สวัสดีทุกท่าน
โรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังที่มีผู้ป่วยมากและคงไม่มีใครอยากเป็น ถ้าเป็นโรคนี้แล้วก็แสวงหาตัวยามารักษากันมากมาย ถ้าโชคดีก็หายได้ หรือในทางกลับกันอาจกำเริบมากขึ้น และจะมีผลต่อร่างกายของผู้ป่วยเอง ซึ่งจะเสียทั้งทรัพย์ เสียเวลา และกำลังใจ ดังนั้นผมคิดว่าหมอที่รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานคงเข้าใจดีว่า โรคเบาหวานนั้นเป็นโรคที่ไม่หาย เพราะว่า การทำงานของตับอ่อนในร่างกายผู้ป่วย ไม่สามารถผลิตฮอร์โมน(อินซูลิน) ที่จะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ให้เป็นปกติได้ จึงทำให้ผู้ป่วยโรคนี้มีระดับน้ำตาลมากขึ้น และ ทำให้โรคอื่น ๆ แทรกเข้ามา เช่น โรค ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดเลี้ยงไตเสื่อม และจะทำให้เกิดเป็นโรคไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
ดังนั้นถ้าต้องการรักษาโรคนี้ หมอจึงจำเป็นที่ต้องให้ยาเพื่อรักษาตับอ่อน ให้สามารถผลิตอินซูลิน เพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือด ของผู้ป่วยอยู่ในระดับปกติ และต้องตรวจวัดความดันโลหิตว่าสูงมากหรือไม่ ถ้ามากก็จะต้องควบคุมโดยใช้ยาเช่นกันหรือตรวจโรคอื่น ๆ อีก ซึ่งถ้าพบโรคอื่น ๆ ก็ต้องเพิ่มตัวยาในการรักษา นั่นหมายความว่า ผู้ป่วยต้องกินยาเพิ่มไปอีก ผลจากนั้นก็จะทำให้ผู้ป่วยได้รับยาจำนวนมาก และไต ซึ่งมีหน้าที่ขับสาร ขับน้ำ ขับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย จึงเป็นหน้าที่ของไตจะต้องขับสิ่งต่าง ๆ ออกจากร่างกาย ก็จะทำให้ผู้ป่วยมีสภาพที่หนักทั้งต่อโรค ทั้งต่อยา จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
จึงหวังว่าในทางการแพทย์ที่จะรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงต้องอาศัยความชำนาญ และความร่วมมือระหว่างแพทย์และผู้ป่วยเอง ที่จะต้องมีความเข้าใจ มีความระมัดระวัง ทั้งเรื่องการกินอาหร กินยา การรักษาอย่างมีวินัย อย่างเข้าใจในโรคนี้
สำหรับยาสมุนไพรไทยจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งซึ่งสามารถใช้รักษาร่วมกันกับทางการแพทย์แผนปัจจุบัน จึงน่าจะได้ผลดีเช่นกัน จึงขอเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อหวังให้ผู้ป่วยได้กินดี อยู่ดีเท่านั้น สูตรยารักษาโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงมีดังนี้
1. บรเพ็ดพุงช้าง หนัก 1 บาท
2. รากต้นตับเต่า หนัก 3 บาท
3. ว่านกลีบแรด หนัก 3 บาท
4. ต้นปราบหนอน หนัก 3 บาท
5. กระแตไต่ไม้ หนัก 2 บาท
6. ใบอินทนิล หนัก 1 บาท
7. ผลมะแว้ง หนัก 2 บาท
8. รากหญ้าคา หนัก 1 บาท
9. ใบเตยหอมสด ประมาณ 5 ใบ
ยาสูตรนี้ใช้สำหรับต้มดื่มน้ำครั้งละ 1 แก้ว ก่อน หรือ หลัง อาหารก็ได้ เช้าและเย็น กินติดต่อกันประมาณ 7 - 10 วัน ถ้าน้ำยาแห้งก็สามารถเติมน้ำให้ท่วมยาได้ แต่ต้องต้มให้ยาเดือดทุกครั้ง และอุ่นยาทุกวันเพื่อไม่ให้ยาบูด ยาสูตรนี้ใช้ได้ผลดี สามารถควบคุมน้ำตาล และ ความดันโลหิตที่สูงให้ลดต่ำลงได้
ข้อควรระวัง คือ ผู้ที่มีความดันปกติ หรือความดันต่ำห้ามรับประทานยานี้ติดต่อกันมาก เพราะจะทำให้ความดันโลหิตลดต่ำลงมาก การรับประทานยานี้ จึงต้องหมั่นตรวจวัดทั้งระดับน้ำตาล และความดันโลหิตเป็นประจำเพื่อตรวจเช็คว่าหลังจากกินยาแล้วความดัน และ ระดับน้ำตาลในร่างกายเป็นอย่างไร จึงขอให้ระมัดระวังอย่างยิ่ง
สมพงษ์ / พิมพ์ / เผยแพร่
ไม่มีความเห็น