ของฝากจากเพื่อน ...เหยือกเต็มหรือยัง


ยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ.............

     หลายวันมาแล้วเพื่อนคนหนึ่งได้ส่งบทความ

ข้อคิดมาให้อ่าน ก็อยากแบ่งปันจึงขอนำมา ลปรร ค่ะ

                      

                  เหยือกเต็มหรือยัง ? ยังเป็นปริศนากับผู้คนหลายคน

เรื่องเล่าว่า "ชายหนุ่มคนหนึ่งได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยเอกชน เพื่อให้เป็นวิทยากรพิเศษสอนวิชาปรัชญาให้กับนักศึกษาปริญญาโท เขาเตรียม การสอนอยู่หลายวันจึงตัดสินใจจะสอนนักศึกษาเหล่านั้นด้วยแบบฝึกหัดง่ายๆ แต่แฝงไว้ด้วยข้อคิด


เขาเดินเข้าห้องเรียนมาพร้อมด้วยของสองสามอย่างบรรจุอยู่ในกระเป๋าคู่ใจเมื่อได้เวลาเรียน เขาหยิบ เหยือกแก้ว ขนาดใหญ่ขึ้นมา แล้วใส่ ลูกเทนนิส ลงไปจนเต็ม 


' พวกคุณคิดว่าเหยือกเต็มหรือยัง ?' เขาหันไปถามนักศึกษาปริญญาโท แต่ละคนมีสีหน้าตาครุ่นคิดว่าอาจารย์หนุ่มคนนี้จะมาไม้ไหนก่อนจะตอบพร้อมกัน ' เต็มแล้ว... '

                               
เขายิ้มไม่พูดอะไรต่อหันไปเปิดกระเป๋าเอกสารคู่ใจ
หยิบกระป๋องใส่กรวดออกมา แล้วเท กรวดเม็ดเล็กๆ จำนวนมากลงไปในเหยือกพร้อมกับเขย่าเหยือกเบาๆ กรวดเลื่อนไหลลงไปอยู่ระหว่างลูกเทนนิสอัดจนแน่นเหยือก เขาหันไปถามนักศึกษาอีก
“ เหยือกเต็มหรือยัง ?'

                       
นักศึกษามองดูอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันมาตอบ ' เต็มแล้ว... '
เขายังยิ้มเช่นเดิม หันไปเปิดกระเป๋าหยิบเอาถุงทรายใบย่อมขึ้นมา และเททรายจำนวนไม่น้อยใส่ลงไปในเหยือก เม็ดทราย ไหลลงไป
ตามช่องว่างระหว่างกรวดกับลูกเทนนิสได้อย่างง่ายดาย เขาเทจนทรายหมดถุง เขย่าเหยือกจนเม็ดทรายอัดแน่นจนแทบล้นเหยือก
เขาหันไปถามนักศึกษาอีกครั้ง

                         

“ เหยือกเต็มหรือยัง ?' 
เพื่อป้องกันการหน้าแตกนักศึกษาปริญญาโทเหล่านั้นหันมามองหน้ากัน ปรึกษากันอยู่นาน หลายคนเดินก้าวเข้ามาก้มๆ เงยๆ มองเหยือกตรงหน้าอาจารย์หนุ่มอยู่หลายครั้ง มีการปรึกษาหารือกันเสียงดังไปทั้งห้องเรียน จวบจน เวลาผ่านไปเกือบห้านาที หัวหน้ากลุ่มนักศึกษาจึงเป็นตัวแทน เดินเข้ามาตอบอย่างหนักแน่น

                                                           
“ คราวนี้เต็มแน่นอนครับอาจารย์ '
“ แน่ใจนะ '
“ แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีกครับ '

                        
คราวนี้เขาหยิบ น้ำอัดลม สองกระป๋องออกมาจากใต้โต๊ะแล้วเทใส่เหยือกโดยไม่รีรอ ไม่นานน้ำอัดลมก็ซึมผ่านทรายลงไปจนหมด ทั้งชั้นเรียนพากันหัวเราะฮือฮากันยกใหญ่ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ ไหนพวกคุณบอกว่าเหยือกเต็มแน่ๆ ไง '

                  

เขาพูดพลางยกเหยือกขึ้น  

“ ผมอยากให้พวกคุณจำบทเรียนวันนี้ไว้ เหยือกใบนี้ก็เหมือนชีวิตคนเรา  ลูกเทนนิสเปรียบเหมือนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิต เช่น ครอบครัว คู่ชีวิต การเรียน สุขภาพ ลูก พ่อแม่และเพื่อน                 สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ คุณต้องสนใจจริงจัง สูญเสียไปไม่ได้

                         


เม็ดกรวดเหมือนสิ่งสำคัญรองลงมา เช่น งาน บ้าน รถยนต์
ทรายก็คือเรื่องอื่นๆ ที่เหลือเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจำเป็นต้องทำ แต่เรามักจะหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้         
เหยือกนี้เปรียบกับชีวิตของคุณ ถ้าคุณใส่ทรายลงไปก่อน คุณจะมัวหมกมุ่นอยู่กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ อยู่ตลอดเวลา ชีวิตเต็มแล้ว... เต็มจนไม่มีที่เหลือให้ใส่กรวด ไม่มีที่เหลือใส่ให้ลูกเทนนิสแน่นอน '

                    ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า

          
เพราะฉะนั้นในแต่ละวันของชีวิต เราต้องให้ความสนใจกับเรื่องที่ทำให้ตัวเราและครอบครัวมีความสุข ใช้ชีวิตเล่นกับลูกๆ หาเวลาไปตรวจร่างกาย พาคู่ชีวิตกับลูกไปพักผ่อนในวันหยุด พากันออกกำลังกาย เล่นกีฬาร่วมกันสักชั่วโมงสอง ชั่วโมง

                         

เพื่อสุขภาพและความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิต พาพ่อแม่ไปเที่ยวพักผ่อนหรือทานข้าว โทรศัพท์หาเพื่อนบ้างให้รู้ว่าเรายังคิดถึงและ เป็นห่วง เราต้องดูแลเรื่องที่สำคัญที่สุดจริงๆ ดูแลลูกเทนนิสของเราก่อนเรื่องอื่นทั้งหมด หลังจากนั้นถ้ามีเวลาเหลือเราจึงเอามาสนใจ กับสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบๆ ตัวเรา

                   
นักศึกษาคนหนึ่งยกมือขึ้นถาม “ แล้วน้ำที่อาจารย์เทใส่ลงไปล่ะครับ หมายถึงอะไร ?'

                
เขายิ้มพร้อมกับบอกว่า “ การที่ใส่น้ำลงไปเพราะอยากให้เห็นว่า ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด ในความสับสนและวุ่นวาย
เหล่านั้นคุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ... '

                    

ขอบคุณเรื่องเล่า จากอาจารย์วิเชียร  สุนทร 

ขอบคุณลายสวยๆจาก http://www.trytodream.com/topic/13814

http://www.trytodream.com/topic/778

มิตรร่วมอุดมการณ์ ผู้รักผืนป่า หากไม่มีคนรักป่า ป่าจะเป็นอย่างที่เห็น

เขาต่อสู้กับนายทุนเพื่อคนพื้นบ้าน นานมาแล้ว.....แม้เสียงปืนยังไม่สิ้น

อุดมการณ์ยังแน่วแน่ว

  

  แม้วันเเวลาจะผ่านไปนานเพียงไร เพื่อนก็ยังคือเพื่อน

 บ้านน้อยในป่าใหญ่ ของอ.วิเชียร  สุนทร  ท่ามกลางความร่มรื่นของพฤกษ์ไพร

ชีวิตที่เรียบง่าย และพอเพียง ...ชีวิตของคนมีฝัน...ชีวิตคือธรรมชาติ

                       สุขาอยู่หนใด...ที่นี่ ค่ะ.................สุขาปั้นมือ

 

หมายเลขบันทึก: 358978เขียนเมื่อ 15 พฤษภาคม 2010 17:23 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

แวะมาทักทายค่ะ

ดูแลตัวเองนะคะ

ขอบคุณสิ่งดีๆที่พี่มีให้เสมอค่ะ :)

คนใกล้ตัวสำคัญมากเลยนะครับ   บางทีเรามักเห็นความสำคัญของคนไกลตัวมากกว่า อย่างน่าเสียดาย

P

ขอบคุณค่ะ

น้องสายธาร

ได้ข้อคิดดีๆก็เหมือนเติมพลังให้ตัวเองค่ะ

 

เรื่องนี้อ่านกี่ครั้งๆ ก็รู้สึกดีๆ ค่ะ บางครั้งเราก็หลงลืมเป้าหมายหลักไปนะคะ ขอบคุณค่ะ

P

ขอบคุณค่ะ

เห็นด้วยต่อข้อคิด คนมักมองไกลมากกว่ามองใกล้

เพราะพากันคิดว่าอยู่ใกล้ แค่นี่ วางไว้ก่อน

เหมือนครูมองนักเรียนบางคนว่าสามารถเรียนรู้ดูแลตนเองได้

ก็ไปสนใจเด็กอีกกลุ่ม จนลืมไปว่ายังมีเด็กน้อยในห้องอีก

ที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่

สวัสดีค่ะ วันอาทิตย์มีสุขนะคะ

เป็นเทคนิคการสอนให้คิดได้เยี่ยมมากครับ

บทสรุป คือ น้ำใจ

น้ำจะเปลี่ยนสถานะไปตามภาชนะ ผู้บริหารต้องปรับเปลี่ยนไปตามบริบทครับ

ต้องนิ่ง ต้องเย็น เหมือนน้ำ

ไม่ว่าชีวิตของเราจะวุ่นวายสับสนเพียงใด ในความสับสนและวุ่นวาย
เหล่านั้นคุณยังมีที่ว่างสำหรับการแบ่งปันน้ำใจให้กันเสมอ... '

สวัสดีคะ พี่ครูต้อย

คิดถึงนะคะ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจพอลล่าค่ะ

  • อ่านจบได้ข้อคิดค่ะ...ว่าเราลืมจัดลำดับความสำคัญของชีวิตว่า สิ่งไหนสำคัญที่สุดสำหรับเรา  ส่วนใหญ่เราสาละวนอยู่กับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ   ได้ข้อคิดมากค่ะ...คงต้องปรับปรุงแบบยกเครื่องแล้วค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ

 

สวัสดีค่ะพี่ครูต้อย

  • อ่านแบบละเอียดค่ะ อ่านแล้วคิดตาม
  • ได้ข้อคิดมากมายค่ะ
  • ขอบพระคุณข้อคิดประจำวันนี้ค่ะ

  ชีวิตของคนเราทุกคน ถ้าเราใช้เวลาและปล่อยให้เวลาหมดไปกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เราจะไม่มีที่ว่างในชีวิตไว้สำหรับเรื่องสำคัญกว่า

               

 

อ่านหลายครั้งก็ยังชวนคิด ทำไมคนสมัยนี้เขาจึงใส่เสื้อสีที่แตกต่าง (พยามนั่งคิดหาคำตอบ)

จำได้สมัยเด็กๆ ผู้ใหญ่มักหล่อกล่อให้เด็กสองคนชกต่อยกัน ใช้วิธีขีดเส้นที่พื้นดิน

ใครเก่งให้ก้าวเท้าเหยียบเส้น ต่างคนต่างแย่งกันเหยียบเส้น

ท้ายสุดก็ชกต้อยกัน ร้องไห้ทั้งสองคน

เด็กคนไหนหนอเก่ง

ใครหนอขีดเส้นให้เด็กชกต้อยกัน

ท้ายสุดน้ำในเหยือกเป็นป้จจัยที่สำคัญ ช่วยแบ่งปันให้กลุ่มคนทุกสถานะหลอมรวมได้อย่างพอดี

ขอบคุณเพื่อนต้อย ที่นำข่าวสารสู่ ICT โลกยุคใหม่รวดเร็วทันใจ

ขอบคุณ ครูต้อยติ่งมากนะคะ ที่นำเรื่องคาดไม่ถึงมาเล่าให้กันฟัง พร้อมมองเห็นภาพ เข้าใจเรื่องราวได้ดียิ่ง ให้ข้อคิดได้อีกด้วย ขอบคุณสิ่งดีดี ที่มอบให้กันคะ

-และที่สำคัญให้ข้อคิด สุดท้ายว่า  น้ำใจให้กัน  ด้วยคนเราจะอยู่โดนไร้หรือแล้งน้ำใจได้อย่างไร  ในการดำเนินชีวิต  บางครั้งก็ต้องเติมเต็ม ตามบริบทคะ

-แต่ภาพทำไมไม่มีคะ ดึงมาเก็บไว้ในไฟล์อัลบั้มแล้วยัง  ถ้าไม่ดึงมา มันจะหายนะคะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านบันทึกดีดี

และแวะมาสวัสดีค่ะ

ขอให้มีความสุขมากมาก

และมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

ขอบคุณค่ะ

P

เป็นอย่างน้องPOOคิดเหมือนกัน

แต่หากเรามีสติที่จะเดิน เป้าหมายไม่เปลี่ยน

หมั่นทบทวนบ่อยๆ ทุกๆเมื่อ

การเดินทางเพื่อเป็นน้ำ ไหลลื่นไปทุกแห่งหน

ด้วยลูกเทนนิสบอกว่าอยากให้เป็นน้ำที่ไหลริน

ทุกวันนี้มีคลังน้ำอยู่กับตัว

เป็นกำลังใจให้นำน้ำไปเติมเต็มในที่ๆควร และต้องการ

ชีวิตคนเราก็เท่านี้ ต่อให้โลดโผนโจนทะยายทั้งกว้างและสูงเท่าไร

ก็ไม่พ้นกว้างศอกยาววา หนาคืบ ชีวิตที่เหลืออยู่จึงสืบหาความดีงาม

เป็นกำลังใจให้สิ่งดีงาม เจริญเติบโต

ขอบคุณค่ะ

 

P

ขอบคุณค่ะ

ทราบว่ามีโปรแกรมให้ผู้ป่วยเบาหวานได้ตรวจฟัน

อย่างน้อยปีละครั้งด้วยใช่ไหมคะ

พรุ่งนี้วันจันทร์ยังคงต้องไปไถนาเหมือนเดิมค่ะ

P

เรียนท่านผอ.พรชัย

ยินดี ดีใจกับสมาชิกในครอบครัวของท่านนะคะ

ที่มีผู้บริหาร มีน้ำใจเหมือนน้ำที่ไหลริน

เป็นกำลังใจให้ผู้ร่วมงาน ชื่นชมค่ะ

P

ขอบคุณค่ะ น้องพอลล่า

วันที่ 14 นึกว่าจะได้เจอน้อง

รอเก้อเลย

รีบเข้ารร.และรีบออกมาร่วมกิจกรรมเกือบ1ชั่วโมงที่มีเวลาว่าง

แล้วรีบกลับไปสอนทันเวลาพอดี

ชมรมมิตรภาพของพี่เตรียมรับบริจาคเสื้อผ้า

ของเล่นเพื่อทำผ้าป่าแล้วค่ะ

และตั้งใจจะปรึกษา

เรื่องแนวทางพัฒนาชมรมให้เข้มแข็ง

แล้วจะเมล์ไปหาค่ะ

ขอบคุณค่ะ

P

คงจัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตเรียบร้อยแล้วนะคะ

ขอบคุณค่ะ

P

น้องครูอิง

เป็นความคิดที่เป็นจริงด้วยนะคะ

หากเรามัวหยุมหยิมๆกับเรื่องเล็กน้อย โอกาสจัดการเรื่องใหญ่แทบจะไม่มี

เรื่องใหญ่คือเรื่องชีวิต ชีวิตที่หลืออยู่จะทำอะไรให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม

และนำพาเราไปสู่สุขที่แท้จริง พี่กำลังวางแผนชีวิตให้มีโอกาสปฏิบัติธรรม

ในชีวิตประจำวัน และปรารถนาว่าทุกวันโกน วันพระ น่าจะได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัด

ขอบคุณค่ะ

30

ขอบคุณค่ะ น้ำเป็นตัวทำละลาย

อะไรที่เข้มข้นเกินไป น้ำก็ช่วยได้

ช่วยลดอุณหภูมิปัญหาได้ดีทีเดียว

นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหา

ขอบคุณค่ะ

รออ่านบันทึกแลกเปลี่ยนค่ะ

สวัสดีค่ะ.P...

โอ้โฮ.....สุดยอดเลยค่ะ....แค่เหยือกใบเดียวสามารถสอนและเก็บทุกอย่างที่ดีๆไว้ครบหมด....ไม่หายหกตกหล่นไปทางไหน  อยู่ที่ว่าคนนำมาใช้นะแหล่ะที่จะทำหล่นหายไปบ้าง   กระฉอกบ้าง  ไม่ใส่ใจบ้าง

แต่...ครูเออร์ลี่คนนี้พยายามอย่างยิ่งที่จะประคองเหยือกอย่างทะนุถนอม  พร้อมทั้งเติมความเอาใจใส่เข้าไปทุกวัน...

มีความสุขกับการทำงานนะคะ

Pขอบคุณค่ะน้องNatcha Chalermklang

น้ำใจเปรียบเสมือนน้ำ ไหลไปได้ทุกๆที่

Pkrugui Chutima

ขอบคุณค่ะ เม้นท์ได้ตื่นเต้นดีจังเลย อิอิ

ถ้ามันจะกระฉอกออกบ้างก็เป็นเรื่องปกติค่ะ

ชีวิตใคร.....จะราบรื่นไม่กระเด็น กระฉอก ไม่ล้น ไม่ขาด

นั้นหาไม่มี ตราบใดที่ชีวิตยังต้องเกิดมาเรียนรู้ไม่รู้จบ

สวัสดีค่ะ อ่านเพลินค่ะชอบ มีภาพประกอบน้อยๆด้วย

ให้คติคิดตามขณะที่อ่าน ขอบคุณมากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท