เย็นวันหนึ่งขณะนั่งดูโทรทัศน์กับลูกสาวระหว่างนั้นมีละครพอดี จู่ๆเธอก็ถามผมว่า...
"ปะป๋า ทำไมผู้ชายถึงชอบผู้หญิงหล่ะ?"
ทำเอาผมอึ้งกิมกี่ ไปเลยเพราะไม่รู้ว่าจะหาคำง่ายๆว่าอย่างไรดีมาอธิบายให้เธอเข้าใจได้
เดี๋ยวนี้ผมมักจะโดนลูกสาวถามด้วยคำถามที่หาคำตอบมาให้เธอทันทีไม่ได้ เลยต้องคอยทำการบ้าน ต้องหาคำตอบมาให้เธอภายหลัง และต้องเป็นคำตอบที่เด็กอายุ 4 ขวบพอจะเข้าใจได้ ตัวอย่างคำถามที่เพิ่งเจอมาครับ
"จักรวาล คืออะไรเหรอปะป๋า?"
"คนทุกคน ต้องตายหมดเลยใช่ใหมปะป๋า?"
แต่สิ่งที่ผมสัมผัสได้ขณะที่คำถามเหล่านี้ ออกมาจากปากของเธอ มันดูเป็นธรรมชาติ
มันดูเป็นเรื่องใหม่ในชีวิตของเธอ เธอเลยมีท่าทีสนใจและแสดงออกด้วยการตั้งคำถามแบบง่ายๆ สัญชาติญาณของเด็กน่าสนใจตรงที่ว่า "เขารู้ว่า เขาไม่รู้อะไร" ตรงนี้สัญชาติญาณเขาจับได้เร็ว แต่กลับแปลกว่าทำไมคนที่เป็นผู้ใหญ่อย่างผม สัญชาติญานตรงนี้มันด้อยไป
ตอนนี้สิ่งหนึ่ง ที่ผมต้องเก็บเป็นการบ้านอีกอย่างก็คือ ทำอย่างไร จึงจะทำให้สามารถรักษาพฤติกรรมการตั้งคำถามของลูกสาวผม มีติดตัวเธอไปนานๆ เพราะด้วยประสบการณ์ของตัวเองเมื่อเรียนหนังสือ มักจะไม่ค่อยกล้าถามครู ด้วยกลัวครูจะดุบ้างหละ หรือหลายครั้งฟังครูพูดอย่างเดียว แล้วไม่รู้ว่าจะถามอะไร ทั้งๆที่ครูบาอาจารย์ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ถาม ทักษะการตั้งคำถามของตัวเองเลยแย่มากหากให้ประเมินตนเอง
ความยากในความคิดผมตอนนี้ก็คือ เวลาลูกต้องอยู่กับครู ซึ่งไม่สนิทสนมเท่ากับคนในครอบครัวนั้น จะฝึกเขาอย่างไรให้กล้าตั้งคำถามอย่างที่ถามทุกคนในบ้าน และไม่ต้องคอยกังวลว่าเวลาตั้งคำถามไป จะถูกคนอื่นมองว่าเป็นคำถามโง่ๆหรือเปล่า
ผมตั้งสมมติฐานเองว่า การตั้งคำถาม นั้นเป็นทักษะประเภทหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อว่า "ทักษะ" แล้ว ขาดไม่ได้เลย คือ การปฏิบัติ ทำซ้ำบ่อยๆ ฝึกบ่อยๆ เท่านั้น จึงจะเกิดความชำนาญ จะรอให้ใครมาสอนให้จนปากฉีกอย่างเดียวนั้น คงจะไม่เกิดอาการทำได้หมายรู้เป็นแน่
ก็คงมีอย่างเดียว คือ ค่อยๆฝึกไปเรื่อยๆเท่าที่จะพอทำได้
ไม่มีความเห็น