ครั้งหนึ่งฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับหญิงสูงวัยชาวจีนอายุ ๗๕ ปี ท่านเป็นโสดแถมยังมีพี่น้องรวม ๑๖ คนเพราะพ่อมีภรรยา ๓ คน ใคร ๆ ต่างเรียกท่านว่า "เจ้ขาหลี"
ท่านเล่าว่า ท่านได้ดูแลพ่อซึ่งเป็นอัมพาต ๔ ปี แม่อีก ๖ ปี สุดท้ายก็พี่สาวคนโตอีก ๖ ปี โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก และดูแลอย่างดีจนทุกคนจากไป บัดนี้พี่น้องจากไปหมด เหลือท่านเพียงคนเดียว แต่ยังโชคดีที่มีหลาน ๆ คอยดูแลเอาใจใส่
ก่อนหน้านี้ท่านประกอบอาชีพค้าขาย จนมีรายได้เป็นกอบเป็นกำหลายล้านบาท แล้วยังขายที่ดินจึงทำให้มีฐานะพอสมควร เมื่ออายุมากขึ้นอยู่ลำพังคนเดียวเกรงว่าเจ็บป่วยไม่สบายจะลำบาก จึงตัดสินใจไปอยู่กับหลานสาวที่กรุงเทพฯ เพราะหลานสาวสองคนนี้คอยดูแลเอาใจใส่ให้เงินใช้ทุกเดือน
เจ้ขาหลีนั่งคนที่สามนับจากซ้าย
เมื่อเห็นหลานสาวยังต้องเช่าบ้านอยู่ ท่านก็ขายบ้านที่อยู่ปัจจุบันในราคาหนึ่งล้านเจ็ดแสนบาท แล้วนำเงินทั้งหมดให้หลานสาวไปซื้อบ้าน แถมยังซื้อรถเก๋งคันใหม่ให้อีกหนึ่งคัน เพราะทนไม่ได้ที่เห็นหลานยังลำบากไม่มีบ้านอยู่แถมยังต้องขับรถเก่า ๆ
ก่อนที่ท่านจะย้ายไปอยู่กรุงเทพ ฯ ท่านได้คัดเลือกเพื่อน ๆ ที่ถูกใจซึ่งอยู่ชมรมออกกำลังกาย "ขยับกายสบายชีวี" รวมเก้าคน แล้วพาไปเที่ยวภูหินร่องกล้า ภูเบิกฟ้า นมัสการพระพุทธชินราช โดยมีเงื่อนไขคนที่ไปห้ามออกเงินค่าใช้จ่าย ใด ๆ ทั้งสิ้นแม้แต่บาทเดียว
พี่สาวซึ่งเป็นครูสอนรำไทเก๊กให้ผู้สูงวัยฟรี ท่านก็ชวนไปด้วย และฉันก็พลอยโชคดีที่มีโอกาสได้ไปเพราะมีที่ว่างให้อีกหนึ่งที่
การได้ใกล้ชิดเจ้ขาหลี ทำให้เห็นความสุขของผู้สูงวัยที่มีจิตใจงดงามชอบทำบุญ สวดมนต์ ออกกำลังกาย อ่อนน้อมถ่อมตน ใครทำอะไรให้ก็จะให้ศีลให้พรเสมอ เป็นคนทันสมัย รู้เรื่องการเมืองทุกอย่าง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา เดินเหินคล่องแคล่ว ไม่เป็นภาระของใคร
ครั้งสุดท้ายก่อนที่ท่านจะไปกรุงเทพ ฯ ในวันที่ ๑๘ เมษายน พี่สาวได้ชวนฉันไปเยี่ยมซื้อข้าวต้มปลาไปฝากในตอนเย็น ไปถึงท่านบอกว่า
"ทานข้าวแล้ว" ยกมือไหว้ขอบคุณและขอโทษบอกว่าให้นำไปให้ที่บ้านทานกันเถอะท่านอิ่มแล้ว ของกินมากมาย ทีหลังไม่ต้องเอาอะไรมาให้นะ
จากนั้นก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย เรื่องที่ฉันประทับใจมากที่สุดก็คือ ท่านบอกว่า มีเพื่อนคนหนึ่งที่ท่านรู้จักและไม่ชอบนิสัยหนึ่งคน ครั้งหนึ่งเคยไปเที่ยวด้วยกันแล้วคนแก่เขาทำอาหารเลี้ยง แต่บังเอิญหุงข้าวดิบ แล้วเพื่อนก็นำข้าวไปทิ้ง
แถมยังบ่นว่า "ข้าวก็ดิบ" ท่านโกรธมากรีบโต้ตอบทันที
"มึงรูดซิปปากมึงเลยนะ เขาเอามาให้มึงกินก็บุญแล้ว กินก็กินฟรี แล้วยังมาบ่นอีก เขาหุงข้าวดิบเขาก็อายพออยู่แล้ว เขาตั้งใจหุงข้าวดิบให้มึงกินหรือ ? แล้วอย่าเที่ยวเอาไปเล่าให้ใครฟังอีกนะ "
ฟังแล้วก็รู้สึกชื่นชมในหัวใจสีขาวของเจ้ขาหลี คิดดี พูดดี สังคมย่อมดี ทุกวันนี้มีแต่คนคิดถึงแต่ตัวเองไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น ยึดแต่ตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง จะมีสักกี่คนที่คำนึงถึงหัวใจผู้อื่นเหมือนเจ้ขาหลี...
มึงรูดซิปปากมึงเลยนะ เขาเอามาให้มึงกินก็บุญแล้ว กินก็กินฟรี แล้วยังมาบ่นอีก เขาหุงข้าวดิบเขาก็อายพออยู่แล้ว เขาตั้งใจหุงดิบให้มึงกินหรือ ? "
เจ๊ขาหลี เป็น เจ้าแม่ Positive thingink ได้เลยครับ
ขออนุญาตเข้ามาแก้ไขครับ Positive thinking
คำพูดท่านดุดันดีนะครับ
แต่ก็รักษาน้ำใจของผู้ให้อย่างดีเยี่ยม
แวะมาเยี่ยมครับ...
ท่านมีสิ่งดีดี มาพูดให้คนที่เขาตั้งใจทำความดี มีกำลังใจ
ผู้รับ..ควรนึกถึงน้ำใจของเขาบ้าง สมควรโดนดุ
รัก "เจ้ขาหลี" เพิ่มอีกคน คนให้ย่อมมีสุข
ขอบคุณประสบการณ์ดีดีที่นำมาแบ่งปันค่ะ
สวัสดีค่ะครูพี่วราภรณ์
อ่านแล้วได้อมยิ้ม แหมอยากจะเข้าก๊วนเป็นพี่น้องพี่เจ๊ขาหลีด้วยจังค่ะ
คงได้อมยิ้ม หัว ฮา ได้ทุกวี่วันเลยนะคะ ;) มาสารภาพแบบไม่อายว่า
หลงเสน่ห์ท่านสว. ทั้งหลายๆ ชื่นชมกับแรงกาย ใจ และการใช้ชีวิตค่ะ
มีความสุขนะคะครูพี่ ส่งใจไปรำมวยจีน ทุกเช้าตรู่ๆ ด้วยคนค่ะ ;)
สวัสดีครับคุณครู วรางภรณ์
ขอบคุณเรื่องดีๆที่คิดดี
เป็นกำลังใจให้คนที่ตั้งใจทำงานครับ
มาอ่านเรื่องราวของสาวหัวใจงาม...มองโลกในแง่ดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
ชอบมากๆ ค่ะ เจ้ขาหลี คิดคด ทำดี มีน้ำใจงดงาม และที่ชอบเป็นพิเศษ ก็ตรงที่เจ้ใจถึง ลุยๆ ดีจัง ใจนักเลงดี ค่ะ ฮาดี...
มึงรูดซิปปากมึงเลยนะ เขาเอามาให้มึงกินก็บุญแล้ว กินก็กินฟรี แล้วยังมาบ่นอีก เขาหุงข้าวดิบเขาก็อายพออยู่แล้ว เขาตั้งใจหุงดิบให้มึงกินหรือ ? "
ขอบคุณมากค่ะ
"แก่อย่างมีคุณค่า"..ย่อมนำความสุขมาสู่ตนและผู้อื่นนะคะ..
พี่ใหญ่นำภาพ SCB ชวนน้องเที่ยวทะเลมาฝากให้ชมคลายร้อนค่ะ..
ชื่นชมเจ๊จริงๆ
อยากให้มีคนอย่างเจ๊เยอะๆ
สวัสดีค่ะอ.ธรรมทิพย์
อ่านเรื่องของ เจ้ขาหลี ด้วยความชื่นชมและเคารพในน้ำใจของท่านค่ะ
คนดี ๆ เช่นนี้ในสังคมยังมีอยู่มากมาย เราโชคดีที่ได้พบท่าน ได้เรียนรู้ ได้เห็นกับตัวอย่างดี ๆ ....
ขอบคุณมากค่ะกับบันทึกดี ๆ
(^___^)
เจ๊ขาหลี น่ารักมากนะคะ เป็นห่วงเป็นใยทุกคน หากพบผู้ใหญ่อย่างนี้มากๆเราคงมีความสุข สบายใจ ฯ ขอบคุณเรื่องราวที่ประทับใจนะคะ อ่านแล้วคิดถึงคุณยายของเด็กๆค่ะ
นนทรี
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านเรื่องราวในบันทึกนี้ค่ะ
ขอบคุณนะคะ
เห็นบันทึกแล้วยิ้มออก
มาเยี่ยมเพราะระลึกถึงค่ะ
*** บันทึกนี้ ขอเก็บไปชยายผลต่อนะคะ ธรรมทิพย์ ขอบคุณค่ะ
มาชม
คนจีนพูดจาโผงผาง กวน ๆ แต่ หยวน ๆ สนุก ๆ อ่านแล้วมีแง่คิดดีนะครับ
แวะมาสนับสนุน เจ้ขาหลี (ได้ใจจริงๆ) ค่ะ
เรื่องคนคิดดี....เป็นเรื่องที่ดี
อ่านแล้วก็ต้องย้อนมามองสันดานตนเองไว้บ้าง
ที่ว่า...มองสันดาน...แปลว่า...
ให้มองอะไรที่มันแก้ไม่ได้นั่นแหละ...
หลายอย่างมันฝังในใจคนมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ....
ศัพท์นี้จึงบอกเหตุว่า.....คนดี...ดีมาตั้งแต่ยังไม่เกิด
คนชั่ว....ก็ชั่วตั้งแต่ยังไม่เกิด
ทีนี้เรามารู้ว่า...สันดานแก้ไม่ได้....ต้องมามองว่าแก้ไม่ได้จริงๆหรือ
คนรับของฟรี...ยังไปด่าคนให้....นี่เป็นสันดานไม่ดี
ความจริง....เรื่องราวทั้งหลายที่มากระทบคนเรา
ปกติของมันก็เป็นกลางๆ....แต่พอมากระทบใจแล้ว
มันกลายเป็นว่า....ไปสะกิดสันดานคนให้ฟุ้งขึ้นมา
เห็นคนคิดดี....นึกว่าเวลาใกล้ตาย....ก็มีแต่กุศลจิตที่เกิดได้
คนคิดชั่ว.....ตอนใกล้ตาย....คิดดีไม่เป็น...คิดชั่วแบบอัตโนมัตฺ
ทีนี้ก็ได้เรื่อง.....เพราะอกุศลจิตย่อมนำไปนรก
ความน่ากลัวของการคิดชั่วจึงเหมือนกันผูกตนเองไว้กับนรก
พระท่านเรียกว่า "โยคะ"......แปลว่าเครื่องผูก
เราคิดชั่วบ่อยๆ....ก็เหมือนผูกเชือกตนเองไว้กับนรก
มีหลายๆเส้นเข้า..มันก็ง่ายที่จะดึงไปในนรก
แต่ปกติเวลาใกล้ตาย....เชือกดี กับ เชือกชั่ว.....จะทำหน้าที่
ฝ่ายไหนมีแรง......ก็ลากไป
พระท่านจึงสอนว่า...ให้ทำดีบ่อยๆไว้
ตัวอย่างของคนคิดดี.....เขาก็ร่ำรวย มีความสุข
คนเรามีความตายรออยู่ข้างหน้า....คิดกันบ้างหรือไม่ว่า...
หลังจากตายแล้ว.....จะเอาอะไรเป็นเพื่อนดีๆ
คำตอบเรื่องนี้ก็คือ.....บุญกุศลจะเป็นเพื่อนเดินทางไปในภพหน้า
คิดได้ก็เตรียมเสบียงไว้ให้ดี
เรื่องจริงของเจ้ขาหลี....เป็นตัวอย่างที่ดี
อ่านแล้ว...ได้แต่ขอบคุณคนส่งข่าว
อ่านแล้ว.....ก็พยายามระงับความคิดร้ายลงไปบ้างก็ดี
ส่งความเห็นมารุงรังกระทู้สักนิดว่า...ข้าพเจ้าเห็นแบบนี้
ไม่อยากให้สิ่งดีๆ...เลือนหายไป
คนจะไปเป็นเทพธิดา.....เป็นตั้งแต่ยังไม่ตาย
คนอย่างนี้แหละ...เรียกว่า คนงาม
มาอ่านคห. เพิ่มเติมประทับใจเรื่องเจ๊ขาหลีมากๆ ค่ะครูพี่
เป็นตัวของตัวเองที่ยังช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเข้าถึง เข้าใจ
ทักทายก่อนเที่ยง อิ่มเอาแรงไว้ปั่นแรง สุขส้นต์วันดีอีกวันนะคะ
ดูแลอย่างดีจนทุกคนจากไป
ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ หัวใจสีขาวอันงดงาม
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะท่านอาจารย์ธรรมทิพย์
ชอบรูปถ่ายมากเลย..ดูสนุกดีค่ะ เจ้ขาหลี ท่านน่ารัก ดูๆไปป้าเหมียวก็นึกถึงแม่ป้าเหมียว ก็ขาโจ๋มากเหมือนกัน ความแก่ทำอะไร แกไม่ได้เลย สนุกสนาน ร่าเริง สุขภาพแข็งแรง ถึงแม้จะไม่มีเงินเยอะเหมือนเจ้ขาหลี อิอิ.. ป้าเหมียวหนุนใจอยากให้ทุกคนเริ่มต้นคิดดี เพื่อปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ให้เติบโตเป็นการกระทำที่ดี ทำดีบ่อยๆ ก็จะเป็นนิสัยที่ดี นิสัยดีดี ก็ทำให้มีคุณลักษณะที่ดี คุณลักษณะที่ดี ก็กลายเป็นวิถีชีวิตที่ดี....ป้าเหมียวพูดจริงไม๊ค่ะท่านอาจารย์ธรรมทิพย์..
มาเยี่ยม มาให้กำลังใจ
ขอบคุณสำหรับการ contact สม่ำเสมอ
ระลึกถึงค่ะ
ประทับใจเจ๋ขาหลีมากค่ะ ดูน่ารักนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
ชื่นชมดวงใจสีขาวของเจ๊หลีจังค่ะ
เห็นด้วยกับอาจารย์ umi ค่ะ คำพูดกวนๆ แต่อ่านแล้วได้แง่คิดค่ะ
เจ้ขาหลี เป็นตัวอย่างปูชนียบุคคล ที่พูดดี ทำดี และก็คิดดี แล้วก็มีความสุข ไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เพราะความดีทั้งหลาย ที่สะสมมาคะ
-ไม่ได้เข้ามาเยี่ยมน้องครู วราภรณ์ ธรรมทิพย์ มากมายเลยคะ แต่พี่สุมาสดุดใจตรงที่ น้งครูก็ไปร่วมกลุ่ม ซึ่งเป็นคนสูงอายุ พี่สุคิดว่า พี่สุควรจะเป็นน้องครูวราภรณ์ ธรรมทิพย์ซะแล้วกระมัง ไม่เป็นไร การคบกัน ไม่มีเงื่อนไขคะ ถ้ามีอายุมากกว่าพี่สุ พี่สุก็ต้องกราบขออภัย ที่ได้ล่วงเกินทางวาจา ด้วยคิดว่าเป็นรุ่นน้อง (พี่สุไม่คิดมากนะคะ)
-แต่ยังไงก็ตาม เป็นพี่สุเหมือนเดิมแหละคะ เพราะตอนนี้ ก็ยังไม่รู้เลยว่า ใครอายุมากกว่าใคร อิอิ
ชีวิตคนเรา ก็เปรียบเหมือนแสงเทียน มีอยู่อย่าง จะโชติช่วง หรือลิบหรี่ ก็ขออย่าประมาทต่อการใช้ชีวิต ให้คิดดี ทำดี ถึงแม้แท่งเทียนจะสั้น รอวันดับ แต่ก็มั่นคงคะ
วันนี้มีเวลาว่างเยอะหน่อยค่ะ
คิดถึงจึงมาเยี่ยมค่ะครูธรรมทิพย์
สวัสดีค่ะคุณครูธรรมทิพย์
มาส่งรอยยิ้มและความปรารถนาดีต่อกัน
ขอให้มีความสุขและพบกับสิ่งดีๆ ตลอดๆไปนะคะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับ..
อ่านเรื่องราวของคนดี ที่ถ่ายทอดแล้วมีกำลังใจขึ้นแยะ..
ขอบคุณครับ