หลักสูตร "การคิดแบบโง่ๆ" และ "การคิดแบบองค์ลง"


ช่วงนี้ แอมมี่ไปฝึกอบรมให้กับหลายหน่วยงาน  หัวข้อหลักสูตรมักจะเน้นไปในเรื่องของ "การคิด"

ไม่ว่าจะเป็น  การคิดวิเคราะห์  การคิดเชิงสร้างสรรค์  การคิดเชิงระบบ  การคิดเชิงกลยุทธ์  การคิดวิพากษ์  การคิดแบบองค์รวม  การคิดแยกส่วน  การคิดเชิงรุก  และ การคิดเชิงบวก

มาสังเกตดู  ยังไม่ได้สอนเรื่อง "การคิดลบ"  (เพราะคิดกันเก่งแล้ว  คิดได้ตลอด  ไม่ต้องฝึกอีก  พวกเราก็มีชำนาญทักษะนี้กันถึงขั้น ปรมาจารย์ ... คิ คิ คิ) 

ยังไม่เคยสอนเรื่อง "การฝึกคิดแบบไม่สร้างสรรค์" (รู้มั๊ยคะ  ส่วนใหญ่มันจะคือ คำตอบแรกๆ  ในเวลาที่เราพยายามเหลือเกิน ที่จะคิดอะไรซักอย่างให้มัน (รู้สึกว่า)สร้างสรรค์ ครีเอทสุดๆ  แต่กลับไม่เข้าท่า หรือเป็นไปไม่ได้ในสายตาชาวบ้าน)

ยังไม่มีใครเชิญสอนเรื่อง "การคิดวิจารณ์"  (อันนี้ จะคล้ายๆ กับการคิดลบ  เพราะในความเป็นจริง  การวิจารณ์ (แบบไม่มีหลักการ  ไม่มีงานวิจัย  หรือเหตุผล  หรือไม่มีคำแนะนำที่ดีกว่า) เราก็วิจารณ์ได้มากกว่าผู้เชี่ยวชาญตัวจริงซะอีก)

หรือ "การคิดเชิงรับ"  ก็ยังไม่ได้สอน  (แบบว่า มีรุก ก็ต้องมีรับไงคะ)

หลักสูตร "การคิดโง่ๆ"  หรือ "คิดอย่างไร ..ให้ไม่เข้าท่า"  ไม่เห็นมีใครมาเชิญไปสอนเลยคะ 

ยังมี "การคิดแบบ หมวกฟาง 400 ใบ" (มากไปมั๊ยเนี่ย) หรือ "การคิดไปได้ (ยังไง)" (และอาจจะต่อด้วยหลักสูตร advance ต่อเนื่อง "การทำไปได้ (ยังไง)")  หรือหลักสูตร "การคิดไปเรื่อย (เปื่อย)"  ก็นับว่าน่าสนใจดี  หลักสูตร "การคิดในกรอบ" หรือ "การคิดแบบนอกคอก" ก็ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษนะคะเนี่ย  หรือ "การคิดแบบองค์ลง"  นี่รับรองว่า จบหลักสูตรแล้ว ทำมาหากิน เปิดอาชีพเสริมได้ทันทีเลยค่ะ 

พูดจาแบบนี้  หลายท่านอาจจะคิดว่า อจ.แอมมี่วันนี้ เพี้ยนไปหรืออย่างไร

เชื่อมั๊ยคะ .... ว่าในทุกๆ วัน  สมองของเราไม่เคยหยุดคิด

ตื่นเช้ามา  เราเริ่มคิดจากเรื่องโน้น ..ไปเรื่องนี้ ..ไปเรื่องนั้น  มากมายก่ายกอง 

งานวิจัย (จาก NSF) บอกว่า ในวันหนึ่งๆ เราคิดสารพัดเรื่องราว มากถึง 12,000 - 60,000 สิ่งอย่างต่อวัน  (โอ้ มายก๊อด  ทำไมช่างมากมายอะไรแบบนี้) มากน้อยขึ้นอยู่กับว่า เราเป็นคนที่ละเอียด (กับความคิด) แค่ไหน??? ซึ่งเราควบคุม "ความคิด" ไม่ค่อยได้ด้วยซ้ำ  แล้วเชื่อมั๊ยคะ  สิ่งที่เราคิดส่วนใหญ่เนี่ยเป็นเรื่อง "ไร้สาระ"  ทั้งสิ้น (แบบที่ยกตัวอย่างข้างบนด้วยเหมือนกัน  หุ หุ) และ 70-80%  นี่ เป็นเรื่องความคิดทางลบล้วนๆ (บอกแล้ว ไม่ต้องฝึกอบรมหรอกค่ะ)

เดเนียล โคลแมน ผู้เขียนหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่อง Social Intelligence กล่าวว่า  ส่วนใหญ่นั้น เรามักจะคิดถึงเรื่องของตัวเราเอง และสังคมรอบข้าง  และความคิดเรานี่จะได้รับการถ่ายทอดมาจากการอบรมเลี้ยงดู (จากคำพูด) ของพ่อแม่  ประมาณว่า  ถ้าเราทำพฤติกรรมแบบนี้  คนในสังคมรอบข้างจะรู้สึกอย่างไร  แล้วสมองเราก็จะจดจำไว้จนตลอดชีวิต 

วิธีการควบคุมความคิดที่คนทั่วโลกส่วนใหญ่ยอมรับคือ การทำสมาธิ (หรือที่เรียกว่า Meditation) ค่ะ  ซึ่งไม่ได้สอนให้หยุดคิดนะคะ  แต่สอนให้รับรู้ถึงเรื่องที่เรากำลังคิด แล้วค่อยๆ พิจารณาความคิดนั้นว่ามันเป็นยังไง ดี-ไม่ดี  ควร-ไม่ควร  เสร็จแล้วก็ปล่อยวาง  แล้วไปพิจารณาความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นต่อไป  โดยที่เชื่อว่า จะช่วยให้เราคิดช้าลง แต่จะมีสมาธิในเรื่องใดเรื่องหนึ่งนานขึ้น  และพยายามคิดอยู่กับเรื่องปัจจุบัน (ที่สำคัญกว่า และเป็นจริงมากกว่า) ให้นานที่สุด  เพราะเรื่องอื่นๆ ที่เราคิด บางทีหรือส่วนใหญ่ ก็เป็นเรื่องที่เรามักจะจินตนาการไปเอง (ภาษาง่ายๆ คือ คิดมาก ไปเอง)

เคยฟังพระเจ้าอาวาสวัดที่ออสเตรเลีย (เป็นชาวต่างชาติ) ท่านเทศน์ไว้ว่า  สิ่งที่เจ๋งมากๆ คือ  ควรจะฝึกเรื่อง "การหยุดคิด" .... ท่านบอกว่า ลองไม่คิดอะไรดูซัก 1 นาทีดูสิ  รับรองจะมีความสุขกับตัวเองมากขึ้น

(ท่านที่สนใจ ลองหาฟังได้จาก youtube นะคะ)

 

สรุปแล้ว แอมมี่ ยังไม่ได้คำตอบเลยค่ะ  ว่า

  • ทำไม  เราจึงต้องคิด ???
  • กับ  วิธีฝึก"ไม่คิด"  ทำยังไง

 

เพื่อนๆ ช่วยตอบให้ด้วยนะคะ  จะเป็นพระคุณอย่างสูง

 

หมายเลขบันทึก: 365452เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2010 10:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 09:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท