เข็มทิศชีวิต
ความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงที่มาพร้อมกับภาระอันหนักอึ้ง ทำให้เธอแทบสิ้นหวังกับชีวิต ขณะที่สับสนและอับจนหนทาง เธอได้มีโอกาสไปฝึกทำสมาธิภาวนาจากการแนะนำของกัลยาณมิตรผู้หนึ่ง แม้จะไม่มีประสบการณ์แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ เธอก็ได้ประจักษ์แก่ใจว่าทุกข์นั้นอยู่ที่ใจนั้นเอง เมื่อมีสติ ดูใจรู้ทันความยึดความอยากที่กำไว้อย่างลืมตัว ทางออกจากทุกข์ก็ปรากฏ นับแต่วันนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปเธอได้นำเอาประสบการณ์ครั้งนั้นไปเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตและทำธุรกิจในเวลาเพียงแค่สามปีเธอก็ปลดเปลื้องหนี้สินได้ กิจการมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ใช่แต่เท่านั้นเธอยังได้ช่วยให้คนที่ประสบ ความทุกข์อย่างเธอกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมีความหวังและความสุข
การที่คนคนหนึ่งจะฟื้นจากวิกฤตชีวิตได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ที่ยากกว่านั้นก็คือ การนำเอาประสบการณ์ความทุกข์ของตนมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ปัญหานั้นมิใช่ว่าจะบั่นทอนชีวิตจิตใจสถานเดียว หากยังสามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นปัญญาสรรค์สร้างชีวิตได้ด้วย แม้ความสิ้นหวังอับจนจะผ่านพ้นไปนานแล้ว แต่คุณฐิตินาถสามารถนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาจุดประกายความหวังให้แก่ผู้คนจำนวนมากได้อย่างน่าชื่นชม ผู้คนส่วนใหญ่มักใช้ชีวิตให้หมดไปกับการแสวงหาและสะสมสิ่งนอกตัว หมกมุ่นกับอดีตและอนาคต จนแทบไม่มีเวลาที่จะอยู่กับตนเอง ผู้คนพากันคิดว่าเงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ คือสิ่งที่ชีวิตต้องการ แต่ได้มาเท่าไรก็ไม่มีความสุขเสียที ลึกลงไปในใจเราอาจกำลังทักท้วงตั้งคำถามกับวิถีชีวิตที่เป็นอยู่ จิตใจ ส่วนลึกของเราอาจกำลังเพรียกหาความสุขที่แท้ อันได้แก่ความสงบเย็นและเป็นอิสระ
ชีวิตของเราทุกคนนั้นเป็นอิสระและผาสุกได้นั้นมีอยู่แล้วที่ใจของเราเอง เพียงแต่หันกลับมาดูที่ใจให้ความรู้ตัวมาแทนที่ความหลงและเปลี่ยนจากยึดมาเป็นคลาย จากแบกมาเป็นวาง จากวุ่นมาเป็นว่าง จากวิ่ง มาเป็นหยุด ความทุกข์ก็จะกลายเป็นความไม่ทุกข์และนำไปสู่ความสุขในที่สุด
ที่มา: ฐิตินาถ ณ พัทลุง. เข็มทิศชีวิต
น.ส.กนกพร ตั้งสิริวรกุล
สาขางานภาษาต่างประเทศ
ไม่มีความเห็น