ตามไปดู ^_^ ผู้พิการ (๓)


เมื่อเกิดมาแล้วแม้จะทุกข์อย่างสาหัส แต่ทำอย่างไรที่การดำรงอยู่ของชีวิตจะอยู่อย่างมีความสุขและมีค่า

       

            จากบันทึก  ตามไปดูผู้พิการ ๑ 
                                    และ  ตามไปดูผู้พิการ ๒
        เมื่อทีมพวกเราต้องเดินเข้าไปในซอยแคบที่รถยนต์ผ่านเข้าไม่ได้  ลุงเสือต้องจอดรถรอที่ปากซอย  โชคดีที่วันนี้อากาศดูครึ้มและเย็นสบายการออกแรงเดินทางระยะไกลๆ  จึงทำให้ไม่มีเหงื่อ  ทุกคนต่างเดินห่อไหล่  มือทั้งสองข้างกอดหน้าอก  เมื่อลมพัดผ่านเข้ามาทำให้ฉันรู้สึกหนาวได้ทันที  ฉันกระชับเสื้อแจ๊คเกตกันหนาวอีกครั้ง เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายโดยอาศัยเสื้อเป็นตัวโอบกอดฉันไว้
        เดินมาสักระยะ  พบบ้านหลังเล็กๆแค่พออาศัยน่าจะขนาด 4x6 เมตร  มีตู้เสื้อผ้ากั้นห้องเพื่อแบ่งเป็นห้องนอน  ลักษณะคล้ายบ้านเช่า  เพราะยังมีห้องขนาดเดียวกัน  ลักษณะคล้ายกันที่อยู่ติดกัน  ที่มีหลังคาเชื่อมต่อกันที่เป็นหลังคาเดียวกัน  มะเดี่ยวร้องทักอย่างดีใจเมื่อเห็น  "แววตา"  เป็นอีกรายหนึ่งที่เราตามมาเยี่ยม 

        ฝนเริ่มลงเม็ดโปรยปรายมาแล้ว  พวกเราต้องขออนุญาตเข้าไปในบ้านเพื่อหลบเม็ดฝนอันบางเบา  ซึ่งอาจทำให้พวกเราป่วยไม่สบายได้  พวกเราไม่พบแม่ของแววตา  สำหรับพ่อของแววตาไม่ต้องถามถึง  พ่อของแววตาได้เลิกกับแม่ของแววตาไปตั้งแต่คลอดแววตาได้ไม่ถึงปี  แววตาจึงถูกฝากเลี้ยงไว้กับยายบ้าง  กับป้าผู้เป็นพี่สาวของแม่บ้าง  เมื่อแม่ของแววตาต้องออกไปทำงานรับจ้าง วันนี้ก็เช่นกัน  แววตาถูกฝากไว้กับป้า  เมื่อเห็นแววตาครั้งแรกฉันสงสารเธอจับใจ  แววตามีความพิการทางร่างกาย  ขาไม่เท่ากันต้องเขย่งเท้าเดิน  ตาของเธอก็เหล่  ฉันมองถาพไปไกลไปถึงเมื่อเธอไปโรงเรียนเธอจะถูกเพื่อนแกล้งหรือนำความพิการของเธอมาล้อเล่นหรือเปล่านะ  ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอคงเสียใจไม่น้อยทีเดียว  ซึ่งบางคนเก็บมาเป็นปมด้อยของตนเองเกือบตลอดชีวิตเลยทีเดียว...เฮ้อ! ฉันคงคิดมากไปเอง
        “อ้าวหมอมา  กำลังดูบิลค่าไฟฟ้าอยู่พอดี  มีอะไรเหรอหมอ”  เสียงของป้าแววตาทักทายพวกเรา
        “มาเยี่ยมแววตากัน  แม่มันอยู่มั้ยเนี่ย”  มะเดี่ยวตอบและถามกลับไปอย่างคนคุ้นเคย  เพราะฉันสังเกตจากการสนทนาของพวกเขา
         “แม่มันไปทำงาน  ถึงเอามาฝากฉันเลี้ยงไว้นี่ไง”  ป้าของแววตาตอบพร้อมส่งยิ้ม และคล้ายกับจะมีคำถามต่ออีก
        “เอ่อ...นี่พี่จากสถานสงเคราะห์บ้านเรานะ  แล้วก็หมอจาก รพ.แก่งคอย  จะเอาเงินมาช่วยเหลือแววตามัน  แต่แม่มันไม่อยู่  เอาไงดีนะ  จะฝากไว้ได้มั้ยล่ะ”  มะเดี่ยวพูดอย่างลังเลและขอความคิดเห็น
         “ฝากฉันไว้ก็ได้  เดี๋ยวแม่มันมาฉันจะบอกและเอาให้เอง”  ป้าแววตาตอบพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่เธอมีให้พวกฉันตลอดการสนทนา
        “ให้ถึงมือแม่มันจริงๆนะ  เดี๋ยวฉันจะไปถามแม่มันอีกที  ถ้าไม่ให้ฉันด่าเช็ดเลยนะ”  มะเดี่ยวพูด  คล้ายกับว่าจะต้องมาตรวจสอบอีกครั้ง  ฉันสังเกตจากคำพูดที่เขาสนทนากันแสดงว่ามะเดี่ยวเข้าถึงชุมชนจริงๆ  และมีความคุ้นเคยกันมากๆถึงจะพูดได้แบบนี้
         หลังสนทนากันสักพักและมอบเงินช่วยเหลือแล้ว  พวกเราก็ลาป้าและแววตากลับเพื่อไปเยี่ยมคนอื่นรายต่อไป  ระหว่างนั่งในรถฉันอดคิดในใจไม่ได้ว่า  เงินที่มอบให้จะถึงมือแม่ของแววตามั้ยนะ  ป้าของแววตาจะเอาเงินไปบริหารใช้ก่อนหรือเปล่าเพราะสังเกตเห็นว่าบ่นเรื่องค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย...ไม่น่า  เราไม่ควรคิดไม่ดีแบบนี้  ฉันได้แต่บอกตัวเอง  เพราะถึงอย่างไรเงินก็คงถึงมือแม่แววตา  และคงได้ช่วยเหลือแววตา  ตามเจตนารมณ์ของเจ้าของเงินบ้างไม่มากก็น้อยถือว่าเป็นการช่วยเหลือกัน  ยามที่ทุกคนเดือดร้อนก็พอได้ช่วยๆกันไปก่อน   ขอให้แววตาเป็นเด็กดีและมีความสุขนะ...ลาก่อนแววตา
       
       ฉันนั่งคิดเพลินจนเมื่อรถจอดสนิทบนทางเนิน  ที่ทุกคนบอกว่าอย่าเอารถลงไปเลยทางมันชันทุกคนกลัวในขณะที่ฉันบอกว่าทางแค่นี้ไปได้สบายเพราะฉันขับรถขึ้นลงบนดอยอินทนนท์  ดอยสุเทพ  หรือแม้เต่ทางไปแม่ฮ่องสอน  1,864 โค้ง  มันลาดชันกว่านี้ตั้งมากมาย แต่วันนี้ฉันไม่ใช่คนขับรถ เมื่อทุกคนต้องการอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร  ลุงเสือเลือกที่จอดรถหลังส่งพวกเราที่ปากทาง  เพื่อไปเยี่ยม  “แมน”  เป็นรายต่อไป
         หลังเดินลงจากเนินได้สักระยะ  เหมือนเดินเข้าไปในหุบเขา  บริเวณนั้นมีบ้านคนอยู่หลายหลังที่ฉันสังเกตเห็นไม่น่าจะต่ำกว่าสิบห้าหลังคาเรือน  ทุกหลังคาอยู่ติดชายเขา  ถ้าเราขับรถอยู่บนถนนมิตรภาพหากมองลงไปจะไม่เห็นหมู่บ้านกลุ่มนี้เลย  จะเห็นเพียงกลุ่มของต้นไม้อยู่เท่านั้น  ทุกบ้านไม่มีรั้วกั้น  ฉันคิดว่าบ้านทุกหลังที่อยู่ตรงนี้คงไม่มีโฉนด  คงเป็นการอาศัยที่สาธารณะอยู่  สังเกตจากบ้านเรือนแม้จะปลูกได้อย่างคงทนถาวร  และลักษณะของทุกบ้านไม่ใช้วัสดุที่สิ้นเปลืองมากนัก  ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ไม่มากมีอิฐบล็อกที่ฉาบทาไม่เรียบ  ถ้าเทียบกับตึกรามบ้านช่องอย่างภายนอกอาจจะไม่คงทนนัก  แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นและชอบหมู่บ้านนี้คือ  ความร่มรื่น  สะอาด  พื้นโล่งที่เป็นพื้นที่ร่วมเป็นลานดินสะอาดมากมองเห็นเพียงใบไม้ดอกไม้ที่เพิ่งล่วงหล่นมาใหม่ๆตามพื้นดินเท่านั้น  เราได้รับการต้อนรับจากเจ้าสี่ขากลุ่มหนึ่งเสียก่อนซึ่งเห่าเสียงดังมาก  แถมมีคุณยายท่านหนึ่งบอกว่าตัวอื่นไม่เท่าไร  แต่ตัวสีขาวนั่นต้องคอยดู  มันเอาเรื่องเหมือนกัน  พวกเราจึงต้องรีบเดินเข้าบ้านของ “แมน”  ทันที
        ตัวบ้านเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกติดกับพื้น  เมื่อเข้าไปในตัวบ้าน  บริเวณที่นั่งเล่นของบ้านแคบทันทีพวกเราบางคนนั่งไม่ได้ต้องอาศัยการยืนเท่านั้นเพื่อให้มีพื้นที่อยู่ได้ครบทุกคน  ภายในบ้านมีการกั้นสัดส่วนชัดเจนไม่ว่าจะเป็นห้องนอน  ห้องครัว และก็ที่เฉพาะของ “แมน”  แมนนอนยิ้มและพยายามส่งสายตามายังพวกเราเมื่อเสียงคุณยายหน้าบ้านบอกว่ามีหมอมาเยี่ยม  พวกเราทักทายแมนและแม่ของแมน

        แมน  ชายร่างพิการแต่กำเนิด  เดินไม่ได้เลยต้องนอนอยู่กับที่นอนตลอด  อาศัยอยู่กับแม่  พ่อออกไปทำงานรับจ้างนอกบ้าน  ภาพที่เราเห็นแมนตัวขาวซีด  เพราะคิดว่าคงไม่เคยได้ออกไปไหนเลย  แต่ทุกครั้งที่เราพูดคุยแมนจะส่งยิ้มและเสียง เอ้อ อ้า  พร้อมกับส่งยิ้มให้พวกเราอยู่ตลอดเวลา  แมนไม่เพียงแต่พิการทางร่างกายเท่านั้น  เขายังพิการทางสมองอีก  แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันประทับใจและซาบซึ้งมากคือ ความรักของแม่และการดูแลอย่างดีของแม่ แม่ของแมนไม่มีลูกอีกเพราะกลัวว่าลูกที่เกิดมาจะพิการแบบแมนอีกอาจสร้างภาระและห่วงกังวลให้กับเธอ  เธอจึงเลือกที่จะมีลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น  แม่ของแมนอยู่กับแมนตลอดเวลากว่า 18 ปี  ดูแลแมนอย่างดีแม้แมนจะนอนพับอยู่กับที่นอนเท่านั้น  แมนไม่เคยมีแผลกดทับ  ร่างกายสะอาดมาก  เล็บมือเล็บเท้าสั้นได้รับการดูแลอย่างดี  ลองนึกภาพดูว่าเวลาแมนอุจาระ  ปัสสาวะ อาบน้ำชำระร่างกาย  กินข้ากินน้ำ  แม่และแมนจะต้องทำอย่างไร  แต่กระนั้นยังถือเป็นความโชคดีของแม่  ที่แมนไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไรมากนัก  มีบางครั้งที่เป็นไข้  หรือนานทีปีหนที่จะต้องไปพบหมอที่โรงพยาบาล 
        จากการไปเยี่ยมแมนครั้งนี้  แม่ของแมนได้สอนฉันหลายอย่าง  อย่างที่สำคัญคือ  คนเราเลือกเกิดไม่ได้  แต่เลือกที่จะมีความสุขได้   เมื่อเกิดมาแล้วแม้จะทุกข์อย่างสาหัส  แต่ทำอย่างไรที่การดำรงอยู่ของชีวิตจะอยู่อย่างมีความสุขและมีค่า  แมนถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับครอบครัว  เป็นศูนย์รวมใจของพ่อและแม่ที่ร่วมกันตั้งใจที่จะทำให้วันนี้ของแมนอยู่อย่างมีค่า  อยู่ได้ด้วยความรักความเมตตาจากพ่อและแม่
        ตลอดการสนทนา  แมนจะส่งยิ้มให้พวกเราพยายามหันหน้าไปทางนั้นที  ทางโน้นทีตามเสียงเรียกคุย  พวกเรากล่าวลาแมนและแม่แล้วบอกว่าจะมาเยี่ยมใหม่...สำหรับฉันยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้มาเยี่ยมแมนอีกหรือไม่  เพราะการมาครั้งนี้เป็นการเยี่ยมครั้งแรกของฉัน  ส่วนน้องกุลคงได้มาบ่อย  เพราะเป็นพื้นที่ที่รับผิดชอบของน้องกุล...ทางเดินกลับต้องเดินขึ้นเนิน  มันเหมือนกับฉันแบกความหนักของแม่และครอบครัวของแมนกลับมาด้วย...กว่า 18 ปี ที่แมนและครอบครัวอยู่กันมาได้อย่างมีความสุข  และพวกเขาต้องมีความสุขกันต่อไปสิ ก่อนขึ้นรถฉันขอปลดแอกความหนักไว้ตรงนี้นะ...แมน...ขอให้แมนและครอบครัวมีความสุขมากๆนะจ๊ะ  หากมีโอกาสฉันคงได้มาเยี่ยมแมนอีก

 

 

๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
         วันนี้หลายคนว่าเป็น วัน เดือน ปี ที่ดี  เพราะเป็นวันที่ ๑๑  เดือนที่ ๑๑  และปีที่ลงท้าย ๑๑ (ค.ศ.๒๐๑๑)  คงคล้ายกับ วันที่ ๙ กันยายน ค.ศ. ๒๕๐๙ นั่นแหละ  เนื่องจากปีนี้โรงพยาบาลมีเข็มมุ่งเรื่อง การดูแลผู้ด้อยโอกาส  ทำให้ฉันนึกถึงแมน  ที่วันเวลาทำให้ฉันลืมแมนไปเสียนาน  เมื่อนึกได้ก็ถามถึงแมนกับทีมเยี่ยมบ้านที่เขาไปเยี่ยมกัน  ว่าเป็นอย่างไรบ้าง  คำตอบคือ...แมนเสียชีวิตแล้ว...เมื่อต้นปีนี้เอง  หลับให้สบายในสัมปรายภพนะแมนและขอให้มีความสุข  หากชาติหน้ามีจริงหรือได้เกิดเป็นมนุษย์ขอให้แมนมีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ  มีอวัยวะครบ ๓๒ ประการเหมือนคนปกติโดยทั่วไป  และขออโหสิกรรมแก่กัน
หมายเลขบันทึก: 354773เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2010 01:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

ขอบคุณสำหรับกำลังใจของคุณครูกระแต P มาตายี ค่ะ

คุณครูนอนดึกเหมือนกันเลยนะคะ

สวัสดีครับน้องน้ำชา ตามมาเยี่ยมผู้การ แก่งคอยครับ

ประเด็นนี้ที่สนใจครับ

การเข้าสิทธิ์ทางด้านสุขภาพของผู้พิการทุกประเภทครับ

สวัสดีค่ะ

  • คนเราเลือกเกิดไม่ได้ และเลือกที่จะจัดการตัวเองได้มากกว่าคนอื่นนะคะ
  • เมื่อมีความรักก็ควรแบ่งปัน เป็นกำลังใจให้แก่กันและกัน แบบนี้น่าชื่นใจค่ะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้น้องแมนด้วยคนค่ะ
  • ขอขอบคุณเรื่องเล่าดี ๆค่ะ

สวัสดีค่ะ  ท่านวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

น่าสนใจค่ะ  การเข้าถึงบริการสุขภาพของผู้พิการ  ตอนนี้ที่ รพ. ก็ทำงานเชิงรุก  แบ่งให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเวชปฏิบัติฯและงานกายภาพ  ช่วยกันรับผิดชอบผู้พิการแต่ละตำบล  ออกติดตามเยี่ยม  การขึ้นทะเบียนผู้พิการเราก็ออกไปทำในชุมชน

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่น่าสงสาร  เพราะเรื่องของความพิการทั้งทางร่างกาย  ทางสมอง  สองอย่างนี้ก็เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงบริการทุกเรื่องอยู่แล้ว  มีประเด็นแลกเปลี่ยนกันนะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ  คุณครูคิม

หากโลกนี้มีรักอันบริสุทธิ์  มีเมตตาต่อกันทุกผู้ทุกนาม  โลกนี้สวยงามเสมอ       

ความสุขหาได้ที่ใจเราเอง 

ขอบคุณค่ะ

อนุโมทนายุญในน้ำใจที่ดีงามนี้คะ..สังคมอยู่ได้เพราะการแบ่งปันน้ำใจ..

มาชวนไปส่งกำลังใจให้ครูดีเพื่อศิษย์ค่ะ...

http://gotoknow.org/blog/nongnarts/355172

สวัสดีค่ะ  พี่ใหญ่  นงนาท สนธิสุวรรณ

สังคมอยู่ได้เพราะเรามีน้ำใจต่อกัน

ขอให้พี่ใหญ่มีความสุขนะคะ

สวัสดีค่ะ

  •  มีงานทำ  มีเงินตอบแทน   ได้ทำความดี    แล้วมีความสุข
  •  เป็นความโชคดีของน้อง ที่ได้สะสมบุญ 
  • ชื่นชมยินดี กับคนดีในวันนี้ค่ะ

  

 

                    คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

  • สวัสดีค่ะ
  • พี่ namsha  สบายดีนะค่ะ ส่วนบุษราสบายดีค่ะ "ตอนนี้เครียดเรื่องการเมืองอย่างเดียวค่ะ".........
  • ชอบภาพที่พี่นำไปฝากมาก ๆ เลยค่ะ บุษราก็ได้นำภาพตัวเองมาฝากเช่นกัน โปรโมตตัวเองไปในตัวเลย ฮา ฮา

             ตกแต่งภาพให้โดยคุณครูบันเทิงค่ะ

สวัสดีค่ะ  น้องนก

"การเมือง  ต้องแก้ด้วยการเมือง"  อุ๊ย!  ลืมตัวไปค่ะ  แบบว่าเลียนแบบรัฐบาลที่กำลังเป็นคำนิยมอยู่ขณะนี้

อย่าเครียดไปเลยนะคะ  ทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ  แต่จะใช้เวลาหรือสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นตัวเร่งหรือตัวรั้ง  การเปลี่ยนแปลงถ้าเร็วไปนักอาจทำใจยอมรับไม่ได้  หากช้าไปความเสียหายอาจจะเกิดขึ้นได้มาก  ต้องช่วยกันดู  สอดส่อง  และประคับประคองให้ก้าวเดินต่อไปให้ได้...พูดซะยาวอย่างกับนักการเมืองเลย อิอิ

จะสุขหรือทุกข์  จะเครียดหรือผ่อนคลาย  อยู่ที่ใจของเราค่ะน้องนก

มีความสุขทุกวันกับหน้าที่การงาน  และครอบครัวนะคะ 

ไม่มีชีวิตใดไร้ความหมาย..
และไม่มีชีวิตใดปราศจากการต่อสู้
สำคัญอยู่ที่ว่า...
สังคม ให้กำลังใจกันแค่ไหน

...

ชื่นชมและให้กำลังใจ นะครับ

ความรัก  ความมีน้ำใจ  ความเอื้ออาทร  ช่วยให้สังคมนี้น่าอยู่

กำลังใจไม่ได้มาด้วยการซื้อ  หากแต่ยิ่งให้ยิ่งได้ 

ขอบคุณกำลังใจจากอาจารย์ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท