ห้องที่ชื่อว่า "ใจ"


ใจเป็นนาย ใจเป็นผู้นำ ใจเป็นผู้สร้างสรรค์ ...

ไม่บ่อยนักที่เราจะรู้สึกว่า ตัวเองเศร้า...

ทว่า ท่ามกลางวิกฤติของแผ่นดินไทยในช่วงที่ผ่านมา

ยอมรับว่า...ความเศร้าเป็นหนึ่งในหลากหลายความรู้สึกที่ได้บังเกิดขึ้นในใจ

 

จากข่าวคราวที่เผยแพร่ไปทั่วโลก สร้างความห่วงใยให้กับเพื่อน ๆ ที่ฝรั่งเศส เมื่อยามเพื่อนสอบถามถึงสารทุกข์สุกดิบ เราได้แต่บอกเพื่อนว่า

“...Civil War ในเมืองไทยที่เพื่อนเห็นกำลังจะจบลงแล้ว...อีกไม่นานทุกอย่างที่บ้านเราจะดีขึ้นเอง...ไม่ต้องห่วงเรานะ”

เพื่อนให้กำลังใจว่า “ฉันก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน หวังว่าเมืองไทยของเธอจะกลับมาเป็นเมืองที่สงบงามและน่าอยู่เหมือนเดิม ...ดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยนะ”

 

คำปลอบโยนของเพื่อนทำให้เรามีความหวังและหายเศร้าได้บ้าง แต่ไม่นานความรู้สึกหดหู่อย่างลึก ๆ ที่ทำให้พลังชีวิตในตัวเราลดทอน...ก็หวนกลับมายึดพื้นที่ในใจอีก

 

คงเป็นเพราะบุญจัดสรร ...จึงมีใครบางคนที่รู้ใจ ส่งธรรมะของท่านว.วชิรเมธี ว่าด้วย “ห้องที่ชื่อว่าใจ” มาให้ ...นั่นซินะ ครูบาอาจารย์ก็เคยสอนนักสอนหนาว่า... “ใจ” เป็นดั่ง “เก้าอี้ดนตรี” นั่งได้แค่ทีละหนึ่งคน... สุดแท้แต่ว่า เราจะให้ใครนั่ง

 

ใจ ของเรานั้น

ไม่ต่างอะไรกับห้องที่ว่างเปล่า

เมื่อเราใส่อะไรเข้าไปในห้องที่ว่างเปล่านั้น

สถานภาพของห้องก็จะเปลี่ยนไปทันที

 

เป็นต้นว่า เรามีห้องว่างเปล่าอยู่ห้องหนึ่ง

เมื่อเราใส่น้ำเข้าไป ก็จะกลายเป็นห้องน้ำ

เราใส่พระพุทธรูปเข้าไป ก็จะกลายเป็นห้องพระ

เราใส่เครื่องมือปรุงอาหารเข้าไป ก็จะกลายเป็นห้องครัว

เราใส่เครื่องนอนเข้าไป ก็จะกลายเป็นห้องนอน

เราใส่ชุดรับแขกเข้าไป ก็จะกลายเป็นห้องรับแขก

เราใส่บุคคลสำคัญเข้าไป ก็จะกลายเป็นห้องวีไอพี

 

ห้องแห่งหัวใจของเรา

ก็ไม่ต่างอะไรกับห้องว่างเปล่าที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเลย

ทุกครั้งที่เราบรรจุอะไรเข้าไปในใจ

ใจของเราก็จะเปลี่ยนสถานภาพเหมือนกัน

 

เราใส่ความเมตตาเข้าไป ก็จะกลายเป็นคนใจดี

เราใส่ธรรมะเข้าไป ก็จะกลายเป็นคนใจบุญ

เราใส่ความโกรธเข้าไป ก็จะกลายเป็นคนใจร้อน

เราใส่ความเลวเข้าไป ก็จะกลายเป็นคนใจทราม

เราใส่ความกลัวเข้าไป ก็จะกลายเป็นคนใจเสาะ

เราใส่ความเป็นนักสู้เข้าไป ก็จะกลายเป็นคนใจสู้

เราใส่ความขาดสติเข้าไป ก็จะกลายเป็นคนใจลอย

 

เห็นด้วยหรือไม่ว่า

ใจของเรานั้นเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลเหนือกาย

เป็นสิ่งที่คอยออกแบบชีวิตของเราให้เป็นไปอย่างไรก็ได้

 

พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า

ใจเป็นนาย ใจเป็นผู้นำ ใจเป็นผู้สร้างสรรค์ ...

หรือบางทีก็ตรัสว่า จิตฺเตน นียติ โลโก

แปลว่า โลกหมุนไปตามใจสั่งการ

โลกในที่นี้ หมายถึง ชีวิตของเรานั่นเอง

โลกคือชีวิต จะหมุนซ้าย หมุนขวา

หมุนตรงหรือหมุนเอียง หมุนไปข้างหน้า หรือว่าหมุนไปข้างหลัง

ทั้งหลายทั้งปวงนั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของใจทั้งหมดทั้งสิ้น

ใจของเราไม่ต่างอะไรกับห้องที่ว่างเปล่า

เราบรรจุอะไรลงไป

ชีวิตของเราก็เป็นไปตามสิ่งที่บรรจุนั้น

 

ทุกวันนี้ เราเคยถามตัวเองบ้างไหมว่า

เราบรรจุอะไร

ลงไปในห้องแห่งหัวใจของเราบ้าง

ความรู้ ความงมงาย

ความรัก ความโกรธ ความเกลียด

ความโลภ ความดี ความชั่ว

ความริษยา ความหน้าด้าน ความสะอาด

สว่าง สงบ หรือความตื่นรู้

 

ชีวิตจะเป็นอย่างไร

รุ่งโรจน์หรือร่วงโรย

ขึ้นสูงหรือลงต่ำ

สำคัญที่เราบรรจุอะไรลงไปในใจของเราเอง ...

 

ในยามนี้ ขอมอบข้อเขียนที่เป็นดั่งยารักษาโรคในใจมาให้เพื่อนพ้องน้องพี่ที่หลาย ๆ คนคงรู้สึกเศร้าและหดหู่ไม่ต่างจากเรา ….ขอความรักและสันติภาพจงบังเกิดขึ้นในใจของชาว G2 know ทุกท่านค่ะ

หมายเลขบันทึก: 360644เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2010 19:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 20:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับท่าน ดร.ทิพวัลย์

มีโอกาสผ่านแวะกำแพงแสน เยี่ยมชมมะนาว

ท่านอาจารย์ ขจิตได้กรุณาบอกกล่าวถึงท่านดร.ให้ฟัง

มาอ่านบันทึกนี้ เหมือนได้สนทนากัน

ขอบคุณ คุณความดี ที่แบ่งปันให้กันครับท่าน

สวัสดีค่ะ

ขอขอบพระคุณกับบันทึก "ใจ" มากค่ะ ขอให้ทุกคนมีใจที่ตื่นรู้ เป็นเครื่องรักษาใจค่ะ 

อ่านซ้ำไปซ้ำมาและเก็บไว้อ่านอีกค่ะ

ขอบคุณ อ.ตุ้มมากครับเข้าใจเรื่องของใจมากขึ้นจริง

สวัสดีค่ะคุณมาตายี

คงจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการปฏิบัติธรรมกันบ้างนะคะ

สวัสดีค่ะคุณวอญ่า

หากได้มาเยี่มเยียนกำแพงแสนอีกวันไหน ส่งข่าวมาบอกกันบ้างนะคะ

จะชวนไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมงานของสถานพยาบาลมหาวิทยาลัยค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำขอบคุณค่ะ และยินดีเสมอที่ได้แบ่งปันเรื่องราวดี ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะครูคิม

ตัวเองก็อ่าน "ห้องที่ชื่อว่าใจ" นี้ซ้ำไปซ้ามาอยู่หลายรอบค่ะ

เป็นบทความที่ช่วยเตือน "สติ" ให้เราหวนกลับเอาใจมาตรึกอยู่กับสิ่งดี ๆ

ให้ใจเราผูกพันกับความสะอาด ความสว่าง ที่ทำให้เราสงบค่ะ

สวัสดีค่ะน้องตู่...หมูแดงอวกาศ

มีเวลาอยากชวนตู่ไปเข้าค่าย "ปฏิบัติการทางใจ"

ที่ผ่านมา ใช้เวลาประมาณ ๗ วัน ที่ใจเราจะตกตะกอน

พอเราเห็นสิ่งที่เรียกว่า "ใจ" ชัด ๆ

เราจะ "เข้าใจ" และเรียนรู้เรื่องของ "ใจ" มากขึ้นอีกมาก ๆ ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท