บันทึกการเมืองไทย : จดหมายจากหมอวีระศักดิ์ ถึงหมอเหวง


 

          ศ. นพ. วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ ส่ง อี-เมล์ แนบข้อเขียนนี้ถึงเพื่อนๆ หลายคนรวมทั้งผม   ขอให้ช่วยเผยแพร่   และทราบว่าได้นำลงพิมพ์ใน นสพ. มติชนรายวันแล้ว    แต่เมื่อพบกันเมื่อวันที่ ๒๗ เม.ย. ๕๓  อ. หมอวีระศักดิ์ยังบอกให้ผมช่วยเอาลง บล็อก   ผมจึงสนองคำขอร้องนั้น    ข้อเขียนมีดังต่อไปนี้

 

จดหมายถึงหมอเหวง
๒๓ เมษายน ๒๕๕๓
เหวงครับ
 
ผมตรึกตรองอยู่หลายวันว่าจะเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงคุณดีหรือเปล่า ด้วยความกังวลใจหลายอย่าง เช่น ไม่รู้ว่าจะสายเกินไปคือเกิดเรื่องร้ายแรงก่อนที่จะคุณจะได้อ่าน หรือ คุณและพรรคพวกคุณอ่านแล้วอาจจะรู้สึกไม่ชอบใจผมซึ่งอาจจะทำให้ชีวิตที่สงบของอยู่แล้วของผมและครอบครัวต้องเดือดร้อนวุ่นวายไปกับความขัดแย้งที่ผมไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ในที่สุดผมก็เขียนขึ้นมาเพื่อหวังว่าจะเป็นการสนทนาธรรมที่เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้าง
 
หลายคนถามผมว่ารู้จักคุณเพียงไร ผมตอบได้ว่ารู้จักคุณดีในฐานะนักศึกษารุ่นพี่ในยุคที่เราทำกิจกรรมด้วยกัน ผมพบคุณครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ คุณมีอัจฉริยภาพสูงทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และ สนใจธรรมมาก เป็นนักศึกษารุ่นแรก ๆ ที่ได้เข้ารับรสพระธรรมจากวัดธารน้ำไหลของท่านพุทธทาสภิกขุที่ไชยา สมัยที่ท่านยังไม่มีชื่อเสียงมาก ต่อมาคุณเป็นผู้นำนักศึกษาและเป็นนกสีเหลืองเดือนตุลา หลังจากนั้นผมไม่ได้พบคุณบ่อยนัก คงได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าคุณยังสนใจเรื่องส่วนรวมอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องประชาธิปไตย และคุณได้ร่วมกับคณะของคุณต่อต้านรัฐประหารและชี้ให้เห็นปัญหาสังคมการเมืองที่เราเผชิญอยู่ซึ่งทำให้ประเทศไทยล้าหลัง เช่น ปัญหาการยึดอำนาจด้วยกำลัง การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เสมอหน้า ซึ่งก็นับได้ว่าคุณได้ทำประโยชน์ต่อประเทศในด้านหนึ่ง
 
คนชั้นกลางที่ผมรู้จักจำนวนมากมองคุณในแง่ลบ โดยเฉพาะการเข้าร่วมขบวนการกับกลุ่มผู้สูญเสียอำนาจ แต่ก็มีคนบอกว่ากลุ่มของคุณไม่เกี่ยวข้องกับผู้สูญเสียอำนาจ เพียงแต่ร่วมมือกันในบางด้าน เท็จจริงเป็นประการใดผมไม่อาจจะทราบได้ ส่วนที่ผมเห็นได้ชัด คือ คุณและพรรคพวกมีความสามารถในทางการเมืองสูงมาก ไม่ใช่ด้านการชนะการเลือกตั้ง แต่ที่สามารถชี้ประเด็นและปลุกระดมให้มวลชนมหาศาลเข้าร่วมคัดค้านฝ่ายผู้กุมอำนาจรัฐ มีการจัดตั้งและยุทธวิธีที่ดีกว่าอยู่หลายขุม ในบางช่วงพวกคุณอาจจะดูเหมือนแพ้โดนปราบปรามแตกกระเจิง แต่พวกคุณก็คงสรุปบทเรียนเสริมความเข้มแข็งของตนเองได้อย่างรวดเร็วจนฝ่ายตรงข้ามต่อกรได้ยาก คุณมีทั้งมวลชนและการจัดตั้งที่เข้มแข็ง มีพรรคการเมืองและฝ่ายกฎหมายที่ไม่เป็นรองพรรครัฐบาล ถ้าเกมเป็นไปอย่างที่มันกำลังเดินอยู่อำนาจทางการทหารและอาวุธน่าจะต้องพ่ายแพ้พวกคุณในที่สุด
 
อัจฉริยภาพของพวกคุณทางด้านการเมือง และทางกฎหมาย ซึ่งสามารถเอาชนะรัฐบาลและทหารทั้งด้านการจัดตั้งมวลชน การเสนอรูปแบบเปิดเผยที่เรียกร้องความเป็นธรรมความเห็นใจ ซึ่งดูเหมือนจะมีอีกกลุ่มหนึ่งที่นิยมความรุนแรงสนับสนุนคุณอยู่โดยคุณไม่ปฎิเสธความช่วยเหลือส่วนนี้ และพวกคุณยังมีรูปแบบอื่น ๆ ซึ่งยากที่รัฐจะต่อกร ความสามารถในการบั่นทอนรัฐเป็นสิ่งที่นักยุทธศาสตร์ นักการเมืองและการทหารทั้งรุ่นนี้และรุ่นหลังจะต้องศึกษา ไม่ว่าในที่สุดคุณจะแพ้หรือชนะก็ตาม
อย่างไรก็ตาม มโนธรรมที่ติดมากับอัจฉริยภาพของคุณคงจะเตือนคุณอยู่ตลอดเวลา ว่า คุณธรรมนั้นสำคัญกว่าความสามารถ ท่านพุทธทาสตอบนักการเมืองเสมอว่าธรรมาธิปไตยเป็นทางออกของสังคม ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่พวกมากลากไป พวกคุณหลายคนอาจจะโต้เถียงว่าใครจะเป็นคนตัดสินว่าอะไรเป็นธรรมไม่เป็นธรรม เมื่อหาข้อยุติไม่ได้ก็ต้องใช้เสียงข้างมาก เมื่อต้องการเป็นเสียงข้างมากเป็นหลักโดยไม่สนใจความทุกข์ของคนส่วนน้อยแล้ว การเมืองกับสงครามก็แยกกันด้วยเส้นบาง ๆ เท่านั้น
 
ผมเห็นพวกของคุณและฝ่ายตรงกันข้ามของคุณพยายามเอาชนะกันในทุกรูปแบบ ประสบการณ์สอนทั้งพวกเขาและพวกคุณว่าการมีทุนและพรรคการเมืองอย่างเดียวไม่พอ คุณต้องมีกลุ่มอำนาจ และ นักกฎหมายมือดี ๆ มีสื่อมวลชนเป็นของคุณด้วย สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่ารถถังและปืนกล ทั้งสองฝ่ายมีเครือข่ายข่าว กระบวนการเคลื่อนที่เร็วทั้งรุกไล่และต่อต้านให้อีกฝ่ายหนึ่งจนมุม
 
ในที่สุดอัจฉริยภาพของคุณก็ดูเหมือนว่าจะมีเอาไว้เพื่อเอาชนะกันเท่านั้นเอง ความอยากเอาชนะเป็นเพลิงกาฬที่เผาผลาญสันติภาพในใจของคุณเอง พวกคุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการประท้วงอย่างสันติ แต่ความอยากเอาชนะของพวกคุณก็ทำให้ต้องใช้กลวิธีร้อยแปดบีบบังคับให้ทุกอย่างได้ดังใจของตน รวมทั้งการสร้างความทุกข์ร้อนกับคนอื่นได้โดยที่พวกคุณถือว่าไม่เป็นไร คุณกำลังทำงานให้ส่วนรวม คนอื่น ๆ ต้องอดทนกับความเดือดร้อนเพื่อให้พวกคุณได้ชัยชนะ มองจากคนนอกอย่างผม ตอนนี้คุณน่าจะกำลังเดินแต้มผิด คนที่เดือดร้อนก็คงจะเห็นว่าวิธีการของคุณอย่างนี้น่าจะไม่ใช่สันติวิธีเสียแล้ว พวกคุณชนะใจของคนกลุ่มหนึ่งแต่ก็จะเสียคะแนนนิยมจากคนอีกกลุ่มหนึ่ง
 
ไม่ว่าคุณหรือฝ่ายตรงข้ามจะแพ้หรือชนะ เพลิงที่ระอุในใจของทุกคนก็ทำลายความสงบและความน่าชื่นชมของสังคม เศรษฐกิจของส่วนรวมเสียหายอาจจะเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับหลายคน แต่เมื่อมีจำนวนคนที่บาดเจ็บล้มตายมากขึ้น ผมคิดว่าพวกคุณน่าจะหยุดคิดแต่จะเอาชนะได้แล้ว ที่แย่ไปกว่านั้น คือ สังคมไทยประสบความเสียหายที่ร้าวลึก ทำไมคนที่ไม่รู้จักกันต้องมาบีบบังคับกัน ทำร้ายกัน ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้มีเรื่องขัดข้องหมองใจกันมาก่อน แล้วไทยเราจะอยู่ด้วยกันอย่างไรในระยะยาว
 
เหวงครับ เราจะช่วยกันจัดการความขัดแย้งครั้งใหญ่ในสังคมไทยอย่างไร ภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยที่ถูกแบ่งแยกและครอบงำโดยกลุ่มการเมืองที่มีความขัดแย้งกันจะอยู่ร่วมกันเป็นผืนแผ่นดินไทยได้อย่างไร ผมย้อนกลับไปคิดถึงอัจฉริยภาพของคุณ อยากได้มันกลับมาเพื่อนำสันติกลับมาสู่พวกเราทุกคนได้ไหมครับ
 
 
วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์
         
หมายเลขบันทึก: 354788เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2010 08:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เหวง แปลว่าอะไรไม่ทราบครับ

แต่ปักาใต้บ้านผม คำว่า เหวง แปลว่าเบา ไรน้น้ำหนัก ไม่น่าเชื่อถือ

เช่น.ผมขับรถคนเดียว รุ้สึกเบาเหวง

...ยกกล่องในนั้นรู้สึกเบาเหวง

หรือ ไม่รู้พรือ.งวันนี้ หัวใจเบาเหวง

ขอบพระคุณค่ะท่านอาจารย์

คุณธรรมนั้นสำคัญกว่าความสามารถ ท่านพุทธทาสตอบนักการเมืองเสมอว่าธรรมาธิปไตยเป็นทางออกของสังคม

เงิน อำนาจ ทำให้คนเราเปลี่ยนได้ จากดีเป็นเลว จากเลวเป็นดี แม้กระทั่งเลวแล้วยังกลายเป็นเลวบริสุทธิ์

ความสุขที่ได้มาเพียงน้อยนิด เมื่อถึงวาระสุดท้ายก็นำมันไปไม่ได้ แถมยังถูกลูกหลานด่าทอทั้งก่อนไปและหลังจากที่ไป

อยากจากไปอย่างคนธรรมดา หรือไปอย่างคนมีเกียรติ หรือจากไปให้คนตราหน้าว่าเป็นคนขายวิญญาณ

เป็นจดหมายที่สื่อถึงผู้รับได้ดีมาก แต่ผู้รับอาจจะไม่เข้าใจในเจตนาดี ที่ท่านอาจารย์มีต่อเพื่อนมนุษย์

เพียงเพราะว่า ณ เวลานี้ เขาถูกครอบงำด้วยสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ทำให้เขาขาดสติจนไร้ความปราณี

และไม่สามารถสะกดคำว่าคุณธรรมได้เลย

  • ความจริงเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่เราสามารถเตือนคนที่เรารู้จักได้  เพราะบางครั้งเราก็ไม่ทราบว่า..สิ่งที่เขาทำลงไปนั้น   ทำด้วยความขาดสติหรือสติยังอยู่ครบถ้วน
  • แต่ว่า....หากเราเตือนแต่ฝ่ายเดียวโดยที่อีกฝ่ายยังไม่มีคนเตือน...มันก็ไม่ชอบด้วยเหตุผล   แล้วฝ่ายตรงกันข้ามล่ะ..
  • ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องการเอาชนะกันแน่นอน ( ไม่ใช่ฝ่ายเดียว )  แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือความเดือดร้อนของคนกลุ่มหนึ่งซึ่ง...เกิดความเดือดร้อนจากทั้งสองฝ่ายหาใช่เฉพาะฝ่ายม็อบฝ่ายเดียว ( แน่นอน )
  • หากจะเอาคุณธรรมมาวัดใจกันในบรรยากาศแบบนี้  เห็นควรว่าน่าจะเอาไปใช้กับผู้ที่มีอำนาจและกุมอำนาจอยู่ในมือขณะนี้มากกว่ามิใช่หรือ???
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท