ผมเองนั้น รู้สึกว่า การจราจรติดขัด (หรือแม้แต่ตัวเลขด้านเศรษฐกิจ) เป็นเรื่องที่จิ๊บจ๊อยมาก เมื่อเทียบกับความเดือดร้อนของผู้ชุมนุมที่เขารู้สึกว่าถูกริดรอนสิทธิ
อยาก ให้เราเห็นใจเขา แล้วเขาก็จะเข้าใจเราเช่นกันครับ
ท้ายสุดนี้ อยากฝากคำพูดของอ.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ เกี่ยวกับเรื่องการจราจรติดขัด(ผ่านบล็อกของคุณ bact)
http://bact.blogspot.com/2010/03/blog-post.html
สวัสดีค่ะคุณน้องพี่มาเยี่ยมเรียนจบหรือยัง..ทางพี่ชายปริญเค้าก็กำลังเรียน ป. โท ม. รามฯ น้องสบายดีนะคะ..ช่วงนี้อากาศร้อนบ้านเรา..เรื่องการเมืองเพลาๆก็ดีนะคะ..พาครอบครัวมาเที่ยวชม.บ้างซิคะ
สวัสดีค่ะ..คุณปริญญา..
สวัสดีครับคุณ rinda
ใกล้จบแล้วครับพี่ อยากจบเมื่อไหร่คงจบได้ไม่ยาก เหลือแต่เรียนภาษาต่างประเทศที่นอกเหนือไปจากอังกฤษ กำลังเลือกอยู่ครับว่าจะเรียนอะไร
เรื่องการเมืองก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปเสียแล้วครับ :-) เพลาๆ คงยาก
คุณจำเนียรวดีครับ
ขอบคุณครับ
ผมเพียงแต่มองว่า คนเรานั้นเห็นต่างกันตลอดอยู่แล้ว แต่การดูถูกเหยียดหยาม (ว่าโง่ว่าไร้ความคิด) ในที่สาธารณะเป็นเรื่องไม่ควรครับ
สวัสดีครับ
ให้มองว่ามาเพราะ...อะไร...แล้วทำอะไร...คิดๆๆ ถ้าคิดไม่ออกให้ดูช่องเสื้อแดง
คนดีย่อมไม่สร้างความเดือนร้อน ขอถามหน่อยถ้าุถูกจ้างมา...นั้นหมายความว่าอะไร...ยอมรับไหมว่ามีการจ้างมาจริง...สิ่งที่พูดกับสิ่งที่ทำ...อะไรสำคัญกว่ากัน... คนโกหกน่าเชื่อถืออะไร
ไม่มีใครว่าอะไรถ้าคุณตรงไปตรงมายอมรับความจริง สิ่งที่คุณอ้างมานั้นปัญหาจริงๆ คืออะไร และมาจากไหน
นายยกไม่ใช่เทวดา เสื้อแดงก็ไม่ใช่เทวดา
หากคนที่คิดว่าเป็นกลาง คิดว่าเก่ง ความเป็นกลางที่คุณคิดว่ามี และความเก่งของคุณมีประโยชน์อะไร
ความเป็นธรรม ความยุติธรรม การยึดหลักกฏหมายบ้านเมือง แม้จะพ่ายแพ้แต่ก็ได้ทำอย่างถึงที่สุดแล้ว อย่าให้ความกลัวเป็นอุปสรรคในใจเราเลย หากเรากลัวในภาพที่เขาสร้างขึ้นก็จะกลายเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว
คนดีไม่ใช่คนที่ไม่สร้างความเดือดร้อนเสมอไปนะครับ
การประท้วงนั่นมักจะถูกตีความผิดๆเสมอ เวลาเรามองการประท้วง เราต้องแยกระหว่าง "ไม่เดือดร้อน" กับ "ไม่รุนแรง" การประท้วงที่ดีต้องไม่รุนแรง ผมเห็นด้วยครับ แต่การประท้วงนั้นเป็นการจงใจทำให้เดือดร้อนเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจถึงความเดือดร้อนของตน หากคุณศึกษาประวัติศาสตร์ คุณจะเห็นได้ว่าการประท้วงที่โด่งดังในอดีตมักจะส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการปิดถนน สถานีรถไฟ (หรือถ้าบ้านเราก็สนามบินกับทำเนียบ)
ผมค่อนข้างตรงไปตรงมายอมรับความจริงนะครับ หากคุณเข้าใจประเด็นที่ผมเขียนได้ตรงจุด
สำหรับเรื่องการถูกจ้าง ผมไม่ได้สนใจว่ามีการจ้างจริงหรือไม่ (คุณหลุดประเด็นครับ) แต่อย่างไรก็ตาม ผมรู้จักคนเยอะมากนะครับ ที่ไปร่วมการชุมนุมเสื้อแดง และคนเหล่านั้นเป็นคนที่จ้างด้วยเงินไม่ได้ (หากจะให้พูดให้ตรง คนเหล่านั้นนับเป็นหัวกะทิของประเทศเลยก็ว่าได้)
คนที่เดือดร้อนเพราะความดีของคนอื่นก็คนเลว
หากไม่สนใจในความจริง ก็อย่าคิดอย่าหวังว่าจะรู้ความจริง จะจบลงด้วยการถูกหลอกเรื่อยไป การพูดดีใครก็พูดได้(ดีแต่ปาก)..แต่การทำดีคนเลวทำไม่ได้
ผมไม่คิดว่าคนส่วนน้อยจะสร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมืองไม่ได้ จำนวนไม่สนคัญเท่ากับสิ่งที่ทำ คนน้อยแต่ทำมากก็มีผล คนมากมานั่งเฉยก็ไม่เห็นผลอะไร
ความเดือดร้อยกับการสูญเสียมันต่างกัน...ถ้าคนที่เดือดร้อนเพราะการประท้วงมาทำให้คนที่มาประท้วงเดือดร้อนบ้างจะเกิดอะไร...ขอบเขตของแต่ละอย่างอยู่ตรงไหน...ที่คุณว่าคุณเดือนร้อนแล้วมาประท้วงจริงๆแล้วคืออะไร...ความจริงนะ...ถ้าไม่ยอมรับความจริงแล้ว...คนอื่นจะเข้าใจคุณอย่างไร?
หากความจริงไม่มีค่า แล้วจะมาพูดคุยหาอะไร
คนที่ไปชุมนุนส่วนใหญ่ก็เป็นคนประเภทเดียวกัน คนหัวกะทิถ้ามีเฉพาะในชุมนุมเสื้อแดง ก็เกินไป (คนดีของคนดีคือคนดีจริงๆ ....)