กลไกการป้องกันทางจิต


การเก็บกด (Repression) หมายถึง วิธีการที่บุคคลพยายามฝังความคิดที่ก่อให้เกิดความวิตกกังวลให้อยู่แต่ในจิตใต้สำนึก และรบกวนชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการเก็บกดไม่เหมือนความพยายามไม่นึกถึง การไม่นึกถึงเป็นการเก็บกักความคิดหรือความรู้สึกโดยรู้ตัวว่าตัวเองพยายามเก็บอะไร ซึ่งความคิดหรือความรู้สึกนั้นยังฝังอยู่ในจิตสำนึกอยู่ แต่การเก็บกดนั้นเป็นการลบให้มันหายไปจากความรู้สึกและความทรงจำ ซึ่งความจริงแล้วมักไม่หายไปแต่จะเข้าไปฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของคนๆนั้น บางคนไม่ได้พยายามลบเฉพาะเหตุการณ์นั้นๆเท่านั้น แต่จะลบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเหตุการณ์นั้นๆด้วย การเก็บกดที่มีลักษณะเด่นชัดและมีความรุนแรงที่สุดนั้นอยู่ในรูปของโรคลืม (amnesia) ซึ่งบางครั้งอาจเกิดจากความผิดปกติทางกาย เช่น เกิดจากความเสียหายของเนื้อเยื่อในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำ ซึ่งอาการของโรคนี้ที่มีสาเหตุจากทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะคล้ายกัน จึงทำให้ยากต่อการแยกแยะว่าเกิดจากชนิดใด จึงต้องมีการตรวจหาสาเหตุควบคู่กันไป

การสร้างจินตนาการ (fantasy) ซึ่งมีหลายระดับ หลายรูปแบบที่พบบ่อย คือ การฝันกลางวัน (day dreaming) มักเกิดขึ้นบ่อยที่สุดในระยะที่บุคคลเข้าสู่วัยรุ่น อันเป็นวัยที่เขาไม่แน่ใจในบทบาทและเกิดความคับข้องใจจากความไม่แน่ใจนั้น และจากปัญหาอื่นๆซึ่งมักเกิดในวัยนี้ หากไม่สามารถที่จะปรับตัวเข้ากับความจริงได้ เขาอาจหนีเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการ จนในที่สุดอาจไม่สามารถแยกความจริงกับจินตนาการออกจากกันได้ และเกิดพยาธิสภาพทางพฤติกรรมขึ้น ่ต้องการพึงพาพ่อแม่ การจะพึ่งพาคนอื่นจะทำได้ง่ายขึ้นเมื่อเราแสดงตัวว่าป่วย หากเป็นพฤติกรรมที่ทำเป็นประจำ จะเกิดขึ้นจากความคับข้องใจที่รุนแรง และการคงอยู่ของพฤติกรรมนั้นทำให้บุคคลแก้ไขความคับข้องใจได้ลำบากขึ้น

การโทษคนอื่น (projection) เป็นการเก็บกดและปิดลักษณะที่ไม่เหมาะสมของตนเอง และขณะเดียวกันก็ป้ายลักษณะที่ไม่เหมาะสมนั้นไปให้คนอื่น ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว จากการที่เราไม่ชอบ ไม่อยากเห็น ตัวเราเองไม่ดี จึงกล่าวหาว่าคนอื่นมีลักษณะนั้นๆแทนเสีย

การทดแทน (sublimation) ซิกมุนด์ ฟรอยด์กล่าวว่า การทดแทนเป็นการที่คนสร้างจุดมุ่งหมายที่ 2 ขึ้นมาแทนจุดมุ่งหมายที่พลาด จะใช้เมื่อเรากลัวการไม่ยอมรับจากสังคม โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเพศ ซึ่งคนเราไม่สามารถที่จะสนองตอบความต้องการทางเพศของเราได้เสมอไป จึงต้องมีกิจกรรมอื่นเข้ามาเพื่อทดแทน เช่น การออกกำลังกาย วาดเขียนและเขียนหนังสือ เป็นต้น หากการทดแทนมีมากเกินไป อาจทำให้บุคคลสูญเสียความนับถือในตนเองได้

การกลบเกลื่อนโดยแสดงออกในทางตรงกันข้าม (reaction formation) การกลบเกลื่อนโดยแสดงออกในทางลบ เกิดจากการที่บุคคลมีแรงจูงใจที่ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันก็มีความโกรธโดยไม่รู้ตัว ว่าจะมีคนอื่นรู้และตำหนิเขาที่มีแรงจูงใจที่น่าละอายนั้น กลัวว่าคนอื่นจะมองว่าคุณค่าของตนเองลดลง ส่วนการกลบเกลื่อนโดยแสดงออกในทางบวก เป็นการพยายามแสดงความดีหรือแสดงพฤติกรรมที่สังคมยอมรับมากเกินขอบเขต

การชดเชย (compensation) เกิดจากการที่บุคคลเกิดความคับข้องใจในเป้าหมายที่ไม่สามารถบรรลุได้ จึงตั้งเป้าหมายใหม่ที่สามารถเป็นไปได้และใกล้เคียงกับเป้าหมายเดิม ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายการทดแทน แต่การทดแทน เกิดจากความคิดหรือความรู้สึกไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ส่วนการเบนเป้าหมาย เกิดจากความล้มเหลวที่เกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม หากการเบนเป้าหมายมีมากเกินไปอาจทำให้คนอื่นรำคาญ และไม่ยอมรับในตัวบุคคลคนนั้นได้เช่นกัน

เสริมได้นะคะ*

 

 

 


 

คำสำคัญ (Tags): #การป้องกัน
หมายเลขบันทึก: 358669เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2010 22:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 12:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เเต่รู้สึกเราจะมี อันที่สองเยอะหน่อยน่ะ ฝันกลางวัน ^___^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท