แนวข้อสอบภาค ข.


แนวข้อสอบภาค ข.

ทบทวนความรู้วิชาภาคเช้า 100 ข้อ

Top of Form 1

1. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มีกี่หมวด กี่มาตรา
                ก. 9 หมวด 78 มาตรา
                ข. 9 หมวด 87 มาตรา
                ค. 9 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
                ง. 9 หมวด 87 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

2. ข้อใดคือความหมายของคำว่า การศึกษา ที่ถูกต้องที่สุด
                ก. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลโดยการถ่ายทอดความรู้การฝึกการอบรมการสืบสานทางวัฒนธรรมการสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการการสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมสังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
                ข. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
                ค. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้าง องค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
                ง. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต

3. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง
                ก. การศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ข. การศึกษาก่อนอุดมศึกษา
                ค. การศึกษาภาคบังคับ
                ง. การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย

4. ข้อใดไม่ ถูกต้องตามความหมายของคำว่า สถานศึกษา ตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
                ก. สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
                ข. ศูนย์การเรียน
                ค. วิทยาลัยชุมชน
                ง. สถานพัฒนาเด็กเล็ก

5. ข้อใด ไม่จัด อยู่ในหมวด บุคลากรทางการศึกษา
                ก. รองผู้อำนวยการโรงเรียน
                ข. นักการภารโรง
                ค. ครูอัตราจ้าง
                ง. เจ้าหน้าที่พัสดุ

6. ใครมีอำนาจ ออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
                ก. นายกรัฐมนตรี
                ข. รัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
                ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
                ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

7. ข้อใดสำคัญที่สุด
                ก. ความมุ่งหมายและหลักการ
                ข. โครงสร้างการจัดการศึกษา
                ค. แนวทางการจัดการศึกษา
                ง. สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา

8. คำว่า “ การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบรูณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้” มาจากหมวดใดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
                ก. หมวด 4
                ข. หมวด 3
                ค. หมวด 2
                ง. หมวด 1

9. ข้อใด ไม่ใช่ หลักการจัดการศึกษา
                ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
                ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
                ค. การพัฒนาสาระและคุณภาพการศึกษาให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
                ง. เป็นหลักการทุกข้อ

10. การจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการจัดการศึกษา มีกี่ข้อ
                ก. 4 ข้อ
                ข. 5 ข้อ
                ค. 6 ข้อ
                ง. 8 ข้อ

11. ข้อใด ไม่ ถูกต้องตาม การจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการจัดการศึกษา
                ก. การกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประเมินคุณภาพการศึกษา
                ข. การส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
                ค. เอกภาพด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
                ง. ถูกต้องทุกข้อ

12. ข้อใด คือ การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ
                ก. จัดตามศักยภาพที่เหมาะสมกับความสามารถ
                ข. จัดตามอัธยาศัยที่เหมาะสมกับความสามารถ
                ค. จัดตามรูปแบบที่เหมาะสมกับความสามารถ
                ง. จัดเท่าเทียมผู้อื่นที่เหมาะสมกับความสามารถ

13. คำว่า “ยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด” มาจากหมวดใดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
                ก. หมวด 1
                ข. หมวด 2
                ค. หมวด 3
                ง. หมวด 4

 

 

14. การกำหนดให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดทำสาระหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตราใด
                ก. มาตรา 25
                ข. มาตรา 26
                ค. มาตรา 27
                ง. มาตรา 28

 

15. ข้อใดเป็นลักษณะของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ก. สมบูรณ์แบบ
                ข. ครบช่วงชั้น
                ค. หลากหลาย
                ง. มาตรฐาน

16. ข้อใด ไม่ใช่  องค์คณะบุคคลในรูปแบบสภา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
                ก. สภาการศึกษา
                ข. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
                ง. คณะกรรมการการศาสนาและวัฒนธรรม

17. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา มีฐานะเป็น
                ก. นิติบุคคล
                ข. องค์การมหาชน
                ค. องค์กรเอกชน
                ง. หน่วยงานในกำกับของรัฐ

18. ข้อใดถูกต้อง เกี่ยวกับการประเมินผลคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่ง
                ก. ประเมินทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย
                ข. ประเมินอย่างน้อยทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย
                ค. ประเมินทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งแรก
                ง. ประเมินอย่างต่ำทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย

19. ข้อใดหมายถึง “การศึกษาภาคบังคับ”
                ก. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ข. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ
                ค. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาก่อนอุดมศึกษา
                ง. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาในระบบ

20. การกำหนดให้มีการศึกษาภาคบังคับ อยู่ในมาตราใดของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
                ก. มาตรา 15
                ข. มาตรา 16
                ค. มาตรา 17
                ง. มาตรา 18

21. การแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา มีกำหนดระยะเวลาเท่าใด
                ก. ภายใน 1 ปี
                ข. ไม่น้อยกว่า 1 ปี
                ค. ภายใน 1 ภาคเรียน
                ง. ไม่น้อยกว่า 1 ภาคเรียน

22. สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผัน ให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ในกรณีใด
                ก. ตามคำสั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
                ข. ตามระเบียบที่สถานศึกษากำหนด
                ค. ตามคำร้องขอของผู้ปกครองเด็ก
                ง. ตามมติคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

23. ผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียนตามการศึกษาภาคบังคับ มีโทษอย่างไร
                ก. ปรับ 1,000 บาท
                ข. ปรับไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
                ค. ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
                ง. ปรับไม่น้อยกว่า 1,000 บาท

24. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ประกาศใช้เมื่อใด
                ก. 6 กรกฎาคม 2546
                ข. 7 กรกฎาคม 2546
                ค. 8 กรกฎาคม 2546
                ง. 9 กรกฎาคม 2546

 

25. ข้อใด ไม่ใช่ การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
                ก. สำนักงานปลัดกระทรวง
                ข. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
                ค. สำนักงานนายกรัฐมนตรี
                ง. เป็นการจัดระเบียบส่วนกลางทุกข้อ
               

26. วิทยาลัยชุมชนสังกัดส่วนราชการใด
                ก. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ข. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
                ค. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
                ง. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ

27. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์สังกัดหน่วยงานใด
                ก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
                ข. สำนักงานการศึกษาพิเศษ
                ค. สำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน
                ง. องค์การบริหารส่วนจังหวัด

28. การจัดระเบียบเขตพื้นที่การศึกษาให้จัดทำเป็นกฎหมายใด
                ก. ประกาศกระทรวงโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
                ข. ประกาศกระทรวงโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ค. กฎกระทรวงโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ง. กฎกระทรวงโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา

 

29. การจัดระเบียบสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้จัดทำเป็นกฎหมายใด
                ก. ประกาศสำนักเขตพื้นที่การศึกษา
                ข. ประกาศคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
                ค. ระเบียบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
                ง. ระเบียบคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
                       

30. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวไว้ในมาตราใดของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
                ก. มาตรา 36
                ข. มาตรา 37
                ค. มาตรา 38
                ง. มาตรา 39

 

31. ข้อใด ไม่ใช่ อำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการสถานศึกษาตามมาตรา 39 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
                ก. บริหารกิจการของสถานศึกษา
                ข. การจัดทำนิติกรรมสัญญาในราชการของสถานศึกษา
                ค. ปฏิบัติงานอื่น ตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด
                ง. เป็นอำนาจและหน้าที่ทุกข้อ

32. เรื่องใด ไม่ได้ กำหนดไว้ในการมอบอำนาจ
                ก. การบริหารงบประมาณ
                ข. การพิจารณาความดีความชอบ
                ค. การกำหนดอัตราตำแหน่ง
                ง. การดำเนินการทางวินัย

33. การรักษาราชการแทน กล่าวไว้ในหมวดใดของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
                ก. หมวด 2
                ข. หมวด 3
                ค. หมวด 4
                ง. หมวด 5

34. การกระจายอำนาจการจัดการศึกษา กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตราใด
                ก. มาตรา 37
                ข. มาตรา 38
                ค. มาตรา 39
                ง. มาตรา 40

 

35. ข้อใด ไม่ใช่  การกระจายอำนาจตามข้อ34
                ก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
                ข. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
                ค. อกคศ. เขตพื้นที่การศึกษา
                ง. สถานศึกษา

36. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มีกี่มาตรา
                ก. 8 มาตรา
                ข. 9 มาตรา
                ค. 10 มาตรา
                ง. 11 มาตรา

37. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ยกเลิก/แก้ไข พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กี่มาตรา
                ก. 8 มาตรา
                ข. 9 มาตรา
                ค. 10 มาตรา
                ง. 11 มาตรา

38. พระราชบัญญัติ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ประกาศใช้เมื่อใด
                ก. 11 มิถุนายน 2546
                ข. 12 มิถุนายน 2546
                ค. 13 มิถุนายน 2546
                ง. 14 มิถุนายน 2546

39. ใคร ไม่มี ส่วนเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
                ก. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
                ข. คุรุสภา
                ค. คณะกรรมการคุรุสภา
                ง. คณะกรรมการ สกสค.

 

40. ประธานคณะกรรมการคุรุสภา มาจาก
                ก. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ
                ข. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ
                ค. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากกรรมการ
                ง. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากกรรมการ

41. คณะกรรมการคุรุสภามีทั้งหมดกี่คน
                ก. 15 คน
                ข. 17 คน
                ค. 23 คน
                ง. 39 คน
               

42. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีทั้งหมดกี่คน
                ก. 15 คน
                ข. 17 คน
                ค. 23 คน
                ง. 39 คน

43. คณะกรรมส่งเสริมสวัสดิภาพและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษามีกี่คน
                ก. 15 คน
                ข. 17 คน
                ค. 23 คน
                ง. 39 คน

44. ใครเป็น ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิภาพและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
                ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
                ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ           
                ค. เลขาธิการคุรุสภา
                ง. ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง

45. คุรุสภามีวัตถุประสงค์ คือ
                ก. กำหนดมาตรฐานวิชาชีพครู
                ข. กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพครู
                ค. ส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับวิชาชีพครู
                ง. ถูกทุกข้อ

46. อัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
                ก. 200 บาท
                ข. 300 บาท
                ค. 400 บาท
                ง. 500 บาท

47. อัตราค่าต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
                ก. 200 บาท
                ข. 300 บาท
                ค. 400 บาท          
                ง. 500 บาท

48. อัตราค่าหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
                ก. 200 บาท
                ข. 300 บาท
                ค. 400 บาท
                ง. 500 บาท

49. อัตราค่าหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
                ก. 200 บาท
                ข. 300 บาท
                ค. 400 บาท
                ง. 500 บาท

50. อัตราค่าใบแทนใบอนุญาต คือ
                ก. 200 บาท
                ข. 300 บาท
                ค. 400 บาท
                ง. 500 บาท

51. คณะกรรมการคุรุสภาที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครู มีคุณสมบัติ คือ
                ก. สอนมาไม่น้อยกว่า 10 ปี
                ข. ดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3
                ค. มีวิทยฐานะชำนาญการขึ้นไป
                ง. ถูกทุกข้อ          

52. ใครคือ ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
                ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
                ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
                ค. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา
                ง. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา

53. ผู้ประสงค์ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้ยื่นต่อผู้ใคร
                ก. ประธานคณะกรรมการคุรุสภา
                ข. ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
                ค. เลขาธิการคุรุสภา
                ง. ประธาน ส.ก.ส.ค.          

54. ถ้าคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพไม่ออกใบอนุญาตให้ ผู้ยื่นคำขอมีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อใคร
                ก. คณะกรรมการคุรุสภา
                ข. ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
                ค. เลขาธิการคุรุสภา
                ง. รัฐมนตรี

55. ข้อใด ไม่ใช่ มาตรฐานวิชาชีพ
                ก. มาตรฐานการปฏิบัติตน
                ข. มาตรฐานการปฏิบัติงาน
                ค. มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
                ง. มาตรฐานตำแหน่งและประสบการณ์วิชาชีพ

56. การประกอบวิชาชีพครูโดย ไม่ได้ รับใบอนุญาตต้องได้รับโทษ คือ
                ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
                ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
                ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
                ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

57. การประกอบอาชีพครูในระหว่างพักใบอนุญาตต้องได้รับโทษ คือ
                ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
                ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
                ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
                ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

58. การยื่นต่อใบอนุญาต ต้องดำเนินการเมื่อใด
                ก. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 180 วัน
                ข. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน
                ค. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 30 วัน
                ง. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 15 วัน

59. พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ประกาศใช้เมื่อใด
                ก. 21 ธันวาคม 2547
                ข. 22 ธันวาคม 2547
                ค. 23 ธันวาคม 2547
                ง. 24 ธันวาคม 2547

60. ผู้รับสนองพระราชโองการ พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 คือ
                ก. นายวิษณุ เครืองาม
                ข. พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร
                ค. นายบรรหาร ศิลปอาชา
                ง. พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

61. พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มีกี่หมวดกี่มาตรา
                ก. 9 หมวด 140 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
                ข. 9 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
                ค. 9 หมวด 82 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
                ง. 9 หมวด 150 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล

62. ข้อใดไม่ใช่บุคลากรทางการศึกษาตามพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
                ก. ข้าราชการครู
                ข. ผู้บริหารการศึกษา
                ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
                ง. เป็นบุคลากรทางการศึกษาทั้ง 3 ข้อ

63. ก.ค.ศ. ตามพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มีกี่คน
                ก. 9 คน
                ข. 15 คน               
                ค. 21 คน
                ง. 28 คน

64. ใครเป็นผู้กำหนดเวลาการทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปี และการลาหยุดของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
                ก. สำนักนายกรัฐมนตรี
                ข. คณะรัฐมนตรี
                ค. ก.ค.ศ.
                ง. สำนักงานข้าราชการพลเรือน

65. ใครมีหน้าที่ ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
                ก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
                ข. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
                ค. อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
                ง. กลุ่มบริหารงานบุคคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

66. ใครเป็นผู้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งตำแหน่งที่มี วิทยะฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
                ก. เลขาธิการ สพฐ.
                ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
                ค. นายกรัฐมนตรี
                ง. ปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ

67. ใครคือ ประธานกรรมการในการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
                ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
                ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
                ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                ง. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้ง

68. การพ้นจากไปรับราชการทหาร แล้ว มีความประสงค์จะเข้ากลับเข้ารับราชการครูต้องยื่นเรื่องภายในกี่วันนับแต่วันพ้นจากราชการทหาร
                ก. 60 วัน
                ข. 90 วัน
                ค. 120 วัน
                ง. 180 วัน

69. ใครเป็นผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่สั่งเลื่อนขั้นเงินเดือนครูชำนาญการ
                ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
                ข. ผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยความเห็นชอบ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
                ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยอนุมัติ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา
   &nbs

คำสำคัญ (Tags): #แนวข้อสอบภาค ข.
หมายเลขบันทึก: 360204เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2010 00:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท