แพ็คกระเป๋าไปนอก/ จัดกระเป๋าไปต่างประเทศ


จัดอะไรดี เอาอะไรไปบ้าง ???

เขียนโดย แอมมี่

คุณน้องๆ หลายท่านถามกันจริงๆ  ความจริง ammy ก็มีปัญหาเรื่องจัดกระเป๋ากลับไทยเหมือนกันนะเนี่ย อยู่เมืองนอกนานๆ จัดของ ซื้อของกลับบ้านผิดหมดเลย สิ่งที่ควรซื้อกลับมา ก็ไม่ได้ซื้อ สิ่งที่ไม่ควรซื้อ ก็ดันซื้อมาทำไมไม่รู้ เฮ้อ เศร้าจริงๆ  เข้าเรื่องดีกว่าค่ะ 

เท่าที่ สังเกต น้องๆที่เจอมักจะจัดของมากันไม่ค่อยครบ อาจจะนึกไม่ออก หรือนึกไม่ถึงก็ได้มั๊ง คือ คิดว่าของแบบนี้น่าจะหาซื้อได้ แต่จริงๆ หาไม่ได้ หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อที่ไหน  เป็นเรื่องปกติค่ะ ไม่ต้องต๊กใจ ถือคติซะว่า ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด   

การจัดที่ดีนั้น เราควรสามารถที่จะอยู่ได้โดยไม่ต้องรบกวนผู้อื่นในระยะเวลา 2 อาทิตย์แรก  ลองจินตนาการนึกไปถึงถ้าเราต้องไปอยู่หอพักของมหาวิทยาลัยที่ไม่มีใครรู้จัก เลย จะไปซื้อของที่ไหน ยังไงก็อาจหลง และภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงพอ (ทำได้อย่างเดียวคือ ซื้อของกิน อิ อิ เอาตัวรอด) ใช้เงินก็ไม่เป็น (เช่น เค้าบอกว่า ดาม -- ดามอะไรหว่า --- เหรียญสิบเซ็นต์ค่ะน้อง อันที่เล็กกว่าเหรียญนิกเกิ้ลไง ---เอ่อ แล้วนิกเกิ้ลมันเหรียญอะไรครับพี่ --- ต๊าย มันคือเหรียญห้าเซ็นต์ค่ะ ทำไมไม่รู้ โง่จังเลย --- เอ่อ แล้วทำไมเหรียญห้าเซ็นต์ มันถึงได้ใหญ่กว่าเหรียญสิบละครับ --- ไม่ต้องถามแล้วค่ะ จ่ายเค้าไปเร็วๆ --- (จ่ายตังค์ด้วยแบ๊งค์ยี่สิบ --แคชเชียร์ถามกลับ) Do you want some singles? --- (น้องหน้าซีด หันกลับมาถามพี่) พี่ครับ ทำไมเค้าถึงอยากรู้ด้วย ว่าผมโสดหรือเปล่า --- (พี่ทำหน้าเซ็ง ตอบ) เฮ้อ น้องคะ เค้าถามว่า อยากได้แบ็งค์หนึ่งเหรียญบ้างมั๊ย ฉลาดจริงๆ ---จบดีกว่า)

ถ้าคุณมี ญาติหรือเพื่อนพักอยู่ที่เมืองนอกก่อนแล้ว ของบางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องแพ็คไปนะคะ ขอยืมเค้าใช้ก่อนได้  อยู่ ซักพักจะทราบเองว่า ควรจะซื้ออะไร ที่ไหน  ปรึกษาเค้าดูค่ะ เค้าจะบอกคุณเอง 

อะไรที่ควรแพ็ค 

ขอแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ แล้วกันนะคะ จะได้เช็คง่ายๆ เป็นแค่ไอเดียเฉยๆค่ะ ไม่จำเป็นต้องแพ็คมาทุกอย่างตามลิสต์นะจ๊ะ 

 

  1. เสื้อผ้า/ของใช้ส่วนตัว 

-         เสื้อผ้าที่เราชอบใส่  เอามาเหอะ หน้าร้อนที่เมืองนอกก็ร้อนพอๆ กันกับเมืองไทยเราอะจ้า กองๆ ไว้ข้างกระเป๋าก่อน (เวลาแพ็คให้ใช่เสื้อผ้าห่อของค่ะ จะประหยัดที่และกันกระแทกได้ดี) คุณสาวๆจ๋า เสื้อผ้าบ้านเราดีไซน์สวย ถูก สีสดใสและใส่สบายยามหน้าร้อนดีมากมาก  บางตัวเวลาซักแล้วอาจหด เราก็ค่อยซื้อใหม่ละกัน อย่ากังวลมาก แล้วเอาไว้ จะเล่าเรื่องสถานที่ช้อปแบบประหยัดให้ฟังนะคะ  แล้วถ้าใครคิด ว่า อยากมาทำงานเก็บตังค์ในร้านอาหารก็ควรจะเตรียม เสื้อเชิ้ร์ตหรือ เสื้อโปโลสีขาวและสีดำ รวมทั้งกางเกงผ้าสีดำ มาซักสอง-สามชุดค่ะ ที่ชิคาโกมีร้านอาหารไทยและไทย-ญี่ปุ่นเปิดใหม่เยอะ ต้องการพนักงานคนไทยจำนวนมากอยู่  ถ้ารับเราเข้าทำงาน เราก็ควรจะพร้อมในเรื่องชุดทำงานด้วยค่ะ   

 

-         ชุด พรีเซ้นต์งาน/ชุดทำงาน  อาจ หยิบเสื้อที่เป็นสูทไปด้วยซักตัวนึง  สำหรับน้องๆ ที่มาเรียน MBA หรือทางสายธุรกิจทั้งหมด  มีพรีเซ้นต์งานหน้าห้องแน่นอน ที่สุดค่ะ สาขาอื่นก็อาจมีเหมือนกัน  ติดมาเผื่อซักชุดคงไม่ กินที่เท่าไหร่  ชุดเดียวพอแล้วอะจ้า เพราะน้องๆจะอ้วนขึ้นแน่นอน หลังจากมาชิคาโกซักพัก อิ อิ อิ ไว้ค่อยหาซื้อเพิ่มทีหลังดีกว่า (เดี๋ยวใส่ไม่ได้นา กิ้ว กิ้ว) 

 

-         ชุดชั้นใน/ชุดว่ายน้ำ ทั้ง น้องผู้ชาย น้องผู้หญิง  ขอบอกว่า บ้านเราถูกกว่าเยอะ แล้วมี Size ที่เหมาะกับคนตัวเล็กแบบเอเชียอย่างพวกเราด้วย  ammy เองไม่ได้เห็นเมืองไทยมาเจ็ดปี หลงซื้อกลับมาตั้งเยอะ ที่ไหนได้ ต๊ายตาย ทำไมชุดชั้นในที่บ้านเราถึงได้สวยมากขนาดนี้ แบบน่ารัก เซ็กซี่ คุณภาพใช้ได้ แล้วยังแสนถูก  (เปรียบเทียบราคา ต่ำสุดที่อเมริกา ชิ้นละ $8 และแบบธรรมดามากกก)  สำหรับน้องผู้ชาย เพื่อนหลายคนแนะนำให้ซื้อเสื้อ เอ ลืมชื่อซะแล้ว ที่ใส่ข้างในบางๆ สีขาวอะ ส่วนชุดว่ายน้ำ เอาติดมาซักชุดสองชุดก็ดีค่ะ เพราะชิคาโกเองติดทะเลสาบแล้วมีสระวายน้ำให้ว่ายฟรีหลายที่ด้วย รัฐอื่นๆ ก็คงจะมี public swimming pool ให้ว่ายฟรีเหมือนกัน รวมทั้ง สนามเทนนิส สนามกอล์ฟ ก็ตีฟรีค่ะ อาจจะต้องรอคิวหน่อย แตก็่มีหลายแห่งให้เลือกใช้บริการ เลยไม่แออัดเท่าไหร่

 

-         ถุงเท้า  จำเป็นมากสำหรับเมืองหนาว  ขนมาเยอะๆ  วันก่อน ammy ไปตลาดโรงเกลือมา เห็นมีให้เลือกหลายแบบ หลายสี ขายยกโหล โหลละร้อยบาท ที่ชิคาโกถูกที่สุดก็ คู่ละเหรียญ (37-40 บาท) บางทีมีคนมาเสนอขายถึงร้านซักผ้า หรือไปซื้อได้ที่ร้าน dollar store  นอกนั้น ตามห้างก็แพงค่ะ ไว้หนาวมากจริงๆ ค่อยซื้อแบบหนาไว้ซัก สามคู่ หกคู่   สรุป ถุงเท้าบางบางเราไม่กลัว  เรากลัวจะไม่มีถุงเท้าใส่มากกว่าจ้า

 

-         รองเท้า  ที่ ควรแพ็คมาเท่าที่จำเป็นคือ รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่ใส่สบาย สีดำ หรือรองเท้าคัทชู เอาไว้ใส่เดินไปมา ไปโรงเรียน เอ๊ย มหา’ลัย ไปทำงานร้านอาหารที่ต้องเดินเยอะๆ  อยู่ชิคาโก เรามักจะเดินกันเป็นส่วนใหญ่ค่ะ เดินเล่นในดาวน์ทาวน์ เดินในพิพิธภัณฑ์ (ใหญ่มากๆ เดินนานด้วยนา)  เดินเที่ยวตามที่ต่างๆ เดินหรือวิ่งเล่นริมทะเลสาป เดินเขาแบบ trekking ดังนั้น รองเท้าที่ใส่สบายที่สุด จึงจำเป็นมาก  นอกจากนั้น ก็มีรองเท้าแตะเวลาอยากออกไปเดินซื้อของ หรือเดินเล่นริม lake  และ รองเท้าผ้า แบบใส่เดินในบ้าน  เท่านี้เองที่จำเป็น  รองเท้า กันหิมะ ค่อยมาเลือกซื้อที่นี่จะมีคุณภาพและกันความหนาวเย็นได้ดีกว่า

-         ของใช้ส่วนตัว  กะ ให้พอใช้ได้ 2 อาทิตย์ แปรงฟัน ยาสีฟัน (อ้อ ใครชอบดอกบัวคู่ ให้ซื้อแบบหลอดใหญ่มาเลยค่ะ เพราะนานๆ ถึงจะมีมาขายซักทีนึง) เดนทอลฟลอส ครีมล้างหน้า เครื่องสำอางค์ ครีมทาผิว (ของที่อเมริกาดีกว่ามากมาย เนื้อครีมหนากว่า และราคาถูกด้วยค่ะ) สบู่ แชมพู ครีมนวดผม แว๊กซ์ ที่โกนหนวด aftershave หวี แหนบ กรรไกรตัดเล็บ (ใส่กระเป๋าที่จะโหลด) คอตตอนบัด (ไม้ปั่นหู - ถุงเล็กๆ) โรลออน ฯลฯ อย่างละขวดเล็กๆ เท่าที่จำเป็น  เพราะร้านขายของที่นี่ใหญ่โตมากๆ มีของให้เลือกเยอะแยะ ราคาก็ไม่แพงมากนัก  น้องผู้หญิงพวกผ้า อนามัย และแผ่นอนามัยขนมาได้เลยค่ะ น้องบางคนจะเก็บไว้แพ็คทีหลังสุด คือ ซุกตามช่องที่เหลือต่างๆ เพราะมันทั้งบางและเบา กันของกระแทกได้ดีเยี่ยมอีกด้วย  ^_^  อ้อ ถ้าใครชอบแป้งเย็น จะแพ็คติดมาซักขวดก็ดีค่ะ เพราะหาซื้อยากเหมือนกัน ส่วนน้องผู้ชาย ถ้าชอบคาดผมให้แพ็คที่คาดผมมาซักห้าหกอัน

 

-         ร่ม/ เสื้อกันฝน  ฝน ตกมาตั้งแต่เริ่มเข้า Spring คือ เดือนเมษาไปจนถึงเดือนตุลา แต่อาจไม่ตกทุกวัน ไม่ตกมากเหมือนเมืองไทยเรา  น่าจะมีที่ตก มากมากคือ เมื่อจะเข้า Fall  เดือนกันยา-ตุลา บางทีตกปรอยๆ ทั้งวัน เอาร่มพับได้เล็กๆ ติดไปซักคันก็พอค่ะ แต่ว่าถ้าลมแรงมากๆ ร่มอาจหัก หรือหลุดมือไปเลยก็มีค่ะ เพราะลมที่ชิคาโก windy city นี่ก็แรงใช่ย่อย

 

-         เสื้อแจ๊กเก็ตผ้าร่มแบบบาง (light jacket)/ เสื้อคอเต่าแขนยาว/ เสื้อถักไหมพรม ถ้าใครไปเมืองนอกหน้าร้อน ไม่ต้องติดไปเยอะนัก เปลืองที่ ของพวกนี้หาซื้อได้ง่าย สวยและราคาไม่ต่างจากที่คุณจะซื้อไปจากไทย  แต่ ถ้าจะไปหน้าหนาวเทอม Fall หรือ Spring ให้เอาไปเผื่อค่ะ หนาวที่ว่านี้ คือ หนาวมาก ใส่เสื้อผ้าสี่ห้าชั้น บางทีไม่พอ หนาวสาหัสจริงๆ แนะนำให้ตามไปอ่านเรื่อง ลอง จอห์น (Long John) และ สารพัน เครื่องกันหนาว ที่เขียนไว้แล้วอีกทีนึงค่ะ

-    ชุด ไทย ถ้าเป็นไปได้ มีที่เหลือพอ จะติดมาซักชุดก็ดีค่ะ เอาไว้ใส่ออกงาน เช่น งาน International night/fair  งานวันไทย (ที่ชิคาโกมีงานไทยเฟสติวัล (Thailand Festival) จัดขึ้นทุกปีที่ Daley Plaza ประมาณปลายเดือนมิถุนายน รัฐอื่น หรือประเทศอื่นอาจจัดเหมือนกัน) ใส่งานวัด หรือใส่ทำงาน (รำ ถ้ารำเป็น)

2.   ยา และคอนแท็คเลนส์ 

 

-         ยาแก้ไข้ แก้ปวด แก้ท้องเสีย แก้หวัด แก้แพ้ ยาประจำตัว ยาดม ยาหม่อง ยาแก้สิว ไม่ ต้องมาก ให้พอใช้ได้จนยาหมดอายุ ของพวกนี้ซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ ยกเว้นยาประจำตัวค่ะ

 

-         คอนแท็คเลนส์/แว่นตา  คอน แท็คเลนส์ จำเป็นมาก เอาไปเยอะๆ ต้องมีใบแพทย์ ซื้อยาก เห็นเพื่อนๆ สั่งให้ที่บ้านส่งมากันทั้งนั้น  ค่าส่งบางทีแพงกว่าค่าคอน แท็คอีก แต่ก็ต้องยอม เพราะมันจำเป็น  ส่วนน้ำยาล้างเลนส์ น้ำตาเทียม เอามาแค่อย่างละขวดก็พอค่ะ  เห็นว่า ราคาเท่ากับที่เมืองไทย และมีขายทั่วไป ถ้าชอบใส่แว่น อาจจะต้องตัดแว่นสำรองเพิ่มไปอีกอันนะคะ เผื่อทำหาย ทำหัก ถ้าจำเป็นก็อาจจะวัดใหม่ ตัดแว่นใหม่ไปเลยจะดีกว่า

-    ตรวจ ฟัน  ถ้าจะไปนานกว่าหนึ่งปี ควรไปตรวจสุขภาพฟันซะนะคะ ควรอุดฟัน ขูดหินปูน ผ่าฟันคุด ถอนฟันที่ปวด ให้เรียบร้อย เพราะค่าทำฟัน จะแพงมากๆ ค่ะ

3.  อุปกรณ์ เครื่องเขียน / คอมพิวเตอร์ / เครื่องใช้ไฟฟ้า / โทรศัพท์มือถือ

 

-         อุปกรณเครื่องเขียนทั่วไป  เช่น สมุดโน้ต ปากกา ปากกาไฮไล้ท์ ดินสอ ดินสอกด (ซื้อไส้มาเยอะๆ ค่ะ - อันนี้เบาๆ) Stapler (เครื่องเย็บกระดาษ - เอาอันเล็กๆ มา พร้อมไส้) ที่หนีบกระดาษ คลิบหนีบกระดาษ สก็อตเทป (ติดมาม้วนเล็กม้วนเดียวพอ) ยางลบ ไม้บรรทัด กรรไกร และคัทเตอร์ (ของมีคมต้องใส่ไว้ในกระเป๋าที่โหลดลงใต้เครื่องนะคะ) ฯลฯ ไม้ต้องขนมามาก เท่าที่จะต้องใช้ในสองอาทิตย์แรก  หนักเปล่าๆ

-     Talking Dictionary อันนี้ ถ้าใครมีอยู่แล้ว หรือ คิดว่าจะซื้อ แนะนำว่า มีประโยชน์มากค่ะ เพราะช่วยให้ทำรายงาน หรืออ่านหนังสือง่ายขึ้น และเร็วกว่าเปิดดิกแบบหนังสือ  ถ้าได้รุ่นที่ ออกเสียงภาษาอังกฤษได้ ก็ยิ่งดีเลยค่ะ จะช่วยให้เราออกเสียงถูกต้อง แรกๆ อาจจะขัดเขิน อยู่บ้าง แต่ถ้าพยายามดัดจริต ออกเสียงตามมันบ่อยๆ สำเนียงเราจะดีขึ้น (ฝรั่ง)ฟังเข้าใจ  แต่หากว่า หาซื้อไม่ทัน ก็ไม่เป็นไรนะคะ  เอาดิกอังกฤษ-ไทย, ไทย-อังกฤษ ไปด้วยจะดีมากค่ะ 

  -         อุปกรณ์คอมพิวเตอร์  ไม่ใช่ตัวเครื่องนะคะ  เท่าที่รวบรวมมาได้ก็คือ สติกเกอร์แป้นพิมพ์ภาษาไทย ซัก 2-3 แผ่น (เผื่อหลุดลอก - ชิคาโกขายแผ่นละ $5)  ซอฟแวร์โปรแกรมเถื่อน (ความจริงไม่ค่อยสนับสนุนนะคะ แต่ของจริงก็แพงมากๆ) ถ้าจะให้ดี ที่คนแนะนำกันมาก็คือ ก๊อปใหม่แล้วเขียนเลขไว้ แล้วจดแยกต่างหากว่าแต่ละแผ่นคือ โปรแกรมอะไร --- โดยปกติ ถ้าไม่โดนตรวจกระเป๋า ก็ไม่มีอะไร เอาเข้าได้ค่ะ  แต่ถ้ากลัวก็ไม่ควรแพ็คไปแบบโต้งๆ ก็แยกซีดี แยกปก ก็แค่นั้น เพือนๆ ที่ชิคาโกเท่าที่เห็นก็ เอารวมๆเข้ามากับแผ่น mp3 เพลงไทยเป็นสิบแผ่น โดนเปิดตรวจด้วย ก็ไม่เห็นเค้าว่าอะไรนะคะ แต่ตอนนี้เข้มงวดมากขึ้น ระวังตัวไว้หน่อยจะดีกว่าค่ะ --- อ้อ เห็นส่วนใหญ่จะแนะนำให้ถ่ายรูปครอบครัวเก็บไว้ใน CD เอาไว้เปิดดูยามคิดถึง

-    เครื่อง ใช้ไฟฟ้า  เครื่องเล่น CD MP3 เครื่องอัดเสียงดิจิตอล (หรือเทป) ไดร์เป่าผม (ถ้าขาดมันไม่ได้) แต่ว่าไฟจะไม่เท่ากันนะคะ กล้องดิจิตอล (ถ้ามีอยู่แล้ว) นาฬิกาปลุก หัวแปลงปลั๊กไฟ (adapter) เครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างทางเอเชียจะถูกกว่า อย่างที่ผลิตในจีน แล้วมีให้เลือกมากกว่า ทางอเมริกาจะมีขายเฉพาะแบรนด์ดังๆ มีแบบและรุ่นให้เลือกน้อย  

-   โทรศัพท์ มือถือ รายละเอียดอ่านได้ในเรื่อง ซื้อมือถือใช้ได้ทั่วโลกนะคะ ให้แน่ใจว่าเครื่องเค้าปลดล็อคไว้แล้ว

4.   อาหาร

-         ผงปรุงอาหาร  เช่น ยี่ห้อโลโบ เอาไปใส่อาหารให้ได้รสชาดที่เราต้องการค่ะ  ชอบ อาหารประเภทไหนก็ซื้อแบบนั้ัน เอาไปพอประมาณก็พอ  โดยปกติ ถ้าเป็นเมืองใหญ่ อย่างชิคาโก นิวยอร์ค แอลเอ ซานฟราน ฯลฯ มักจะมีร้านขายของไทย (Thai Grocery) หรือร้านขายของเอเชีย (Oriental Grocery) อยู่แล้ว  บางรัฐใน Walmart  หรือ ร้านขายของของพวกเม็กซิกัน ก็จะมีเครื่องเทศ ของชำที่คล้ายกับบ้านเราขาย ในราคาที่ไม่แพงด้วย  ชาวชิคาโกดูรายชื่อร้านขายของชำไทยได้ ที่ นี่ ค่ะ

 

 

-         มาม่า  ต้อง เอาไปเยอะมั๊ย  ก็ถ้าชอบมากก็เอาไปซักโหล  แต่ก็ ไม่จำเป็นค่ะ เพราะมีขายตามร้านฝรั่งด้วย ซองละ 10 เซ็น ต์ เอง มาม่าที่ขายร้านไทยหรือเวียดนาม ราคาห่อละ 25 เซ็น ต์ขึ้นไป  ถ้ามีคนพาไปควรจะซื้อทั้งกล่องนะคะ มี 24 ห่อ แล้วราคาประมาณ $5-6 หรืออาจจะมากกว่านิดหน่อยแล้วแต่ยี่ห้อและรส  อยู่ชิคาโก (หรือเมืองใหญ่) จะดีอย่างนึงตรงที่ มีมาม่าให้เลือกจากทุกชาติ เกาหลี ญี่ปุ่่น เวียดนาม  ควรจะ ลองซื้อเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ ลองอะไรใหม่ๆ สนุกตื่นเต้นดีออก  มา ม่าเกาหลีและญี่ปุ่นห่อจะใหญ่มาก บางทีเผ็ดมากกว่าของไทยเราด้วย อร่อยดีค่ะ

-    อาหารกระป๋อง/โจ๊ก ซอง ถ้าชอบ ติดมาก ยังไงต้องมี ก็เอาไปได้ค่ะ แต่ก็อย่างที่บอก มีขาย และราคาก็ไม่แพงมากด้วย แต่โจ๊กซองนี่ ควรติดมาด้วยเลยค่ะ เก็บได้นานด้วย

-   ชิคาโกและเมืองใหญ่อื่นๆ มีอาหารไทยเกือบทุกอย่างขายนะคะ แต่ถ้าอยากแพ็คอาหารบางอย่างมา (เช่น เครื่องแกง ปลาสลิดทอด ฯลฯ)  ขอแนะนำว่า ให้ใส่ถุงพลาสติคใส มัดสองชั้น แล้วใส่มาในกระป๋องคุ้กกี้ ปิดเทปกาวใสรอบฝาให้เหมือนเดิม (กันกลิ่นออกด้วย)  เพราะโดยปกติแล้ว อาหารที่สามารถนำเข้าได้ จะต้องมีสลากเขียนเป็นภาษาอังกฤษชัดเจนค่ะ ห้ามอาหารประเภทของสด หมู ไก่ (เค้ากลัวเรื่องไข้หวัดนก) ห้ามนำเข้าผลไม้ เมล็ดผลไม้ ซึ่งการห้ามนำเข้าคงเข้มงวดน้อยกว่าออสเตรเลีย  อื่นๆ เช่น พวกน้ำปลา ซ้อสต่างๆ แพ็คมาได้จ้า ขวดเล็กๆ ใส่ถุงพลาสติกมาหลายๆชั้น ห่อดีๆ ระวังขวดแตก อิ อิ อิ อายเค้า

 

5. ของฝาก/ของชำร่วย

เน้นของไทย เบาๆ ลักษณะปกติจะแพ็คง่าย  เช่น ที่คั่นหนังสือ, เครื่องถักจักสานเบา, กระเป๋าผ้าไหม, เน็คไทลายไทยๆ, แสตมป์, เหรียญไทย, โปสการ์ดไทยสวยๆ, ชุดรองจาน-แก้ว, พัด, เครื่องเงิน เช่น สร้อยคอ กำไล แหวน ฯลฯ


หมดแล้วยังน้อ มีอะไรอีกมั๊ยคะ ช่วยคิดหน่อยจ้า

อ่านต่อเรื่อง การ แพ็คกระเป๋าตอนสอง จ้า

ปล. กระทู้นี้ดี อยากให้ คลิกอ่าน ค่ะ

อย่าลืมซื้อหนังสือ "สุดยอดคัมภีร์เรียนต่ออเมริกา" (Studying in USA) ที่รวมข้อมูลการเตรียมตัวไปอเมริกาอย่างละเอียด รวมทั้งเรื่องของการจัดกระเป๋าด้วย (วิธีการซื้อกระเป๋า น้ำหนักกระเป๋าตามที่สายการบินกำหนด การจัดของ วิธีการต่อเครื่องบิน และเรื่องอื่นๆ)  หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือ B2S, Se-ed, ศูนย์หนังสือจุฬา และร้านอื่นๆ ในราคา 185 บาท จ้า

เล่มสอง "สารพัด วิธีเอาตัวรอดในอเมริกา" ใกล้จะออกวางจำหน่ายแล้วค่ะ ^^

หมายเลขบันทึก: 352732เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2010 09:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 01:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท