สิ่งที่ควรรู้เมื่อทำธุรกิจ กับ เพศแม่ !
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ตอนอ่านหนังสือได้เจอหัวข้อน่าสนใจเรื่องนี้เข้าค่ะ
ปัจจัยต่างๆที่ลูกค้าผู้หญิงให้ความสนใจก่อนที่พวกเธอจะตัดสินใจซื้อสินค้า ก็เลยหยิบยกบางเรื่องในหนังสือมาแบ่งปันค่ะ
#ผู้หญิงจะประเมินพนักงานขายเป็นอย่างดี
เช่นเดียวกันกับสินค้าหรือบริการที่เธอจะซื้อ
สิ่งแรกที่ควรจำไว้นั่นคือผู้หญิงจะพินิจพิจารณาว่าพนักงานขายคนนั้นเป็น "คนดี" หรือไม่ และพนักงานคนนั้นสมควรที่จะได้รับเงินจากเธอไหม ยิ่งกับของที่มีราคาสูงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้พวกผู้หญิงส่วนใหญ่อยากจะซื้อของจากคนที่เธอรู้สึกเชื่อใจได้มากเท่านั้น
#ผู้หญิงเวลาซื้อของมักจะนึกถึงผู้อื่นที่เธอรู้จัก
เวลาผู้หญิงซื้อของพวกเธอจะคิดถึงประโยชน์ที่จะได้จากสิ่งของที่เธอซื้อเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นๆเช่น คนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน สิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อของพวกเธอคือ สิ่งนั้นมีผลประโยชน์อย่างไรกับคนอื่นๆรอบตัวเธอได้บ้าง
ตัวอย่างเช่น มี นักศึกษาผู้หญิงคนหนึ่งเธอกำลังมองหา E-Dict. หรือเครื่องแปลคำศัพท์แบบอิเล็คโทรนิค ที่สามารถแปลคำศัพท์ภาษา อังกฤษ,ไทย และจีน
ซึ่งจริงๆแล้วเธอต้องการใช้จริงๆแค่ในส่วนของภาษา อังกฤษ <--> ไทย แต่ที่เธอซื้อแบบที่มีภาษาจีนด้วยนั้นก็เพราะว่าเธอมีญาติเป็นคนจีนอยู่ที่ประเทศจีน
และ ถึงแม้ความจริงคือญาติคนนี้ในระยะเวลา 5-6 ปีจะแวะมาเยี่ยมครอบครัวเธอ 1-2 ครั้ง เท่านั้นเอง แต่เธอก็ยังคำนึงถึงญาติคนนั้น ตอนเธอซื้อเครื่อง E-Dict. เพื่อว่าตอนที่ญาติเธอมาเมืองไทยเธอจะได้ให้เขายืมใช้ดิกชันนารีได้
#ผู้หญิงสนใจว่า สินค้านั้นจะทำ "อะไร"
ให้เธอได้บ้าง มากกว่าสเปคของสินค้านั้นๆ
ผู้หญิงส่วนใหญ่ สนใจ "อะไร" มากกว่า "ทำไม" ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ชายที่จะสนใจเรื่อง "ทำไม" "อย่างไร" "แบบไหน" มากกว่า "อะไร" เช่นผู้ชายจะให้ความสนใจว่าของสิ่งนั้นทำงานได้อย่างไร สเปคเป็นแบบไหน?
เวลาผู้หญิงซื้อของพวกเธอจะคิดถึงประโยชน์ที่จะได้จากสิ่งของที่เธอซื้อเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นๆเช่น คนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน สิ่งสำคัญในการตัดสินใจซื้อของพวกเธอคือ สิ่งนั้นมีผลประโยชน์อย่างไรกับคนอื่นๆรอบตัวเธอได้บ้าง
ซึ่งจริงๆแล้วเธอต้องการใช้จริงๆแค่ในส่วนของภาษา อังกฤษ <--> ไทย แต่ที่เธอซื้อแบบที่มีภาษาจีนด้วยนั้นก็เพราะว่าเธอมีญาติเป็นคนจีนอยู่ที่ประเทศจีน
และ ถึงแม้ความจริงคือญาติคนนี้ในระยะเวลา 5-6 ปีจะแวะมาเยี่ยมครอบครัวเธอ 1-2 ครั้ง เท่านั้นเอง แต่เธอก็ยังคำนึงถึงญาติคนนั้น ตอนเธอซื้อเครื่อง E-Dict. เพื่อว่าตอนที่ญาติเธอมาเมืองไทยเธอจะได้ให้เขายืมใช้ดิกชันนารีได้
ผู้หญิงส่วนใหญ่ สนใจ "อะไร" มากกว่า "ทำไม" ซึ่งตรงกันข้ามกับผู้ชายที่จะสนใจเรื่อง "ทำไม" "อย่างไร" "แบบไหน" มากกว่า "อะไร" เช่นผู้ชายจะให้ความสนใจว่าของสิ่งนั้นทำงานได้อย่างไร สเปคเป็นแบบไหน?
ตัวอย่างเช่น ตอนที่มีผู้หญิงคนหนึ่งไปซื้อ Notebook สิ่งที่พวกเธอสนใจส่วนใหญ่ก็คือ Notebook เครื่องนั้นสามารถทำอะไรให้เธอได้บ้าง เล่น Internet ได้ไหม ถ่ายรูปชัดหรือเปล่า มีเกมส์ให้เล่นหรือไม่ ... etc. มากกว่าจะอยากรู้ว่า Notebook รุ่นนี้ใช้ CPU รุ่นไหน การ์ดจอรุ่นอะไร Ram ยี่ห้ออะไร ความเร็วเท่าไหร่ หรือ HD มีความจุมากน้อยเพียงใด?
เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่ ตัวอย่างบางเรื่องที่ผู้หญิงให้ความสนใจ เวลาเธอต้องการซื้อสินค้าหรือใช้บริการค่ะ ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกหลายอย่างที่ผู้หญิงต้องการ ลูกค้าส่วนใหญ่ของหลายๆธุรกิจบนโลกนี้คือผู้หญิงแน่นอนค่ะ ฉะนั้นคุณต้องเข้าใจพวกเธอก่อน เพื่อที่จะได้ขายของให้พวกเธอได้ยังไงล่ะคะ!
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ Why She Buys ค่ะ
ความเห็น (7)
สินค้าจะขายดีกลุ่มลูกค้าจะเป็นสตรีกับเด็ก ส่วนผู้ชายก็เป็นผู้หญิงจัดหาให้เพราะเขาเป็นเจ้าของเงิน
จริงๆครับ เพื่อนสาวผมหลายคน เค้ามักจะดูที่พนักงานขายสินค้าก่อนเป็นอันดันดับแรก
ถ้าร้านไหน พนักงานยิ้มแย้มสดใส จริงใจ เท่านี้ก็ได้ใจผู้หญิงแล้วครับ
แล้วก็มีหลายครั้งด้วย ที่ผมเห็นเพื่อนสาวของผม ซื้อสินค้าเพราะว่า ชอบคนขายครับ
ตอนแรกก็แปลกใจ แต่เดี๋ยวนี้ชินแล้วครับ ^^
น่าสนใจดีคะ เผื่อจะได้เป็นนักขายบ้าง
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
ปัจจุบันพนักงานขายไม่ใช่แค่ขายของอย่างเดียว แต่ยังเป็นหน้าเป็นตาสะท้อนถึงสินค้าของแบรนด์นั้นๆค่ะด้วย
ฉะนั้นจึงต้องพึงระวังให้ดีด้วยค่ะ เพราะถ้าผู้หญิงได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีจากพนักงานขายสินค้ายี่ห้อนั้น พวกเธอไม่อยู่เฉยๆแน่นอนค่ะ แต่จะบอกต่อๆๆๆ พลังการบอกต่อของพวกผู้หญิงนั้นน่ากลัวค่ะ 1:27 อาจจะกลายเป็นว่า คนเพียงคนเดียว ทำให้เกิดความเสียหายได้ในวงกว้างเลยล่ะค่ะ
โดนมากเลยคุณอร อ่านละถูกใจมากเลย ขอบคุณที่หาเรื่องดีๆมาให้อ่านครับ
คงไม่ใช่ทีเดียวนะคะ
ตัวสินค้าหากได้ตั้งใจซื้อ ผู้ขายไม่สำคัญเท่าตัวสินค้านะคะ
ผู้ขายแค่องค์ประกอบคะ
ปกติก่อนมาเป็นพนักงานขาย เจ้าของห้างเขาก็คัดกรองชั้นหนึ่งแล้วนะคะ
ลลปร คะ
ขอบคุณ ทุกท่านที่แวะมาค่ะ
คุณ gannigar เห็นด้วยค่ะบางทีก็มีคนที่ตั้งใจไปซื้อสินค้าแบบไม่ได้สนใจพนักงานขายเท่าไหร่ เพราะว่าเขาต้องการสินค้านั้นจริงๆ หรือ ณ ตอนนั้น เขามีความต้องการ และความจำเป็นที่ต้องซื้อสินค้ามากๆ และส่วนใหญ่สินค้านั้นๆ ไม่ได้มีมูลค่ามากมายอะไรที่ต้องใส่ใจเท่าไหร่ เช่นเวลาเราปวดท้องกะทันหัน เราจะไปซื้อยาร้านใกล้ที่สุด ไม่ได้สนใจคนขาย เพราะเราต้องการยานั้นจริงๆ
แต่สำหรับสินค้าที่ยิ่งมีมูลค่ามาก คุณค่ามาก พนักงานขายก็ยิ่งสำคัญมากเช่นกันค่ะ เช่นเวลาคุณตัดสินใจซื้อบ้าน รถ ทีวี ตู้เย็น
เคยมีเคสตัวอย่างเกิดขึ้นค่ะ เวลาคุณตัดสินใจจะซื้อรถสักคัน หรือตั้งใจจะซื้อรถ เนี่ยคุณจะซื้อกับร้านที่ไม่สนใจบริการคุณเลย เพราะว่าคุณตั้งใจจะซื้อรถรุ่นนั้นหรือเปล่าคะ คำตอบคงไม่ใช่ เพราะคุณมีทางเลือกตัวเลือกมากมาย รถยี่ห้อเดียวกัน มีดีลเลอร์อยู่ หลายแห่งไม่จำเป็นต้องซื้อกับที่ๆไม่เต็มใจบริการคุณเลยค่ะ บางคนถึงกลับยอมไปซื้อกับร้านข้ามจังหวัดเลยก็มีเพราะว่าร้านในจังหวัดที่มีอยู่นั้นบริการไม่ได้ใจเธอนั่นเองค่ะ