หลังจากทัวร์ทะเลแล้ว เราจะไป Trekking ประมาณ 1 กม. ไปดูพระอาทิตย์ตกท้ายเกาะกัน ซึ่งโปรแกรมนี้ย้ายมาจากวันแรกที่มาถึงเกาะด้วยว่าฝนตกหน่ะสิ
พอไกด์ชวนเท่านั้นแหละเราไม่ยอมพลาดเลย
ตอนนี้ยิ่งสนุกใหญ่ เพราะพี่ปู มาสมทบแล้ว วันนี้ต้องคึกคักกว่าเมื่อวานแน่นอน
เกาะไหงวันนี้ยังคงสงบเงียบ ไม่มีผู้คน ทำให้คณะเราได้เต็มอิ่มกับสรรพสิ่งรอบกาย
ไม่ว่าจะเป็นหาดทราย โขดหิน และเสียงซ่าของทะเล
น้ำลดลงมาก จนจากหาดทรายมองเห็นปะการังที่ขึ้นตามโขดหินได้อย่างชัดเจน ซึ่งน่าเป็นห่วงสำหรับ ภาวะปะการังฟอกขาว ที่เกิดจากปะการังอยู่พ้นน้ำนานเกินไป เพราะโดยปกติแล้วปะการังจะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีความลึกน้อยกว่า 60 เมตร
เดินไปยังไม่ได้ทันเมื่อย เราก็เห็น Highligh ที่น้องไกด์ได้นำเสนอไว้ คือ ประติมากรรมจากธรรมชาติที่สลักเสลาโขดหินให้เป็นรูป เจ้าแม่กวนอิม (หากมองจากเกาะออกไปทะเล) และหากมองจากทะเลเข้าสู่เกาะจะเห็นเป็นรูปเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งถือกันว่าเป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล เป็นที่สักการะบูชาของชาวเรือแห่งน่านน้ำทะเลตรังทีเดียว โดยเฉพาะช่วงต้องออกทะเลไปแรมเดือน ชาวเรือจะมาขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และจับปลาได้มากๆ
เกิดขึ้นมาจากผลกระทบเอลนิโญ (บนซ้าย)
ยังมีโอกาสได้ชม หลักเขตที่แบ่งทะเลตรัง และทะเลกระบี่ เพราะจุดที่เราไปเที่ยวนั้นเห็นว่าเป็นของทะเลกระบี่ แต่เดินทางจากตรังใกล้กว่า...ชักงง...พอเห็นหลักเขต อ้อ เข้าใจมากขึ้นหล่ะ
หลังจาก Trekking แบบกระหนุงกระหนิงแล้ว เราก็ได้เวลาอาหารพอดี
พรุ่งนี้ก็คงต้องได้ร่ำลาเกาะไหงรีสอร์ทแล้ว...มีคิวจะไปเที่ยวเขากอบ-ถ้ำเลกัน...
โห แก๊งเดิมเลยนะพี่ ดูเหมือนสมาชิดขาดใครไปสักคนนะครับ แต่อาจารย์แอ๊วยังไปเหมือนเดิม ขอให้มีความสุขกับการทำงานมากๆๆครับ
ภาพสวยคนก็มีความสุข...อิจฉาอ่ะ...
ประสบการณ์ตรงของชีวิตที่ยากที่จะลืม
มีความสุขกับการท่องเที่ยวนะคะ
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต
ทีมนี้ไปไหนไปกันค่ะ ขาดใครไปสักคนก็คงเหงา
ส่วน อาจารย์แอ๊ว สบายดีค่ะ ถ้าอาจารย์แอ๊วแวะเข้ามา คงทราบว่าอ. ขจิตถามถึง
สวัสดีค่ะ คุณkrugui Chutima
ทริปนี้เป็นการเติมความสุขก่อนจะสุขกับการทำงานในช่วงเปิดภาคใหม่ค่ะ
เป็นบรรยากาศที่ห่างพี่น้องผองเพื่อนหลายสัปดาห์ วันแรกที่เจอกันดีใจสุดๆๆ
เราได้มายืนระหว่างจุดแบ่งเขต ระหว่างจ.ตรังและจ.กระบี่