โครงการสานสัมพันธ์
โครงการสานสัมพันธ์
อบรมครอบครัวสมานฉันท์(ไทยพุทธ-ไทยมุสลิม)
ตามคำสั่งสำนักนายกให้สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดทำโครงการสานสัมพันธ์ อบรมครอบครัวสมานฉันท์(ไทยพุทธ-ไทยมุสลิม) ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง ประจำปี 2553 โดยทางสำนักพระพุทธศาสนาฯ ได้มอบหมายงานการอบรมครั้งนี้แก่หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
พิธีเปิดการอบรมเริ่มรุ่นแรกเมื่อวันที่ 27-30 เมษายน 2553 ที่ห้องประชุม ฉก.ตชด.44 ค่ายพญาลิไท ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งในปีงบประมาณ 2553 จะมีการอบรม 5 รุ่นด้วยกัน โดยการให้หน่วย ตชด.ที่ตั้งฐานปฏิบัติการในพื้นที่ 3 จังหวัด ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สำรวจและจัดหาครอบครัวไทยพุทธ-ไทยมุสลิม อย่างละเท่าๆกัน ซึ่งอบรมผ่านไปแล้ว 2 รุ่นๆละ 70 คน มีครอบครัวที่เข้าโครงการนี้ทั้งจากพื้นที่บันนังสตา หมู่บ้านฉลองชัย หมู่บ้านนิคมกือลอง หมู่บ้านลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
พิธีเปิดโดยท่าน พ.ต.ท.ณรงค์ ธนานันทกุล ผบ.ฉก.
หลักการและเหตุผล
ในอดีตชาวไทยพุทธ มุสลิม และชาวจีนที่ได้อาศัยอยู่ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้เคยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสงบสุข มีกิจกรรมภายในหมู่บ้านก็จะช่วยเหลือกันเสมอมา เมื่อมีกิจกรรมงานบุญสร้างมัสยิด งานวัด จะมีผู้มาร่วมงานทั้งโต๊ะครู อิหม่าม พระและเจ้าอาวาสมาร่วมงานกัน จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันความประทับใจที่เคยมีมาในอดีตกลับกลายเป็นความหวาดระแวง สับสน ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเฉพาะพื้นที่ ยิ่งนานวันยิ่งขยายวงกว้างไปสู่พื้นที่อื่นๆ
อบรมที่โตนหินลาดล่องแก่ง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง (ร.ต.ท.สุรกานต์ สุจา,ด.ต.สมบูรณ์ แดงก้ว,ส.ต.ท.โยธิน ทองคำ เป็นวิทยากรการอบรม)
บางครั้งการเสนอข่าวสารทำให้ชาวบ้านไม่พอใจเพราะข้อมูลที่ชาวบ้านทราบจากคนในพื้นที่ ไม่ตรงกับข้อมูลที่สื่อที่สื่อต่างเสนอ เหมือนเป็นการเพิ่มความแค้นให้ให้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยพุทธ ไทยมุสลิมเกิดช่องว่าง จากปัญหาต่างๆใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดความบาดหมาง การสร้างเงื่อนไข การสร้างความไม่เป็นธรรม และการเลือกปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่กลุ่มก่อความไม่สงบใช้ในการปลุกระดมให้ประชาชน ต่อต้าน และเกลียดชังเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการแย่งชิงมวลชนไปสนับสนุนฝ่ายตน
เคารพธงชาติ 08.00 น.
เต๊นท์ที่พักตลอด 3 คืน 4 วัน
การอบรมเข้าค่ายพักแรม ตลอดระยะเวลา 3 คืน 4 วัน ทางฉก.ตชด.44 พาครอบครัวสมานฉันท์เข้าค่ายที่โตนหินลาดล่องแก่ง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง โดยการใช้กระบวนการอบรมเช่นเดียวกับการฝึกอบรมลูกเสือ มีการจัดกลุ่ม เล่นเกมส์ เข้าฐานผจญภัย เดินป่าศึกษาความหลากหลายของพันธุ์พืชในอุทยานเทือกเขาบรรทัด สร้างความสนิทสนมกลมเกลียว ให้มีความรักและสามัคคี รักความเป็นชาติไทย ปฏิบัติตามคำสอนตามหลักศาสนาของแต่ละคน ซึ่งเป็นหลากหลายของชาติพันธุ์ ความหลายทางศาสนา แต่เราก็สามมารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะเรามีพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน.
จากเหตุผลดังกล่าว ทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติจึงได้หมายให้ ฉก.ตชด.44 จัดทำโครงการสานสัมพันธ์อบรมครอบครัวสมานฉันท์ไทยพุทธ-ไทยมุสลิม ลดความหวาดระแวงต่อกัน ทำให้ครอบครัว เด็ก เยาวชนไทยพุทธ-มุสลิม มีความเข้าใจวัฒนธรรมสามารถอยู่ร่วมกัน มีความรักสามัคคี เป็นการแก้ไขปัญหาต่อความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติดังเดิม.
แบโซ๊ะ(ด.ต.วันชนะ หะยีสะแลแม) หน้าร้านค้าในบริเวณโตนหินลาดล่องแก่ง
ความเห็น (6)
สวัสดีค่ะหมอน้อย คนไทยพุทธ กับคนไทยมุสลิม เป็นพี่น้องคนไทยด้วยกัน อีกหน่อยคงเข้าใจกันเหมือนเดิมค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ หมอน้อย
- นานแล้วนะคะที่ไม่ได้เยี่ยมเยียนกัน
- ระลึกถึงอยู่เสมอ ๆ ค่ะ
- โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมากนะคะ เราคนไทยด้วยกันทั้งนั้น
- จะศาสนาใดเราก็คือคนไทย มีพ่อหลวงองค์เดียวกัน
- คุณ หมอน้อย สบายดีนะคะ
สวัสดีครับคุณamp
ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมชม
สวัสดีครับคุณอิงจันทร์
- ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมเยียน
- ผมก็ยังระลึกนึกถึงเช่นกันครับ
- ระยะนี้ไม่ค่อยมีเวลาเข้าดูเว็บเลย
- ขออภัยด้วยที่ตอบช้า
- ผมจะทำงานตามอุดมการณ์ต่อไปครับ
- ก็สบายดีตามอัตภาพครับ
- ขอบคุณครับ
มาส่งกำลังใจให้ คนดี ของสมเด็จย่า ค่ะ...
สวัสดีครับ..พี่ษา
ขอบคุณพี่ษา ที่เข้ามาให้กำลังใจ สำหรับหนังสือพี่ษา เห็นแต่ในเว็บกองกับ เดือนหน้า(มิ.ย.)กะว่าเข้าไปหาดใหญ่จะลองไปเดินดูที่ซีเอ็ดบุ๊คส์ในห้างไดอาน่า ไม่ทราบหมดแล้วยัง วันก่อนน้องโต(พรีเซนเตอร์หน้าปก)เข้าไปที่ฐานฯรร.ตชด.บ้านละโอ อ.ศรีสาคร ผมได้ถามหาหนังสือพี่แล้วโตบอกว่าหมดแล้ว คงขายดีเป็นเทน้ำเทท่าซิท่า พี่ษาสบายดีนะครับ ผมยังระลึกนึกถึงพี่ษาเสมอครับ.