สัตว์หรือคนใครโหดกว่ากัน


" แม้แต่ในสถาบันอันทรงเกียรติ ยังแล้งนำใจ เหมือนอยู่กลางทะเลทราย "

สัตว์หรือคน ใครจะโหดกว่ากัน                                

             เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 เวลาประมาณ 16.30 . เศษ หลังจากเลิกสอนแล้ว ตั้งใจว่าจะออกไปซื้อของในเมือง แต่เงยหน้าดูฟ้าแล้ว เห็นว่ามืดเล็กน้อยเกรงว่าฝนจะตก เสื้อผ้าที่ตากไว้ จะเปียกฝน จึงหันรถกลับบ้านพัก ในหมู่บ้านเก่า พลันได้ยินเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของสุนัขที่ให้ข้าว น้ำและอาหารกินเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากมันเป็นสุนัขเพศผู้ สีดำสนิท และมีขากำยำแข็งแรง คาดว่าเป็นสุนัขพันธุ์ผสม จึงตั้งชื่อว่า เจ้าดำ มันเป็นสุนัขจรจัด มาจากที่ไหนก็ไม่ทราบได้ มันมาพร้อมกับสุนัขเพศเมีย 2 ตัว ที่ตั้งชื่อว่า ศรีนวลและ น้ำตาลทั้ง 2 ตัว เป็นภรรยาของ เจ้าดำเวลามัน 2 ตัวเอาใจ เจ้าดำด้วยการเลียหน้า เลียตา เจ้าดำพร้อมกันทั้ง 2 ตัว โดยเจ้าตัวผู้นั่งทำเท่ห์ ดูแล้วแปลกใจ ว่ามัน 3 ตัว สมควรได้รับการชมเชยที่ภรรยา 2 ตัวของมันปรองดองกันเป็นอย่างดี แม้กระทั้งมนุษย์ก็ยากที่จะทำได้                แต่หลายวันก่อน ตกดึก น้ำตาลร้องโหยหวน คงเกรงกลัว เจ้าดำรังแก และไม่อยากให้มายุ่งเกี่ยวด้วย สงสัย  เจ้าน้ำตาลคงจะอยู่ในวัยทองก็เป็นได้ แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประมาณ 2-3 คืน เท่านั้น คืนต่อๆมาก็ปกติสุข อาจเป็นที่มาของคำสั่ง ตาย ก็เป็นได้                ย้อนกลับมาเย็นวันที่ 3 กรกฎาคม 2549 ประมาณเกือบ 5 โมงเย็น เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของ เจ้าดำทำให้ต้องวิ่งไปดู พบว่า ตัวของมันตกลงไปในร่องน้ำทิ้งของข้างบ้าน ขา 4 ขาชี้ฟ้า ตัวสั่นระริก ปัสสาวะราด ด้วยความกลัวว่ามันจะกัด  เพราะว่าไม่รู้ว่ามันโดนอะไรมา จึงไม่มีแรงพยุงตัวออกจากร่องน้ำ  เมื่อหาไม้ให้ปากมันกัดไว้ มืออีกข้างจึงพยายามดึง 2ขาหลัง ให้ตัวมันพ้นจากร่องน้ำทิ้ง แต่ดึงได้เล็กน้อย เพราะตัวหนัก ปากก็ว่า เจ้าดำ ไม่เป็นอะไรนะ เดี๋ยวจะตามคนมาช่วย เจ้าดำอ้าปาก ทำเสียงดัง คร็อกๆ ในลำคอ 2 ครั้ง เหมือนคนสำลักเสมหะ ก่อนที่ร่างกายกระตุกและแน่นิ่งไป ใจก็คิดว่ามันคงสลบ เพราะเคยได้ยินว่า เขาจะยิงยาสลบและเอาตัวไปปล่อยไกลๆ  แต่คิดว่าเอาตัวไปคลินิกดีกว่า จึงโบกรถขอแรงคนช่วยยก เจ้าดำ ขึ้นรถ จะพาไปคลินิกเพราะเห็นว่าอาการไม่ดีเอาเลย  และคิดว่าหมอคงจะช่วยชีวิตมันไว้ได้ คนที่หยุดรถและกรุณาลงมาช่วยดู เจ้าดำบอกว่า หมดสิทธิ์ มันตายแล้ว เพราะโดนพิษร้ายแรง  ได้แต่ยืนตะลึง เพราะคิดว่า มันคงอดทนให้ผู้ที่ให้น้ำข้าวปลาอาหารมันกลับมาแล้วจะได้ลา ลาก่อน โลกมนุษย์ที่สวยงาม แต่โหดร้ายทารุณ     หันรีหันขวางไม่รู้จะทำอย่างไรดี บางคนว่าไปจ้างคนงานมาขุดหลุม และกลบฝังร่างของมัน บ้างว่าทิ้งไว้ ให้เจ้าของผลงานมาดูและจัดการในวันรุ่งขึ้น                 แต่ท้องร้องเตือนได้เวลาทานอาหารเย็นแล้ว ก็เลยขับรถไปในเมือง แต่ไม่วายกังวลใจว่า 2 ศรีภรรยา เจ้าดำจะรู้ไหมว่า เจ้าดำได้จากโลกนี้ไปแล้ว  ด้วยความกังวลใจว่า อาจจะถูกจับขังที่กรงข้างโรงรถและโรงน้ำประปา จึงขับรถไปดู พบว่ากรงว่างเปล่า  ตอนแรกตั้งใจจะมารับ เจ้า 2 ตัวกลับบ้าน แต่คิดว่าเขาคงจะเอาไปปล่อยแล้วก็เป็นได้                                กลับเข้าบ้านอีกครั้งตอนประมาณ 3 ทุ่มเศษ  ไฟจากหน้ารถส่องไปยังที่ทิ้งขยะด้านหน้า พบว่า มีเงาคล้ายกล่อง หรือสิ่งของวางอยู่ หน้าที่ทิ้งขยะของบ้านตรงกันข้าม อาจารย์หญิงที่ไปทานอาหารเย็นด้วยกัน บอกว่า คล้ายสุนัข 2 ตัวนอนอยู่  ใจคัดค้านไม่ใช่น่า แต่พอเดินเข้าใกล้ปรากฏว่า เป็น น้ำตาลและ ศรีนวลจริงๆ  เพื่อนบ้านบอกว่า มัน 2 ตัวนอนตายอยู่หลังบ้านของเขา ก็เลยเอากระดาษหนังสือพิมพ์ หุ้มขา 2 ข้างแล้วลากมาทิ้งไว้หน้าบ้าน ข้างถังขยะ เขาว่าตัวหนึ่งเลือดกลบปาก อีกตัวอุจจาระเรี่ยราด   ทำไมต้องทำกันรุนแรง โหดร้ายขนาดนี้  เจ้าดำดุก็จริง มันชอบวิ่งไล่เห่า คนและรถ แต่ไม่เคยทำร้ายใคร ยังไม่เคยจ่ายตังค์ ค่ายา และค่าทำขวัญให้ใคร หรือมี ใครเรียกตำรวจมาจับเจ้าของ  และที่น่าสงสารที่สุด คือ เจ้าศรีนวลเป็นสุนัขเพศเมีย ที่เก็บตัวค่อนข้างเงียบ สงบเสงี่ยมเจียมตัว เพราะเป็นเมียน้อย เจ้าน้ำตาลซะอีกที่กัดรองเท้าราคาแพง ขาดกระจุยกระจายหลายสิบคู่ หมดไปหลายพันบาท แต่คิดว่าตนเองเก็บไม่ดีเอง หรือเราคงเลี้ยงให้เขาหิวไม่อิ่ม รวมทั้งรองเท้าของเพื่อนบ้านที่น่ารักมากๆ ไม่เคยมาต่อว่าหรือทวงถามหารองเท้าที่หายไปเลย  ซึ่งก็แอบเอาหลักฐานไปทิ้งถังขยะ                                ขอย้อนมาที่ เจ้าดำมันเป็นสุนัขที่ฉลาดมากๆ มันโดนทั้งเข็มฉีดยา ปักบนหลังยาไม่ออกเพราะเนื้อมันอุดเข็ม และเข็มเอียงไปเลย  วันต่อมาให้คนมายิง เข็มกระเด็นไม่เข้า นำยาผสมในอาหารไส้กรอก เจ้าดำเอาเท้าเขี่ยยาทิ้ง และยืนเคี้ยวไส้กรอกเฉยเลย เอาน้ำยาใส่ในถังน้ำดื่ม มันก็ไม่ดื่มน้ำในถัง  สุนัขทั้ง 3 ตัวไม่รู้มาจากไหน บ้างว่ามาจากด้านนอกฝั่งสวนยางพารา บ้างว่าของอาจารย์ที่ย้ายไปแล้ว ไม่เอาพวกมันไปด้วย  วันชะตาใกล้ขาด มันจะฟังเสียงรถที่จะมาทำร้ายและวิ่งไปหลบที่อื่น บางวันก็ไม่นอนที่บ้าน  อาจารย์ผู้ชายที่บ้านที่พอจับตัว เจ้าดำ ได้ ได้พยายามเอาโซ่คล้องคอ และนำมาผูกที่ม้าหินแล้ว แต่ เจ้าดำกัดโซ่จนเลือดกลบปาก และกระชากจนปลอกคอขาด  แผ่นป้ายที่บอกว่า ฉีดยากันพิษสุนัขบ้า ก็หายไปด้วย  สาเหตุเนื่องจากมันไม่เคยถูกล่ามโซ่  จึงไม่สามารถกักขังมันไว้ได้ และประกอบกับ เคยขอไว้ และชะล่าใจ ว่า เจ้าดำมีของดี พระคุ้มครอง ทำให้แคล้วคลาดได้                                 แต่วันชะตาขาดก็มาถึงทั้งครอบครัว 3 ตัว ศพสุนัข 3 ตัวที่นอนเรียงรายริมถนน คงจะทำให้ ใครหลายคนสะใจ สบายใจ ที่มีส่วนที่ทำให้พวกมันไปสวรรค์ แต่หลายคนคงจะสังเวชใจ เวทนาพวกมัน แม้แต่ถิ่นที่อยู่ของเหล่าปัญญาชน  แต่ได้มีการแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรง ถึงขั้นหมายเอาชีวิตมัน ซึ่งเป็นสัตว์ที่ใกล้ชิดมนุษย์มากที่สุด  สัตว์ที่ไม่มีทางต่อสู้  สัตว์ที่ไม่สามารถร้องขอการมีชีวิตอยู่รอดในโลกที่สวยงามนี้  การเป็นยามองครักษ์รักษาสมบัติของผู้ให้ข้าวน้ำพวกมันการป้องกันคนแปลกหน้าที่อาจเข้ามาโจรกรรมข้าวของในหมู่บ้าน เสียดายความจงรักภักดีของพวกมัน 3 ตัวแม้จะสร้างความเดือดร้อนให้ใครบ้าง แต่การมีคำสั่ง ตายพวกมัน  ยุติธรรมแล้วหรือ แผ่นดินไทยที่กว้างใหญ่ไพศาล ไม่มีพื้นที่ให้กับพวกมันแล้วหรือ  ถึงคราวที่ว่า แม้แต่สถาบันที่ทรงเกียรติ  สร้างเหล่าปัญญาชน ก็ยังแห้งแล้งน้ำใจ ไร้ซึ่งความเมตตา กรุณา ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ผิดศีลอย่างร้ายแรง อย่างนี้ พอจะกล่าวได้ไหมว่า สัตว์หรือคน ใครจะโหดกว่ากัน "

ในท้ายนี้ ขอให้ เจ้าดำและภรรยา 2 ตัวของมัน ศรีนวลและ น้ำตาล ไปสู่สุขคติภพ  ขอให้ชาติหน้า อย่าได้เกิดเป็นสุนัขจรจัด  ที่ต้องมาตายอย่างอนาถในสถาบันการศึกษาที่ทรงเกียรติแห่งนี้ บางทีขอให้เกิดเป็นสุนัขในหมู่บ้านที่แห้งแล้ง ทุกข์ยาก และกันดาร  แต่มากด้วยน้ำใจ เจ้า 3 ตัวอาจจะอยู่จนแก่ตายก็เป็นได้ 

 ( บทความนี้ขออุทิศให้สัตว์ผู้ตกทุกข์ได้ยากทั้งหลาย ขอให้มีความสุขๆ ทุกผู้ ทุกตัวเทอญ อย่าได้มีการเบียดบังซึ่งกันและกันเลย )

  ***************************************************

หมายเลขบันทึก: 36842เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2006 03:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน


ความเห็น

เช้าตรู่วันที่ 4 กค 2549 พระภิกษุที่ออกบินทบาตร เดินผ่าน ศพเจ้าดำและภรรยามัน 2 ตัว ท่านหยุดดูอยู่ชั่วครู่หนึ่ง เหมือนจะสวดส่งวิญญาณที่ไร้เดียงสา ให้พวกมันไปสู่สุขคติภพ และอาจสาปแช่งพวกที่มีส่วนจัดการในเรื่องนี้ด้วย (คิดเอาเอง )

ก่อนนี้ทราบว่า ผู้ที่เคยทำแบบนี้ ถูกรถบี้หน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ไปแล้ว ถ้าเป็นจริงนับว่าสวรรค์ยังมีตา และยังมีความยุติธรรมเหลืออยู่ในโลกนี้

เศร้าใจคะ :(

ดิฉันเองมีแมวสองตัวเก็บมาจากโรงอาหารมหาวิทยาลัยคะ เห็นหลายตัวที่เขาเก็บใส่ถุงปุ๋ยไปแล้ว คาดว่าคงจะเอาไปฆ่า มีคนเขาเคยบอกไว้

สงสารจับใจ ก็เลยหยิบไอ้สองตัวนี้กลับมาเลี้ยงที่บ้าน ตอนเอามาก็ใกล้จะตายแล้วนะคะ ขี้ตาเขราะ พุงโรด้วยพยาธิ ปัจจุบันนี้ เจ้าสองตัวเติบโตเป็นแมวสาวสวย 2 ตัว ที่คอยช่วยล่าหนูให้เพื่อนบ้านคะ :)

ขอบคุณมากๆ สำหรับทุกท่านที่เห็นใจ สำหรับชาวพุทธอย่างเราๆ การฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตเป็นบาปหนัก ไม่รู้คนทำเขาคิดอย่างไร หรือให้ภาระหน้าที่หมดสิ้นไปวันๆ โดยไม่รู้บาป บุญ คุณ โทษ กัน หรืออย่างไร

     ตอนนี้ที่บ้านเป็นดงแมว ไม่ทราบมาจากที่ไหน นอกจากเจ้า 5 ตัวแล้ว มีแมวอื่นๆ อีก 3 ตัว วิ่งกันให้สนุกสนาน อยากจะเอาตัวเมียไปทำหมัน ราคาตัวละ 600 บาท  แต่สงสารเพราะมันคงอยากเป็นแม่แมว และใจจริง ไม่อยากทำบาปด้วย ถ้าใครรักแมวจะช่วยเอาไปเลี้ยงก็ติดต่อได้นะ มันจะเป็นเพื่อนที่แสนดี ประจบ เอาใจ เคล้าแข้งเคล้าขา น่าเอ็นดู และน่ารักจัง ฮิๆ ไม่เช่อลองเลี้ยงดูนะจ๊ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท