ทุกท่านคงตระหนักดีแล้วว่างานวิจัยในชั้นเรียนนั้นสำคัญอย่างไร แต่อยู่ที่ว่าครูมีความเข้าใจการวิจัยในชั้นเรียนเพียงใด ได้ทดลองลงมือทำบ้างแล้วหรือยัง ซึ่งมีหลายท่านเมื่อพูดถึงคำว่า "วิจัย" ภาพของเอกสารหรือตำราเล่มหนา ๆ และสถิติที่ยุ่งยากผุดขึ้นในใจเลยทีเดียว "มีประโยชน์มากมากแต่ทำได้ยากเหลือเกิน เปรียบเสมือนยาขมที่ครูจำเป็นต้องรับประทาน" ดังนั้นบทความนี้จึงนำเสนอเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่าการวิจัยในชั้นเรียนนั้นไม่ยากอย่างที่คิด
ความแตกต่างของการวิจัยในชั้นเรียนกับการวิจัยทั่วไป
การวิจัยเป็นวิธีการศึกษาหาความรู้ที่เป็นระบบโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งการวิจัยประเภทใดก็ตามจะมีขั้นตอนสำคัญ ๆ ไม่แตกต่างกันคือ การกำหนดปัญหาการวิจัย การแสวงหาสู่ทางแก้ปัญหา การใช้วิธีการต่าง ๆ แก้ปัญหา การบันทึกและการปฏิบัติการแก้ปัญหา และการสรุปและนำเสนอผลการแก้ปัญหา
สำหรับการวิจัยในชั้นเรียนมีขั้นตอนการดำนินงานเช่นเดียวกันกับการวิจัยทั่วไป แต่ต่างกันที่การวิจัยในชั้นเรียนมีเป้าหมายเพื่อการแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนให้เกิดประโยชน์สูงสุด มิใช่การมุ่งสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาหรือขยายองค์ความรู้ในศาสตร์ของตนเอง (ซึ่งหากครูสามารถทำได้ถึงขั้นนี้นับว่าเป็นประโยชน์สูงสุดต่อการจัดการศึกษา) ดังนั้นการวิจัยในชั้นเรียนจึงเป็นการทำวิจัยไปพร้อม ๆ บการจัดการเรียนการสอนไม่แยกส่วนออกจากกัน นอกจากนั้นการวิจัยในชั้นเรียนไม่มีรูปแบบการดำเนินงานหรือรูปแบบการเขียนรายงานวิจัยที่เป็นทางการมากนัก อาจจะทำเป็นวิจัยง่าย ๆ 4-5 หน้า หรือจะทำเป็นงานวิจัน 5 บท ก็ได้เช่นกัน
โดย:รัตนา แสงบัวเผื่อน
[email protected] หากจะกรุณาติดต่ออาตมาได้ไหม ตอนนี้งงมากกับงานวิจัย ทำไม่เป็นเหมือนหรือเเตกต่างกับรายงานอย่างไร
เรียนใหม่ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง เเต่ที่อาจารย์สั่ง ให้ทำวิจัยเกี่ยวกับวรรณคดี อาตมาเลือกหนังสือของท่านปอ พุทธธรรม