๒๐ ปีกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย(ต่อ)
หนีด้วยกระเช้าลูกโป่งหรือบัลลูนลอยฟ้า เมื่อวันที่ ๔ กรกฏาคม ค.ศ.๑๙๗๙ ครอบครัวชเตรลชิค(อยู่แคว้น เทือริงแกน) วางแผนหนีโดยใช้กระเช้าลูกโป่ง ที่ใช้เตาก๊าซ จุดไฟ แล้วใช้อากาศ(ลม) ดันลูกโป่งให้ลอยขึ้น แล้วดึงกระเช้าที่บรรจุคนแขวนอยู่ขึ้นไป แต่ปรากฏว่า ลูกโป่งขึ้นไปได้ไม่กี่นาทีก็ตกลง ประมาณ ๒๐๐ เมตร ก่อนจะถึงเขตตะวันตก เปเตอร์ ชเดรซิค หัวหน้าครอบครัว จึงบอกภรรยาและลูกว่าเราจะต้องลองเสี่ยงอีกครั้ง ก่อนที่ตำรวจ สตาซี่ จะมาจับพวกเราและคงจะออกคำสั่งให้ลูกไปอยู่กับครอบครัวอื่นแน่
ดังนั้นเขาจึงใช้เงินที่เก็บสะสมไว้ ประมาณ๗๕,๐๐๐ มาร์กตะวันออก จัดซื้ออุปกรณ์ใหม่รวมทั้งก๊าซ ส่วนภรรยาก็นั่งเย็บผ้าเพื่อทำเป็นลูกโป่งลอยฟ้า ทั้งกลางวันและกลางคืน วันที่ ๒๕ กันยายน ปีเดียวกัน เขาแอบฟังสถานีวิทยุบาเยิร์น ๓ เพื่อฟังพยากรณ์อากาศ เมื่อได้ยินว่าลมพัดแรงจากตะวันออกไปตะวันตก จึงรีบตัดสินใจว่าคืนนี้ต้องลองเสี่ยงอีกครั้ง คราวนี้มีครอบครัวเวทเซล ขอร่วมหนีออกไปด้วย รวมทั้งหมดมีสามีภรรยาสองคู่และเด็กสี่คน ก่อนเที่ยงคืน พวกเขาก็เดินทางเข้าไปในป่าใช้เวลาเตรียมพร้อม ๙๐ นาที ก็เริ่มสตาร์ทได้ กระเช้าลูกโป่ง(ความสูง ๒๗ เมตร)นี้ แขวนน้ำหนัก๗๕๐ กิโลกรัม (นั่นคือน้ำหนักของผู้ใหญ่สี่คน เด็กสี่คน ถึงบรรจุก๊าซและเครื่องยนต์)
พอเริ่มวันใหม่ ก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าไม่มีอะไรจะมายับยั้งได้อีกต่อไป แต่เพียง ๓๘ นาทีขณะที่อยู่บนความสูง ๒.๕๔๐ เมตร ก็เกิดไฟไหม้ เพราะเขาเปิดก๊าซมากไป ยิ่งรูที่ไหม้ขยายใหญ่ขึ้น ก็ต้องใช้ก๊าซมาก เพื่อไม่ให้ลูกโป่งตก จนกระทั่งก๊าซหมด โชคดีที่ไม่ตกลงมาจากความสูง ๒๐๐๐ เมตรทันที เพราะลูกโป่งมีขนาดใหญ่และถูกไฟไหม้เพียงบางส่วน ทั้งลมก็ช่วยพยุงไว้ จึงอยู่ในลักษณะเหมือนการโดดร่ม
ทุกคนได้แต่อธิษฐานขอพระเจ้าคุ้มครองในที่สุดก็ร่อนถึงพื้นดิน ได้อย่างปลอดภัย แต่ทุกคนก็ยังใจหายใจคว่ำ ว่ากำลังอยู่ในฝั่งใดหากเป็นฝั่งตะวันออก ก็หมายความว่าผู้ใหญ่ทั้งสี่ต้องเข้าคุกแน่
ชายหนุ่มบอกให้ผู้หญิงและเด็ก รีบไปซ่อนตัวในพุ่มไม้ ส่วนเขาสองคน เดินออกไปสำรวจบริเวณ โดยบอกให้คอยสังเกตสัญญาณ บนท้องฟ้า ถ้าเห็นแสงพลุที่เขาจุดพุ่งขึ้น ก็แสดงว่าเป็นเขตตะวันตก ให้ทุกคนออกมาจากที่ซ่อนได้
ทั้งสองเดินออกจากป่าไปยังถนน ได้ยินเสียงรถ และพบว่าเป็นรถตำรวจจึงถามว่า "เรากำลังอยู่ในเขตตะวันตกใช่ไหม" ตำรวจงง"ใช่..คุณคิดว่าอยู่ที่ไหนล่ะ..ตำบลนี้ชื่อนาอิลา แคว้นบาเยิร์น" เขาจุดพลุ และภรรยาของเขาทั้งสองก็กระโดดโลดเต้น ออกมาจากที่ซ่อน พร้อมกับลูกๆ "ไชโยๆๆๆ เราพบอิสรภาพแล้ว" ในโอกาสครอบรอบ ๒๐ ปีหนังสือพิมพ์ ได้เชิญ สามีภรรยา ทั้งสองคู่นี้มาขึ้นกระเช้าลูกโป่ง ถ่ายทำเรื่องราว
ครูยุ:เคยดูเรื่องราวที่ถ่ายทำเป็นหนัง ลุ้นเอาใจช่วยตั้งกะต้นจนจบ เพราะตอนนั้นไม่ทราบว่าสำเร็จไหม ตื่นเต้นมากค่ะ
ความเห็น (4)
ผมอยากรู้เรื่องราวของกำแพงเบอร์ลินมานานแล้ว.. แต่ยังไม่เข้าใจละเอียดเลย..
ขอบคุณมากนะครับ ว่างๆไปเยี่ยมบล๊อกครูป้อมบางนะครับ..
ประวัติกำแพงเบอร์ลิน เคยดูจาก DVD และเป็นหนัง
เคยคิดอยากหาเก็บไว้อยู่เหมือนกันค่ะ มีเมื่อไหร่จะ
เผื่อมาให้ค่ะ..
ขอบคุณค่ะคุณมาตายี ที่แอบมาชื่นชมยามดึก (บ้านเรา)
และเพิ่มสีสันด้วยภาพ...