เด็ก.ออกจากม๊อบ.เข้าคุก.//ล่าสุด ปล่อยแล้ว100


ม๊อบ

                       เด็ก  ออกจากม๊อบ.เข้าคุก/ล่าสุด ปล่อยแล้ว 100

          ในขณะที่มีการชุมนุมใหญ่หลายต่อหลายครั้ง  ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของสีใดหรือครั้งใด  “เด็ก”มักจะถูกนำมาเข้าร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก  เหตุผลที่ผู้พามาให้คำตอบไว้มีตั้งแต่ ไม่มีผู้เลี้ยงดู  เด็กโตแล้วต้องการมาเอง  พามาเรียนรู้ประชาธิปไตย  (ไม่มีใครยอมรับว่าพาเด็กมาแล้ว จะได้รับเงินเพิ่มจำนวนเท่าไร)  
          ทุกครั้งที่เหตุการณ์เป็นเช่นนี้  องค์กรพัฒนาเอกชนด้านเด็กจำนวนมาก โดยเฉพาะ “คณะทำงานด้านเด็ก”ที่ประกอบไปด้วยสมาชิกที่เป็นองค์กรด้านเด็ก 24 องค์กร จะมีการประชุมหารือและมีข้อเรียกร้องไปยังแกนนำผู้ชุมนุมอยู่เสมอ ให้นำเด็กออกจากการชุมนุม ซึ่งไม่ได้รับการสนองใดใด  มิหนำซ้ำกลับโดนอภิปรายโจมตีกลับคืนมาเสมอว่า ไม่เข้าใจผู้ชุมนุมหรือยืนอยู่คนละฝ่ายกับผู้ชุมนุม
           กรณีการชุมนุมล่าสุดที่ราชประสงค์  ผู้เขียนในฐานะประธานคณะทำงานด้านเด็ก ได้เรียกร้องให้แกนนำผู้ชุมนุมนำเด็กออกจากการชุมนุม โดยได้เตรียมสถานที่ที่องค์กรด้านเด็กมีอยู่ เป็นที่รองรับเด็กไว้ดูแล จนกว่าการชุมนุมจะยุติลง พ่อแม่เด็กที่ร่วมชุมนุมค่อยมารับตัวกลับไป เช่นกันที่ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการปฎิเสธ  จนผู้เขียนและองค์กรต่างๆ ได้เตรียมร้องต่อศาลคดีเยาวชนและครอบครัวกลาง  ขออำนาจศาลนำเด็กออกมาคุ้มครองชั่วคราว ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
           ยังไม่ทันร้องต่อศาล  การกระชับพื้นที่ของทหาร ได้ทำให้แกนนำยอมจำนนและมอบตัว จนเหตุการณ์การชุมนุมยุติลง  ด้วยความโชคดีที่ไม่มี “เด็ก”เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว  กระนั้นก็ตามเรื่องการนำเด็กมาร่วมชุมนุม  ผู้เขียนจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ “คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ”เพื่อร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์ป้องกันการนำเด็กเข้าร่วมชุมนุม
           ผ่านเรื่องเด็กในที่ชุมนุมไปได้ด้วยความโล่งใจ   ถัดมาไม่กี่วัน  มีเรื่องราวที่เกิดขึ้นเงียบๆ โดยประชาชนรับรู้กันน้อยมาก คือ “การไล่จับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ”จำนวนถึง 62 คน โดยกระจายจับตามจังหวัดต่างๆ 9 จังหวัด  และแยกควบคุมตัวอยู่ตามสถานพินิจในจังหวัดนั้นๆ       
            คำถามสำคัญก็คือ  ในขณะที่รัฐบาลทำในสิ่งที่ถูก ด้วยการปล่อยผู้ใหญ่ที่เข้าร่วมชุมนุมกลับสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด  พร้อมประกาศนโยบายปรองดองแห่งชาติ ( ภายใต้ข้อกังขาของผู้คนและการอภิปรายของฝ่ายค้านว่า ยังมีการตามไล่ล่าแกนนำผู้ชุมนุมอยู่ จะปรองดองได้อย่างไร)
         ผู้เขียนเชื่อมั่นและไม่มีข้อสงสัยในความจริงใจที่จะปรองดองของนายกรัฐมนตรีเลย  เพียงแต่ฉงนอยู่ที่ผู้นำประเทศปล่อยให้มีการไล่จับเด็กเหล่านั้นได้อย่างไรโดยไม่รู้
              หรือท่านถูกวางยาโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกแล้ว
               เร่งแก้ไขเถิดครับ ก่อนที่เรื่องไม่เล็กของเด็ก 62 คนในสถานพินิจ จะทำลายงานใหญ่ของการปรองดองไปเสีย 
              /////////////////////////////////////////////////////////////////////////////  
      ข่าว... ล่าสุด ท่านอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็ก กระทรวงยุติธรรม ประสานมายังผมว่า มีเด็กถูกจับรวมทั้งสิ้น 114 คน ได้สืบเสาะและให้ผู้ปกครองประกันตัวรับเด็กออกไปแล้ว 100 คน เหลืออยู่ 14 คนที่ถูกกล่าวหาในคดีรุนแรงโทษเกิน 5 ปีที่ยังรอส่งฟ้องศาล
              ///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
              ครับ ผมดีใจที่เด็กๆ ได้รับการปล่อยตัวออกมา เพื่อรอการพิจารณาคดีต่อไป ซึ่งผลโดยรวมเป็นเช่นไรจะนำเสนอต่อไปครับ

 

หมายเลขบันทึก: 368049เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2010 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรียนครูหยุยที่เคารพ

การปรองดองเป็นเรื่องดี แต่การทำผิดกฏหมายเป็นเรื่องไม่ดี

ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ทำผิดควรได้รับโทษตามกฏหมาย

เด็กรับโทษตามเด็ก

ผู้ใหญ่รับโทษตามผู้ใหญ่

ผู้ใหญ่และเด็กที่มานั่งร่วมกับเขาโดยไม่ได้ทำผิดอย่างอื่น

พอปรองดองได้ และส่งกลับบ้าน

แต่ไม่ควรปรองดองกับการทำผิดกฏหมายเด็ดขาด

ไม่ว่าผู้ใหญ่และเด็ก

กระผมเห็นดังนี้ครับ

ด้วยความเคารพและศรัทธาครูหยุยเสมอ

โสภณ เปียสนิท

คุณโสภณครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน หลักการตรงกันครับในประเด็น"ไม่ปรองดองกับการทำผิดกฎหมาย" แต่วิธีคิดยังต่างกันอยู่ ความเป็นสองมาตรฐานที่เขานินทาอยู่ตรงนี้ล่ะครับ "ผู้ใหญ่ทำผิด ตำรวจกลัวก้มสิโรราบ ยอม" แต่"เด็กทำผิดไม่มาก เร่งจับส่งสถานพินิจ" นี่ล่ะครับ ที่ผมว่าเป็นปัญหาและละเอียดอ่อนต่อคำว่าการ "ปรองดอง"ครับ

สวัสดีค่ะ

 

ยังจำคำกล่าวของนายกได้ค่ะ ว่าคำว่า ปรองดอง คือไม่มีใครได้ดังใจ เพราะต้องพบกันครึ่งทาง

 

ฟังประโยคหน้าแล้วใจหาย แต่พอต่อประโยคหลังแล้วค่อยหายใจทั่วท้องค่ะ

 

แต่กับเรื่องของเด็ก เอ นายกทราบเรื่องหรือเปล่านะคะ

 

คำว่า "เข้าคุก" อ่านแล้วชวนใจหายอีกเหมือนกันค่ะ

 

คุณณัฐรดาครับ หลังจากผมพยายาทมสื่อออกไป ขณะนี้ทางกรมพินิจได้รับคำสั่งให้พิจารณาเร่งด่วนในรายละเอียดของเด็กแต่ละรายว่า ผิดอะไรกันแน่ แล้วพิจารณาประสานให้พ่อแม่รับตัวไปครับ ค่อยโล่งอกหน่อย คาดว่าไม่นานคงเรียบร้อยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท