หลายคนที่ชอบแอ่ว(เที่ยว)ตามป่าเขา หากไม่มีพระคาถาอาคมมักจะพบกับสิ่งอาถรรพ์ของเจ้าป่าเจ้าเขา
วันนี้นักนิยมไพรพากันเข้าป่าเพื่อหนีความวุ่นวายจากในเมือง แต่พอไปถึงป่าเกิดพายุพัดกระหน่ำจนต้องหนีกันกระเจิงไอ้หนุ่มบ้านป่าที่เป็นลูกหาบเกิดพลัดหลงจากกลุ่มเพื่อนฝูงจนเข้าเวลาค่ำคืน
แต่ด้วยเขาเป็นหนุ่มบ้านป่าย่อมมีพระคาถาอาคมของบรรพบุรุษไว้ป้องกันตัวตามวิถีชาวบ้านป่าอยู้บ้าง เวลาเข้าไต้พลบ เขาก่อกองไฟ แล้วรอเวลาให้มีดุ้นหลัวสุด(ฟืนซากไฟ)อยู่สามสี่อัน เขานำมันมาเสกพระคาถาแล้วนำมันขว้างไปทั้งสี่ทิศเพื่อป้องกันสิ่งอาถรรพ์ในป่า
กางเต็นท์ข้างกองไฟ กะว่าจะผิงไฟให้อุ่นก่อนเข้านอน แล้วพรุ่งนี้จะกู่ก้องร้องหาเพื่อนๆตามราวป่า
ขณะที่กำลังนั่งผิงไฟอยู่เพลิน ในใจนึกวางแผนกะว่าพรุ่งนี้จะทำอย่างไรให้กลับบ้านได้เร็วที่สุดจู่ๆก็มีเงาดำตะคุ่มๆ..เหมือนคนเดินมาหา ขนยาวเต็มตัว นัยตาเล็กหยีท่อนล่างห่มใบไม้ปกปิดร่างกายส่วนสำคัญ
คนแปลกร่างเข้ามานั่งใกล้ไม่พูดจา แต่เข้ามานั่งร่วมผิงไฟด้วย สักครู่ชายแปลกร่างขนยาวเอามือมาจับที่แขนของเขารู้สึกเย็น..เย็นเฉียบ และแล้วก็ปล่อยมือไปวางที่ตักมันดังเดิม
ไอ้หนุ่มชาวป่ากลัวแต่ไม่กล้าจะวิ่งหนี ในใจนึกแต่พระคาถาบทแล้วบทเล่า ทวนแล้วทวนอีก ต่างคนต่างไม่พูดจากันจนใกล้รุ่ง ดาวพระก๋าย(ประกายพรึก)ส่องฟ้าทิศตะวันออกบอกเวลาใกล้แจ้งพอเห็นทางลางเลา ไอ้หนุ่มไม่คิดชีวิตกลั้นหายใจออมความกล้าค่อยๆเถิบถอยหลังออกมา พอได้จังหวะเปิดตำราใส่ตีนหมาวิ่งสุดขีด
วิ่งไปเหลียวแลหลังไป ก็ไม่เห็นคนมีขนตามมาก็ดีใจว่าเออ..พ้นเคราะห์แล้วเรา..แต่ก้มลงดูที่เท้าปรากฏว่ารองเท้ายางคู่ใหม่ไม่ได้ใส่มาเพราะวิ่งเท้าเปล่าเปลือยแท้ๆ....
ใจนึกเสียดายรองเท้าแตะยางคู่ใหม่กว่าจะได้มาต้องออมเงินหลายสิบบาท และจะต้องเข้าไปในตัวอำเภอจึงจะมีร้านขายรองเท้า
นั่งเอาแรงอยู่นานขณะที่ตี๋นฟ้ายก(แสงเงินแสงทอง)เริ่มสว่าง จึงรีบกลับไปเอารองเท้าแตะนันยางคู่ใหม่
เมื่อกลับไปยังเห็นชายมีขนนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไหวติง เขาแอบย่องเข้าไปด้านข้างแล้วรีบหยิบรองเท้าพร้อมหันหลังเปิดแน้บอย่างไม่คิดชีวิต ออกมาตามทางล้องัว(เกวียน)มองหาทางกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านจึงเล่าให้ผู้ใหญ่ฟัง ผู้ใหญ่ท่านบอกว่านั่นคือผีป่าดงดอย มันชอบอยู่ตามรูหลืบถ้ำ แต่ไม่ทำร้ายใคร หากใครหลงป่าผีพวกนี้แหละจะพาคนกลับบ้าน
ผีป่าดงดอยอาจมีแม้ร่างกายน่ารังเกียจ แต่ใจมันยังมีเมตตาต่อผู้คนที่หลงป่า.น่าคิดใหมหมู่เฮา..
สวัสดีครับคุณเหรียญชัย..
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและร่วมแสดงความคิดเห็นครับ...
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน....พรหมมา
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์
Krudala เคยฟังคนเฒ่าคนแก่เล่าสมัยยังเป็นเด็ก ก็เชื่อว่าเป็นความจริง ยิ่งสมัยก่อนบ้านเมืองยังมืดตื้อไม่มีไฟฟ้า พอตกค่ำก็กลัวสารพัด เพราะได้ฟังนิทานเกี่ยวกับเรื่องผีๆนี่เอง
ขอบคุณเจ้า
สวัสดีครับครูดาหลา.....
นิทานเรื่องผีๆ..ลุงได้ฟังจากคนที่มีประสบการณ์พบกับผีมาแล้ว..ครับ..จึงนำมาเล่าต่อเพื่อเป็นนิทานให้ลูกหลานได้ฟังเผื่อจะได้เป็นข้อมูลเมื่อจะไปในป่าเขาจะได้ระวังครับ....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา