สิ่งที่เราไม่อาจมองข้ามได้เลย


สวัสดีครับทุกท่าน ก่อนอื่นก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่หายหน้าหายตาไปเสียนานเลย และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่วันนี้ผมได้กลับมาแล้วครับ ด้วยแรงบันดาลใจจากการเข้ามาอ่านบล็อกของคนไม่มีราก ก็ทำให้ผมอยากที่จะเขียนบล็อกขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งปรับเปลี่ยนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และให้ความสำคัญกับเรื่องของเวลามากกว่าที่เป็น เพราะเวลาที่ผ่านไปแต่ละวินาทีนั้นมีความหมายมากมาย ดังนั้นเราจึงไม่ควรมองข้ามในเรื่องนี้โดยเด็ดขาด มีคนบอกว่า ที่ประสบความสำเร็จจะไม่เรียกร้องเวลา แต่กลับสร้างเวลาขึ้นมาเอง ซึ้งผมอ่านก็รู้ทันทีเลยว่า เราเป็นอย่างแรกคือ บอกว่าไม่มีเวลา ทั้งๆที่เวลาก็มีเท่ากันทุกคน คือ 24 ชั่วโมง ไม่มีใครที่ได้เวลามากกว่าเพื่อนหรอกครับ แต่สิ่งที่ต่างก็คือ แต่ละวินาทีที่ผ่านเราได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง ครอบครัว และประเทศชาติอะไรต่างหาก อิอิ… ต้องขอขอบคุณคนไม่มีรากจริงๆครับ ที่ช่วยปลุกพลังในตัวเด็กคนนี้ขึ้นมาอีกครั้ง อิอิ... (ไฟเกือบดับไปนะครับ)

       สิ่งจะนำมาขอเล่าในวันนี้ก็คือ จากประสบการณ์ที่ได้ไปศึกษาดูงานที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ภายใต้การนำของ ท่าน อาจารย์ ดร.พรชัย ล้อวิชัย ครับ ที่เป็นอาจารย์สอนเกี่ยวกับ พืชอาหารสัตว์ เป็นการไปดูงานที่มีการปลูกหญ้าเนเปียร์แคระ ที่ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้สูงถึง วันล่ะ 3,000 บาท อันนี้สุทธิแล้วครับ  ได้ยินอย่างนี้แล้วเริ่มสนใจแล้วใช่ไหมครับ อิอิ... ผมเองก็ไม่คิดว่า รายได้มากถึงขนาดนี้ และที่น่าแปลกใจกว่านั้น ก็คือ หญ้าเนเปียร์แคระที่ปลูกนั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมีเลยมีแต่น้อย ทั้งที่หญ้าชนิดนี้ จำเป็นต้องได้รับปุ๋ยและน้ำที่อย่างเต็มที่  สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่ มี ความเป็นกรดเป็นด่าง 4.5-8.2 ก็คือตั้งแต่กรดจนถึงด่างอ่อนๆ เลยที่เดียว รวมถึง อุณหภูมิที่เหมาะสมก็คือ 25-40 องศาเซลเซียส  ในด้านผลผลิตต่อไร่ก็สูง ปกติจะอยู่ที่ 5 ตัน ต่อไร่ต่อปี แต่ถ้าหากมีการให้น้ำและปุ๋ยอย่างเต็มที่ก็จะทำให้ได้ผลผลิตสูงถึง 13 ตัน ต่อไร่ต่อปี  แถมยังมีคุณค่าทางโภชนะสูงอีกด้วย  

เอ้า ฮุยเล่ฮุ่ย ลุยเลยพี่ อิอิ...

       อย่างที่กล่าวมาข้างต้นแล้วว่าที่นี้ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีในการสร้างแปลงหญ้าเนเปียร์แคระเลย แล้วเขาทำอย่างไรล่ะ เคล็ดลับอยู่ที่ว่า เนื่องจากมีที่ติดกับโรงงานผลิตแป้งมันสำประหลัง ก็เลยเกิดความร่วมมือกันระหว่างโรงงานกับเกษตรกร โดยการนำเอาน้ำเสียจากบ่อน้ำเสียที่ 4 มาใช้ประโยชน์คือ ปล่อยลงสู่แปลงหญ้าที่ปลูกไว้ ปรากฏว่า หญ้าเนเปียร์แคระนั้นเจริญเติบโตได้ดีมาก เขียวชอุ่มเลยล่ะ อิอิ...

ได้กลิ่นกันหรือเปล่าครับ อิอิ...

นี้ก็เป็นการนำเอาสิ่งที่อาจดูแล้วไม่มีประโยชน์อะไร มาทำให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาอีกครั้ง อย่าพึ่งมองข้ามในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่มีประโยชน์ เพราะบางทีในตอนนี้เราอาจจะยังไม่ได้ใช้มันแต่ไม่แน่ในอนาคตเราอาจได้ใช้มันก็ได้ ใครจะรู้ อิอิ... รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ เพราะช่วงนี้อากาศร้อน และอบอ้าวมากเลยครับ  

นี้เลย!!! เจ้าของแปลงหญ้าเนเปียร์แคระครับ

หมายเลขบันทึก: 358322เขียนเมื่อ 13 พฤษภาคม 2010 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

คนที่ประสบความสำเร็จ จะไม่เรียกร้องเวลา แต่กลับสร้างเวลาขึ้นมาเอง

เยี่ยมมากเลยครับ.. ชื่นชมนะครับ

นานๆทีจะเห็นโรงงานเป็นมิตรกับเกษตรกร ได้ยินแล้วชื่นใจจัง

 ขอบคุณนะครับ คุณราชิต สุพร

ที่แวะมาทักทายครับ

ข้อความนี้ก็เอามาจากคนไม่มีรากครับ อิอิ...

 

 

สวัสดีครับ คุณBaby

ขอบคุณครับ ที่แวะมาเยี่ยม

ยินดีที่ได้รู้จักด้วยครับ

 

อยากได้ท่อนพันธ์หญ้าเนเปียร์แคระมาปลูกบ้างครับ จะสามารถติดต่อได้ที่ไหนครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

ผมอยู่ราชบุรี

ชาญ/081-4216338

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท