อุทยานหลวงราชพฤกษ์จัดงาน “วันต้นไม้แห่งชาติและเปิดตัวโครงการ เติมสีทองหื้อดอยคำ”วันที่ 28 พฤษภาคม 2553
1. ความเป็นมาของการจัดงานวันต้นไม้แห่งชาติ
อุทยานหลวงราชพฤกษ์ เดิมเป็นสถานที่จัดงานพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)ซึ่งได้รับโอนจากกรมวิชาการเกษตรตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2553 ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ “อุทยานหลวงราชพฤกษ์” เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2553 ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น ทั้งนี้อุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้ทำพิธีเปิดป้ายชื่อพระราชทานอย่างเป็นทางการเมื่อ วันที่12เมษายนที่ผ่านมา
อุทยานหลวงราชพฤกษ์เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. ค่าบำรุงสวน ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท เด็กคนละ 25 บาท ข้าราชการ ผู้สูงอายุ แสดงบัตรจะได้ราคาพิเศษคนละ 25 บาท ชาวต่างประเทศ 100 บาท ส่วนกรุ๊ปทัวร์สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในการรับส่วนลดพิเศษต่างๆได้ (โทร 053-114195-6) อุทยานหลวงราชพฤกษ์มีบริการรถพ่วงชมสวนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะได้ชมความงามของสวนที่ยังมีความสวยงามอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหอคำหลวง สวนองค์กรต่างๆและ สวนนานาชาติ ซึ่งในแต่ละสวนจะมีความน่าสนใจและความแปลกใหม่อยู่เสมอ นอกจากนั้นทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้จัดมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่28 พฤษภาคม 2553 จะร่วมมือกับ 23 หน่วยงาน จัดงานวันต้นไม้แห่งชาติและเปิดตัวโครงการเติมสีทองหื้อดอยคำขึ้น
2. วัตถุประสงค์การจัดงาน การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างจิตสำนึกและกระตุ้นให้คนในท้องถิ่นรักผืนแผ่นดินและหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ พร้อมให้มีส่วนร่วมในการปลูก การดูแลรักษาต้นไม้และป่าไม้ พร้อมกับเปิดตัวโครงการ “เติมสีทองหื้อดอยคำ” ซึ่งมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นราชพฤกษ์จำนวน 8,599 ต้นในเวลา 3 ปี เพื่อถวายเป็นราชสักการะ เนื่องในอภิมหามงคลสมัย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา ครบ 85 พรรษา
3. กิจกรรมในงานวันต้นไม้แห่งชาติและเปิดตัวโครงการเติมสีทองหื้อดอยคำ
3.1 วันที่ 28 พฤษภาคม 2553 เวลา 09.30 น. มีพิธีเปิดงานวันต้นไม้แห่งชาติและเปิดตัวโครงการ ‘เติมสีทองหื้อดอยคำ’ พร้อมกิจกรรมการปลูกต้นราชพฤกษ์ทั้งในและนอกเขตอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ตามแนวถนนจากวงเวียนช้างไปตลอดสองข้างทางจนถึงพระธาตุดอยคำ และจากวงเวียนช้างไปยังวัดบ้านฟ่อนตำบลหนองควาย รวมทั้งหมดจำนวน 999 ต้น
3.2 มีกิจกรรมต่างๆ ที่ให้ชุมชนและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในงาน ได้แก่ การประกวดร้องเพลง การประกวดคำขวัญ การประกวดการเขียนเรียงความ การประกวดวาดภาพระบายสี การประกวด ต้นไม้หายาก พร้อมชิงเงินรางวัลและถ้วยรางวัลมากมาย
3.3 การจัดค่ายนักพฤกษศาสตร์น้อย หลักสูตร 3 วัน ในวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2553 โดยจัดร่วมกับงานพัฒนาการศึกษาและสังคมมูลนิธิโครงการหลวง ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากมูลนิธิอิซูซุประเทศไทย เยาวชนที่เข้าค่ายเป็นสมาชิกเครือข่ายเยาวชนโครงการหลวงและจากชุมชนตำบลแม่เหียะ ชุมชนตำบลสุเทพและชุมชนตำบลหนองควาย รวมจำนวน 30 คน
3.4 การจัดนิทรรศการทางวิชาการเรื่อง “สร้างโลกเขียวสวยด้วยต้นไม้” โดยความร่วมมือจาก หน่วยงานต่างๆ ร่วมจัดนิทรรศการให้ความรู้ทางวิชาการกับเยาวชน ถ้าทางสถาบันการศึกษาแห่งไหนสนใจ สามารถนำนักเรียน นักศึกษาเข้าชมนิทรรศการได้ตลอดระยะเวลาการจัดงาน
4. รายละเอียดของโครงการเติมสีทองหื้อดอยคำ
ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลแม่เหียะ ร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ใกล้เคียงได้ริเริ่มสนับสนุนให้มีโครงการปลูกต้นราชพฤกษ์เพิ่มในเขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นราชสักการะเนื่องในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงมีพระชนมพรรษา ครบ ๘๕ พรรษา ในปี ๒๕๕๕ และเพื่อเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชน ได้รู้จักคุณค่าของต้นไม้ โดยโครงการนี้มุ่งที่จะเติมสีเหลืองให้กับพื้นที่ป่าบริเวณโดยรอบดอยคำ ด้วยการปลูกต้นราชพฤกษ์ ต้นไม้ประจำชาติ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ให้ดอกเป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยเหล่าพสกนิกรที่อาศัยอยู่บริเวณรอบดอยคำ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย จะได้ร่วมกันดำเนินการรณรงค์ ส่งเสริม และเชิญชวนให้เยาวชน ประชาชน หน่วยงานของรัฐและองค์กรต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ตำบลแม่เหียะ พื้นที่ใกล้เคียง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมปลูกต้นราชพฤกษ์ครอบคลุมทั่วพื้นที่อุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย ฝั่งทิศใต้ หรือ “ดอยคำ”ในลักษณะปลูกเสริม ให้ได้จำนวนต้นราชพฤกษ์ 8,599 ต้นในเวลา 3 ปี ดังนั้น จึงได้ร่วมมือกับทางอุทยานหลวงราชพฤกษ์และหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งชุมชนรอบพื้นที่ดอยคำสามตำบล คือ ตำบลแม่เหียะ ตำบลหางดงและตำบลหนองควาย
ขอบคุณและสนับสนุนกับโครงการดีๆแบบนี้ค่ะ....
ตอนเย็นๆชอบปั่นจักรยานไปสูดโอโซนกับพรรคพวก บรรยากาศสุดสวยและช่วยให้ผ่อนคลาย...
มีความสุขกับการทำงานนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
เชิญมาร่วมงานกันด้วยนะคะ
ทัศนีย์