เมื่อก้มลงใช้มือถอนหญ้าที่ขึ้นอยู่รายล้มต้นไม้ หญ้าบางต้นก็เล็กนิดเดียวสังเกตจากการงอกเป็นกระจุก น่าจะเกิดจากเมล็ดพันธุ์ที่ร่วงโรยของต้นแก่ เมื่อได้น้ำจากฝนและอากาศที่เหมาะสมจึงค่อย ๆ งอก หญ้าขนาดเล็ก ๆ ใช้มือถอนได้ เพียงแค่การหยิบไม่ต้องออกแรง แต่หญ้าที่มีขนาดใหญ่หยั่งรากลึก ก็ต้องออกแรง ต้องใช้สองมือ ใช้มุมที่เหมาะสมในการถอนออกมา ที่มากกว่านั้น หญ้าบางชนิดหยั่งรากลงในดินแข็ง ๆ ก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมคือ เสียมหรือจอบ ในการกำจัด บางจุดเกิดในดินที่แข็งมาก การรอให้ดินชุ่มน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็น จะช่วยให้ถอนได้สะดวกมากขึ้น
หญ้าช่างเหมือนกิเลส ตัวเล็ก ๆ ก็พอ ลด ละ เลิก ได้ไม่ยากแต่ตัวยากขึ้น ก็ต้องออกแรงมากขึ้น บางชนิดก็จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริม หรือบางทีก็ต้องรอห้วงเวลาที่เหมาะสม เช่น อาจจะต้องปล่อยให้น้ำค่อย ๆ ซึมลงดิน เมื่อดินรอบ ๆ หญ้าอ่อนนุ่ม ก็สามารถถอนหญ้าชนิดนั้นได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าใจร้อนเร่งรีบกำจัดมันโดยใช้จอบสับลงไปแต่ไม่ได้เอารากมันออกมาด้วย ไม่นานมันก็จะยังงอกขึ้นมาได้อีก
สิ่งที่เห็นปรากฏขึ้น ณ บริเวณที่กำจัดวัชพืชออกไปเป็นความงดงาม จากมุมมองใจปรากฏความรู้สึกชุ่มฉ่ำซาบซ่าน
ภาพของต้นสมุนไพร งดงามชัดเจนขึ้น ประหนึ่งใจที่มีกิเลสเบาบางก็สว่างผ่องใส
แม้หญ้าจะยังไม่หมดไปจากพื้นที่แต่อยากจะบอกว่า ขอบพระคุณนะคะที่เข้ามาสอน เพราะการกำจัดกิเลสก็เหมือนกับการเดินลงสวน อยู่ที่ว่า เดินลงไปในจุดที่มีหญ้ามากหรือน้อยเท่านั้นเอง เมื่อถอนหญ้าออกไป ก็จะเห็นต้นสมุนไพรที่งอกเงยอย่างงดงาม อย่างที่ผู้รู้ท่านเอ่ยไว้ว่า
“มีทุกข์ก็ต้องมีสุข มันอยู่ด้วยกัน เหมือนหน้ามือกับหลังมือนี่เอง”
เมื่อมีหญ้ารกก็แสดงว่า มีดินดี
ไม่มีความเห็น