สนใจไหม......รู้ก่อนลดกับความเชื่อผิดๆ เรื่องควบคุมน้ำหนัก


สนใจไหม......รู้ก่อนลดกับความเชื่อผิดๆ เรื่องควบคุมน้ำหนัก

         สนใจไหม......รู้ก่อนลดกับความเชื่อผิดๆ เรื่องควบคุมน้ำหนัก

              ปัญหาหนักอกของคนกลุ่มหนึ่งที่เกิดจะมารักสวยรักงามเอาตอนที่น้ำหนักเกินพิกัด และพยามยามที่จะลดทุกวิถีทาง   บางครั้งการลดน้ำหนักก็มาจากความเชื่อที่ผิด ๆ ในการควบคุมน้ำหนักก็ได้ เช่น อดข้าว งดของจุบจิบ งดแป้ง ขับเหงื่อ หรือโทษกรรมพันธุ์ว่าเป็นสาเหตุความอ้วน

              ด้วยความห่วงใยกลุ่มคนดังกล่าว จึงได้นำบทความของ ภก.ดร.พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพยี่ห้อหนึ่ง มาให้อ่าน เพราะท่านได้เสนอแนะ แนะนำ วิธีควบคุมน้ำหนักที่น่าสนใจว่า ต้องไม่อด กินครบทุกมื้อ แต่ควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบทุกหมู่ ไม่ควรงดอาหารพวกแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกายเมื่อท่านออกกำลังกาย และยังช่วยให้พลังงานสำหรับกิจกรรมในแต่ละวัน โดยเน้นอาหารมื้อเช้ามากที่สุด เพราะร่างกายต้องการใช้พลังงาน และหลีกเลี่ยงอาหารพลังงานสูงที่ไม่มีประโยชน์ในระหว่างวัน แต่เลือกเป็นชนิดที่ให้พลังงานต่ำและมีเส้นใยสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ถั่ว ลูกเดือย ผักสด ผลไม้ ควรลดและหลีกเลี่ยง อาหารพวกแป้งแปรรูป เช่น ขนมปังขาว เค้ก ขนมหวานที่มีแป้งเป็นส่วนผสม

              อีกประการหนึ่งความบ่อยของการกิน หรือการกินจุบจิบก็ไม่ได้ทำให้อ้วน แต่อยู่ที่อาหารที่กิน ให้สังเกตได้ว่านักโภชนาการมักแนะนำคนที่ลดน้ำหนักแบ่งอาหารออกเป็นห้ามื้อเล็ก ๆ โดยระหว่างมื้อในช่วงสายหรือบ่ายแก่ ๆ เลือกทาน แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ แครอท หรือ ถั่วลิสงต้ม ทานเป็นของจุบจิบรองท้อง เพื่อมื้ออาหารเย็นจะได้ไม่รับประทานมากจนเกินพอดี

              สำหรับอันตรายที่มาจากความเชื่อผิด ๆ คือ การขับเหงื่อให้ออกมาก ๆ วิธีนี้แม้จะลดน้ำหนักได้ แต่น้ำหนักที่สูญเสียไปคือน้ำในร่างกาย ซึ่งมีความจำเป็นในกระบวนการเผาผลาญไขมัน อีกทั้งอาจทำให้เป็นลมหรือหมดสติได้ให้คำแนะนำว่า ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2-3 ลิตร หรือหากเสียเหงื่อมากควรดื่มน้ำเปล่าชดเชยเข้าไป ซึ่งในช่วงลดน้ำหนักไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ น้ำหวาน หรือ เครื่องดื่มเกลือแร่ เพราะมีน้ำตาลสูง

               ส่วนความเชื่อที่ว่าความอ้วนมาจากกรรมพันธุ์ จึงไม่มีวันที่จะลดน้ำหนักได้ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน เพราะความอ้วนขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิตประจำวันต่างหาก

ทีมา....เดลินิวส์ออนไลน์    ประจำวันที่  27  พฤษภาคม  พศ2553

หมายเลขบันทึก: 361756เขียนเมื่อ 27 พฤษภาคม 2010 09:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ

แวะมาหาความรุ้เกี่ยวกับการลดน้ำหนัก

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท