เสื้อแดง รัฐบาล ยุบแล้วแก้ แก้แล้วยุบ...ล้วนสบายๆ


คิดวิเคราะห์ไปตามต้องการ พูดเขียนออกมาไปตามความเห็น...ที่ขัดเกลาแล้ว

แน่นอนครับ...ปัจจุบันขณะนี้ ทุกท่านก็คงสนใจเรื่องของการเมือง เนื่องจากว่าตอนนี้ ดูเหมือนการเมืองจะเข้ามากระทบชีวิตเราเข้าอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด ท่านที่จะออกไปเที่ยว...ก็คิดหนัก ท่านที่จะไปทำงาน...ก็คิดหนัก บางท่านอยู่ที่บ้านเฉยๆแท้ๆ...ก็ยังคิดหนัก

ปัญหาของเราตอนนี้คงอยู่ที่ "การคิดหนัก" และถ้าท่านเห็นด้วยกับผมตอนนี้ ท่านก็คงจะเห็นด้วยว่าเราก็คงต้องเปลี่ยนจาก "การคิดหนัก" มาเป็น "การคิดเบา"

ถามว่า "การคิดเบา" คืออะไร?

ในความเห็นของผมนั้น "การคิดเบา" ก็คือ "คิดอย่างเข้าใจ" เข้าใจเสื้อแดง เข้าใจรัฐบาล เข้าใจเรื่องยุบแล้วแก้ เข้าใจเรื่องแก้แล้วยุบ และที่สำคัญที่สุดคือ "คิดอย่างเข้าใจตัวเอง"

การเข้าใจตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญ เคยได้ยินความคิดของบางท่าน ที่ได้อธิบาย และเตือนสติเพื่อนมนุษย์ไว้ว่า "มนุษย์เราสำรวจตั้งแต่จักรวาล จนมาถึงอะตอม แต่ไม่ค่อยที่จะสำรวจตัวเองเท่าที่ควร" ซึ่งผมเห็นด้วย มันเปรียบเสมือนร้านอาหารใกล้บ้าน ที่รสชาติไม่ได้แพ้ไปกว่าอาหารที่อยู่ไกลจากบ้านออกไป แต่ทำไม...เราถึงมักจะนึกถึงร้านที่ไกลจากบ้านก่อนเสมอๆ ก็คงเป็นการเปรียบเทียบที่พอจะอธิบายได้ 

มนุษย์เรามักจะสนใจสิ่งอื่นที่อยู่ห่างไกลออกไป แต่มักจะสนใจสิ่งที่ใกล้ตัว เช่นจิตใจ น้อยไปกว่าที่ควรจะเป็น

เรื่องอะไรที่คิดไปคิดมา ชักจะกลายเป็น "การคิดหนัก" อย่าลืมค่อยๆผ่อนมันลง ให้กลายเป็น "การคิดเบา" นะครับ

ปล.บางท่านอาจสงสัย ทำไมต้องเน้นข้อความด้วยสีแดง ชอบสีแดงหรืออย่างไร ไม่เอานะๆ "อย่าคิดหนัก" ครับ :D

หมายเลขบันทึก: 349496เขียนเมื่อ 4 เมษายน 2010 10:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ใช่ครับ มนุษย์เราชอบมองออกไปข้างนอก มิยอมพิจารณาเข้ามาภายใน

เห็นด้วยครับ
มองอย่างเข้าใจ มิใช่มองแล้วตัดสิน
คนตัดสินได้ถูกต้องที่สุดมีเพียงพระอริยะเท่านั้น เพราะปราศจากอคติและอวิชชา
ชอบประโยคนี้มากครับ

ในความเห็นของผมนั้น "การคิดเบา" ก็คือ "คิดอย่างเข้าใจ" เข้าใจเสื้อแดง เข้าใจรัฐบาล เข้าใจเรื่องยุบแล้วแก้ เข้าใจเรื่องแก้แล้วยุบ และที่สำคัญที่สุดคือ "คิดอย่างเข้าใจตัวเอง"

จริงอยู่ว่าเรามักจะโน้มเอียงไปทางด้านใดด้านหนึ่ง ตามประสาปุถุชนและข้อจำกัดการรับรู้
แต่สิ่งที่ควรทำคือไม่เอาตัวเองเข้าไปเป็นคู่ความขัดแย้ง
นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามทำอยู่ในขณะนี้ครับ

ผมเห็นด้วยกับการคิดเบานะครับ แต่ว่า

ผมสงสัยตรงที่ที่คุณเสนอคำว่าคิดอย่างเข้าใจน่ะครับ

ที่ว่า คิดเบา แปลว่า คิดอย่างเข้าใจทุกๆฝ่ายรวมไปถึงตัวเองถูกมั้ยครับ

แต่ผมกลับคิดว่า การจะเข้าใจทุกฝ่ายได้นั้น กลับทำให้ต้องคิดหนักเพิ่มขึ้นไปอีกstepเลยนะครับ

เพราะเหตุผลแต่ของละฝ่ายไม่เหมือนกัน บ้างทำเพื่อส่วนรวม บ้างมีวาระแอบแฝง

ซึ่งผมก็แยกไม่ถูกเสียด้วยว่าฝ่ายใดทำเพื่อตนเอง และฝ่ายใดทำเพื่อประเทศชาติ

หรือไม่แน่ว่า อาจจะเป็นทั้งสองฝ่าย ที่ทำเพื่อประโยชน์เพื่อฝ่ายตนเอง

หรืออันที่จริง ต่างฝ่ายต่างก็อาจจะทำเพื่อประเทศชาติ แต่เป็นในแบบฉบับของฝ่ายตัวเอง

เห็นมั้ยครับ การคิดอย่างเข้าใจทุกฝ่ายน่ะ อย่างนี้ผมว่า ผมเริ่มใช้ความคิดมากแล้วนะ

ผมจึงคิดว่า คิดเบา น่าจะเป็นการคิดอย่างเข้าใจตนเองอย่างเดียวครับ

เพราะถ้าเราเอาปัจจัยภายนอกเข้ามาผสมกับเรื่องภายในด้วยคงยากที่จะคิดให้ครอบคลุมทุกฝ่าย

คิดเบาอาจจะเป็นการปล่อยวางก็ได้นะครับ

คือ ปล่อยวางเรื่องภายนอก มีสมาธิอยู่แต่กับจิตใจตัวเองภายใน

อันนี้ผมแสดงความคิดเห็นนะ แล้วก็ขอคิดมากไปซักเล็กน้อยด้วย

เพราะผมอ่านแล้วรู้สึกว่าต้องคิดตามบ้าง ไม่งั้นก็เป็นแค่การอ่านผ่านๆ ไม่ได้สาระอะไร

ขอบคุณที่เขียนผลงานดีดีอย่างนี้ครับ จะได้ติชมแล้วก็ถกประเด็นกันได้เรื่อยๆ

ชอบแนวความคิดนี้มากครับ "คิดหนัก คิดเบา"

ขอบคุณทุกท่านสำหรับความคิดเห็นครับ

การคิดหนัก คิดเบา ก็แล้วแต่คนว่าอย่างไหนหนัก อย่างไหนเบาครับ

แต่ยังไงก็ "สบายๆ" ครับ

:D

สวัสดีครับ

ในความคิดผมนะ...

คิดเบา คื่อคิด เห็น(ความจริง) และเข้าใจ

คิดหนัก คือคิด เห็น(ความเห็นของตน) และเข้าข้างตัว

คิดเบา คิดได้นาน เห็นทางออก

คิดหนัก หนักสมอง ทางตีบตัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท