ประสบการณ์การเขียนบล็อก.....นำแบ่งปันแลกเปลี่ยน


ประสบการณ์การเขียนบล็อก.....นำแบ่งปันแลกเปลี่ยน...ตั้งใจจะทำ แต่ไม่ได้ลงมือทำ ผลงานที่ทำมันก็ไม่มี

ประสบการณ์การเขียนบล็อก.....นำแบ่งปันแลกเปลี่ยน

         1.จุดเริ่มต้นคือผมเป็นนักอ่านทั้งหนังสือและอินเตอเนต วันหนึ่งผมพบที่นี่เชิญชวนให้เขียนความตั้งใจที่จะทำความดี 5-10 ประการ ผมเขียนส่งมา  หลังจากนั้นระยะหนึ่งผมก็ได้รับของที่ระลึกจาก gotoknow ผมเลยเปิดเข้ามาอ่านบ่อย  พบว่าสาระที่มีอยู่ทำให้ได้รับความรู้อย่างมหาศาลที่นี่ ก็เลยสมัครสมาชิกแล้วส่งดู  เนื่องจากผมชอบเขียนโคลงกลอน  งานชิ้นแรกก็เลยเป็นกลอน และผมได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า  ผมจะเขียนอย่างน้อยในรอบ 1 เดือน ต้องได้ 15 บันทึกเป็นอย่างต่ำ  ผมสมัครสมาชิกเมื่อ  13  เมษายน  2553  ตอนนี้ผมมีบันทึกแล้ว มากว่า 70 บันทึก  ถามว่าทำไมผมจึงตั้งเป้าหมายในการบันทึกเนื่องจากเกิดพบว่าทาง gotoknow    จะจัดให้มีการอบรมเพิ่มเติมความรู้ และมีกำหนดจำนวนบันไว้ ซึ่งผมก้ไม่มีสิทธที่จะได้    ผมก็อยากจะได้ส่วนนั้น  เพราะนอกจากจะได้รับความรู้เพิ่มเติมแล้วจได้อีก 2 ประการคือ  ได้พบคนแปลกหน้าที่อยู่บ้านเดียวกัน  งงไหมครับ  ก็เราเขียนเราอ่าน เราคุยกันผ่านทางตัวหนังสือที่นี่ที่เดียวกันแต่เราไม่รู้ว่าเป็นใคร ถ้าได้ไปพบเจอกัน  จะมีความสุขขนาดไหน และอีกประการหนึ่งอยากได้แนวทางดี ๆจากมวลสมาชิกที่หลากหลายมาปรับปรุงบันทึกของตนเองบ้าง เพราะจากการประเมินดูการเข้ามาอ่านยังไม่อยู่ในระดับที่พอใจ

             หลังจากบันทึกมาระยะหนึ่งผมก็พบแรงบันดาลใจอีกข้อหนึ่งคือสมาชิกคนใดก็ตามที่เข้ามาอ่านและแสดงความเห็นในบล็อกของผมจะตอบแทนความขอบคุณโดยการ นำชื่อสกุลของสมาชิกดังกล่าว มาเขียนเป็นโคลงสี่สุภาพ  เป็นกระทู้ความหมายของชื่อและส่งกลับไปให้แทนคำขอบคุณและได้ส่งไปให้หลายท่านแล้วเช่นกันและพบว่าผมได้มีโอกาสฝึกปรือการเขียนโคลงสี่สุภาพได้อีกประการหนึ่ง  ผลเป็นยังไงถูกใจไม่ถูกใจก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล  เพื่อให้ผู้แสดงความคิดเห็นรู้ว่าความคิดเห็นในแต่ละครังนั้นมีความหมายกับผมมากมายเพียงใด 

           2.ปัญหาอุปสรรค เนื่องจากผมยังใหม่ต่อการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และอายุอานามก็ล่วงเลยวัยทำงานมาหลายปี พบว่าปัญหาอุปสรรคไม่ได้อยู่ที่ gotoknow  แต่อยู่ที่ตัวผมเอง  มีบ่อยครั้งผมทำบันทึกเสร็จเตรียมจะส่ง กดแป้นผิด หายไปทั้งหน้าเลยครับ ยิ่งเป็นบทกลอนเขียนกันสด ๆ คิดไปพิมพ์ไปในเครื่องไม่ได้จดบันทึกในสมุด  พอหายวับไปก็แสนจะเสียดายเพราะเขียนใหม่ยัใงก็ไม่เหมือนเดิม  สรุปว่าเป็นความบกพร่องของตัวเราเองซึ่งเป็นเหตุทำให้ต้องระวังมากขึ้น

              ปัญหาใหญ่มาก ๆ คือกลัวพิมพ์ผิดและก็มีผิดจริง ๆบันทึกชิ้นแรกเป็นกลอนก็มีผิดอยู่หลายจุด  พอพบว่าผิดก็ส่งบันทึกไปแล้วก็ไม่มีความรู้ที่จะนำบันทึกมาแก้ไขได้  บางครังสั่งตัวอักษรขนาดพอดีกับหน้าที่พิมพ์แต่พอส่งไปกลับล้นหน้าอ่านไม่ได้ เช่นกัน

           3.แนวทางแก้ไขปัญหา  บอกแล้วแต่ต้นว่าปัญหาอยู่ที่ตัวผมเอง  ผมแก้ปัญหาดังนี้ครับ

                3.1 กลัวพิมพ์ผิดก็เปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานค้างไว้สงสัยคำไหน ก็ตรวจสอบดูได้ทันที 

                 3.2 คำผิดที่พิมพ์มองไม่ชัด เช่น ไม้โท  กับไม้หันอากาศพบบ่อย วิธีแก้ ก่อนส่งบันทึก ก็อย่ารีบส่ง  อ่านทบทวนก่อนอย่างน้อย 2 เที่ยว  เพื่อตรวจสอบให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด   ถ้ามันมีหลงเหลือมีอีกก็ให้เข้าใจว่าคนเขียนบันทึกบกพร่องทางด้นสายตาหรือด้วยเหตุอื่น แต่จะไม่หยุดในการที่จะปรับปรุงแก้ไขและจทำอย่างต่อเนื่อง

                  3.3 ปัญหาอุปสรรคต่อมาคือที่ส่งไปแล้วมาอ่านพบว่ายังมีผิดอยู่อีก  จะนำมาแก้ไขก็ไม่ได้ ไม่มีความรู้ ครับ คิดว่าใครอ่านพบข้อนี้แล้ว ช่วยแนะนำผมด้วยครับ

              4.ประโยชน์ที่ได้รับ

                    4.1 ได้อ่านประสบการณ์จากบันทึกที่เพิ่มขึ้นมีให้อ่านทุกนาทีทุกวันและล้วนใหญ่เป็นคุณค่าสำหรับคนอ่านทั้งสิ้นไม่ว่าจะด้านไหน ล้วนได้รับการคัดสรรจากผู้เขียนบันทึกมาอย่างดีในแต่ละบันทึก

                    4.2 ได้เก็บบันทึกแห่งความทรงจำของตนเองไว้แบ่งปันให้กับผู้สนใจได้เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้แลกเลี่ยนความคิดเห็น  ซึ่งจะเป็นกระจกส่องให้เห็นตัวตนของเรา ว่าเราจะแก้ไขส่วนไหน

                     4.3 ได้ลับคมสะสมปัญญา  ก่อนเขียนบันทึก เราต้องอ่านก่อน  อ่านแล้วก็นำมาเขียน  นำเสนอขอสรุปที่จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้สมบูรณ์มากขึ้น การอ่านจะทำให้เกิดปัญญา การเขียนก็เกิดปัญญา ยิ่งเขียนมากอ่านมาก ปัญญาก็เกิดมากเป็นทวีคูณตามมาด้วย

                      4.4 ได้ความรู้ใหม่  ได้ความรู้จากการอ่านงานที่จะเขียนบันทึกของตนและอ่านบันทึกของมวลสมาชิก  แน่นอนที่สุดเราจะพบว่ามีความรู้อีกมากมายที่เราไม่เคยรู้ไม่เคยเรียนมาก่อน   แต่เรามาพบจากการอ่านในบันทึกที่หลากหลายนี่เอง

                       4.5 ได้ปฏิสัมพันธ์ด้านแสดงความคิดเห็น  จากคนที่เราไม่รู้จักที่เต็มไปด้วยความจริงใจและอบอุน และแน่นอนเราอาจจะได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านหนึ่งด้านใดที่ตรงกับการต้องการความรู้เรื่องนั้น ๆเราก็จะได้ประโยชน์อย่างเต็ม ๆ เช่นกัน

                       4.6 ได้สนามแสดงควาสามารถ  เราจะเขียนอะไร ๆ เราก็ไม่รู้ว่าจะส่งไปที่ไหน  และใครจะอ่าน  เช่นกลอนของผมมีมากมาย แต่เขียนแล้วอ่านเองมันก็ไมมีความสุข   ที่นี่ gotoknow คนอ่านมี  ถ้ามีคนเข้ามาอ่านน้อยแสดงว่าเราเขียนไม่ดี เราจะได้ประเมินความสามารถตัวเราประกอบไปด้วยและหาทางพัฒนาต่อไป

                 5. ประเด็นอื่น ๆ ประเด็นที่ว่าไม่รู้จะเริ่มต้นอะไรก่อน อยากทำบ้าง  แต่ไม่ได้ทำ  บางรายก็บอกไม่มีเวลา ขอโทษนะครับ ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ล้วนได้รับจัดสรรเวลามาวันละ 24  ชั่วโมงทุกคน แต่ทำไมบางคนไม่ได้บอกว่าไม่มีเวลา  ถ้าท่านทำการกำหนดเวลาไว้ว่าวันนี้เวลา  19.00 น.จะเขียนบันทึกท่านก็จะเขียนได้  แต่ถ้าปรากฏว่า 19.00 นง เกิดมีภาระกิจเร่งด่วนเข้ามาเราหลีกไปก่อน  แต่พอกลับเราจะต้องเขียนให้ได้ ตัวอย่างผมกำหนดว่าผมจะต้องเขียนบันทึกใน1 เดือน อย่างน้อย 15 บันทึก

ผมจะต้องซื่อสัตย์กับตัวเองว่าต้องเขียนให้ได้ตามที่ตัวเราเองกำหนด จริงอยู่เราเขียนไม่เป็นไปตามที่กำหนดก็ไม่มีใครมาหักเงินเดือนเรา  เราเขียนได้ครบก็ไม่มีใครมาให้รางวัลใด ๆ แก่เรา  แต่เราฝึกการตั้งเป้าหมายในการทำสิ่งใด  ๆและเป็นไปตามเป้าหมายเราจะได้ทราบผลการทำงาน  ชิ้นงาน ทราบปัญหาอุปสรรคและจะได้แก้ไข  การวางเป้าหมายจึง เป็นสิ่งที่เราจะต้องหันมาฝึกกันให้มาก ๆ  และหลังจากเรากำหนดเป้าหมายแล้ว เราทำได้ตามที่กำหนด  ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปในทันที คำบอกเล่าที่ว่าไม่มีเวลาจะหายไปจากระบบคำถามได้เช่นกัน

               การที่มีการถามว่าไม่รู้จะทำอะไร อย่างไร อันที่จริงอยู่ที่ตัวเราว่าเราจะทำอะไร  และทำอย่างไร  เพราะคนที่จะตอบก็ไม่รู้ว่าคนที่ถามมีกองทุนความรู้ความสมารถทางด้านใด แค่ไหน  ให้เริ่มทำ ขอประเด็นว่าจะต้องไม่ละเมิดข้อตกลงที่ทาง gotoknow  กำหนดไว้และเราได้รับทราบแล้ว เราอ่านแล้วหรือยังข้อตกลงดังกล่าว เริ่มเขียนอะไรก็ได้ลงในบันทึก  และในความคิดของผมถ้าตั้งใจจริงทำได้ทุกคนครับ

หมายเลขบันทึก: 368385เขียนเมื่อ 22 มิถุนายน 2010 00:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ปีที่สี่ ดีใจ ที่ได้เขียน

เฝ้าหมุนเวียน เขียนอ่าน พาสร้างสรรค์

วันและคืน มีสุข ทุกคืนวัน

ถ้อยจำนรรจ์  ฝันไป  ไม่ยั่งยืน

 

นอกเสียจาก  ตากใจ ไว้นอกอก

ลืมฟูมฟก  ยกใจ  ไว้ไม่ขืน

มีพวกพ้อง ซ้องเสียง เพียงยั่งยืน

ไม่มีพวก  อ้วกใส่  ให้เหม็นนาน

สวัสดีค่ะ คุณธนานนท์

ดีใจมากๆ ที่ได้เห็นบันทึกนี้ค่ะ ต้องบอกว่านี่คือประสบการณ์จริงๆ ของการเริ่มต้นและเรียนรู้จนถึงทุกวันนี้ที่ทำให้ดิฉันเองได้เห็นมุมมองและพลังที่เต็มเปี่ยมในการจะแบ่งปันความรู้

การให้ความรู้แก่ผู้อื่นถือได้ว่าเป็นการทำความดี ที่เริ่มต้นได้ง่ายๆ ที่อาจจะพบเจออุปสรรคกันมาบ้าง แต่วันนี้เราผ่านมาแล้ว เริ่มทำได้ เรียนรู้ และทำจริง หลายๆ สิ่งที่เราได้ค้นพบในตัวเองมีเยอะแยะมากมายเลยใช่ไหมคะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท