ช่วงนี้ต้องทบทวนกระบวนท่าสักหน่อย หลังจาก...เอกสารตกไม่เป็นท่าสงสัย ไม่มีวาสนา ไม่มีบุญ หรือไม่ก็บุญไม่ถึง "พิเศษ" ... คงต้องเทียวไปเติมความรู้ปัญญากระบวนท่าที่ มข. อีก ๖ ครั้ง เมื่อวานผ่านไป ๑ ครั้ง...รู้สึกสดชื่นขึ้นหน่อย.ขอขอบคุณท่านผู้อำนวยการ พิริยะ อุทโท ที่สนับสนุนส่งเสริมครูและบุคลากรพัฒนาเพิ่มพูนความรู้ ปัญญา ความสามารถเพื่อนำมาพัฒนาลูกศิษย์ต่อ...ครูจากโรงเรียนอื่นบ่นอื้อว่าผู้บริหารเรื่องมากไม่สนับสนุนค่าใช้จ่าย...แต่ท่านไม่...ขอบคุณผู้บริหารดีๆอีกครั้งค่ะ
(ตัวอย่างสุนทรพจน์...เสื้อแดงอ่านมั่งนิ)
หน้าที่คนไทย
นายหนึ่ง คงกระพัน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
รางวัลชนะเลิศประกวดสุนทรพจน์อุดมศึกษาเฉลิมพระเกียรติ
ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ ๑ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๓
จัดโดย สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชินูปถัมภ์
ท่านประธาน ท่านคณะกรรมการ ท่านคณาจารย์และท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่าน
สองพระกรรณสดับรับฟังเหตุ สองพระเนตรดูแลคอยแก้ไข
สองพระหัตถ์แผ่ป้องคุ้มผองภัย หนึ่งพระทัยนำกู้ชาติราษฎร์ร่มเย็น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์สองพระเนตรของพระองค์ดุจดัง พันทิพยเนตรแห่งองค์อัมรินทร์ที่ดูแลแผ่นดินทั่วถิ่นไทย สองพระหัตถ์ของพระองค์เปรียบดังแปดพระหัตถ์ของพระพรหมที่โอบอุ้มสังคมไทยให้ร่มเย็น น้ำพระทัยของพระองค์ประหนึ่งน้ำพระทัยของพระโพธิสัตว์ที่มุ่งบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ปวงประชา ในยามวิกฤติของชาติทรงนำไทยให้กู้ชาติด้วยพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส และพระราชจริยะวัตรที่เป็นแบบอย่างสมควรแก่พสกนิกรชาวไทยและจะประพฤติปฏิบัติตามรอยพระยุคลบาท เราคนไทยจึงขอดำเนินตามรอยพระยุคลบาท ดังนี้
คนไทยต้องมีความเพียร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกอปรด้วยพระวิริยะอุตสาหะเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก แม้จะต้องตรากตรำพระวรกายพระเสโทหยาดหยดรดแผ่นดิน พระองค์ก็ไม่เคยละทิ้งความพยายามที่จะทำให้คนไทยมีความสุข ดังจะเห็นได้จากโครงการในพระราชดำริมากมาย ที่อำนวยประโยชน์สุขให้กับพสกนิกรทั้งแผ่นดิน พระกุศโลบายในการนำชาติและกู้ชาติด้วยความเพียรเป็นอเนกประการ ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนกเพื่อนำจิตและปลุกใจคนไทยให้ขยันหมั่นเพียรและพึ่งตนเองพระราชทานแนวพระราชดำริเรื่องเศรษฐกิจพอเพียรซึ่งมีทั้งแนวคิดและตัวอย่างปฏิบัติที่ชัดเจน เป็นทางออกให้คนไทยดำรงชีวิตเป็นปรกติในยามวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ได้วิกฤติเฉพาะประเทศไทย แต่วิกฤติไปทั่วโลก บัดนี้คนไทยประจักษ์แล้วว่าชาติไทยของเราจะก้าวหน้า และฝ่าฟันกับปัญหานับประการไปได้นั้นไม่ใช่อยู่ที่เทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งมาดลบันดาล แต่อยู่ที่มือทั้งหกสิบห้าล้านคู่ของคนไทย และดวงใจทั้งหกสิบห้าล้านดวงของคนทั้งแผ่นดิน ที่ต้องขยันหมั่นเพียรและตั้งใจทำงานเปี่ยมด้วยพลังไฟแห่งการสร้างสรรค์ซึ่งจุดขึ้นด้วยพระราชดำรินั้น
คนไทยต้องสามัคคีกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ให้คนไทยสามัคคีปรองดองกัน หนังสือพระราชนิพนธ์แปลเรื่องติโตเป็นพยานยืนยันถึงพระราชปณิธานที่ต้องการ ให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของความสามัคคี ถ้าเพราะหากเราสามัคคีกันแล้วแม้คนกลุ่มเล็กๆ ก็ช่วยชาติได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามคับขันความสามัคคีเท่านั้นที่จะประสานคนทั้งหลายให้ให้เป็นกลุ่มที่ทรงพลังนำพาประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตการณ์ต่างๆ ได้ ดังที่ติโตได้นำประเทศยูโกสลาเวียผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในได้สำเร็จ วิกฤตการณ์ภายในดังกล่าวยังไม่เท่ากับวิกฤติการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสเตือนคนไทยหลายครั้งให้สามัคคีกันเพื่อสู้ภัยเศรษฐกิจ ด้วยการประหยัด การใช้ของไทย และการสู้ภัยวัฒนธรรมต่างชาติ ไม้ต้นเดียวไม่อาจเรียกว่าป่าไม้ ดาวดวงเดียวไม่อาจประดับท้องฟ้าให้งดงาม คนคนเดียวก็ไม่สามารถทำงานใหญ่ให้สำเร็จลุล่วงไปได้ ไม้หลายต้นจึงทำให้ป่าอุดมสมบูรณ์ ทั้งดาวและเดือนที่ช่วยกันส่องแสงท้องฟ้าจึงงดงามคนหลายคนหลายกลุ่มหลายอาชีพเมื่อรวมใจกันย่อมทำให้ประเทศชาติพ้นภัยและมั่นคง
คนไทยต้องทำความดีเพื่อความดี ปะดุจดังผู้ปิดทองหลังพระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่างของคนดีที่ทำความดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ พระองค์ทรงทำความดีด้วยน้ำพระทัยอันบริสุทธิ์เราคนไทยจึงต้องทำความดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้ว่าทำไปเท่าใดก็ไม่มีใครเห็น ทำนานเท่าใดก็ไม่มีใครรู้ เสมือนกับการการปิดทองหลังพระปฏิมา มิพึงทำความดีเพื่อแลกกับเกียรติยศชื่อเสียงแต่ทำความเพื่อความภุมิใจตนเอง มิพึงทำความดีเพื่อหวังให้ใครมาชื่นชม แต่ทำความดีเพื่อที่จะได้นับถือตนเองได้อย่างสนิทใจ ผู้ที่ทำความดีย่อมมีคุณค่าเหนือโล่รางวัลและประกาศเกียรติคุณใดๆทั้งสิ้น ดังพระบรมราโชวาทในโอกาสวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช ๒๔๙๗ ตอนหนึ่งความว่า “บุคคลใดประกอบความดี คุณความดีนั้นย่อมตอบสนอง” จึงขอชักชวนแต่ละท่านให้พยายามบำเพ็ญความดีด้วยน้ำใจอันบริสุทธิ์ ทั้งนี้เพื่อความสุขสวัสดีของท่านและเพื่อความวัฒนาถาวรของประเทศชาติอันเป็นที่รักของเราทั้งหลาย
ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพทุกท่านครับ การตามรอยพระยุคลบาทไม่ใช่เป็นเพียงการเรียนรู้พระราชประวัติและไม่ใช่แค่เป็นเพียงการเผยแพร่พระราชกรณียกิจแต่เพียงอย่างเดียว แต่การตามรอยพระยุคลบาทคือการปฏิบัติดีทั้งทางด้านความวิริยะอุตสาหะ ความสามัคคี และการทำดีโดยไม่หวังผล นับว่าเป็นโชคดีของพวกเราชาวไทยที่ได้เกิดใต้พระบรมโพธิสมภาร ชีวิตร่มเย็นใต้ร่มพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงกู้ชาติทั้งยามภัยร้อนและภัยเย็น ที่ทำให้เราทุกคนดำเนินตามรอยพระยุคลบาทได้ ทำให้ประเทศไทยมั่นคงและร่มเย็น
พระเนตรดูแลสุขทุกข์ของทวยราช
พระทัยใสสะอาดเหนือหยาดฝน
พระพักตร์สง่างามท่ามกลางชน
พระหัตถ์คุ้มสกลพ้นโพนภัย.
โชคดีจังที่ท่านผู้บริหารสนับสนุนงานคุณครู
ความสำเร็จ ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างบังเอิญ แต่เป็นความพยายามที่ชาญฉลาดครับ
ขอเป็นกำลังใจให้เดินทางต่อไปถึงจุดหมาย
สวัสดีค่ะครูจอมใจ..มาศึกษาสาระดีๆค่ะ...ได้รับการอบรมทางวิชาการแบบนี้ดีจังเลยค่ะ...
ขอบคุณค่ะคุณครู rinda ... อบรม "อัพ" สมองค่ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณพี่ ครูอ้อย แซ่เฮ
.....กำลังใจที่ได้รับ
เมื่อวันที่ ๒๓-๒๔ เมษายน ๕๓ นี้ การทบทวนกระบวนท่าครั้งที่ ๒ ก็ผ่านไปแล้วด้วยดีที่เวียงจันทน์...ขอบคุณภาควิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ช่วยพัฒนาสร้างเครือข่ายทักษะความรู้ให้กับครูภาษาไทย.....................
ไปลาวครั้งสุดท้ายเมื่อปี ๓๘...กว่า ๑๖ ปีที่ไปอีกเปลี่ยนแปลงไปเยอะ
เมื่อเช้าเข้าแถวหน้าเสาธงมีการแสดงความยินดีกับคุณครูที่ลาไปศึกษต่อและให้โอกาสได้กล่าวลานักเรียน/คุณครูทั้งโรงเรียน...ขอขอบคุณผู้อำนวยการ "คนดี และเก่ง"...ท่านวิริยะ อุทโท ผู้มีน้ำใจ
จำได้ว่าเมื่อปี ๒๕๓๗ ลาศึกษาต่อป.โท(คนแรกคนเดียวของนามนพิทยาคม...)ผู้บริหารไม่ได้ให้โอกาสได้ร่ำลาบอกกล่าวนักเรียนเลย...มันแตกต่างกันจังเลย
เคยทำงานร่วมกับผู้บริหารมาแล้ว ๖ คนท่านดีมากที่สุด