สวัสดีค่ะ ไม่ได้ทักทายสะนานสบายดีไหมคะ
เรื่องบุกรุกที่ดิน แล้วเจ้าของไม่ทราบจนขาดอายุความเนี่ยมีบ่อยๆเลยนะคะ ยิ่งคนที่มีที่ดินเยอะๆจนจำไม่ได้ไม่เคยไปดูที่ดินตัวเองด้วยแล้วเนี่ยเจอแบบนี้บ่อยเลยค่ะ
โชคดีนะที่เรามีที่เท่าหนวดกุ้ง ฮ่าๆ คุณทนายคะเคยได้ยินว่าสมัยนี้ที่ดินว่างเปล่าที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรต้องเสียภาษีด้วยยังไงหรือคะ ^^
... อ่านเรื่องสั้นแล้ว ถาม-ตอบ อย่างทนาย ซึ่งจะเขียนเมื่อมีอารมณ์...
อิ อิ เพิ่งทราบนะคะว่างานอาชีพทนายนี่ ต้องมีอารมณ์ ด้วย ;)
คืนนี้ขออนุญาติมีอารมณ์แค่ชมภาพเฉยๆ นะคะเก็บเนื้อไว้ก่อนค่ะ ;)
... ภาพแมลงปอปีกบาง เจ้ากางปีกสวย โบยบินพริ้วไหว งามจับใจค่ะ
ดาวกระจายก็พริ้วซะ ยังกะจงใจจับกลีบไหว .. ภาพแจ่มมากๆ ฝันดีนะคะ
ยังไม่ได้อ่าน ผ่านตาไปชมภาพสวยๆ ก่อน แล้วค่อยย้อนมาอ่านหนึ่งรอบ
แบบนี้มันต้อง "ถอน" แม่นบ่ท่าน....
คือในเรื่องความผิดฐานบุกรุกนี้โดยเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้วไม่ประสงค์ให้นำมาใช้เกี่ยวกับเรื่องการแย่งชิงที่ทำกินกัน แต่เจตนาจะให้มีการปกป้องการพักอาศัยในบ้านเรือนให้เป็นปกติสุข แต่เมื่อเขียนออกมาแล้วนักกฎหมายนำมาใช้เพื่อบีบบังคับเอาที่ดินคืนจากผูแย่งชิง จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลากับการฟ้องร้องกันในทางแพ่ง ซึ่งคำตัดสินส่วนใหญ่ผู้บุกรุกจะถูกศาลลงโทษปรับ ส่วนโทษจำคุกให้รอการลงอาญาไว้ หนึ่งปีบ้าง สองปีบ้าง จะมีที่ต้องโทษจำคุกจริงๆน้อยมาก เพราะศาลมองว่าผู้บุกรุกมีความจำเป็นต้องต่อสู้เพื่อการยังชีพเสียมากกว่าครับ กฎหมายถึงกำหนดให้เป็นความผิดอันยอมความได้และกำหนดอายุความให้น้อย เพราะหากเจ้าของที่ดินหรือบ้านจะให้ผู้บุกรุกออกไปหรือไม่ให้มาเกี่ยวข้องอีกก็ต้องไปฟ้องขับไล่ หรือฟ้องบังคับให้ส่งมอบคืนในทางคดีแพ่งครับ
ส่วนที่คุณอรถามว่า " คุณทนายคะเคยได้ยินว่าสมัยนี้ที่ดินว่างเปล่าที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรต้องเสียภาษีด้วยยังไงหรือคะ "
คำตอบ (ขอตอบยาวหน่อย ทนอ่านนะครับมีประโยชน์)
คืองี้ครับ ตอนนี้รัฐกำลังจะจัดให้มีกฏหมายใหม่คาดว่าจะบังคับใช้ในอีก1ปีข้างหน้าเรียกกฎหมายนี้ว่า "พระราชบัญญัติการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" เพื่อใช้บังคับและจัดเก็บภาษีเกี่ยวกับที่ดิน แทน พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งเป็นกฎหมายเดิม โดยมีหลักการจัดเก็บภาษีเป็น 3 อัตราคือ
และตามกฎหมายฉบับนี้ในกรณีที่ดินว่างเปล่าคือเจ้าของที่ดินไม่ได้ใช้ประโยชน์หรือได้ทำประโยชน์ในที่ดิน จะจัดเก็บในอัตรา 0.5% ของมูลค่าตามที่ประเมิน และจะต้องจัดเก็บเพิ่มขึ้น 1 เท่าของทุก 3 ปี ทั้งนี้รัฐมีเจตนารมณ์ในการบังคับให้เจ้าของที่ดินมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างจริงจัง เช่นบางคนมีที่ดินเป็น 1000 ไร่ แต่ไม่ได้เอามาทำอะไรเลย ขณะที่ยังมีชาวไทยอีกจำนวนมากไม่มีแม้แต่ที่จะนอนพักในยามค่ำคืน แต่มีที่ดินซึ่งปล่อยให้ว่างเปล่า เจ้าของที่ดินจะได้คิดจัดการหาวิธีการให้ที่ดินของตัวมีการใช้ประโยชน์ขึ้น โดยอาจให้เช่าปลูกพืชผัก หรืออาจว่าจ้างบุคคลที่ไม่มีที่ดินทำกินให้เข้าไปทำกินในที่ดินเพื่อจะได้เสียภาษีน้อยลง เป็นแนวคิดที่รัฐไม่ต้องลงทุนอะไรมากแต่บังคับให้มีการจ้างงานหรือจัดให้มีงานทำมากขึ้นไม่ใช่มีเงินแล้วซื้อแต่ที่ดินมาเก็บไว้เท่านั้น แนวคิดนี้เกิดมานานมากแล้วแต่ไม่มีการทำให้ก่อเกิดขึ้นจริง
ที่บอกมานี้ต้องเข้าใจด้วยนะครับว่า กฎหมายตัวนี้ยังไม่ได้ประกาศใช้นะครับก็รออยู่ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีความจริงใจป่าว หรือเอาแต่พูด
กฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้แล้วดีแน่ครับ ใครมีเงินมากซื้อที่ดินเก็บไว้มากก็เสียภาษีมาก คนในสภามีมากกว่า 80 % ครับที่มีที่ดินมากไม่ได้ทำประโยชน์
จริงๆแล้วตามกฎหมายเดิมหากปล่อยไว้ให้เป็นที่ดินว่างเปล่าก็ต้องเสียภาษีอยู่แล้วครับแต่ไม่ได้จัดเก็บในอัตราก้าวหน้าเพื่อบังคับให้ทำประโยชน์ และตามกฎหมายใหม่นี้ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน จะถูกจัดเก็บภาษีน้อยมากครับรวมแล้วไม่น่าเกิน 100 บาทต่อปี กฎหมายตัวนี้จะได้เห็นความจริงใจของคนในสภากันก็คราวนี้หละครับ
ขอบคุณนะครับที่ถาม ท่านอื่นๆที่ผ่านมาอ่านความเห็นนี้จะได้ทราบด้วย
อิ.อิ.คุณนุ้ยเรียกผมยังกับเป็นผู้อำนวยการเลยนะครับ คราวหน้าเรียกทนายหรือคุณทนายก็พอแล้วครับ หากจะบอกว่าให้เรียก"ทนายเฉยๆ" เดี๋ยวเรียก "ทนายเฉยๆ" เลยไปกันใหญ่....ฮา...
ผมก็พยายามเขียนให้อ่านในรูปแบบง่ายๆนะครับ หลีกหนีภาษากฎหมายเพื่อความเข้าใจอย่างง่ายๆ มีแทรกอารมณ์ขันบ้าง เพื่อไม่ให้น่าเบื่อ แต่ก็มีบางครั้งยังอดไม่ได้ที่จะใช้ภาษากฎหมาย เพราะเกรงจะเข้าใจความหมายที่ผิดไปจากเจตนารมณ์ของกฎหมาย นี้ก็เกรงอยู่ว่าอาจมีนักกฎหมายออกมาท้วงติงว่าทำให้ภาษากฎหมายผิดเพี้ยนไป ก็ต้องขออภัยต่อนักกฎหมายทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย
เดี๋ยวนี้ศาลและชาวพนักงานศาลปรับปรุงและปรับตัวกันมากแล้วครับ บริการผู้ที่ไปติดต่อด้วยน้ำใจไมตรี ยิ้มแย้มมากขึ้น พูดจาน่ารักขึ้นมากแล้วครับ ผมยังเคยได้ยินเจ้าหน้าที่งานธุรการศาลที่ ศาลแขวงพระนครใต้ พูดกับลูกของจำเลยที่กำลังยื่นขอประกันตัวแม่ว่า "น้องนั่งรอคะ ขอเวลาพี่เดี๋ยว รับรองว่าจะเสนอเรื่องประกันให้ทันศาลสั่งก่อนสี่โมง พี่เต็มใจช่วย ถ้าคุณแม่ของน้องได้ประกันตัว พี่ก็ได้บุญด้วย ใจเย็นๆนะ " ผมจำคำพูดนี้ได้แม้นเลยครับ ก่อนกลับออกจากศาลผมยังเดินไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ท่านนั้นเลยครับเพื่อให้กำลังใจท่านว่าท่านทำดีมีคนเห็นทั้งที่ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆในคดีนั้นเลย
ขอให้คุณนุ้ยปลอดภัยและมีความสุขไม่ต้องไปศาลหรือใช้บริการทนายตลอดชาตินี้นะครับ
ขอบคุณนะครับที่แวะมาให้กำลังใจ
สวัสดีค่ะ
ตามมาขึ้นศาลด้วยค่ะ อิอิ
เพิ่งทราบเลยค่ะว่าต้องดำเนินคดีให้เสร็จในสามเดือน ทำไมกฏหมายให้เวลาน้อยจังเลยคะ
ถ้างั้นคดีนี้คุณทนายชนะคดี แล้วฝ่ายที่บุกรุกที่ดินเค้าก็ไม่ต้องรื้อถอนออกไปเหรอคะ
แหะๆๆ ถ้าเราเป็นฝ่ายโจทก์ สมมติว่าต้นไม้ที่มาปลูกในที่ดินเราเป็นผลไม้ที่ออกผลได้ เราสามารถเก็บผลนั้นไปขายได้หรือไม่คะ
ถ้าจำเลยไม่ยอมรือถอนออกไป คือว่า ไม่เข้าใจจริงๆค่ะ แหะๆๆ
จริงๆแล้วในคดีอาญาเรื่องบุกรุกนี้ เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการจะคุ้มครองผู้พักอาศัยในบ้านเรื่อนมากกว่าครับ แต่เป็นเพราะนักกฎหมายนำมาใช้ในเจตนาอื่นเพื่อประหยัดเวลาการดำเนินคดีแพ่งนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะให้มีการติดคุกกันเพราะเหตุนี้ และศาลท่านก็อ่านและเข้าใจเจตนาของทั้งโจทก์และจำเลยดีว่าต้องการอะไร
หากเราเป็นเจ้าของที่ดินเมื่อเขาบุกรุกเข้ามาแย่งชิงการครอบครองของเราก็ต้องฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายกันในทางแพ่งครับ อันที่จริงแล้วที่ดินไม่ควรจะปล่อยให้ว่างเปล่าโดยไม่ทำประโยชน์ มีกฎหมายหลายฉบับบังคับไว้ด้วยซ้ำว่าหากปล่อยให้รกร่างว่างเปล่าให้รัฐยึดกลับเป็นของรัฐ แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้กระทำกัน เพราะหากเราดูแลทำประโยชน์อยุ่ในที่ดินการบุกรุกแย่งชิงการครอบครองก็จะไม่เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องฟ้องเอาคืนในทางแพ่ง แต่นักกฎหมายจะใช้วิธีลัดครับคือใช้ทางอาญา เพื่อบีบบังคับให้คืนที่ดินกัน
ส่วนคดีนี้ จำเลยไม่มีเจตนาจะเอาที่ดินของโจทก์อยู่แล้วครับ หลังจบคดีก็ได้ทำบันทึกส่งมอบคืนกันโดยดี เหตุที่โจทก์ฟ้องเพราะไม่กล้าไปโค้นหรือถอนต้นยางพาราของจำเลยเกรงว่าจำเลยจะดำเนินคดีฐานทำให้เสียทรัพย์
อย่างกรณีที่คุณหนึ่งถามว่า
" สมมติว่าต้นไม้ที่มาปลูกในที่ดินเราเป็นผลไม้ที่ออกผลได้ เราสามารถเก็บผลนั้นไปขายได้หรือไม่คะถ้าจำเลยไม่ยอมรือถอนออกไป "
คำตอบครับ
คุณหนึ่งไม่สามารถจะไปเก็บผลไม้ของจำเลยไปขายได้ครับ เพราะผลไม้เป็นของจำเลยทั้งนี้เพราะจำเลยเป็นคนปลูก
คุณหนึ่งเป็นเพียงเจ้าของที่ดินไม่ได้เป็นเจ้าของต้นไม้ที่ออกผลมาหากเก็บไปขายอาจมีความผิดฐานลักทรัพย์
ส่วนที่จำเลยบุกรุกเข้ามาปลูกต้นไม้จนเป็นผลแล้ว คุณหนึ่งทำได้อย่างเดียวคือฟ้องขับไล่จำเลยให้รือถอนต้นไม้ออกไปและเรียกร้องค่าเสียหายเอาจากจำเลยหรือจะฟ้องเป็นคดีอาญาฐานบุกรุกหรือจะฟ้องทั้งแพ่งและอาญาก็ได้ครับ
อันนี้ต้องแยกกันนะครับระหว่างการเป็นเจ้าของที่ดินกับเจ้าของต้นไม้ ก็อย่างที่ผมว่าไว้แล้วถ้าเราได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินโดยตลอดจะไม่มีใครมาบุกรุกได้หรอกครับ ต่อไปจะมีกฎหมายใหม่ออกมาบังคับโดยใช้ภาษีเป็นตัวบังคับให้เจ้าของที่ดินต้องใช้ประโยชน์ในที่ดินให้มากขึ้น หากไม่ใช้ประโยชน์ก็จะเก็บภาษีมากขึ้นเป็นทวีคูณครับ
หวังว่าคงไม่ งง กับคำตอบนะครับ หากคุณหนึ่งมีที่ดินมากๆดูแลไม่ทันยกให้ผมบ้างก็ได้นะครับ..ฮา....ใครมาบุกรุกผมจะฟ้องคดีเองไม่จ้างทนายด้วย...อิ.อิ.
ขอบคุณครับที่ถามเพราะท่านอื่นที่เข้ามาอ่านความเห็นนี้จะเข้าใจได้ด้วย
สวัสดีครับท่านทนาย
ผมตอบแทนครับ
บวบที่ท่านเกษตรอยู่จังหวัดเอามาโชว์
เป็นบวบท่านเกษตร ยะลาครับ (บวบยาว) ฮาๆๆ
สวัสดีค่ะ..วันนี้คุณทนายมีเรื่องมาเล่าให้ความรู้อีกแล้ว
..พวกบุกรุกเนี๊ยะ ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆน่ะค่ะ..
ขอบคุณค่ะ คุณทนายที่ช่วยให้ความรู้
เห็นด้วยค่ะ มีที่ดินเยอะแยะที่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลย เสียภาษีก็ไม่ได้เสียปล่อยทิ้งว่างไว้เก็งราคาเฉยๆ
กลับกันยังมีชาวบ้านอีกมากมายที่ไม่มีที่ทำกิน
ความแตกต่างของชนชั้นมันมากจริงๆค่ะ คนรวยๆล้นฟ้า คนจนก็จนจมดินไปเลย
ที่ๆบ้านอรก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรก็ให้ ชาวไร่ ชาวนา เขาเช่าไปทำนา ปลูกข้าวค่ะ ปีละไม่กี่พันบาท แต่ชาวบ้านเขาก็น่ารักค่ะพอถึงหน้าเก็บเกี่ยวก็จะเอาข้าวมาฝากหลายกระสอบ ที่บ้านไม่เคยต้องไปซื้ัอข้าวทานเลยค่ะ มีแต่คนเอามาให้ บางทีเยอะเกินจนหนูมันมากัดกินต้องเอาแจกจ่ายหรือเอาไปขายโรงสีด้วย ^^
อยากถามเรื่องเช่าด้วยค่ะ บางทีเราให้ชาวบ้านเขามาเช่าแบบปากเปล่า เขามาขอยืมที่ทำไร่ทำนา เราก็อนุญาติไปไม่ได้คิดอะไรไม่ได้ทำเป็นหนังสือสัญญาด้วย แบบนี้ถ้าเขาทำไร่ทำนาปลูกกระท่อมบนที่ของเราหลายๆปีเข้าเขายึดไปเลย กฎหมายจะช่วยอะไรได้ไหม๊คะ ? ถามไว้เผื่อไปเจอพวก"หัวหมอ"ค่ะ
คุณทนายค่ะ
ถ้าเราไปซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง เมื่อเราทำรั้วรอบที่ดินเสร็จปรากฏว่าที่ดินข้างเคียงเขาปลูกต้นมะปรางใหญ่เป็นแนวเขตตลอดที่ดินของเขา โดยที่กิ่งก้านของมันเข้ามาในที่ดินของเราประมาณ 5 เมตร ต้นไม้ในฝั่งของเราไม่สามารถเจริญเติบโตได้ เขาไม่แก้ปัญหาใดๆ เราจะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ
เรื่องบุกรุกนี้ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหาจนต้องไปจบกันที่ศาล เป็นการบุกรุกที่ดินมากกว่าบุกรุกที่อยู่อาศัยครับ เพราะการบุกรุกที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นความผิดด้านอื่นด้วยเช่น การลักทรัพย์ การข่มขืน การทำร้ายร่างกาย อะไรทำนองนี้ ดังนั้นหากคุณครูมีที่ดินก็ต้องไปตรวจสอบดูแลบ่อยๆ และแต่ละครั้งที่แวะไปดูที่ดินก็ควรจะถ่ายภาพไว้บ้าง โดยถ่ายให้ติดหนังสือพิมพ์ไว้ด้วย คืออาจให้มีคนยืนถือหนังสือพิมพ์ ที่มีหัวข้อข่าวในวันที่ถ่ายภาพ เพื่อไว้ยืนยันว่าในวันดังกล่าวได้เข้าไปดูแลที่ดินจริงๆ หากมีกรณีบุกรุกขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ครับ
ขอบคุณครับที่ติดตามให้กำลังใจบ่อยๆ
ผมกำลังรอให้กฎหมายใหม่ใช้บังคับได้จริง...จะสามารถลดปัญหาเรื่องที่ทำกินไปได้มากครับ ชาวบ้านจะได้มีที่ทำกินกันได้บ้างแม้ไม่ใช่ที่ดินของตนเอง ผู้มีที่ดินจำนวนมากๆก็จะต้องให้ชาวบ้านช่วยเข้าไปทำกิน ไม่งั้นก็ต้องจ่ายภาษีที่ดินแพงเป็นทวีคูณ
ที่ดินของบ้านคุณอรได้ให้ชาวนาเช่าหรือใช้อยู่อาศัย นับว่าเป็นกุศลยิ่งเลยครับ เพราะอย่างน้อยก็ได้ให้โอกาสคนหนึ่งคนมีที่ทำมาหากิน แต่คนหนึ่งคนนั้นเขาสามารถทำให้ครอบครัวของเขามีชีวิตที่ดีขึ้น กุศลที่บ้านคุณอรสร้างนี้ไงครับถึงไม่ต้องซื้อข้าวทาน ยิ่งให้มากเราก็ได้มากครับคุณอร
ที่คุณอรถามว่า
อยากถามเรื่องเช่าด้วยค่ะ บางทีเราให้ชาวบ้านเขามาเช่าแบบปากเปล่า เขามาขอยืมที่ทำไร่ทำนา เราก็อนุญาติไปไม่ได้คิดอะไรไม่ได้ทำเป็นหนังสือสัญญาด้วย แบบนี้ถ้าเขาทำไร่ทำนาปลูกกระท่อมบนที่ของเราหลายๆปีเข้าเขายึดไปเลย กฎหมายจะช่วยอะไรได้ไหม๊คะ ? ถามไว้เผื่อไปเจอพวก"หัวหมอ"ค่ะ
คำตอบครับ
ขอแนะนำเลยครับว่าควรอย่างยิ่งที่จะต้องทำเป็นหนังสือ เพื่อตัดปัญหาที่อาจคาดไม่ถึงครับ เช่นเราอนุญาตให้ นาย ก.เช่าหรืออาศัยทำกิน แต่อย่าลืมว่า นาย ก. อาจมีลูก มีพี่ มีน้อง มีเมีย ฯลฯ เมื่อ นาย ก. ตายบรรดาท่านเหล่านี้อาจไม่ทราบว่าที่ดินที่ให้เช่าหรืออาศัยทำกินนั้นเป็นเจตนาดีของทางเรา แต่เขาอาจอ้างสิทธิครอบครองเมื่อสิ้น นาย ก. แล้วก็ได้ หรือไม่ต่อไปลูกหลานเราเองอาจไปมีปัญหากับท่านเหล่านี้ก็เป็นได้ ดังนั้นคุณอร ควรเรียกมาทำสัญญาเป็นหนังสือเสียทุกราย อันนี้เราต้องมองให้ไกลไปในอนาคตครับ
ส่วนสัญญาที่จะต้องทำ เช่นกรณีให้เช่าทำนา ก็ทำสัญญาให้เช่าทำนา หรือให้สิทธิทำกิน ก็ทำสัญญาให้สิทธิทำกิน หรือให้ใช้ปลูกบ้านพักอาศัย ก็ทำสัญญาให้อาศัย ซึ่งบรรดาสัญญาเหล่านี้มีขายเป็นแบบสำเร็จทั่วไปลองไปหามาทำเสียเถอะครับ แต่ถ้าหาไม่ได้จริงๆ ส่งอีเมล ถึงผมแล้วจะส่งไปให้ครับ
ขอบคุณครับที่ติดตามอ่านบันทึกตลอดมา
ตอนนี้โรงเรียนปิด คุณครูคงคิดถึงบรรดาศิษย์รักซิครับ บางคนจบไปเรียนต่อที่อื่นยิ่งไม่ได้เห็นหน้าอีกหลายปี อาจเห็นหน้าอีกทีตอนเขามาเป็นผู้ปกครองของลูกเขาอีกที นึกถึงตอนนั้น....อิ.อิ. ไม่รู้คุณครูยังสวยอยู่ป่าวนะ
คุณครูถามผมว่า
ถ้าเราไปซื้อที่ดินแปลงหนึ่ง เมื่อเราทำรั้วรอบที่ดินเสร็จปรากฏว่าที่ดินข้างเคียงเขาปลูกต้นมะปรางใหญ่เป็นแนวเขตตลอดที่ดินของเขา โดยที่กิ่งก้านของมันเข้ามาในที่ดินของเราประมาณ 5 เมตร ต้นไม้ในฝั่งของเราไม่สามารถเจริญเติบโตได้ เขาไม่แก้ปัญหาใดๆ เราจะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ
คำตอบครับ
ปัญหานี้คุณครูคงต้องชม ท่านที่คิดและมองเห็นถึงปัญหานี้และได้หาทางแก้ไขไว้ก่อนเป็นการล่วงหน้า คือมีกฎหมายแพ่งกำหนดวิธีการแก้ไขไว้ให้แล้วครับแต่คุณครูต้องทำตามวิธีที่ผมจะบอกให้ดังนี้
ที่ผมแนะนำเช่นนี้เป็นการทำตามกฎหมายแพ่งมาตรานี้ครับ
มาตรา 1347 เจ้าของที่ดินอาจตัดรากไม้ซึ่งรุกเข้ามาจากที่ดินติดต่อและเอาไว้เสีย ถ้ากิ่งไม้ยื่นล้ำเข้ามา เมื่อเจ้าของที่ดินได้บอกผู้ครอบครองที่ดินติดต่อให้ตัดภายในเวลาอันสมควรแล้ว แต่ผู้นั้นไม่ตัด ท่านว่าเจ้าของที่ดินตัดเอาเสียได้ คุณครูอย่าไปตัดกิ้งมะปรางโดยไม่มีการดำเนินการตามที่ผมแนะนำนะครับ เพราะยังไงเสียกิ่งมะปรางก็ยังเป็นทรัพย์ของเขาหากเราตัดไปโดยไม่บอกกล่าวและให้เวลาเขาตามสมควรแล้วเราอาจถูกเขาฟ้องฐานทำให้เสียทรัพย์ได้ครับ ขอบคุณครับที่ถามคำถามนี้เพราะอาจยังปประโยชน์ต่อท่านอื่นได้ด้วย
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ
เรื่องที่บางทีก็ไม่ได้สนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่เคยเป็นคนงานเก่าของคุณพ่อมาขอที่ไปทำนาปลูกผลไม้ ก็ให้ไปไม่ค่อยได้ทำสัญญาอะไร แถมที่ก็อยู่ไกลไม่มีเวลาไปดูด้วย พวกต้นไม้ที่เคยไปปลูกไว้แถวนั้นหายไปหมดเลยค่ะ ฮ่าๆ ไว้จะไปลองไปแนะนำให้พ่อทำสัญญาเผื่อไว้เวลามีปัญหาจะได้ไม่ต้องมานั่งขึ้นโรงขึ้นศาล ^^ ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ ไม่ได้เข้ามานานคิดถึงเรื่องราวของคุณทนายคืนนี้แวบงานมาอ่านได้หนึ่งเรื่องแบบคร่าวๆ งานเสร็จเมื่อไร (หลังสิ้นเดือน)แล้วจะมาติดตามอ่านใหม่นะคะ
ทักทายจากเมืองตรัง(อีกแล้ว)ค่ะคุณทนายแปดฯ
มาอมยิ้มคห.ของพี่ชายเกษตรปะทะคุณทนาย ได้ฮาเฮทุกที อิ อิ
ขอติดค้างเนื้อหาไว้ก่อนนะคะเพราะมันย๊าว ยาว แค่อ่านเครื่องเคียงก็ได้อมยิ้มแล้วค่ะ
ถ้าได้เข้าเมืองกรุง จะไปบุกรุกแถวลาดพร้าวแล้วกันนะคะ มีความสุขปีใหม่ไทยค่ะ
ยินดีอย่างยิ่งครับที่คำแนะนำของผมจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจมีมาในอนาคตได้ รีบทำสัญญาเสียในช่วงลูกน้องคนเก่าคนแก่ของคุณพ่อคุณอร ขณะยังพูดคุยกันได้ด้วยดีเถอะครับ เท่าที่ประสบการณ์ของผมได้พบเห็นมาคือจะไปก่อปัญหาในรุ่นถัดไปเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ ถ้าคุณพ่อไม่แน่ใจก็ลองเอาเรื่องที่ผมเล่าไปให้ท่านอ่านดูก็ได้ครับ
ขอบคุณนะครับที่แวะมาอีกครั้ง
น่าสงสัยเสียแล้วว่า เมืองตรังมีอะไรดีนะ สาวพังงาถึงติดใจไปทุกๆบ่อย...อิ.อิ..
ถ้าติดใจหมูย่างตรังก็แล้วไป หนุ่มพังงาจะได้ไม่ต้องกลายร่างเป็นภูเขา..แฮ...
ปีใหม่ไทยคุณปูจะอยู่ไหนครับ ใกล้หนุ่มพังงา หรือหนุ่มที่ไหนอยากรู้จัง
ขอบคุณครับ ทำภารกิจและเที่ยวให้สนุกนะครับ ทานหมูย่างเยอะๆเน่อ...
ในทรรศนะของความ เกี่ยวกับความผิดบุกรุก คือ หากรู้ว่ามีการบุกรุกและรู้ตัวผู้บุกรุกเข้ามาทำกินในที่ดิน หากทำกินแล้วออกไป ไม่เข้ามาอีก หากการรับรู้เกิน 3 เดือน ก็ต้องหมดอายุความครับ แต่ถ้าเขายังอยู่ในที่ดินทำกิน หรือใช้ที่ดินนั้นอยู่ นั่นก็คือการบุกรุกทุกวัน อายุความก็นับใหม่ไปทุกวัน ครับ
คือฉันได้ซื้อบ้านมือสอง แล้วบอกกให้เขาย้ายออกพอเขาย้ายเขาได้งัดเอาทรัพย์สิในบ้านไปด้วยเขามีความผิดไหม ฉันควรจะแจ้งความด้วยไหมค่ะกรุณาติบด้วยค่ะ
เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2558 เวลา 12.00 น. ขณะที่ข้าพเจ้าอยู่บ้านกับบุตรสาวเพียง 2 คน ได้มี นาย ธ และ นางสาว ณ ซึ่งทั้งสอง เป็นสามีภรรยากัน ได้บุกรุกเข้ามาภายในบริเวณบ้านพัก และ ทำลายทรัพย์สินของข้าพเจ้า อันได้แก่
1. รถยนต์ นิสสัน หมายเลขทะเบียน ผม 0000 นครราชสีมา
2. รถยนต์ อีซูซุ หมายเลขทะเบียน ผผ 0000 นครราชสีมา
3. รถยนต์ ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กต 0000 นครราชสีมา
โดยกระทำการ ขว้างปาสิ่งของใส่รถยนต์ ของข้าพเจ้า ได้รับความเสียหาย บุบ แตก
ได้ทำการลักทรัพย์ ของข้าพเจ้า มีรายการดังต่อไปนี้
1. ถังลมออกซิเจน 1 ถัง
2. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ไอโฟนห้า สีดำ 1 เครื่อง
( ได้ทำการคืนให้หลังจากที่ข้าพเจ้า ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทวงถาม ขณะที่ทั้งสองขับรถออกจากบ้านของข้าพเจ้า )
โดยทำการโยนโทรศัพท์ มือถือฯ ของข้าพเจ้าลงจากรถสู่พื้นเบื้องล่างซึ่งเป็นปูนซีเมนต์ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้คืนโทรศัพท์มือถือฯ ทำให้โทรศัพท์ฯ ของข้าพเจ้าเกิดความเสียหาย เครื่องดับและมีรอยขูดรอบตัวเครื่อง
ทั้งสองได้ทำร้ายร่างกายข้าพเจ้า ทั้งต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ
โดยการกระทำในครั้งนี้ เกิดจากความตั้งใจของ นายธนดลและภรรยา ด้วยทั้งสองท้าทายด้วยวาจาว่า ให้ไปแจ้งความเอาเอง
ว่า นาย ธนดลฯ และภรรยา นั้นตั้งใจกระทำ และยังได้กล่าวหาด่าทอ ข้าพเจ้า ด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทำให้ข้าเจ้าเสื่อมเสียชื่อเสียง พร้อมทั้งถ่มน้ำลายใส่หน้าข้าพเจ้า ถึง 4 ครั้ง
โดยการกระทำในครั้งนี้ ข้าพเจ้ามีบุคคลเป็นพยานรู้เห็น ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายและคนข้างบ้านที่เข้ามาห้ามปราม นาย ธนดล ฯและภรรยาด้วย
ข้าพเจ้าจึงขอให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
พอยกฟ้องแล้ว คือ ไม่ติดคุกแต่ต้องถอนออกมั้ยค่ะ?
รบกวนปรึกษาค่ะ ที่ดินหลุดขายฝากมา6ปีค่ะเนื้อที่10ไร่แต่ระหว่างนั้นมีการซื้อขายโดยไม่มีการโอนแต่มีการชำระเงินหลังจากนั้นมีการซื้อคืนจากผู้รับซื้อฝากเดิมโดยมีการทำสัญญาเช่ากับผู้ขายฝากเป็นเวลา1ปีเพื่อทำกินต่อในที่ดินเดิม(ที่ดินเดิมเป็นนากุ้ง)แต่ไม่ได้รับการชำระเงินค่าเช่าแต่อย่างใดหลังจากนั้นน้องชายผู้เช่ามาทำการบุกรุกที่ทำบ่อกุ้งต่อเราสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างคะต้องใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเรื่องทนายประมาณเท่าไหร่ได้คะ***ขอคำแนะนำวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดนะคะ..ขอบคุณค่