ไม่ได้ทะลึ่ง แต่มันเป็นพริกจริง ๆ


Peter Pepper

ไม่ได้ทะลึ่ง แต่มันเป็นพริกจริง ๆ

เผ็ดจี๊ดจ๊าด  Peter  Pepper

 

                เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมไปเยี่ยมพี่ที่เคยทำงานร่วมกันมาครับ พี่เขาจะชอบอ่านนิตยสารมาก และนิตยสารที่ว่าคือ คู่สร้างคู่สมครับ พี่แกบอกว่าที่ซื้ออ่านเป็นประจำไม่ได้เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสืออะไรมากมายนัก แต่ที่อ่านคู่สร้างคู่สมเป็นประจำนั้นเพราะแกบอกว่า คู่สร้างคู่สมทำนายดวงได้แม่นมาก ตรงกับชีวิตแกมาก แกเลยติดตามอ่านเรื่อยมาจนทุกวันนี้  ก็ไอ้นิตยสารที่ว่านี่แหละครับ พี่แกถืออกมาอวดผม แล้วให้ผมดูพริกชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายกะจู๋เลยครับ ผมเห็นว่ามันแปลกดีเอาเอาความรู้นี้มาแบ่งปันครับ

                คำ “พริก” เป็นพืชล้มลุกคู่ครัวไทยนั้นมีเสียงพ้องกับ พริก – prick ในภาษาฝรั่งซึ่งแปลได้หลายความหมาย และหนึ่งในนั้นเป็นคำสแลง หมายถึง อวัยวะเพศชาย

                แล้วก็บังเอิญอะไรอย่างนั้นที่ฝรั่งเองดันมีพริก (ผมหมายถึงพืชนะครับ) ที่มีรูปร่างเหมือนพริกตามภาษาสแลงของตนเข้าจริง ๆ ไม่เชื่อก็ลองดูภาพประกอบสิครับ

               

                 พริกพันธุ์นี้คนอเมริกันเรียกแบบสุภาพว่า ชิลลี่ วิลลี่

(Chilli Willy) แต่มีชื่ออีกหลายอย่าง อาทิ พีเตอร์ เพพเพอร์

(Peter Pepper) รวมทั้ง พีนิส เพพเพอร์ (Penis Papper)

peter เป็นภาษาสแลง หมายถึง ไอ้จู๋เช่นกัน ที่อ้างถึง

ชาวอเมริกันก็เพราะเจ้าพริกกะจู๋ (ขออนุญาตเรียกสั้น ๆ นะครับ) เป็นพืชพื้นเมืองของดินแดนอาณาบริเวณที่ตั้งรัฐเท็กซัสและหลุยเซียน่าในปัจจุบัน แต่ปัจจุบันเกือบไม่มีคนท้องถิ่นคนใดได้เคย

เห็นหรือรู้จัก เพราะแทบสูญพันธุ์ไปแล้ว จะมีอยู่ก็เฉพาะตามบ้านเรือนผู้สนใจในการทำสวนและสะสมพันธุ์พืชพื้นเมืองที่ปลูกไว้ตามเรือนกระจกของตนเท่านั้น

                เจ้าพริกรูปร่างประหลาดและสวยดีในสายตาของบางคนนั้นมีขนาดความยาวระหว่าง 7.5 – 10 เซนติเมตร มีทั้งสีแดง เขียว ส้มและเหลือง เลยทำให้รอดจากการสูญพันธุ์ เพราะมีคนหามาปลูกเป็นไม้ประดับ แต่จะเอามากินดิบๆ สดๆ แบบพริกขึ้หนูบ้านเราไม่ได้เพราะมันเผ็ดมาก เผ็ดขนาดที่เรียกว่า “ทาบาสโก” ต้องชิดซ้าย และเผ็ดกว่าพริกเม็กซิกันเป็นสิบเท่าเลยทีเดียว

                ที่ Peter Pepper กลับมาเป็นที่สนใจกล่าวถึงอีกในปัจจุบัน เพราะมีหนุ่มอเมริกันชาวเมืองลาฟาเยท รัฐหลุยเซียนาคนหนึ่งชื่อ ฟิล เกรมิลเลียน ได้เก็บเม็ดพริกพื้นเมืองนี้มาจากพ่อแล้วเอาไปเพาะเล่น ตอนแรกเขาตั้งใจจะปลูกไว้ดูเล่นในสวนหลังบ้าน เพราะมันสีสวยและหน้าตาแปลกดีเท่านั้น

        แต่หลักจากปลูกเล่น ๆ พอมีเยอะเข้าเขาจึงลองเอาไปตากแห้งแล้วบดเป็นผงมาปรุงกับพืชสมุนไพรอื่น ๆ ทำเป็นผงชูรส ตามแบบพื้นเมืองเคจุน (Cajun) เสร็จเอาไปบรรจุขวดแจกญาติพี่น้องและเพื่อน ๆ ได้ลองลิ้มชิมรส ก็ปรากฏว่ารสชาติรสชาติถูกอกถูกใจกันเป็นแถว เกรมิลเลียนจึงตัดสินใจปลูกพริกกะจู๋เพื่อการค้าขึ้น และเขาได้เปิดบริษัทชื่อ Papa Jeaberts Inc., เพื่อผลิตผผงชูรสนี้โดยเฉพาะ

               

          นอกจากผงชูรสนี้จะมีพีเตอร์ เพพเพอร์เป็นหลักแล้ว เพื่อลดความเผ็ดร้อนลงแล้วสร้างรสกลมกล่อมขึ้นจึงต้องนำเอาพืชสมุนไพรธรรมชาติอื่น ๆ อาทิ หอม พริกไทย มะนาว มะละกอ พริกตุ้มเขียวและแดงมาเติมเกลือลงไปนิดหน่อย ปรับปรุงส่วนผสมแล้วคลุกเคล้ากันจนได้ที่สามารถรับประทานได้ในรูปของผงชูรสก็เอาไปบรรจุขวด ติดตรา “Spice de terre” โดยเขานำผงปรุงรสพื้นเมืองชาวหลุยเซียนาออกวางตลาดมาตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา ซึ่งในกรรมวิธีการทำงาน เกรมิลเลียนเล่าว่า

                “ช่วงที่ปรุงต้องสวมหน้ากากและใส่ถุงมือยางตลอด เห็นเม็ดสวย ๆ อย่างนี้ต้องระวังให้ดี อย่าไปทำให้เม็ดของมันแตก เพราะของเหลวข้างในเม็ดของมันร้ายกาจมาก ถูกผิวหนังจะแสบร้อนมากและพองทันที ความเผ็ดของมันเมื่อป่นเป็นผงแล้ว แค่โดนละอองก็ระคายผิวหนังและทำให้ฉุนแสบจมูก”

                น่าแปลกที่แม้พริกนี้จะอยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทอาหาร แต่เจ้าพริกกระจู๋กลับได้รับรางวัลจากนิตยสารประเภทบ้านและสวน คือ “Organic Gardening Magazine” ในประเภทพริก (Chilli) ที่มีรสชาติดีที่สุดแลพืชที่ได้รับการถ่ายภาพมากที่สุด ประการหลังนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำไมผู้คนจึงสนในถ่ายรูปเจ้าพริกพันธุ์นี้กัน

 

ที่มา : นิตยสารคู่สร้างคู่สม ฉบับที่ 665 ประจำวันที่ 10 – 20 กุมภาพันธ์ 2553

หมายเลขบันทึก: 359023เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2010 21:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
  • อะโอ๋.....อึ้งทึ่ง...!!
  • มันเป็นพริกจริง ๆ อ่ะนะ
  • ขอบคุณที่นำมาให้ได้รู้ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท