ร่วมช่วยกัน ช่วยเด็กกตัญญู ยากจน สนใจเรียน (1)


ร่วมช่วยกัน ช่วยเด็กกตัญญู ยากจน สนใจเรียน (1)

         วิกฤตศีลธรรมหนึ่งที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมไทย คือ"ความกตัญญู"ที่เริ่มเลือนหายไปหรือลดน้อยถอยลง  เพราะสังคมบริโภคเกินตัว ได้ไล่หลังเข้ามาทุกขณะ ทำให้ผู้คนมุ่งแต่แสวงหาเงินทองแก่ตนเองและพวกพ้อง  โดยไม่คำนึงว่าเงินทองนั้นจะได้มาอย่างสุจริตหรือไม่
         ความเห็นตัว เห็นแก่เงินทอง ทำให้ลูกๆ ทอดทิ้งพ่อแม่ที่แก่ชราเพราะไม่ต้องการรับภาระในการดูแล 
         ความเห็นแก่เงินทอง ทำให้ญาติพี่น้องทะเลาะเบาะแว้งแย่งสมบัติกัน
         ควาเห็นแก่เงินทอง ทำให้ผู้คนคดโกง หักหลัง ทำร้ายและฆ่ากัน
         ความเห็นแก่ตัวเหล่านี้ คือภาพสะท้อนคสวามไม่กตัญญูต่อบุพการี ไม่กตัญญูต่อแผ่นดินถิ่นเกิดและไม่กตัญญูต่อความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้ 
         แต่สังคมก็ยังพอมี "ความกตัญญู"ให้เห็นอยู่เหมือนกัน แต่มักจะเป็นภาพของเด็กๆ ที่ดูแลญาติผู้ใหญ่วัยชรา ตั้งแต่ทำงานหาเงินเลี้ยงดู หุงหาข้าวปลาอาหาร ดูแลเช็ดเนื้อเช็ดตัว  พาเข้านอน
        ภาระความกตัญญูเช่นนี้ ทำให้เด็กๆ จำนวนมากต้องออกจากโรงเรียนหรือเรียนหนังสือได้ไม่เต็มที่
         ผมจึงได้หารือเพื่อนๆ ที่รู้จักมักคุ้นกับผม  และได้ตกลงร่วมกันในการจัดทำ "โครงการเด็กกตัญญู ยากจน สนใจเรียน"ขึ้น ขณะนี้ระดมทุนได้หลายหมื่นบาทแล้ว ซึ่งในระหว่างดำเนินการระดมทุนนั้น ผมได้ขอให้เพื่อนๆ ที่เป็นครูในหลายจังหวัด ค้นหา "เด็กกตัญญู ยากจน สนใจเรียน" เพื่อให้ความช่วยเหลือ
         การช่วยเด็กเหล่านี้ จะเกิดผลหลายอย่างขึ้นในสังคมไทยครับ
         1.ช่วยกระตุ้นสังคมให้ได้รับรู้ว่า ความกตัญญูต่อบุพการีและผู้มีพระคุณ เป็นเรื่องสำคัญที่ละทิ้งไม่ได้และต้องช่วยกันส่งเสริม
         2.ช่วยให้เด็กที่กตัญญูได้รู้ว่า ความดีที่มีต่อบุพการีนั้น มีผู้คนมองเห็นและพร้อมจะช่วยเหลือเกื้อกูล
         เด็กกลุ่มแรกจำนวน 20 คน จะได้รับทุนสนับสนุนเพื่อใช้จ่ายร่วมกับครอบครัวในวันที่ 25 มิถุนายน 2553 นี้ครับ
         แล้วผมจะนำชีวิตจริงของเด็กบางคนมานำเสนอ ให้เป็นแบบอย่างแก่เด็กทั่วไปได้เรียนรู้ว่า แม้จะยากจนก็กตัญญูต่อบุพการีได้ 

 

หมายเลขบันทึก: 364146เขียนเมื่อ 5 มิถุนายน 2010 14:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 11:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีค่ะ

เป็นโครงการที่ดีมากค่ะ  ขอแสดงความดีใจกับเด็กกลุ่มแรกจำนวน ๒๐ คนค่ะ ขอขอบพระคุณแทนเด็ก ๆ ที่ได้รับการดูแลจากสังคม

เด็กยากจน นั้นหาง่ายมากค่ะ รองลงมาได้แก่สนใจเรียน แต่ที่หายากคือเด็กกตัญญูค่ะ จะพยายามบอกต่อนะคะ

ครับ ขอบคุณครูคิม

ก่อนหน้านี้ผมทำเรื่องหาทุนให้เด็กยากจนและต้องการศึกษามานานหลายปีแล้ว

คราวนี้ตระหนักว่า เรื่องความกตัญญูสำคัญมาก ต้องรณรงค์อย่างหนักครับ เพื่อนผมจำนวนมากเมื่อรู้ว่าจะทำเรื่องนี้ ต่างเห็นด้วย ส่งความช่วยเหลือเข้ามามากทีเดียว

ขออนุญาตขอบคุณเพื่อนๆ ที่สนับสนุนเพื่อเด็กๆ เข้ามา บันทึกไว้ ณ ที่นี่นะครับ

-คุณกรรณิการ์ จรัสอุไรสิน บริษัทพรอตเตอร์ แอนส์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด

-คุณชาญชัย กุลถาวรากร นักธุรกิจอิสระ

-คุณธิดา เกิดกำไร อดีตข้าราชการกรมวิทยาศาสตร์บริการ

-คุณพัชรี ดุลยธรรมาภิรมย์ บริษัทพิมนารา จิวเวอรี่ จำกัด

-คุณมณฑล เจียมเจริญ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

-คุณวารีรัตน์ หอมพวงภู่ บริษัทเอ็มอีซี ฟาร์อีสต์ อินเตอรฺเนชั่นแนล จำกัด

-คุณวิรัช หล่อเทียนชัย บริษัทไอเทค จำกัด

-คุณสมหวัง เตชะอินทราวงศ์ Best western Swana Hotel

ขอบคุณมากครับ

เรียนคุณครูหยุยที่นับถือ รู้สึกดีใจแทนเด็กๆที่อย่างน้อยได้มีผู้ใหญ่ใจดีหลายๆท่านช่วยกรุณาส่งเสริม และเป็นกำลังใจ เยาวชนของไทยให้เติบโต อย่างมีคุณภาพค่ะ

แม่ลูกสาม

สวัสดีค่ะ

  • ตามพี่คิมมาค่ะ
  • ดีใจแทนเด็ก  ๆ นะคะ ที่มีผู้ใหญ่ใจดี
  • ความกตัญญู เป็นคุณธรรมที่ควรปลูกฝังมากค่ะ
  • หากเด็ก ๆ รู้จักมีความกตัญญูต่อบุพการีแล้ว
  • ก็น่าจะส่งผลให้เขา รัก และมีความกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด
  • ต่อชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์ 
  • ขอบพระคุณค่ะ  ขอความดีคุ้มครองนะคะ

ความกตัญญูเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุนส่งเสริม

ดีใจกับเด็กๆที่มีครูหยุย เป็นผู้สนับสนุน ช่วยเหลือค่ะ

-ขอบคุณคุณแม่ลูกสาม คุณอิงจันทร์และครู ป.1 นะครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน ความจริงแล้ว เด็กกตัญญูทั้งหลายนั้นเป็นบรรดาเพื่อนพ้องทั้งหลายที่เขาเห็นด้วยและสนับสนุนช่วยหลือเข้ามาครับ ผมทำหน้าที่เป็นเสมือนสะพานเชื่อมน้ำใจพวกเขาเหล่านั้นไปยังเด็กๆ นะครับ

  • ปัจจุบันโลกของเราอยู่ในลัทธิทุนนิยม จึงทำให้เกิดแข่งขัน เพื่อแสวงหากำไร ปลาใหญ่ต้องกินปลาเล็ก คนที่รวยก็จะรวยยิ่งขึ้น คนที่จนก็จะยิ่งจนลง เพราะบริโภคเกินตัว ผลกระทบในสังคมเลยกระทบมาถึงครอบครัว ทำให้ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ต้องทิ้งคนแก่ และเด็กไว้เบื้องหลัง แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินไปวัน ๆ จนบางครั้งลืมไปว่า มีคนข้างหลังที่ช่วยตัวเองได้ไม่มากนักรออยู่ ... " ต้องขอบคุณ ครูหยุย คนช่างคิด (แต่สิ่งดี ๆ ) ... ที่มองเห็นความสำคัญของการกตัญญู " 

... เด็กกลุ่มแรกจำนวน 20 คน จะได้รับทุนสนับสนุนเพื่อใช้จ่ายร่วมกับครอบครัวในวันที่ 25 มิถุนายน 2553 นี้ครับ ...

  • จะเริ่มที่จังหวัดไหนก่อน  
  • ทำไมต้องเป็นวันที่ 25 มิ.ย.53
  • ใช้หลักเกณฑ์อะไรพิจารณาคัดเลือกเด็ก ใครเป็นคนพิจารณา

 

  • มีอีก 1 ข้อ ..... นอกจากเงินทุนที่ให้ มีใบประกาศเกียรติคุณให้เด็กด้วยหรือเปล่า ข้อนี้อยากให้ทำ เนื่องจากจะเป็นเอกสารรับรอง และเป็นการตอกย้ำให้ตัวเด็กรักษาความดีของตนเองเอาไว้ มองเห็นเมื่อไหร่ ก็จะรู้สึกภาคภูมิใจ  เด็กคนอื่นเห็นก็จะเกิดความอยากจะทำดีมั่ง
  • ขออีกสัก 1 ข้อ .... อยากให้โรงเรียนทำบอร์ดจารึกชื่อไว้เลย ... " นักเรียนกตัญญูประจำปี ... "  

คุณใยไหมครับ ขอบคุณมากครับสำหรับข้อแนะนำ จะพยายามทำให้ได้ตามนั้นครับ

สำหรับคำถามว่าเริ่มจากไหนนั้น กลุ่มแรกเริ่มที่จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากผมไปจัดงานวันสำคัญให้แก่ครูที่ผมเคารพมากคือครูปลั่งศรี มูลศาสตร์ ท่านอายุครบ 80 ปีบริบูรณ์ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ครับ จากนั้นจะทะยอยเพิ่มไปจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

หลักเกณฑ์นั้น มาจากหลายส่วนพิจารณาค้นหามาให้ ตั้งแต่เขตพื้นที่การศึกษา ครูในพื้นที่ พยาบาลและผู้แทนองค์กรชุมชน โดยดูประวัติการดำรงชีวิตที่ทำหน้าที่กตัญญูต่อพ่อแม่ ปู้ย่าตายายเรื่อยมาจนถึงวปัจจุบัน

..... ความรัก ทำให้ความทุกข์คลาย ......

ต้องถือว่าครูหยุยเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ในเรื่องนี้

  • กตัญญูต่อแผ่นดินเกิด ... เริ่มโครงการนี้ที่ จ.สุรินทร์ ถิ่นเกิด
  • กตัญญูต่อครูอาจารย์ ... เริ่มโครงการในวันที่สำคัญของบุคลอันเป็นที่รักและเคารพ ... เคยอ่านบทความเรื่อง ... จากนักเลง กลายเป็นนักบุญ ... ทราบว่าครูปลั่งศรี เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่งในชีวิตครูหยุย
  • กตัญญูต่อศาสนา ... ทำให้คนรอบๆ ตัวได้ร่วมบำเพ็ญทานบารมี ....

ขอให้ ... ไทย ... พบแต่คนไทยที่ดีแบบครูหยุย ....

ขอบคุณมากคุณแดนไทยสำหรับการเข้ามาเยี่ยมเยียน แท้จริงแล้วผมก็เป็นคนไทยธรรมดาคนหนึ่งที่พยายามจะทำอะไรบ้างต่อแผ่นดินถิ่นเกิดและทำตัวให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้นเองครับ

คุณครูครับผมทำงานพัฒนาสังคม จาก พม.ครับ เป็นคนสุวรรณใกล้สุรินทร์ แต่อยู่หนองคาย อยากขับเคลื่อนสิ่งดีต่อยอดที่ครูได้เสนอแนวทางตอนสัมมนาวิจัยที่ มิราเคิลแกรนด์ เลยอยากเอามาขับเคลื่อนที่หนองคาย แต่ทำในนาม พม. พอเป็นไปได้ไหมครับ พอมีงบประมาณ แต่เรื่องระดมทุนนี้ ยังไม่เคยลองทำดู แต่ถ้าทำก็น่าจะดี แล้วการสืบหาเด็กกตัญญูใช้กลไกรัฐ เช่น ท้องถิ่นปรึกษากับโรงเรียน ผู้นำท้องที่เลือกมา ตำบลละ หนึ่งคน จะพอเป็นไปได้ไหม จากนั้นก็มาจัดใส่เมนูทำเป็นคล้ายทำเนียบ บรรยายความกตัญญูของเด็กแต่ละคน แล้วส่งให้ห้างร้าน ผู้หลักผู้ใหญ่หรือองค์กรช่วยเหลือ (คล้ายงานจิตอาสาดูแลด้านหัวใจ) จะเวิกส์ไหมครับ หากครูว่าง ลองตอบหน่อยนะครับ

คุณฉัตรครับ ขอยคุณมากที่จะนำแนวทางความคิดไปปฏิบัติ ทำเลยครับ แต่ขอให้ได้เด็กกตัญญูจริงๆ เพราะหากเอาเฉพาะยากจนนั้น หาได้ไม่ยาก อย่างไรลองทำดู ถ้าผมจะเสริมอะไรได้ บอกกล่าวมาได้เลย ยินดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท