อาตมาพึ่งเดินทางกลับจากเยี่ยมเพื่อนสหธรรมิกที่บ้านไผ่ ขอนแก่น ท่านโทรมาบอกให้ไปเยี่ยมหน่อยเพราะตอนนี้ท่านอยู่รูปเดียวก็เลยได้โอกาสไปเที่ยวด้วยแม้ว่าจะเคยไปหลายครั้งแล้วก็ตาม จำนวนครั้งไม่สำคัญความสำคัญอยู่ที่ความมีไมตรีจิตมิตรภาพที่ไม่เคยจืดจางตลอดระยะเวลาที่รู้จักกันตั้งแต่ปีที่ ๒ ของการบวชของกระผม ตอนนี้ท่านรุ่งกว่าผมเยอะเพราะท่านต่อปริญญาโทอยู่ที่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมก็เลยพลอยปลื้มด้วยพลอยมีเพื่อนเป็นนักเรียนนักพัฒนายกยอไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา บรรดาญาติโยมพากันกล่าวขวัญถึงอยู่อย่างไม่ขาดปาก ด้วยดีกรี ปริญญาโท
แต่ผมเป็นพระเปล่าๆนี่สิมันน่าอาย ไม่รู้ว่าท่านจะรับผมเป็นเพื่อนหรือเปล่า ความจริงท่านเรียกผมว่าอาจารย์เพราะผมบวชก่อนท่านอยู่ประมาณ ๒ ปี เขาเรียกว่าแก่เพราะอยู่นานหรือเปล่านะแต่ท่านก็ชอบแนวทางของผมอยู่ไม่น้อย ท่านเคยชวนผมไปเรียนตั้งแต่เรียน ป.ตรี เมื่อเวลาผ่านมาได้ยินท่านบอกว่าอยากเป็นอิสระเหมือนผมบ้างคงจะมีความสุขอยู่ไม่น้อย ผมก็เลยให้กำลังใจท่านว่าไหนๆท่านก็เรียนแล้วเอาให้ถึงที่สุดนะผมเอาใจช่วย เพราะการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมดอย่างชาวโลกเข้าใจ)
การศึกษาในทางธรรมนั้นเป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือการปฏิบัติตามที่ได้ศึกษามาท่านเรียกว่าปริยัติและปฏิบัติ แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนสังคมจะเอียงไปทางด้านการปริยัติเสียมากกว่า ถึงกับมีบางบทความตามสื่อที่เขียนออกมาบอกว่า คนที่ไม่มีปริญญาเป็นดีกรี รับรองนั้นเป็นคนที่ไม่มีความรู้โดยเฉพาะชาวบ้านนอกคอกนา มีการดูถูกคนเหล่านั้นว่าโง่ๆใครจะหลอกยังไงก็ได้จนเป็นค่านิยมเรียกติดปากว่า “คนไม่มีการศึกษา” แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป
ชีวิตนี้ยังมีสิ่งมากมายที่เราอาจยังไม่เห็น ยังไม่ได้สัมผัสด้วยประสาททั้ง ๖ ผมหวังว่าบทความที่โจมตีกันอย่างสนุกสนานอย่างนี้คงไม่ลืมคนๆหนึ่งที่ไม่ได้เรียนรู้เหมือนอย่างเราในปัจจุบัน แต่คนสมัยอย่างเรายังให้การยอมรับนับถือในภูมิความรู้ตลอดหลายพันปี คนหนึ่งคนนั้นก็คือพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พุทธเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่เป็นนักแสวงหา ศาสดาส่วนมากก็เป็นเช่นนี้ระบบการเมืองการปกครองสมัยนี้แม้จะเปลี่ยนไปมากแต่เค้าโคลงก็มาจากพระศาสดาเหล่านี้ ไม่อาจที่จะบัญญัติการเมืองการปกครองเองโดยปราศจากคำสอนของบรรพบุรุษ ถ้าเราศึกษากันให้ถึงแก่นจริงๆจะรู้ว่าเป็นอย่างนั้นๆ
คนเรายังถือตัวตนอยู่มาก นับวันก็ยิ่งยึดมากขึ้นเพราะขาดการปฏิบัติอันเป็นตัวถ่วงให้เกิดความพอดี “คำกล่าวที่ดูถูกว่าเขาไม่ฉลาดเท่าเรา” นั้นมีให้เห็นอยู่เกลื่อนในสังคมไม่ว่าสังคมนั้นจะมีการศึกษาที่สูงส่งก็ตาม โดยเฉพาะสถานการณ์บ้านเมืองอันคับขันอย่างที่เป็นอยู่มันช่างเป็นไปด้วยการแย่งชิงกันโจมตีกันด้วยข่าวสารอย่างแท้จริง นี่หรือคือยุคสมัยสื่อสารไร้พรหมแดน
คนไทยนี่เขาบอกว่าตื่นตูมไปกับค่านิยม อุปโภค บริโภคล้วนเป็นไปกับค่านิยม อย่างเสื้อผ้าเป็นต้นต้องทันสมัย ยี่ห้อเป็นที่นิยม เมื่อพูดถึงการโจมตีด้วยข่าวสารแล้วให้นึกถึงกลลวงของขงเบ้งตอนลวงสุมาอี้ให้ถอยทัพ ก็ท่านวีรบุรุษของนักรบท่านนี้สื่อข่าวด้วยการดีดขิ๋มเป่าปี(ไม่แน่ใจว่าเป็นเครื่องดนตรีอะไร) อยู่บนหอรบลวงให้สุมาอี้ฉงนด้วยเล่ห์อันแยบยลจนไม่กล้ายกทัพบุกเข้าเมือง วีรบุรุษแห่งเขาโงลังกั๋งจูกัดเหลียงก็สื่อข่าวลวงจนได้ชัยมาแล้ว จึงไม่แปลกเลยที่ข้าพเจ้าจะกล่าวว่าการเมืองทุกวันนี้ก็สร้างข่าวเพื่อลวงข้าศึกอย่างนั้นเหมือนกันเป็นแต่ว่าวิธีการอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง มันเป็นกลลวงทำให้ข้าศึกเข้ามาติดกับดีๆนี่เอง
และก็ท่านจูกัดเหลียงก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่ชาวบ้านนอกคอกนา ไม่มีการศึกษาเหมือนอย่างเล่าปี่หรือผู้มีอันจะกินแต่อย่างใด ดังตอนหนึ่งว่า “ครั้งนั้นคือเดือนที่หนาวที่สุดของฤดู จึ่งพอไปได้ประมาณสามสิบเส้น เจ้าน้องคนเล็กซึ่งเป็นคนใจร้อนครั้นถูกน้ำค้างตกหนักหนาวเหน็บเข้า ก็บ่นเอากับพี่ใหญ่ว่า ในเวลาหนาวเช่นนี้ แม้จะคิดอ่านการสงครามเอาบ้านเอาเมืองกันก็ยังงด ควรแล้วหรือจะมาพากันถ่อกายเดินทางไปเพื่อคำนับอ้ายชาวบ้านนอกคนหนึ่ง” (จาก ขงเบ้ง-ยาขอบ)
ข้าพเจ้าเขียนอย่างนี้บางท่านอาจจะว่าอคติลำเอียงจนเกินไป ไม่ว่าท่านจะคิดเช่นใดข้าพเจ้าก็ขอแก้ว่าการศึกษานั้นถ้าจะให้ดีต้องปฏิบัติให้ถึงด้วย สำหรับท่านที่มีการศึกษาอย่างแท้จริงนั้นมีมีอยู่เยอะเหมือนกันครับ จำพวกนี้ขอยกไว้ด้วยเคารพเพราะท่านเหล่านี้ศึกษาเพื่อให้ไม่ได้ศึกษาเพื่อเอาบรรทัดฐานแห่งการศึกษาแตกต่างกัน การศึกษาเพื่อให้จึงมีจุดหมายคือละความเห็นแก่ตัวทำรงไว้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ส่วนการศึกษาเพื่อเอานั้นเป็นไปเพื่อยึดถือเอามาไว้เป็นของตัวหรือพวกของตัวแต่ประการเดียว
ไม่ว่าเราจะศึกษามาเพื่อการใดก็ตามก็เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของบุคคลนั้น แต่ไม่ควรเห็นแก่ตัวว่าแต่ตนเองดีคนอื่นที่ไม่เหมือนตัวหรือคิดไม่เหมือนตัวไม่ดีไปเสียทั้งหมดเช่นนี้ไม่ควร มันจะกลายเป็นว่ามะนาวบ้านตัวเองเท่านั้นที่หวานแต่มะนาวบ้านอื่นเปรี้ยวทั้งเพ ก็เพราะการยึดติดในตัวตนมากไปนั่นเองเหตุการณ์ยอมกันไม่ได้จึ่งเกิดขึ้นในสังคมเดียวนี้ อันเป็นเหตุนำมาซึ่งความแตกสามัคคีนำไปสู่การล่มสลายของเผ่าพันธุ์ชนชาติ
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ของวิสาขวันบูชาคุณงามความดีของคนไม่มีใบประกาศเกียรติ์คุณรับรองอย่างพระพุทธเจ้า ผู้ศึกษาดีแล้วเพื่อละกิเลสทั้งมวล พวกเราชาวพุทธและสัพสัตว์ควรที่จะมารำลึกนอบน้อมบูชาด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรมกันเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ให้สมกับสายเลือดอันเข้มข้นเต็มด้วยความเป็นพุทธ ประเทศพุทธที่ชนชาติอื่นเขากล่าวขานให้การยอมรับยกให้เป็นผู้นำ อีกอย่างเพื่อให้ความเห็นแก่ตัวพวกพ้องยอมไม่ได้ ให้หมดไปจากประเทศของเราจะได้หายทุกข์โศกกันเสียที นี่สิถึงจะเรียกว่าการสะเดาะเคราะห์ใหญ่ให้หายไปเหมือนน้ำฝนที่ตกลงบนแผ่นดินชะล้างสิ่งสกปรกโสโครกให้หมดไปด้วยการร่วมกันปฏิบัติธรรมให้เกิดมีขึ้นในหัวใจดวงบริสุทธิ์ของทุกๆท่าน ค่ำนี้อาตมาขออำลาแต่เพียงเท่านี้ก่อน ขอความสุขจงเกิดมีทั่วแก่ผืนแผ่นดินไทยทุกๆย่อมเทอญฯฯฯฯ
นมัสการค่ะ..
เจริญพร คุณโยมจำเนียรวดี ขอบคุณที่ตามอ่านเสมอและท่านทั้งหลายอื่น ความในบทนี้เขียนขึ้นเพราะอยากให้ท่านทั้งหลายที่ไม่ค่อยได้สัมผัสทุ่งนาป่ากว้าง บ้านนอกคอกนาสักเท่าไหร่ได้เห็นมุมมองเล็กๆน้อยๆในแง่ของเหตุการณ์ปัจจุบัน ที่มีข่าวว่าขัดแย้งแบ่งชนชั้นคนจน-คนรวย รากหญ้า-ในเมือง อะไรทำนองนี้ซึ่งข่าวทำนองนี้มีอยู่จริงแม้จะไม่ใช่ความคิดของคนทั้งหมดก็ตาม แม้ข่าวงบประมาณของรัฐบาลก็ยังบอกว่าเพื่อทำนุบำรุงประชาชนไม่ให้เกิดการเอาเปรียบความเลื่อมล้ำต่ำสูง แสดงว่าข่าวนี้มีมูลอยู่ไม่มากก็น้อย ในฐานะที่อาตมาเป็นพระพเนจรร่อนเร่ตามทุ่งนาป่าเขาโดยเฉพาะภาคอีสาน-เหนือซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งปัญหาใหญ่ของรัฐ เลยอยากสะท้อนมุมมองให้ผู้มีความรู้ได้ช่วยกันว่า "เมื่อแนวคิดอย่างนี้มีอยู่เราจะช่วยกันแก้อย่างไร"
เราจะช่วยกันแก้นะครับไม่ใช่ ช่วยกัน ตำรานักรบเขาบอกว่า "รู้เขารู้เรารบร้อยชนะร้อยไม่ใช่หรือ" เข้าใจ เข้าถึง แก้ไข