ผู้เข้าร่วมประชุม
1.ทีม พัฒนาคุณภาพ จาก เครือข่ายอำเภอ อ่าวลึก จังหวัดกระบี่
2. ทีมพัฒนาคุณภาพจาก เครือข่ายอำเภอ หลังสวน จังหวัดชุมพร
3. ทีมพัฒนาคุณภาพจาก เครือข่ายอำเภอ ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
4. ทีมพัฒนาคุณภาพจาก เครือข่ายอำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัด สุราษฏร์ธานี
5. ทีมพัฒนาคุณภาพจาก เครือข่ายอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
6. ทีมพัฒนาคุณภาพจาก เครือข่ายอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ( เจ้าภาพจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ )
วันที่ 26 เมษายน 2553
เวลา 08.30 น. ลงทะเบียน เข้าร่วมประชุม
เวลา 09.00 น. พิธีเปิดและกล่าวต้อนรับ โดย นายแพทย์ จรุง บุญกาญจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล
กล่าวรายงาน โดย นายแพทย์ เอกรัฐ จันทร์วันเพ็ญ แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว
เวลา 09.30 น. ทำความรู้จักสร้างความคุ้นเคยเพื่อเปิดพื้นที่ปลอดภัย ผู้เข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยการแนะนำสมาชิกจากผู้ประสานงานของเครือข่ายทุกเครือข่ายทุกคน และพิธีกร นายวิรัลวิชญ์ รู้ยิ่ง นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสิชลได้แนะนำให้เครือข่ายต่างๆที่เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รู้จักกับทีมพี่เลี้ยงงานคุณภาพจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราชและทีมพี่เลี้ยงจาก ส.ป.ส.ช. เขตจังหวัดสุราษฏร์ธานี
เวลา 10.00 – 11.30 น. นายแพทย์เอกรัฐ จันทร์วันเพ็ญ แนะนำสถานที่ต่างๆในโรงพยาบาลสิชล แนะนำคำขวัญอำเภอสิชล “สิชลเมืองโบราญ ถ้ำพิสดาร ธารสะอาด หาดหินงาม น้ำตกสวย รวยทรัพยากร” จากนั้นบรรยายถึงสภาพทั่วไปหรือ cup profile ของอำเภอสิชล เล่าประสบการณ์ เกี่ยวกับกระบวนการจัดทำ PMQA 7 หมวดตั้งแต่ ปี 2550 – 2552 จนพัฒนามาเป็น PCA. ในปัจจุบัน โดยใช้ Hamberger Model และการเชื่อมโยง PMQA. ทั้ง 7 หมวด สู่ PCA และได้บรรยาย ผลการดำเนินงานตามโครงการพัฒนาระบบเครือข่ายปฐมภูมอำเภอสิชลตั้งแต่ ปี2550- ปัจจุบัน ให้ทุกเครือข่ายที่เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้รับทราบและร่วมแลกเปลี่ยนด้วย
ถอดบทเรียนที่ได้รับ จาก CUP สิชล
การบริหารจัดการเครือข่าย มี หลักการ (Concepts)สำคัญที่เครือข่ายนำมาใช้ คือ
1. การบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม
2. มุ่งผลสัมฤทธิ์
3. สร้างความสัมพันธ์มั่นคง
4. พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง
เวลา 11.30 – 12.00 น. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ การดูแลผู้ป่วย เบาหวานจาก cup กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
คำขวัญ อำเภอกาญจนดิษฐ์ “หอยใหญ่นางรม ชมวิทยาลัยฝึกลิง มากยิ่งกุ้งกุลาดำ งามล้ำพระไสยาสน์
พระพุทธบาทควรผดุง รุ่งเรืองเมืองท่าทอง”
การดูแลผู้ป่วยเบาหวาน cup กาญจนดิษฐ์
เป้าหมาย - อัตราเพิ่มการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลง
-ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรค DM ได้ เช่น Hypoglycemia, DM foot, DKA, coma
ธรรมชาติของโรคเบาหวาน
สาเหตุ พันธุกรรม + พฤติกรรม
อาการ ภัยเงียบ - ไม่รู้ตัว - ขาดการรักษา –ปรับยาเอง-ไม่ปรับพฤติกรรม
ภาวะแทกซ้อนระยะยาว -ไม่ตระหนัก ขาดการดูแลตนเอง
ผู้ป่วยทั้งหมดที่พบ น้อยกว่า 50 % รู้ตัวว่าเป็น
น้อยกว่า 25 % รักษาต่อเนื่อง
น้อยกว่า 12.5 % ควบคุมโรคได้
การรักษา – ยา ร่วมกับ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ( น้ำหนักตัว ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย คลายเครียด )
การดูแลผู้ป่วยเบาหวานร่วมกันภายในเครือข่ายทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน
ในโรงพยาบาล จะมีระบบการดูแลผู้ป่วยทุกฝ่ายเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ PCT Team – OPD - ER - IPD
-HHC – DM CLINIC – Lab –LR –จิตเวช – ทันตกรรม – แผนไทย – กายภาพบำบัด
ในสถานีอนามัย + ชุมชน - ผู้ป่วยที่ออกจากโรงพยาบาลจะได้รับการส่งต่อไปยังสถานีอนามัยและชุมชน
และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากทีมสหวิชาชีพจาก รพ. + สอ. และชุมชนโดยให้บริการแบบองค์รวม ผสมผสานและต่อเนื่องจนสามารถดูแลตัวเองได้โดยใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งเครือข่าย (CPG)
การดำเนินการคัดกรอง HT , DM ในชุมชน (เชิงรุก )
สำรวจกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้นไปและมีการคัดกรองโดยใช้แบบคัดกรองสำหรับ อสม.และเจ้าหน้าที่
พยากรณ์สุขภาพแก่กลุ่มเป้าหมายโดยผู้คัดกรองและแยกเป็นสีดังนี้
- รายเก่า ดูแลรักษาต่อเนื่องตามมาตรฐานการดูแลผู้ป่วย
- รายใหม่ ส่งพบแพทย์ที่รพ.เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
แนวทางการปฏิบัติหลังพยากรณ์โรค
แผนการพัฒนาต่อไป
ถอดบทเรียนที่ได้รับ จาก CUP กาญจนดิษฐ์
1. ใช้หลักการดูแลรักษาโรคเบาหวานคือ เข้าใจ – เข้าถึง – พัฒนา - เรียนรู้ร่วมกัน ( ผู้ป่วย / ญาติ / ผู้ให้บริการ )
2. การดูแลผู้ป่วยเบาหวานร่วมกันภายในเครือข่ายทั้งที่โรงพยาบาลและที่บ้าน
ในโรงพยาบาล จะมีระบบการดูแลผู้ป่วยทุกฝ่ายเชื่อมโยงกัน ตั้งแต่ PCT Team – OPD - ER - IPD-HHC – DM CLINIC – Lab –LR –จิตเวช – ทันตกรรม – แผนไทย – กายภาพบำบัด
ในสถานีอนามัย + ชุมชน - ผู้ป่วยที่ออกจากโรงพยาบาล ได้รับการส่งต่อไปยังสถานีอนามัยและชุมชน
และได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องจากทีมสหวิชาชีพจาก รพ. + สอ. และชุมชนโดยใช้มาตรฐานเดียวกันทั้งเครือข่าย (CPG) ใช้หลักการให้บริการแบบองค์รวม ผสมผสาน และต่อเนื่อง จนสามารถดูแลตัวเองได้ (Self care)
3. การดำเนินการคัดกรอง HT , DM ในชุมชน (เชิงรุก ) สำรวจกลุ่มเป้าหมายอายุ 35 ปีขึ้นไป โดยใช้แบบคัดกรองสำหรับ อสม.และเจ้าหน้าที่ มีการพยากรณ์สุขภาพแก่กลุ่มเป้าหมายโดยแยกเป็นสี
ความพร้อมของทีมงานเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้งานมีคุณภาพและมีประสิทธิผล Cup กาญจนดิษฐ์ ทำได้ดีค่ะ ประชาชนคงพึงพอใจและเจ้าหน้าก็คง Happy Happy