ทุก ๆ เช้าการเดินลงไปดูต้นไม้ที่สวนหลังบ้าน ทำให้มีโอกาสได้เห็นพื้นที่ที่เคยสั่งไถปรับดิน มีเพียงหญ้าขึ้นอย่างเต็มพื้นที่ เมื่อสำนึกในตนเองว่า ถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องทำหน้าที่เสียที หน้าที่ต่อพื้นที่แห่งนี้คือ ปลูกสมุนไพร เมื่อไม่นานมานี้ จึงไปจัดซื้อจัดหาสมุนไพรมา ตามกำลังที่พอมี ค่อย ๆ ขุด ค่อย ๆ ปลูก และมีเพื่อนบ้านมาช่วยอีกหลาย ๆ แรง
การเฝ้าดูแลด้วยใจนอบน้อม ไร้ซึ่งความผยอง สิ่งที่ระลึกในตนเองอยู่เสมอกับเสียงทัดทานมากมายที่บอกว่า
“ต้นไม้อาจจะอยู่ไม่ได้ ต้นไม้อาจจะตายสักวัน พื้นที่มันไม่เหมาะ หน้าร้อนก็ร้อน หน้าฝนก็น้ำขัง”
เสียงสะท้อนเหล่านี้ช่วยให้ ได้ยินเสียงภายในแห่งตนเองชัดขึ้น ๆ ว่า
“ถ้าตายก็ปลูกใหม่ ปลูกไปจนกว่าจะเข้าใจว่า ห้วงเวลาไหน พื้นที่ใด ต้นไม้ชนิดไหนอยู่ได้”
ณ วันนี้ย่างเข้าหน้าฝน การรดน้ำก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฤดูกาล ช่วงลงต้นไม้ใหม่ ๆ มีใบแก่บางต้นโดนความร้อนลวกบ้าง เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนบัดนี้ ทุกต้นก็ยังพออยู่ได้ตามสภาพของมัน แม้เมื่อคืนก่อนลมจะแรงมาก ฝนตกหนัก ต้นไม้ใหญ่โค่น ไฟดับ แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ กับต้นไม้เล็ก ๆ
“เหมือนความเป็นตัวตน ยิ่งเล็ก ยิ่งได้รับแรงกระแทกน้อย ทำให้มีประสิทธิภาพและศักยภาพในการทำการงานต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยพะวงว่าใครจะมาทำอะไร เพียงทำหน้าที่ของตนเต็มกำลัง ส่วนใครจะทำอย่างไร จะร่วมมือ จะทัดทาน ก็ตามแต่เหตุปัจจัย เราไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินอะไรใคร เรามีเพียงหน้าที่ที่ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจในตนเองนั้นเป็นพอ”
คนเราเดี๋ยวนี้ "ใจเร็ว ด่วนได้" ถ้าจะเพาะ จะปลูกต้นไม้จากเมล็ดก็ไม่ทันอก ทันใจ
เที่ยวไปหาวิชาที่เรียกว่า "ความรู้" ว่าตอนกิ่ง ทาบกิ่ง แยกหน่อ อะไรต่ออะไร ต้นไม้เขาก็โตได้ ขึ้นได้ แต่ไม่แกร่ง ไม่ทน
ความรวดเร็วแห่งการเติบโตฤาจะสู้ความมั่นคงถักสานด้วย "รากแก้ว" ถึงช้าแต่ "แข็งแรง"
ชีวิตของเราก็เหมือนกัน "ศีล" เปรียบเสมือนรากแก้วของชีวิต คนเดี๋ยวนี้เก่งมาก รู้มาก จะเอาแต่นั่งสมาธิ ภาวนา แล้วเมินหน้าออกจากศีล ทำแบบนี้ก็ได้ ก็มีแต่ "สมาธิหัวตอ..."
ศีล คือรากแก้วของชีวิต ศีลดี สมาธิก็มา ปัญญาก็เกิด...
ความคิดเห็นของท่าน ปภังกร วงศ์ชิดวรรณ ทำให้ย้อนคิดถึงรุ่งเช้าหลังพายุหนักพัดผ่านไป ต้นไม้เล็กชุ่มฉ่ำเบ่งบานรับแสงแดด ขณะที่ต้นไม้ใหญ่หลายต้นโค่นล้ม โดยเฉพาะต้นไม้ที่นำมาปลูกตอนที่โตแล้ว บางต้นก็เอนบ้าง บางต้นก็ล้มลงขวางทาง บางต้นก็กิ่งก้านหัก
"สวยเร็ว ออกดอกออกผลเร็ว แต่ขาดความทนทาน"
ขณะที่ไม้เล็ก โดยเฉพาะชนิดที่ทานเม็ดแล้วโยนไว้ข้างทาง พอหน้าฝนก็งอกเอง เป็นความหัศจรรย์ของการดำรงเผ่าพันธุ์ของธรรมชาติ เพราะเขายังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ ทนแดด ทนฝน เติบโตได้ตามอัตภาพ
สวัสดีค่ะ..คุณใบไม้ร้องเพลง...ยายธีมาช่วยภาวนา..กับต้นไม้และ..ใบไม้ร้องเพลง..เจ้าค่ะ..และกับการดำรงเผ่าพันธุ์ของธรรมชาติ..(ไม้เล็กที่เกิดโดยธรรมชาติ..แม้จะเกิดขึ้นจากการถูกโยนทอดทิ้ง)..แต่ต้นไม้เหล่านั้นยังสามารถยืนหยัดอยู่ได้..ทนแดดทนฝน..ผ่านแล้งผ่านหนาว...ไปตามอัตตภาพ..ตราบจนทุกวันนี้ที่มีให้เห็นน้อยลงไปทุกวัน(ต้นไม้ใหญ่)....(การเรียนรู้...ไม้ล้มอย่าข้าม..ยายธีได้เห็นมากับตา...ต้นสักที่ปลูกล้มเมื่อโดนลม...ยายธีปล่อยทิ้งไว้...ปีต่อมา..เขามีโอกาศงอกต้นขึ้นมาอีก...)