี้เกียจช่วย แต่มาตอนนี้ก็คิดว่าต่อไปผมจะช่วยทุกครั้งแล้ว เพราะรู้สึกดีกับคำขอบคุณที่ได้รับเมื่อเราเข้าไปช่วยเหลือ ” สุดท้ายที่ ตอง- พิมพ์ชนก พรวนคำ เยาวชนสาวนักกิจกรรมจากเพชรบูรณ์ สะท้อนบ้างว่าได้ข้อคิดข้อธรรมจากแม่ชีจ๋านำกลับไปใช้มากมาย อย่างแรกคือการปรับมุมมอง ทำอย่างไรทำงานแล้วมีความสุข เมื่อมีความสุขแล้วก็ไม่ยึดติดในความสุขนั้นๆ ทั้งนี้เพราะมีสติรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตองเชื่อว่าเมื่อเรามีความสุขเราก็จะทำงานออกมาได้ดี และถือเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง ส่วนอีกเรื่องที่ได้คือเรื่องของจิตอาสา “มาที่นี่ นอกจากกิจกรรมเวิร์คช็อปแล้ว พวกเรายังได้ไปลงแรงลงใจลอกคลองกันค่ะ อันนี้สนุกมาก ได้ประโยชน์เยอะ เพราะมีคนสังเกตเห็นข้อดีของน้ำดำๆ นี้เหมือนกัน ด้านเพื่อนๆ กลุ่มเพลงก็เอาไปแต่งเพลงร้องว่า ขยะในน้ำ ถ้าดูไม่ดีมันก็แค่ดำ คนเลวคนดี ต้องดูให้ดีที่การกระทำ หนูคิดว่าเพราะดี และยังใช้สอนใจได้ด้วยว่าที่เราเห็นว่าดำๆ นั้น เป็นเพราะน้ำดำหรือเพราะอะไรที่ทำให้มันดำกันแน่” ก่อนจากกันไป น้องตอง -เยาวชนคนเก่งจากเพชรบูรณ์ยังฝากบอกด้วยว่า กระบวนการ “รู้ ตื่น เบิกบาน” ยังทำให้จิตใจของเธอเบ่งบานขึ้น “แต่ก่อนเราอาจจะคิดว่า “จิตอาสา” ก็คือการที่เราอยากจะทำอะไรเพื่อผู้อื่น บุคคลรอบข้าง หรืออะไรก็ตามด้วยใจที่คิดจะให้จริงๆ ให้แบบสละทั้งแรงใจและแรงกายเพื่อผู้อื่น แต่ตอนนี้ได้มองใหม่ในมุมที่กว้างขึ้นและมองว่าจิตอาสาเป็นการที่เราอยากและทำเพื่อผู้อื่น แต่เราจะต้องมีความสุขที่ได้ให้ด้วย พอเรามีความสุข เราก็จะสามารถส่งผ่านความสุขไปยังบุคคลรอบข้างได้อย่างง่ายดายและคงจะเป็นการให้ที่สมบูรณ์จริงๆ” เห็นแง่มุมดีๆ แบบนี้แล้ว เราชวนกันมา “รู้ ตื่น เบิกบาน” กันเถอะ. ปล.เป็นบทความที่ได้รับแรงบันดาลใจส่วนตัวจากงานค่ายดังกล่าวที่จัดขึ้นเมื่อเมษายน 53 ที่ผ่านมาครับ (^_^)(^_^) เก็บไว้นานถือโอกาสนำมาแบ่งปันกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน

รูดม่านปิดฉากลงไปแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นที่ยังอบอวลไม่คลาย กับค่ายชื่อแปลก “SOS” – Seed of Spirituality “บ่มเพาะ แตกหน่อ ต่อยอด เมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา” ที่จัดติดต่อกันมาเป็นปีที่ 6 โดยเสถียรธรรมสถาน เป้าหมายเพื่อ“หนุนเสริม” ให้เยาวชนไทยมีจิตอาสา หาญกล้ารับใช้สังคม พร้อม “รู้ ตื่น เบิกบาน” ไปกับการรู้เท่าทันอารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง แต่เชื่อว่าถึงค่ายจะจบ แต่สิ่งสวยงามที่เกิดขึ้นในใจเยาวชนทั้ง 260 คนตลอด 7 วัน 6 คืนไม่ได้จบลงไปด้วย

แม่ชีจ๋า – ศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน ให้โอวาทว่า เยาวชนที่สังคมต้องการจะต้องเป็นผู้หาญกล้าอาสาออกรับใช้ผู้คน “ยอมตนให้คนใช้ ฝึกตนเพื่อใช้คน และไม่รอให้ใครใช้” ทั้งนี้แล้ว ในการทำงานอาสา เรายังจะต้องลดอัตตาลงด้วย

จากแนวคิดแปลงสู่กิจกรรมอันลงตัว ค่ายครั้งนี้ เยาวชนได้เรียนรู้การทำงานจิตอาสาผ่านเวิร์คช็อปศิลปะที่อยู่ในความสนใจ 8 แขนงด้วยกัน ได้แก่ การถ่ายภาพนิ่ง การทำมิวสิควิดีโอ ครีเอทีฟมูฟเมนต์ การทำนิตยสาร การทำเพลงและคอนเสิร์ต การทำอาหาร การวาดภาพ และการจัดสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่ แต่ละกิจกรรมมีวิทยากรที่มีฝีไม้ลายมือขั้นเทพคอยให้คำแนะนำ และทั้งหมดยังถูกออกแบบไว้ให้เชื่อมร้อยเข้าด้วยกันด้วยคอนเซ็ปต์ “รู้ ตื่น เบิกบาน” อันเป็นธีมหลักของงาน

สำหรับผลงานที่ได้ ได้มีการนำไปจัดแสดงในเทศกาล “สวนศิลป์ สวนธรรม: ธรรมะ ดนตรี กวี ศิลป์” ซึ่งจัดขึ้นภายในค่าย งานนี้มีกระทรวงวัฒนธรรมให้การสนับสนุน นอกจากนั้นน้องๆ ยังได้มันส์สุดเหวี่ยงกับการแสดงคอนเสิร์ตร่วมกับศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ ป๊อด โมเดิร์นด็อก จิ้มจุ้มเอเอฟ 1 ป๊อบ –วิน แคลอรี บลา บลา แอม เสาวลักษณ์ ลีละบุตร และสุนิสา สุขบุญสังข์ ฯลฯ สร้างความสนุกสนานและภาคภูมิใจ ก่อนปิดท้ายด้วยการถอดบทเรียนสิ่งที่ได้รับในวันสุดท้าย

ปอม – กิตติศักดิ์ โยตุลิด เยาวชนค่ายจากชมรมเยาวชนอาสาเมืองจันทบุรีเล่าถึงฉากเด็ดที่ประทับใจว่า “เช้าวันที่ 5 ของค่าย พี่ๆ อนุญาตให้พวกผมนอนตื่นสายหน่อยได้ เพราะเมื่อคืนก่อนหน้าพวกเราทำกิจกรรมกันจนดึกมาก เช้าวันนั้นจึงไม่ต้องตื่นขึ้นมาทำวัตรตั้งแต่ตี 4 เหมือนวันอื่นๆ พอผมตื่นขึ้นมาเห็นแม่ชีหลายรูปกำลังกวาดลานธรรมอยู่ ก็คิดว่าไหนๆ เราก็มาอยู่ที่นี่แล้วน่าจะทำประโยชน์อะไรได้บ้าง จึงหยิบไม้กวาดเข้าไปช่วย

“พอเรากวาดลานธรรม เพื่อนคนอื่นๆ เห็น เขาก็หยิบไม้กวาดขึ้นมาช่วย จาก 1 เป็น 2 คน จาก 2 เป็น 4 และเพิ่มขึ้นเป็นสิบโดยไม่มีการร้องขอ” ปอมเล่ายิ้มโชว์ฟันสวยก่อนเผยว่า ครั้งหนึ่งงานจิตอาสาได้เปลี่ยนตัวเขาจากประธานนักเรียนที่ไม่รู้จักฟังใครให้ลดอัตตา -ความเป็นตัวตนเมื่อได้ทำงานคลุกคลีกับชุมชนและยอมทำงานหนักเพื่อชุมชนบ้านเกิดสมดั่งโอวาทที่แม่ชีให้ไว้

ตูน-อธิวัฒน์ พงษ์พานิช ก็เป็นอีกหนึ่งเยาวชนที่ได้รับแง่มุมจิตอาสาติดใจกลับไปจากเวิร์คช็อปการถ่ายภาพ “ในกิจกรรมถ่ายภาพนิ่งที่ผมสมัครเข้าร่วม พี่วิทยากรจะย้ำเสมอว่าเราไม่ได้ถ่ายภาพเพื่อตนเองนะ แต่ให้ใช้การถ่ายภาพของเราสร้างความสุขให้ผู้อื่น" ในกิจกรรมหนึ่งพี่วิทยากรยังให้ให้น้องๆ จับคู่บัดดี้ผูกขาข้างหนึ่งไว้ด้วยกันก่อนปล่อยให้ไปถ่ายรูปตามโจทย์ที่ให้ "กิจกรรมนี้สอนให้เราได้แลกเปลี่ยนมุมมองการถ่ายภาพกับเพื่อนๆ หากเราไม่มีจิตใจที่จะให้ ก็จะแบ่งปันมุมองกับเพื่อนๆ ไม่ได้” ตูนเล่า

ด้าน หนัง –วรัญญู หันจันทร์ เยาวชนโครงการ "กล้าใหม่...ใฝ่รู้" ระดับมัธยมศึกษาของธนาคารไทยพาณิชย์ฯ จากจังหวัดสระแก้ว บอกว่า มาที่นี่แล้วได้ทั้งประสบการณ์และเพื่อนใหม่นิสัยดี แม่ชีเองก็สอนให้มีจิตใจที่เอื้อเฟื้อ อยากเห็นและอยากทำให้ผู้อื่นมีความสุข ในค่ายหนังและเพื่อนๆ จึงนำเสนอมุมมองของการ “รู้ ตื่น เบิกบาน” ผ่านมิวสิควิดีโอ ซึ่งหวังว่าจะช่วยสร้างความสุขให้คนอื่นได้ อีกทั้งค่ายนี้ยังจุดประกายให้เขากล้าทำดีมากขึ้น “เมื่อก่อนเวลามีคนแบกของหนักๆ ผ่านมา ผมก็จะช่วยบ้างไม่ช่วยบ้าง เพราะกลัวๆ กล้าๆ บ้างก็ขี้เกียจช่วย แต่มาตอนนี้ก็คิดว่าต่อไปผมจะช่วยทุกครั้งแล้ว เพราะรู้สึกดีกับคำขอบคุณที่ได้รับเมื่อเราเข้าไปช่วยเหลือ ”

สุดท้ายที่ ตอง- พิมพ์ชนก พรวนคำ เยาวชนสาวนักกิจกรรมจากเพชรบูรณ์ สะท้อนบ้างว่าได้ข้อคิดข้อธรรมจากแม่ชีจ๋านำกลับไปใช้มากมาย อย่างแรกคือการปรับมุมมอง ทำอย่างไรทำงานแล้วมีความสุข เมื่อมีความสุขแล้วก็ไม่ยึดติดในความสุขนั้นๆ ทั้งนี้เพราะมีสติรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ตองเชื่อว่าเมื่อเรามีความสุขเราก็จะทำงานออกมาได้ดี และถือเป็นการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่ง ส่วนอีกเรื่องที่ได้คือเรื่องของจิตอาสา

“มาที่นี่ นอกจากกิจกรรมเวิร์คช็อปแล้ว พวกเรายังได้ไปลงแรงลงใจลอกคลองกันค่ะ อันนี้สนุกมาก ได้ประโยชน์เยอะ เพราะมีคนสังเกตเห็นข้อดีของน้ำดำๆ นี้เหมือนกัน ด้านเพื่อนๆ กลุ่มเพลงก็เอาไปแต่งเพลงร้องว่า ขยะในน้ำ ถ้าดูไม่ดีมันก็แค่ดำ คนเลวคนดี ต้องดูให้ดีที่การกระทำ หนูคิดว่าเพราะดี และยังใช้สอนใจได้ด้วยว่าที่เราเห็นว่าดำๆ นั้น เป็นเพราะน้ำดำหรือเพราะอะไรที่ทำให้มันดำกันแน่”

ก่อนจากกันไป น้องตอง -เยาวชนคนเก่งจากเพชรบูรณ์ยังฝากบอกด้วยว่า กระบวนการ “รู้ ตื่น เบิกบาน” ยังทำให้จิตใจของเธอเบ่งบานขึ้น “แต่ก่อนเราอาจจะคิดว่า “จิตอาสา” ก็คือการที่เราอยากจะทำอะไรเพื่อผู้อื่น บุคคลรอบข้าง หรืออะไรก็ตามด้วยใจที่คิดจะให้จริงๆ ให้แบบสละทั้งแรงใจและแรงกายเพื่อผู้อื่น แต่ตอนนี้ได้มองใหม่ในมุมที่กว้างขึ้นและมองว่าจิตอาสาเป็นการที่เราอยากและทำเพื่อผู้อื่น แต่เราจะต้องมีความสุขที่ได้ให้ด้วย พอเรามีความสุข เราก็จะสามารถส่งผ่านความสุขไปยังบุคคลรอบข้างได้อย่างง่ายดายและคงจะเป็นการให้ที่สมบูรณ์จริงๆ”

เห็นแง่มุมดีๆ แบบนี้แล้ว เราชวนกันมา “รู้ ตื่น เบิกบาน” กันเถอะ.

ปล.เป็นบทความที่ได้รับแรงบันดาลใจส่วนตัวจากงานค่ายดังกล่าวที่จัดขึ้นเมื่อเมษายน 53 ที่ผ่านมาครับ (^_^)(^_^) เก็บไว้นานถือโอกาสนำมาแบ่งปันกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน

เขียนใน GotoKnow โดย เซ้ง
ใน zeng1

คำสำคัญ (Tags): #sos

หมายเลขบันทึก: 376841เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2010 18:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน 2012 14:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (4)

อีกไม่กี่เดิอนก็จะได้ใช้กล้วยและอ้อยแล้ว อิอิ

เซ้ง