บันทึกถึงพ่อ 3 : ไปสวรรค์เถอะค่ะพ่อ


พ่อไปสวรรค์เถอะค่ะพ่อ....เพราะพ่อช่วยคนมาเยอะแล้ว...ถึงคราวที่พ่อต้องพักผ่อนแล้ว พ่อไปให้สบายนะคะพ่อ พ่อไปสวรรค์เถอะค่ะพ่อ พวกเรายืนรอส่งพ่อตรงนี้นะคะ....

          ครั้งหลังสุดที่พ่อป่วยด้วยการเจ็บคอเมื่อปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว  พวกเราพาพ่อไปหาหมอ  แต่กว่าพ่อจะยอมไปได้ก็ต้องอาศัยข้อมูลการรักษาจากคุณหมอเต็มศักดิ์และคุณหมอท่านอื่นๆ (ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ) ในการให้คำแนะนำพวกเรา  พวกราจึงได้ข้อมูลมาอธิบายเรื่องการรักษาให้พ่อเข้าใจอีกทอดหนึ่ง  ด้วยพ่อไม่ยอมไปเพราะเหตุผลที่ว่าพ่อกลัวจะต้องถูกตัดเส้นเสียงที่ทำให้ท่านพูดกับชาวบ้าน...ช่วยชาวบ้านต่อไม่ได้  หมอนัดพ่อให้ไปผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออกอีกครั้งในวันที่  7  มีนาคม  53  พวกเราสี่คนพี่น้อง...รอหน้าห้องผ่าตัดกันอย่างกระวนกระวาย  จนเมื่อเจ้าหน้าที่เข็นพ่อออกมาตอนเกือบๆ ทุ่มกว่าๆ นั่นแหละถึงทำให้พวกเราโล่งใจว่าพ่อปลอดภัยดี  คุณหมอเจ้าของไข้บอกว่าพอใจผลการผ่าตัด  75%  เลยทีเดียว  พวกเรายิ้มออกกันเลย  และเราก็ช่วยกันดูแลพ่อเป็นอย่างดี  พ่อก็อาการดีขึ้นตามลำดับเรื่อยๆ มา  จนเป็นที่ประจักษ์แก่สายตาผู้มาเยี่ยม  ไม่ว่าจะมาจากหมู่บ้าน  เช่น ญาติๆ หรือชาวบ้าน  หรือแม้กระทั่งเพื่อนๆ ที่ทำงานของลูกๆ  ขณะนั้นพวกเราลูกๆ กำลังง่วนกับการตรวจข้อสอบและทำคะแนน,ส่งคะแนนสอบ, ส่งผลการเรียน  พวกเราเลยยึดห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลเป็นห้องเรียนไปด้วยกลายๆ  เพียงเพราะอยากอยู่ใกล้ๆ ให้กำลังใจท่านว่าท่านจะไม่โดดเดี่ยวพวกเราลูกๆ หลานๆ จะอยู่เป็นเพื่อนท่าน  คอยดูแลพ่อนะ......หน้าตาพ่อสดชื่น แจ่มใส ดีขึ้นตามลำดับ  ในวันที่พ่อเสียคือวันที่  14  มีนาคมนั้น  เป็นวันที่หมอนัดให้พ่อลองทานอาหารปกติ และอีก 3 วันหมอก็จะให้กลับบ้านได้แล้ว...คุณลุงเป็นปกติแล้ว ...หมอบอกเช่นนั้น แต่ในเช้าวันนั้นเอง เวลา 6:55 น. พ่อจากพวกเราและชาวบ้านลำไพลไปอย่างกะทันหันด้วยอาการช็อค  และภาวะหัวใจล้มเหลวตามมาอย่างกะทันหันนั่นเอง...

          โดยที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน  พวกเราก็ไม่คิดว่าพ่อจะจากไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้  เพราะในการนำพ่อไปในครั้งนั้นเพื่อไปรักษาตัวให้พ่อหายเป็นปกติ  ฉันได้รับโทรศัพท์จากพี่เขยแจ้งข่าวพ่อในเช้าวันนั้นด้วยอาการช็อค....เมื่อบึ่งรถกันมาถึงระหว่างทาง  ข่าวที่ฉันไม่อยากได้ยินคือ...”ไม่ต้องขับเร็วนะ  พ่อจากพวกเราไปเสียแล้ว”....เหมือนโลกหยุดหมุน  ไม่เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้กับตัวเองในเช้าวันนี้ ....แต่บอกตัวเองว่าต้องไปๆๆ  ต้องไปพาพ่อกลับบ้านเรา....

          เมื่อไปถึงโรงพยาบาลฉันจำได้แค่ประโยคเดียวที่พ่อสั่งไว้  “อย่าร้องไห้ๆ ให้น้ำตาไหลลงบนตัวพ่อนะ”  และฉันก็ทำตามที่พ่อสั่งไว้อย่างว่าง่ายและเข้มงวด  พร้อมทั้งบอกต่อแก่พี่ๆ และหลานๆให้ทำตามที่พ่อสั่งไว้ด้วยเช่นกัน  (ทั้งๆ ที่ฉันเองก็ทราบว่าน้ำตานั้นมันไหลย้อนไปตกข้างในตัวฉันแทนแล้ว) พวกเราเข้าไปกราบและกอดพ่อเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต....พร้อมกับแบ่งงานกันทำในภาระต่างๆ ก่อนจะพาพ่อออกจากโรงพยาบาล  ซึ่งมีตั้งแต่ไปแจ้งตายที่เทศบาลฯ  หรือติดต่อกับทางโรงพยาบาลเพื่อพาพ่อออกจากโรงพยาบาล  ตัวฉันเองต้องเป็นคนที่จะไปจัดหาเสื้อผ้า/รองเท้าให้พ่อใส่กลับบ้านเนื่องจากฉันจะเป็นคนที่จัดการเรื่องเสื้อผ้าของพ่อมาโดยตลอด  จึงรับหน้าที่นี้อย่างตั้งใจที่สุดด้วยพ่อต้องเปลี่ยนชุดจากคนไข้มาเป็นผู้ป่วยนอก  แล้วคุณหมอจะช่วยทำแผลใหม่ให้พร้อมๆ กับพยาบาลใจดีเค้าจะช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พ่อด้วย  เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเป็นอย่างดี  เราพาพ่อลงมาทางหน้าห้องเก็บศพ  เพื่อไปยังรถพยาบาลของเทศบาลตำบลที่ขับมารับพ่อพร้อมกับอาน้องสาวแท้ๆ ของพ่อ  ก่อนออกจากโรงพยาบาล  เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตรงหน้าห้องนั้นจุดธูปให้เราขอทางจากเจ้าที่เจ้าทางให้พ่อกลับบ้าน  อาและลูกพ่อในหมู่บ้านที่อายุมากกว่าฉันอีก 3-4  คนเป็นคนรวบรวมเหรียญจากกระเป๋าทั้งหมดของทุกคน ณ ที่นั้น  ฉันถามพี่เค้าว่าจะเอาไปทำอะไร...พี่แอ๊ดลูกพ่ออีกคนที่มารับพ่อบอกฉันว่า...เวลาพาพ่อออกไปเราจะโยนเหรียญเหล่านี้ตามจุดต่างๆ ระหว่างทางที่ขับรถผ่านเพื่อบอกทางให้แก่พ่อว่าถึงจุดไหนๆ แล้ว  พ่อจะได้กลับบ้านถูกทางนั่นเอง....ฉันและพี่ๆ 2 คน รวมทั้งอาและหลานลุงของพ่อนั่งรวมไปกับพ่อในรถตู้....เราทั้งหมดจะพูดกับร่างของพ่อไปตลอดเส้นทาง  ฉันเองนั่งกุมมือพ่อไปอยู่อย่างนั้นและพูดกับพ่อถึงเส้นทางที่เรานั่งรถผ่านว่าสถานที่ตรงนั้น  เราเคยผ่านเมื่อเราไปหาดใหญ่ด้วยกันพ่อจำได้มั๊ย...เราผ่านสถานที่นี้ไปนะ.....เราจะไปบ้านเรากันนะพ่อนะ....เราจะกลับบ้าน....จนถึงบ้าน...หมู่บ้านของเรา

          เมื่อมาถึงบ้านฉันไม่แปลกใจเลยที่คนมาบ้านเราเยอะมาก...เขามารอรับพ่อกลับบ้าน (ทั้งๆ ที่ในตอนแรกพวกเขาคงอยากจะมารอเยี่ยมพ่อเมื่อพ่อออกจากโรงพยาบาล  เหตุเพราะพวกเราลูกๆ เกรงใจไม่อยากให้เขาเดินทางไกลไปเยี่ยมพ่อถึงโรงพยาบาลจึงบอกเขาไปถึงอาการที่ดีขึ้นของพ่อตามลำดับ  และบอกว่าพ่อใกล้จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว  รอเยี่ยมที่บ้านก็ได้ค่ะ....ชาวบ้านเขาก็รอกัน...แต่เป็นคนละรอกันกับวันนี้)

          ชาวบ้านเค้าช่วยกันจัดบ้านฉันเป็นที่ตั้งศพพ่อและเตรียมสถานที่รดน้ำศพกันอย่างเสร็จสรรพ  เมื่อพ่อกลับมาบ้านลูกๆ ของพ่อในหมู่บ้านที่เป็นผู้ชายมาช่วยกันพาร่างของพ่อไปนอนที่เตียงที่เตรียมไว้  พวกเราลูกสาวพ่อทั้งสี่คนและหลานๆ นั่งใกล้ๆ พ่อเพื่อขอบคุณแขกและชาวบ้านที่มารดน้ำศพพ่อ  ชาวบ้านบอกว่าคนมารดน้ำศพพ่อเยอะมากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในหมู่บ้านถึงขนาดต้องเข้าแถวกันยาวมากๆ  แม้แต่คนมุสลิมที่รู้จักพ่อและทราบข่าวก็ยังมาร่วมงานในช่วงเย็นวันนั้น  พวกเราก็เห็นเป็นเช่นนั้นเพราะพวกเราต้องนั่งอยู่ตรงนั้น..ตรงที่รดน้ำศพพ่อเกือบจะสามชั่วโมงเต็มๆ....จนกระทั่งหมดแขกพวกเราจึงจะไปรดน้ำขอขมาศพพ่อเป็นกลุ่มสุดท้ายนั่นแหละ

          ในระหว่างที่แขกทะยอยกันมารดน้ำศพพ่อนั่นเองมีพี่ผู้ชายลูกพ่อคนนึงสังเกตเห็นเหมือนมีน้ำตาเอ่ออยู่ที่หัวตาทั้งสองของพ่อ  พร้อมกับมีเหงื่อออกบริเวณหน้าผากของพ่อจึงโวยวายขึ้นบอกญาติๆ และก็ไปเอาผ้ามาเช็ดให้พ่อ  พวกเราและญาติหลายๆ คนเห็นเหตุการณ์นั้นด้วยเช่นกัน  ใครๆ บอกดูเหมือนพ่อนอนหลับปกติเพราะหน้าตาดูอิ่มสุข (ฉันคิดเอาเองว่า...พ่อคงปลื้มใจที่เห็นลูกหลานญาติมิตรและชาวบ้านต่างมารวมตัวกันมารดน้ำศพพ่อกันมากมายขนาดนี้มังคะ)

 

         ปกติพ่อจะเป็นผู้ที่ “ทำหมอ” ให้กับงานศพอื่นๆ ในหมู่บ้านมาถึงงานศพของพ่อเอง เจ้าอาวาสในวัดประจำหมู่บ้านจึงเป็นผู้ที่ “ทำหมอ” นั้นเสียเอง  เมื่อพี่ๆ ผู้ชายนำร่างพ่อเข้าไปในโลงศพ  และพระท่านก็ทำพิธีเสร็จก็เป็นเวลาเย็นพอดี  พระท่านก็เลยสวดพระอภิธรรมศพในวันรอบแรกเสร็จ (ซึ่งคนทางใต้ในแถบละแวกหมู่บ้านฉันจะเรียกว่า “เตียงแรก” )  กระทั่งพระท่านจะเดินทางออกจากบ้านฉันแล้ว  มีคณะของแม่ชีซึ่งมาบวชชีพราหมณ์อยู่ที่ อ.เทพา มาขอร่วมสวดพระอภิธรรมด้วย(เพราะหลายๆ คนในคณะแม่ชีก็เป็นญาติๆ พ่อและเป็นชาวบ้านในหมู่บ้าน  แต่เดินทางมาไม่ทันรดน้ำศพนั่นเอง) จึงต้องนิมนต์พระท่านให้สวดอีกคำรบหนึ่งเป็นรอบที่สอง  ในท้ายสุดของวันนั้นประมาณ 6 โมงเย็น  ขณะที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน...เมื่อส่งพระท่านขึ้นรถยนต์เพื่อกลับไปวัดเสร็จแล้วนั้น  ทางพวกเราก็ยืนรอส่งคณะแม่ชีขึ้นรถทหารเพื่อกลับไปทำกิจกรรมของคณะแม่ชีต่อ  ระหว่างนั้นมีแม่ชีคนหนึ่งเดินมากอดฉันตรงที่ฉันยืนส่งคณะแม่ชีขึ้นรถ  และบอกฉันว่า “ครูจำหนูได้ไหมคะ”  ฉันเจอลูกศิษย์ที่มาบวชชีด้วยคนหนึ่ง  ระหว่างพูดคุยกับลูกศิษย์อยู่นั้น  แม่ชีส่วนหนึ่งที่ขึ้นไปนั่งอยู่บนรถทหารเรียบร้อยแล้วส่งเสียงเอะอะโวยวายให้หันไปมองภาพท้องฟ้าเหนือหลังคาบ้านฉัน  ภาพที่ทุกคนเห็นคือภาพท้องฟ้าสีแดงเหมือนท้องฟ้าในทุกๆ วันที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน  แต่ผิดปกติตรงที่ปรากฏการณ์นั้นเหมือนมีลำแสงเป็นปล่องคล้ายกำลังส่องขึ้นไปบนท้องฟ้า  ตรงที่เป็นปล่องขึ้นไปนั้นเป็นเหมือนลำแสงนั้นแหวกขึ้นไปจากท้องฟ้าที่ดวงอาทิตย์กำลังตกดิน  แต่ช่วงของลำแสงนั้นเป็นสีฟ้าปกติของท้องฟ้าที่มีสีฟ้า-ขาว  ของละอองกลุ่มเมฆ  นับเป็นปรากฏการณ์แปลกมากที่เกิดขึ้นในวันรดน้ำศพของพ่อฉันพอดี  เหล่าแม่ชีบนรถทหารนั่นหันไปทางภาพที่เห็นพร้อมกับยกมือไหว้ปลกๆ ลูกศิษย์ฉันที่เป็นแม่ชีที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นและเห็นปรากฏการณ์นั้นพร้อมกัน  หันมากอดเอวฉัน...พร้อมกับบอกฉันว่า  “ครูขาๆ พ่อครูไปสวรรค์แล้วๆ”....  ฉันเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน...  ทั้งๆ ที่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดปรากฏการณ์นั้นขึ้นได้อย่างไร  เหตุมาจากไหน  แต่ไม่มีข่าวว่าใครทำอะไรกับลำแสงขนาดยักษ์นั่น  มาให้ความสำคัญกับการพยาการณ์อากาศใดๆ ที่พอจะบอกนัยให้เห็นถึงภาพที่ใครๆ ในหมู่บ้านเห็นตรงกันก็ไม่มีอีก  ที่สำคัญมันดันมาเกิดขึ้นตรงวันรดน้ำศพพ่อฉัน  และสวดศพเสร็จพอดี  เมื่อฉันและใครๆ ทั้งหมู่บ้านต่างแอบคิดและพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่าลำแสงนั้นคือเส้นทางที่เค้าคงมารับพ่อ  ให้พ่อเดินทางขึ้นไปนั่นเอง....

ถ่ายจากหน้าบ้านฉันเอง...ที่ติดกับถนนใหญ่
ภาพตรงหน้า...คือหลังคาบ้านฉันและภาพท้องฟ้ากับปรากฏการณ์ที่คนทั้งหมู่บ้านไม่เคยพบเห็นมาก่อนในชีวิต 
กระทั่งคนแก่อายุเจ็ดสิบกว่าๆ ยังยีตาตัวเองเพื่อขอดูให้ชัดๆ กับภาพที่เห็นตรงหน้า

 

          “ครูขาๆ พ่อครูไปสวรรค์แล้วๆ”.....พ่อไปสวรรค์เถอะค่ะพ่อ....เพราะพ่อช่วยคนมาเยอะแล้ว...ถึงคราวที่พ่อต้องพักผ่อนแล้ว  พ่อไปให้สบายนะคะพ่อ  พ่อไปสวรรค์เถอะค่ะพ่อ  พวกเรายืนรอส่งพ่อตรงนี้นะคะ....

         พวกเราที่เห็นเหตุการณ์ต่างยืนดูลำแสงนั้นจนหายไปนานเกือบ 10  นาทีจึงกลายเป็นภาพสีท้องฟ้าปกติที่ดวงอาทิตย์ตกดินไปแล้ว.....

 

         พ่อไปสวรรค์เถอะค่ะพ่อ....

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกถึงพ่อ
หมายเลขบันทึก: 350518เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2010 11:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (37)

สวัสดีค่ะ

  • มาร่วมไว้อาลัย  คุณพ่อไปสวรรค์แล้วค่ะ
  • มีความรู้สึกร่วมทุกถ้อยคำค่ะ
  • ขอเป็นกำลังใจให้น้องแอนค่ะ

Pสวัสดีค่ะคุณหมอสีอิฐ

ขอบคุณมากนะคะ.......คุณหมอ

....หากตอนนี้บันทึกเหล่านี้เป็นสิ่งที่ครูแอนอยากบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรน่ะค่ะคุณหมอ

เพื่อว่า...ในวันนึงหากลูกๆ หลานๆ เด็กๆ รุ่นใหม่จะเข้ามาอ่านพบ  เขาจะเรียนรู้และสัมผัสได้กับความรักและความผูกพัน  และพร้อมถ่ายโอนต่อเรื่องของความรักความผูกพันของเขาไปสู่การปฏิบัติดี,ปฏิบัติชอบต่อคุณพ่อ-คุณแม่ของเขาน่ะค่ะ

ขอบคุณคุณหมออีกครั้งค่ะ

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ...

แนนเองก็เสียพ่อไปแล้วเมื่อปลายปี 47 ตอนนั้น กับตอนนี้แตกต่างกันมาก

วันที่รู้ว่าพ่อเสีย แนนก็ร้องไห้ สะอื้น จนตัวโยน...

แต่ก็รู้ว่า พ่อไปสบายแล้ว และคงไม่อยากเห็นเราร้องไห้แบบนี้ ..

แต่นาทีนั้น มันเป็นนาทีที่ช๊อค และทำใจยากมากเหลือเกิน

และขอเป็นกำลังใจให้คุณ Lioness_ann เข้มแข็งต่อไปนะคะ...

ขอแสดงความเสียใจอีกครั้งนะคะครูพี่แอน

พ่อครูพี่ไปสู่สุคติ หากแต่ยังอยู่ในใจเสมอ ค่ะ

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ

ยังไงพ่อก็ยังมีชีวิตอยู่เสมอ

ในอกด้านซ้ายของลูก

(คนหัวอกเดียวกันคะ)

พ่อไปสวรรค์แล้ว อัศจรรย์จริงๆค่ะ

 

คุณพ่อไปสวรรค์ค่ะ   คุณพ่อทำและประพฤติดี

สวรรค์ต้อนรับคุณพ่อ..อย่างน่าอัศจรรย์

เมื่อพี่อิฐอายุ 7 ขวบพี่อิฐก็ว่า"พ่อคุณ(ตา) ไปสวรรค์

สวัสดีค่ะ

* เข้มแข็งขึ้นแล้ว...ดูแลตนเองด้วย

 

แงๆไม่มีพ่อเหมือนกัน แต่มีแม่ การพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเตรียมใจ ไว้ครับพี่แอน สงกรานต์ไปเที่ยวไหนครับ...

Pสวัสดีค่ะพี่ครูคิม

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ช่วยให้เข้มแข็งค่ะพี่คิม

ขอบคุณมากๆ นะคะ  ทราบและสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่พี่ส่งมาให้น้องค่ะ

ขอบคุณนะคะ

Pสวัสดีค่ะคุณมะนาวหวาน

ขอบคุณมากค่ะ...ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่หยิบยื่นมาให้

มันเป็นความประมาทของชีวิตค่ะที่ไม่เคยเตรียมใจมาก่อน

เมื่อเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน...เลยทำใจค่อนข้างยาก

แต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะค่ะ......ขอบคุณคุณแนนมากๆ ค่ะ....

 

 

Pสวัสดีค่ะน้องปู

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ.......สำหรับกำลังใจ

เพียงแค่เก็บความทรงจำและบันทึกไว้ในใจเสมอน่ะค่ะ

ขอบคุณนะคะ

Pสวัสดีค่ะคุณปีตานามาจิตต์

ขอบคุณค่ะ

ขอบันทึกเก็บไว้ในใจเสมอ...เฉกเช่นกันนะคะ

มีความสุขกับก้าวต่อไปของชีวิตนะคะ.....ขอบคุณค่ะ

Pสวัสดีค่ะพี่แก้ว

พ่อไปสวรรค์แล้วค่ะ...ครูแอนเชื่อเช่นนั้นค่ะพี่

ขอบคุณนะคะ

Pสวัสดีค่ะพี่นงเยาว์

ขอบคุณค่ะพี่สาวคนดี...น้องคนนี้เข้มแข็งขึ้นแล้วค่ะ

เหลือแต่อยากบันทึกเรื่องราวของท่านไว้เล็กน้อยเป็นแบบอย่างให้ทำความดีเพื่อสังคมน่ะค่ะพี่

ดูแลสุขภาพด้วยค่ะพี่สาว...ขอบคุณนะคะ

 

Pสวัสดีค่ะพี่สาว

ดูแลแม่เยอะขึ้นค่ะ...ไม่อยากให้คิดมากเพราะเหลือตามลำพัง

บางทีเงียบๆ ...เพราะน้องถุงปูนเริ่มไปเรียน ม.1 ที่หาดใหญ่แล้ว

แม่ก็มีพูดถึงพ่อ...เล่าเรื่องในอดีตของพ่อบ้าง...

เลยเหมือนเหตุการณ์มันยังใหม่ๆ อยู่เรื่อย...เพราะแม่ก็ยังคงคิดถึงพ่ออยู่เหมือนที่พวกเราก็คิดถึงท่านน่ะค่ะ

แต่ก็เข้มแข็งขึ้นค่ะพี่....เลยให้เวลาที่เหลือกับแม่แบบเต็มๆ เพราะพ่อไปสบายแล้ว...

ขอบคุณนะคะพี่...

อธิษฐานจิตส่งพ่อไปสวรรค์ด้วยตั้งแต่วันทราบข่าวและวันฌาปนกิจ

และส่งจิตให้น้องและครอบครัวเข็มแข็ง และปรับใจให้ได้เร็ววัน

เรายังมีพระอีกองค์อยู่ที่บ้านนะคะ

Pสวัสดีครับผม
ก็เข้าใจอยู่ล่ะว่า "การพลัดพรากเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเตรียมใจ ไว้ครับพี่แอน"
ก็ทำใจได้ส่วนหนึ่งแล้วล่ะ...อาจจะมีบ้างที่บางครั้งบางคราวเห็นอะไรที่เคยเป็นของพ่อก็มีคิดถึงท่านบ้างน่ะ...
"แต่มีแม่ไง".....สงกรานต์เลยไม่ไปเที่ยวไหนครับ...อยู่เป็นเพื่อนแม่ที่บ้านกันสองคน  เพราะพี่ๆ พาหลานๆ ไปเยี่ยมคุณปู่เค้าที่ทุ่งสง..นครศรีธรรมราช...ก็เลยไม่อยากไปไหนในช่วงนี้  รอให้พี่ๆ เค้ากลับมาก่อนถึงค่อยออกเดินทางบ้าง 
อยากจะพาแม่ไปเที่ยว  วางแผนไว้แล้ว...แต่ไม่ทราบมีธุระราชการใดๆ ติดขัดอันใดอีกมั๊ยเนี่ย...
แล้วผมล่ะ....มีแม่ไง...ไม่ไปอยู่กับแม่เหรอ (...5555...สงสารคนโดนไล่ออกจากบ้านตัดออกจากกองมรดก คิคิคิ...น่าสางสารๆๆ ) นานๆ จะได้อยู่กับแม่น่ะฮึ
ดูแลสุขภาพท่านด้วย

Pสวัสดีค่ะพี่สาวคนไกล

ขอบคุณทุกๆ เรื่องราวและกำลังใจที่มีให้ตลอดมาค่ะพี่

เข้มแข็งขึ้นเยอะแล้วค่ะพี่

พยามดูแลพระอีกองค์ที่เหลือให้ดีที่สุดค่ะพี่

คิดถึงนะคะ.....ขอบคุณค่ะ

Pสวัสดีค่ะน้องพอลล่า  ♥paula .`๏'- ที่ปรึกษาตัวน้อย.`๏'-

ขอบคุณมากค่ะน้อง....

คุณพ่อจะอยู่ในใจเสมอค่ะ.......แม้ว่าท่านไปสวรรค์แล้วก็ตาม

ขอบคุณน้องมากๆ ค่ะ

สวัสดี ครับ คุณครูแอน

เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจกับครูด้วย นะครับ

..

เป็นกำลังใจให้ครูนะครับ

ด้วยความเคารพ

 

Pสวัสดีค่ะคุณแสง

ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ....

ครูแอนเชื่อเช่นนั้นนั้นค่ะ.....พ่อไปสวรรค์แล้วจริงๆ ค่ะคุณแสง

เป็นธรรมดาของชีวิตนะคะ....เมื่อเพิ่งได้พานพบเลย...

เลยได้ข้อคิดที่ว่า "ต้องไม่ประมาทกับชีวิต...กับการเตรียมใจไว้สำหรับการพลัดพรากจากคนอันเป็นที่รักไว้บ้าง"....

ที่สำคัญที่สุดคือ...ดูแลผู้ที่เรารักเค้าที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด..เพราะเราต้องไม่ประมาทกับชีวิตน่ะค่ะ

ขอบคุณมากมายค่ะคุณแสง

มีความสุขกับครอบครัวในช่วงปีใหม่ไทยๆ นะคะ

 

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ

ขอให้เข้มแข็ง และ ดูแลครอบครัวด้วยดีต่อไปนะครับ

ธรรมรักษาครับ

เมื่อคนเราเกิด เราก็มาพร้อมกับความตายในตัวเราทุกคน อยู่ที่ว่าเมื่อไร อย่างไร

แต่เหตุการณ์กะทันหัน อาจต้องใช้เวลาครับ

ผมและครอบครัวก็เข้มแข็งขึ้นตามลำดับครับ...

Pสวัสดีค่ะคุณPhornphon

ขอบคุณมากค่ะ......

คุณพ่อของครูแอนท่านจากไปก่อนคุณพ่อของคุณพรพลประมาณ 1 สัปดาห์มังคะ

เลยเพิ่งจะเข้าใจในความรู้สึกของการจากลาและการสูญเสียคนอันเป็นที่รักว่าเป็นเช่นไร

ทั้งๆ ที่ก่อนนี้ไม่เคยคาดคิดและเตรียมใจมาก่อน....เรียกได้ว่า "ประมาท" กับชีวิตนะคะ

ไม่เคยรู้จักการเตรียมใจในการสูญเสีย....เมื่อเจอเข้ากับตัวเอง....ถึงได้ทราบและรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้น....

ค่ะใช่....เหตุการณ์มันกะทันหันจริงๆ  เราคงทำได้เพียงการใช้เวลาในการช่วยเยียวยาและบรรเทา...

แต่ตอนนี้ก็เข้มแข็งขึ้น, และดีขึ้นตามลำดับเช่นกันค่ะ

เพิ่งไปวัดและทำพิธีออกจากการไว้ทุกข์ไปเมื่อวานนี้เองค่ะ

เมื่อก่อนเราทั้งครอบครัวจะทุ่มเททุกอย่างไปที่คุณพ่อ...

เลยตอนนี้เหลือแต่คุณแม่น่ะค่ะ....เลยทุ่มเวลาให้ท่านเต็มที่ค่ะ

เพื่อเราจะได้รู้สึกดีๆ ว่าเราดูแลท่านอย่างดีเหมือนที่เคยปฏิบัติต่อคุณพ่อ

ธรรมรักษาเช่นกันค่ะ....เป็นกำลังใจให้นะคะ...เพื่อก้าวที่เข้มแข็งขึ้นไงคะ

ขอบคุณค่ะ

มาส่งกำลังใจใครครูอีกค่ะ

จนกว่าครูจะรู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ

- ดูแลตัวเองด้วยนะ -

สวัสดีครับ น้องครูแอน

ขอแสดงความเสียใจครับขอให้ท่านสุ่สุคติครับ

ยังคิดว่าจะไปเรียนรู้เรื่องบ่อปลาดุกกับท่านอยู่เลยครับ

30ขอบใจลูก...ลูกศิษย์ของครู

กำลังใจครูเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ แล้วลูก

ขอบใจนะลูกนะ

Pสวัสดีค่ะบัง

ขอบคุณนะคะ....ตอนนี้บ่อปลาแห้งไปแล้วค่ะ

พ่อขายปลาทั้งสองบ่อให้พ่อค้าไปก่อนหน้าที่ท่านจะเสียน่ะค่ะบัง

ตอนนี้พวกเราลูกๆ กำลังทำใจให้เข้มแข็งขึ้นตามลำดับค่ะ.....

กะว่าจะลงลูกปลาต่อจากที่พ่อเคยทำไว้  ไม่อยากให้เป็นบ่อแห้งร้างอยู่เหมือนกันค่ะ

แต่คงต้องเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปค่ะบัง...

ขอบคุณบังมากนะคะ

ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะน้องแอน คุณพ่อท่านก้าวพ้นห้วงแห่งทุกข์แล้วค่ะ

Pสวัสดีค่ะพี่อ็อด

น้องไม่ได้เข้ามานานมากเลยค่ะ....

มีอยู่ช่วงนึงยึดโรงพยาบาลทำเป็นโรงเรียนของพี่ๆ น้องๆ ไปเลยค่ะพี่อ็อด

ทำใจปรับใจให้รับความเป็นจริงอยู่นานเหมือนกันค่ะพี่

แต่สิ่งที่พ่อทำและปฏิบัติตนมาตลอดนั้นส่งผลให้เห็นค่ะพี่  มีผู้คนมากมายมาเคารพศพพ่อ  มาเยี่ยมศพพ่อ  มาให้กำลังใจและส่งผ่านกำลังใจนั้นมาให้พวกเราลูกๆ พ่อ

...พ่อไปสวรรค์แล้วค่ะพี่อ็อด...

ขอบคุณนะคะพี่สาวคนไกล...ที่มีความห่วงใยน้องสาวคนนี้อยู่เฉกเช่นเดิม...

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะน้องแอน

  • แวะมาอ่านบันทึกย้อนหลังค่ะ
  • ก่อนหน้านี้พี่อิงไม่ไม่ค่อยได้เข้าบล็อกเท่าไหร่
  • คือเข้ามาบันทึกเพลงไว้ฟัง  ไม่ค่อยได้แวะเวียนไปเยี่ยมเยียนใครเท่าไหร่
  • ทำให้ตกข่าวสำคัญของน้องแอน
  • วันนี้จึงมาอ่าน อ่านทุกตัวอักษรค่ะ
  • พ่อของน้องแอนกับพ่อของพี่อิงมีส่วนที่คล้ายกันมากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องของ
  • การทำพิธีกรรมในงานต่าง ๆ โดยเฉพาะงานศพ
  • พี่อิงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของคุณพ่อ
  • แต่ท่านก็ส่งสัญญาณให้ทุกคนได้รับรู้แล้วว่าท่านไปดี
  • ปรากฏการณ์ที่เห็น  ไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่าย ๆ  การเกิดขึ้นในวันนี้พอดี
  • นับว่าเป็นสิ่งดีมาก ๆ ค่ะ
  • มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ

Pสวัสดีค่ะพี่อิง

      ขอบคุณนะคะพี่ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันน่ะค่ะ

  • พ่อแอนไปสวรรค์แล้วค่ะพี่อิง...แอนเชื่อเช่นนั้นจริงๆ ค่ะพี่
  • พ่อช่วยคนไว้เยอะค่ะพี่  โดยเฉพาะช่วยรักษาคนป่วย  คนไข้ของพ่อที่เป็นมุสลิมยังมายืนร้องไห้ที่ศาลาหน้าบ้าน  บางคนก็เอาเงินมาให้  บ้างมาเยี่ยมที่บ้านช่วงที่มีงานศพพ่อ
  • อานิสงฆ์ที่พ่อช่วยคนส่งผลมาที่ลูกๆ พ่อค่ะพี่.......
  • พวกเราอบอุ่นเมื่ออยู่ในหมู่บ้าน  เพราะทุกคนให้ความเคารพและเอื้ออาทรเสมือนเป็นพี่น้องเค้าเอง  เพราะเค้าเหล่านั้นก็เป็นลูกพ่อแอนเหมือนกัน 
  • ในหมู่บ้านพ่อจะไหว้เจ้าที่ให้ชาวบ้านเค้าค่ะ  เด็กๆ ป่วยก็เอามาให้พ่อ  ยกให้เป็นลูกของพ่อ  ลูกพ่อเยอะแยะไปหมดค่ะ
  • ใครป่วยพ่อก็ไปเฝ้า  กลางค่ำกลางคืนเค้ามาตาม..พ่อก็ไม่เคยปฏิเสธ  ขนาดพ่อป่วยยังดั้นด้นจะไปช่วยเหลือเค้า  จนพวกลูกๆ อย่างเราปรามไม่อยู่
  • มีอยู่งานศพนึงแอนต้องถอยเก๋งไปรับพ่อ ตอนพ่อลงมาจากเมรุหลังจากที่เผาศพลุงเค้าไปแล้ว  เพราะพ่อไม่สบาย  เลยต้องรับไปหาหมอที่หาดใหญ่ในเย็นนั้นเลย
  • ทุกงานในหมู่บ้านต้องมาปรึกษาพ่อ  งานวัด  งานราษฎร์  งานหลวง  พ่อเลยมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของหมู่บ้านไปโดยปริยาย
  • พ่อช่วยเหลือใครๆ มาเยอะค่ะ  ในวันนั้นที่เห็นภาพท้องฟ้าลักษณะนี้ทุกคนขนลุกเลย  ด้วยไม่เคยเห็นกันมาก่อน  คนแก่คนเฒ่า  ลูกเด็กเล็กแดงวิ่งออกมาดูท้องฟ้ากันทั้งงาน  เป็นที่กล่าวขานกันทั้งหมู่บ้าน
  • นี่ชาวบ้านเค้าก็ขอให้แอนช่วยอัดภาพให้เค้ากันเกือบทั้งหมู่บ้านค่ะ  บอกว่าจะเอาไว้บูชา ขนาดเสื้อสีดำที่พวกเราลูกๆ ทำแจกงานศพพ่อมีการสกรีนข้างหลังว่า "ลูกพ่อเนียน" มียายแก่ๆ เค้ามาขอไปบูชาบนหิ้ง  เราก็รู้ว่ายายแกไม่ใส่แน่  แต่แกคงเอาไปบูชาอย่างแกว่านั่นจริงๆ
  • พ่อเลยไปสวรรค์จริงๆ ล่ะค่ะพี่อิง
  • ขอบคุณพี่อิงมากๆ นะคะ......บุญรักษาพี่อิงด้วยค่ะ
  • สวัสดีค่ะ..คุณแอน..
  • ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับคุณแอนอีกครั้งกับการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
  • คุณพ่อของคุณแอนท่านไปสวรรค์แล้วจริง ๆ ท่านไปสบายและแสดงถึงความไม่มีห่วงอันใดแล้ว
  • ท่านเห็นถึงความอบอุ่นของครอบครัวที่ลูกหลานพร้อมหน้า
  • ขอดวงวิญญาณคุณพ่อจงประสพความสุขในสรวงสวรรค์..
  • รักษาสุขภาพนะคะ..เดินทางปลอดภัยตลอดเวลา..

 

 

 

 

Pสวัสดีค่ะคุณจำเนียรวดี

  • ขอบคุณมากนะคะ.....
  • สิ่งที่เหลือไว้ให้พวกเราคิดถึงท่านคือแบบอย่างของการประพฤติปฏิบัติที่ท่านเคยช่วยเหลือชาวบ้านให้พวกเราได้เห็นแบบอย่างค่ะ
  • พ่อเป็นฮีโร่ของครูแอนเสมอค่ะ
  • ขอบคุณนะคะ....โชคดีกับชีวิตนะคะคุณจำเนียรวดี

สวัสดี ครับ คุณครู Lioness_ann

เข้ามาเยี่ยม คุณครู พร้อมกับถ้อยคำที่มากับข้อความนี้ นะครับ

“ขอให้คุณดูแล  เอาใจใส่คนที่คุณรักอย่างดีที่สุดในขณะที่ท่านเหล่านั้นยังอยู่กับคุณ...นะคะ...เพราะคุณจะไม่มีโอกาสได้ดูแล  เอาใจใส่  ปรนนิบัติท่านอีกเลยในวันที่ท่านจากคุณไปนั่นเอง”

ผมก็คิดเช่นครู และอยากให้ทุกคนคิดเช่นนี้ ครับ

เป็นกำลังใจให้ครู นะครับ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท