วันวิสาขบูชา
ธรรมญาณ-ฐีติญาโณ
“ขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหก”…ยกมากล่าว …. ถึงเรื่องราว”วันพระพุทธ”ที่สุดสูง…..
“วิสาขบูชา”จักพาจูง …… สู่เบื้องสูงถึง”โลกทิพย์-พระนิพพาน”…..
“วันกำเนิด”เลิศมนุษย์”พระพุทธเจ้า” ….. ทรงมุ่งเอาเจตน์จำนงส่งประสาน…..
ซ่อนความหมายแน่นหนักในหลักการ….. “ปรินิพพาน”และ”ตรัสรู้”อยู่วันเดียว….
ท่านซ่อนไว้ในรูปธรรมคำสั่งสอน……. เหตุผลซ่อนหากเปรื่องปราดฉลาดเฉลียว…
หากมนุษย์หยุดคิดสักนิดเดียว…. จักปราดเปรียวคิดได้เมื่อใคร่ครวญ…..
ว่าทำไม?จึงต้องเป็นไปเช่นนั้น….. ทั้ง”สามวัน”ตรงกันไม่ผันผวน…..
“ขึ้นสิบห้าค่ำเดือนหก”ยกกระบวน……. มีเหตุควรทุกชีวิตคิดคำนึง……
“ทรงประสูติ-ตรัสรู้-ปรินิพพาน”…. บนดินดานไพรพฤกษ์รำลึกถึง….
เป็นกษัตริย์ขัตติย์พงศ์ทรงรำพึง….. ให้คำนึงปริศนาคำว่า”ดิน”….
“ดิน”นั้นหรือคือ”อัตตา”พาเกิดทุกข์….. ทุกยามยุค”ตัวตน”วนถวิล…..
“จิตวิญญาณ”เป็นแกนหลักปักชีวิน…… อยู่บน”ดิน”ดูให้ชัดตัว”อัตตา”….
เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ไม่แน่นอน……. ไม่ถาวรหากยึดมั่นเกิดปัญหา….
เพราะเป็นสิ่งไม่อาจบังคับบัญชา…….. “เกิด”ขึ้นมาแล้วก็”ดับ”ย่อยยับไป….
ใคร”ยึดถือตัวตน”ไม่พ้นทุกข์….. หลงสนุกยังคงเลวเพราะเหลวไหล….
“ธรรมธาตุ”คือ”ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ” …… ไม่มีอะไร….เป็นสาระให้”ละวาง”….
“สิบห้าค่ำ”มีอะไรใน”สิบห้า”…… เป็นปริศนาชี้ให้ชัดที่ขัดขวาง…..
“สิบ”บวก”ห้า”ควรนับเหมือนจับวาง….. ครบที่ทางคือ”สิบห้า”ค่าเท่ากัน……
“สิบ”หรือ”หนึ่ง”แทนจิตที่คิดได้……. อยู่ชั้นในลึกสุดแท้ไม่แปรผัน…..
“จิตวิญญาณ”ยืนยงคงนิรันดร์……. แต่ภพนั้นวนเวียนมีเปลี่ยนแปลง…..
“จิตคือพุทธะ”หมาย”พระพุทธ”…… บริสุทธิ์งามเด่นเหมือนเพ็ญแสง…..
เป็น”ผู้รู้-ผู้ตื่น”ชื่นด้วยแรง……. ดวงจิตแข็ง”ผู้เบิกบาน”กล่าวขานธรรม….
พระพุทธองค์สอนดี-ชั่วจาก”ตัวรู้”…. “รู้แจ้ง”อยู่โลกนิยมว่าคมขำ….
สอนจากจิตรู้ทั่วใช่”ตัวจำ”….. ด้วยพระธรรมดับสนิท”อวิชชา”…..
โดย”ธรรมธาตุ”…ไม่มีดีไม่มีชั่ว…… ธรรมคือตัว”เป็นกลาง”สร้างสุขา…..
เมื่อเวียนว่ายตายเกิดกำเนิดมา……. ทุกข์นานาท่วมใจเพราะไม่รู้!!…..
มัว”ยึดโลก”สารพัด”ยึดวัตถุ”……. ผู้บรรลุธรรมจึงช่วยให้สวยหรู……
กลับไปสู่”สุญญตา”งามน่าดู……… เป็น”ผู้รู้”อยู่”เหนือโลก”ดับโศกซม…..
ว่าง…จาก”เครื่องร้อยรัด”ที่ขัดข้อง…… “เครื่องเศร้าหมอง”ผ่องใสวิไลสม….
ว่าง…จาก”ความยึดมั่นถือมั่น”จม….. วางอารมณ์”อัพยากตจิต”เป็นนิจเนา….
“ห้า”แทน”กายและใจ”ขอไขว่า……. คือ”ขันธ์ห้า””รูปกาย”ช่วยคลายเขลา……
“เวทนา-สัญญา-สังขาร-วิญญาณ”เรา…. “รู้สึก”เอา”จำ””คิด”ไม่ผิดเลย…..
“รู้สึก-รู้จำ-รู้คิด-รู้สัมผัส”…… เป็นปรมัตถ์”ตัวสัจจะ”ขอเฉลย….
คือ”ต้นธาตุ-ต้นธรรม”คำภิเปรย…… “รูปธรรม”เอย”นามธรรม”ล้วนจำเป็น….
เดือน”หก”คือสิ่งที่ออกไปนอกกาย…มีความหมายคือ”ใจ”มองให้เห็น….
“อายตนะหก”ทางใหญ่กว้างเจน ….. “ตา-หู”เห็น”จมูก”หมาย”ลิ้น-กาย-ใจ”….
สิ่งที่”หก”ออกจาก”กาย”คือ”ใจ”นั่น ….. ทุกข์เกิดนั้นมี”หก”ทางรู้บ้างไหม?….
“ทุกข์ร้อยแปด”เกิดมีก็ที่”ใจ”….. ดับทุกข์ได้ที่”ใจ”นั้นก็อันเดียว…..
ฉะนั้น”พุทธะ”คือ”ผู้รู้”ทั้งหลาย….. “ประสูติ”กายจึงเป็น”หนึ่ง”พึงเฉลียว….
“ตรัสรู้-ปรินิพพาน”นั้นเป็นวันเดียว….. ด้วยข้องเกี่ยวกับองค์”หก”ที่ยกมา……
“ประสูติ”ที่อายตนะทั้งหก…… แล้วแถมพก”ตรัสรู้”แน่แก้ปัญหา….
“ปรินิพพาน”ว่างกิเลสเพศนานา….. ก็ที่”อายตนะหก”ประการ…..
ว่าง….จาก”เครื่องร้อยรัด”ที่มัดจิต….. ว่าง…จากพิษ”อัตตา”จัดประหัตประหาร…..
ว่าง…จากการ”ถือมั่น”นิรันดร์กาล…. เป็น”ผู้ตื่น-ผู้เบิกบาน”นิพพานครอง…..
หาก”โลก”คือความมืดมิดคิดไม่ออก….. “พระจันทร์”บอกแทน”ใจ”รับแสงส่อง….
จาก”อาทิตย์”แทน”จิต”ผู้รู้ครอง….. ย่อมจะส่องโลกสว่างกระจ่างงาม……..
เย้....เย้...เรามาทักทายเป็นคนแรกเลย....อิ..อิ
สวัสดีค่ะครูจ่อย
พรุ่งนี้ไปทำบุญตักบาตร
ตอนเย็นค่ำๆ เวียนเทียนกันนะคะ
ด้วยความระลึกถึงค่ะ
สวัสดีค่ะครูจ่อย
* มาอีกรอบหนึ่งค่ะ เนื่องจากอยากจะเชิญชวนไปดูโครงการดีๆ ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ของครูใจดีหน่อยค่ะ
* ไปดูมะนาว และไปให้กำลังใจ อ.เลิศฤทธิ์ และครูใจดีที่กระท่วมรจนาค่ะ
* อ.เลิศฤทธิ์ ทำโครงการ กระท่อมรจนา ศาลาพักใจ ตามแนวพระราชดำรัชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่อย่างพอเพียง ปลูกหญ้าแฝก จัดสรรพื้นที่ปลูกพืชผัก เลี้ยงปลา ผลไม้ ตอนนี้กำลังปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ค่ะ
* เราปลูกมะนาวกันแล้ว พึ่งเห็นรูปตัวเองวันนี้เอง ต้นนี้แหละที่ปลูกเสร็จฝนก็ตกทันทีเลย
http://gotoknow.org/blog/laplae/357925
ช่วยกันประชาสัมพันธ์โครงการที่ดีแบบนี้นะคะ เราทำด้วยใจ
ทำเพื่อในหลวงของพวกเราค่ะ และสำนึกรักถิ่นฐานบ้านเกิดค่ะ
สวัสดีอีกรอบค่ะพี่ครูจ่อย วันนี้คุณยายจะไม่นอนค่ะ พอสว่างก็จะรอตักบาตรหน้าบ้านค่ะ
สวัสดีค่ะ