ผมเพิ่งกลับจากการบรรยายให้บรรดา "ครูข้างถนน"จากภาครัฐและองค์กรพัฒนาเอกชน เกือบ 100 คน ที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
งานนี้เขามีการทำเอกสารแจกหลายฉบับ แต่ที่ผมสนใจมากเป็นพิเศษคือ หนังสือเรื่อง "ครูข้างถนน" เขาสัมภาษณ์ครูเหล่านี้ไว้หลายคน ผมลองคัดบางส่วนของบางคนมานำเสนอ ดังนี้
สิทธิพร ธรรมเนียมงาม หรือที่เด็กเร่ร่อนทั้งหลายเรียกเขาว่า "ครูมิ้น" เขาเล่าว่า
"เด็กเร่ร่อน ไม่ได้เดินมาหาเรา นี่คือความจริง เพราะกว่าเขาจะหนีออกมานอนข้างถนนนี่ ก็เป็นช่วงที่เขาเรียนรู้มาว่า สังคมนี้ไม่มีใครให้ความรักต่อเขา ไม่มีใครใส่ใจดูแลเขา เพราะแม้กระทั่งพ่อแม่ของเขา ยังทำกับเขา จนต้องหนีออกมาจากบ้าน คนที่เขาควรไว้ใจได้มากที่สุดกลับกระทำกับเขาถึงขนาดนี้ ฉะนั้นโลกนี้เขาจะไว้ใจใครได้อีก............
ครูข้างถนนจึงต้องทำงานกับเด็กเร่ร่อนกลุ่มนี้และต้องทำงานในเชิงรุก คือเข้าไปหาเขาถึงพื้นที่ พูดคุบ ทำความรู้จักด้วยมิตรภาพและความจริงใจ ให้เขารู้ว่า ครูนี่นะ ตั้งใจจะมาช่วยจริงๆ ไม่ใช่เข้ามาเพื่อนำเขาไปเป็นเครื่องมือในการหาเงิน.............
กว่าที่เด็กบางคนจะยอมคุยด้วย หรือเปิดใจเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ต้องใช้เวลานาน บางคนต้องใช้เวลานานหลายเดือน และบางคนนั้นต้องไปพูดคุยด้วยเป็นปีจึงจะเกิดการเปลี่ยนแปลง..............
หลายครั้งผมเกือบถูกจับและตั้งข้อหาด้วยความเข้าใจผิด และบางครั้งอธิบายให้ตำรวจฟังแล้ว เขาก็ยังไม่เข้าใจ จนถูกลงไม้ลงมือ ซึ่งเป็นสาเหตุให้องค์กรต้องทำงานในเชิงเครือข่ายมากขึ้น เพื่อให้องค์กรอื่นๆ เข้าใจการทำงานของครูข้างถนนและช่วยเหลือกันในการทำงาน..............
เวลาเราเห็นเด็กเร่ร่อนหลายคนที่เราให้คำแนะนำแก่เขา ปัจจุบันนี้เขาสามารถดำเนินชีวิตที่ดี จบการศึกษาในระดับปริญญา มีอาชีพทำมาหากินได้ เลี้ยงครอบครัว ดูแลครอบครัวได้ในระดับหนึ่ง เราก็มีความสุขแล้ว.............
เป็นครูข้างถนนคนแรกที่ยังคลุกคลีการทำงานกับเด็กเร่ร่อน เป้นพี่ใหญ่ที่ใจดี เอื้อเฟื้อความรู้สู่คนทำงานข้างถนนสายใหม่ๆ หลายคนที่เดินทางเป็นครูข้างถนน เพราะมีแบบอย่างอย่างครูมิ้นท์ที่เป็นพี่ชายที่ใจดีกับน้องๆครูข้างถนน ขอคาวะการทำงานที่ทุ่มเทมาตลอดเพื่อเด็กเร่ร่อน
ขอบคุณแทนเด็กเร่ร่อนทุกคน
สวัสดี ครับ ครูหยุย
อ่านบันทึกนี้ ทำให้รู้ว่า แค่บางเสี้ยวของครู เช่นนี้ ควรมีองค์กรหรือสถาบันที่สามารถส่งเสริมหรือขานรับแนวทางการทำงานและการปฏิบัติที่เป็นเครือข่ายที่มีพลัง มากขึ้นนะครับ
...
คนด้อยโอกาส ...คือกลุ่มคนที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมาก ๆ ครับ
ชื่นชม ครูหยุย จากผลงานและการกระทำมาโดยตลอด
ขอบคุณ ครับ
อ่านแล้วทำให้มีกำลังใจอยากทำเพื่อคนอื่นมากขึ้นขอรับ
ขอบพระคุณบันทึกดี ๆ นี้ขอรับ
ขอบคุณครับ จะนำความรู้สึกดีดีนี้ไปบอกกล่าวเล่าให้บรรดาครูข้างถนนได้รับทราบนะครับ คุณเด็กข้างบ้าน
คุณแสงแห่งความดีครับ หากได้เห็นภาพวันที่คุณทองพูน บัวศรี ประสานพาบรรดาครูข้างถนนจากทั่วประเทศมาร่วมหารือกัน จะจับจิตจับใจมากกว่านี้ครับ