สวัสดีครับ... ชาว G2K และผู้อ่านทุกท่าน ^^
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เอิร์ทวิ่งวุ่นทั้งวัน ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวเยอะไปหมด
แล้วคืนนี้ประมาณตี 3 ต้องเดินทางไปสระบุรีครับ ไปงานบวชน้องชาย
แต่ก็ไม่ลืมที่จะเอาเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับ "จิตวิทยาการขอ" มาเล่าสู่กันฟัง
เรื่องราวในวันนี้เกิดขึ้นกับตัวเอิร์ทเองสดๆร้อนๆ เมื่อประมาณบ่าย 3 โมงครับ
พอดีวันนี้ผมได้มีโอกาสไปฟังบรรยายตัวแทนของ AACP มา เรื่องราวจะเป็นยังไง ตามมาครับ ^^
วิทยากรท่านนี้ชื่อพี่เจี๊ยบครับ... พี่เจี๊ยบได้เล่าเทคนิคการขายที่เอิร์ทว่า ถ้าท่านได้ฟังแล้วคิดตามแบบไม่มีอคติ
โอกาสที่จะปิดการขายกับท่านได้มีสูงมากๆครับ... พี่เจี๊ยบเล่าว่า "ที่เราทำการทำงานกันอยู่ทุกวันนี้ เราเก็บเงินไว้ให้ใคร"
ผู้ร่วมฟังบรรยายส่วนใหญ่ตอบว่า "เก็บไว้ให้ตัวเอง" พี่เจี๊ยบถามต่อ "แล้วเอาไปเก็บที่ไหน" ผู้ร่วมฟังบรรยายตอบ "ธนาคาร"
พี่เจี๊ยบถามอีก "แล้วเวลาเราเจ็บป่วยเราเอาเงินที่ไหนจ่ายคะ" ผู้ร่วมฟังบรรยายตอบ "เอาเงินเก็บในธนาคารมาจ่าย"
พี่เจี๊ยบถาม "เอามาจ่ายให้ใครคะ... คุณหมอใช่ไหมคะ" ผู้ร่วมฟังบรรยายตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ใช่ !!!" พี่เจี๊ยบถามต่อ
"แล้วถ้ามีกรมธรรม์ที่พี่สามารถเก็บเงินให้กับตัวเองได้ แถมไม่ต้องเสียค่ารักษาพยายาล เพราะบริษัทจ่ายให้พี่สนใจไหมคะ"
ตัดมาที่จุดนี้ครับ... มาดูกันครับว่า เคสนี้ให้อะไรกับเราบ้าง... ตามมาครับ ^^
จะเห็นได้ว่า... พี่เจี๊ยบใช้เทคนิคการพูดแบบ "ลำดับเห็นการณ์ให้เห็นภาพ" ว่าจริงๆแล้ว เงินที่เราทำงานหามาด้วยความยากลำบากนี้
เราเก็บไว้ให้ใครกันแน่... แล้วมันก็จริงครับอย่างที่เขาว่า คำตอบก็คือ "ให้คุณหมอ" ซึ่งการพูดแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคขั้นเทพครับ
เพราะผู้ฟังมักจะคล้อยตาม และเห็นด้วยเสมอ ด้วยการลำดับเหตุการณ์มาเป็นขั้นเเป็นตอน ชัดเจน เมื่อเราได้ฟังเขาพูดเกริ่นนำมาแบบนี้
การที่เขาจะปิดการขายกับเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรครับ เพราะสิ่งที่เขาเตรียมที่จะนำเสนอให้กับเรานั้น มักสอดรับกับสิ่งที่เขาได้พูดเกริ่น
แล้วเราก็จะหลงกล ติดกับดักที่เขาวางเอาไว้อย่างง่ายดายครับ (เผลอนิดเดียว เซ็นชื่อทำประกันไปซะละ - -" )
เป็นอย่างไรกับบ้างครับ... กับ "การขอด้วยการพูดจูงใจแบบลำดับเหตุการณ์" นี่เป็นจิตวิทยาขั้นเทพเลยนะครับ
เพราะคนเรามักจะเชื่อกับสิ่งที่เคยพบเคยเจอ และประสบการณ์ที่เคยผ่านมาเสมอ อย่างในเคสนี้พี่เจี๊ยบก็ได้ใช้จุดนี้มาเป็นตัวช่วย
ในการที่จะพูดเกริ่น ก่อนที่จะเสนอขายกรมธรรม์ ที่สามารถแก้ปัญหากับสิ่งที่พูดเกริ่นไปตอนแรกได้อย่างลงตัว แล้วทำไมเราจะไม่สนใจ
จริงไหมครับ... ลองนำไปปรับใช้กันดูครับ เทคนิคการพูดแบบนี้ น่าจะช่วยให้ท่านปิดการขายกับลูกค้าได้มากขึ้น ไม่เฉพาะ
แต่กับธุรกิจประกันภัยเท่านั้นนะครับ ธุรกิจอื่นๆที่ต้องเน้น Sale เป็นสื่อกลางในการขายสินค้า รวมถึงคนทั่วไป โดยเฉพาะ
ผู้นำที่ต้องการจะพูดจูงใจให้คนในองค์กรของท่าน ทำบางสิ่งให้กับท่าน/องค์กร ก็สามารถนำเอาเทคนิคนี้ไปใช้ได้เหมือนกัน
แล้วคุณละคิดยังไง ^^
อย่างนี้ใช้มากเลยค่ะในการพูดกับคนไข้และญาติ รวมถึงการทำงานในชุมชนที่ต้องทำงานประสานกับผู้นำชุมชนระดับต่างๆ และชาวบ้าน
ชาวสระบุรียินดีต้อนรับค่ะ
การขอด้วยการพูดจูงใจแบบลำดับเหตุการณ์ เวิร์คคะ
แบบนี้ทำให้คนฟังรู้สึกว่ามันน่าเชื่อถือ และมีเหตุผลคะ
เพราะบางที่การขายประกันมักจะมายัดเยียดให้กัน โดยไม่มีเหตุผล ไม่น่าเชื่อถือ
แบบนี้ลูกค้าหนี้หมด ต้องค่อยตะล่อมแบบนี้แหละ ดีๆ
เหมือนเป็นการชักจูงให้คิดตาม จากผู้รู้จริงทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงด้วยค่ะ
โอ้โห "เมพขิง ๆ" เอ้ย เทพจริง ๆ ครับ คุณ ไพรัชช์
แค่อ่านผมยังรู้สึกคล้อยตาม
เป็นวิธีที่แยบยล ลื่นไหล ได้ใจจริงครับ
ถ้าได้ป๊ะกันตรง ๆ ก็คงเสร็จพี่ท่าน เป็นแน่ (คนหล่อมักเชื่อคนง่าย โดยเฉพาะสาว ๆ ^^)
ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ครับ
ปล.ไม่ได้เข้ามาอ่านซะนานยัง "สาระคง" เอ้ย! "คงสาระ" เช่นเดิมนะครับ
เดินทางโดยสวัสดิภาพคร้า.....บ ^^
ไพรัชช์อันนี้เทพจริงครับ เป็นอะไรที่อ่านยังเปลี่ยนวิธีคิดได้เลย
ขอบคุณที่แวะมาครับ
ตอนนี้ผมอยู่สระบุรีครับ
เดี๋ยวถึงขอนแก่นแล้วจะตอบแบบละเอียดอีกทีนะครับ
สวัสดีค่ะ คุณเอิร์ท
หายไปหลายวันหน่อยนะค่ะ บังเอิญป็นช่วงที่ต้องคะแนนให้เด็กเพราะเด็กจะฟังผลสอบสิ้นเดือนเลยไม่ค่อยมีเวลาเปิดคอมเลยค่ะ ส่วนเรื่องที่เขียนนี้เป็นความรู้เพิ่มเติม จากที่เคยทราบมาบ้างแล้ว ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนสิ่งที่มีประโยชน์มาให้อ่าน
วิธีการนี้ใช้ได้กับทุกงานนะคะ
เพียงแต่ว่าคนพูดต้องมีทักษะซักหน่อย
เขาจึงจะทำในสิ่งที่เราต้องการ
สวัสดีค่ะ เอิร์ท
ตอนแรกนึกว่าใช้ สาริกาลิ้นทอง ซะอีก อิอิ
แต่การทำให้คล้อยตาม แบบจูงใจแบบนี้
ทำให้ผู้ฟังคล้อยตาม เลยได้ใจไปค่ะ
บุญรักษาค่ะ ^^
สวัสดีค่ะ
มาทักทายความบ่ายแก่ๆ ค่ะ
มารับความร้ และเก็บเกี่ยวเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ "จิตวิทยาการขอ"
เพราะรู้สึกว่า ตอนนี้ตัวเอง ขาดจิตวิทยาในการขอ เอามากๆ...
ขอบคุณมากค่ะ
คำถามนี้เป็นคำถามที่ทำให้แป้งเปลี่ยนความคิดไปเลยค่ะ
พอฟังแล้วก็ เอ้อ...มันก็ใช่อย่างที่เค้าพูดจริงๆค่ะ
เริ่มคล้อยตามเค้าเลยค่ะ ^_^
สวัสดีครับทุกท่าน ^^
@คุณnamsha >>> ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการ์กันนะครับ ยินดีต้อนรับชาวสะบุรีเช่นกันครับผม ^^
@หนิง >>> ใช่ๆ ฟังแล้วมันสมเหตุสมผล จนทำให้กรมธรรม์นั้นน่าซื้อเลยละ ^^
@อร >>> การจะพูดแบบนี้ได้ประสบการ์ต้องมีสุงพอสมควรครับ ไม่ใช่จะฝึกกันได้ง่ายๆ เอิร์ทกก็อยากทำได้เหมือนกัน คงต้องเริ่มฝึกกันแล้วละครับ ^^
@นุกเกอร์ >>> ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ผมกลับถึงหอปลอดภัยเรียบร้อยดีแล้วครับ... ใช่เลยครับ มันเป็นอะไรที่ฟังดูมีเหตุผลจนเราเคลิมตามไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยละครับ ^^
@อาจารย์โย >>> อาจารย์เป็นเหมือนผมเลยครับ ตอนแรกผมไม่ค่อยชอบวิทยากรท่านนี้ เพราะว่าเขาชอบพูดออกแนวประชด แดกดันอะครับ ซึ่งถ้าผมเป็นลูกค้า เทคนิคการพูดหลายๆอย่างที่ผมฟังแล้ว ผมจะไม่ซื้อเลย ยกเว้นอันนั้นครับ เป้นอะไรที่สุดยอดจริงๆ ^^
@คุณสายลมที่หวังดี >>> ไม่เป็นไรครับ สะดวกเมื่อไหร่ก็แวะมาครับ ที่แห่งนี้ยินดีตอนรับเสมอ ขอบคุณที่ติดตามผลงานครับ ^^
@คุณมณีวรรณ ตั้งขจรศักดิ์ >>> ต้องฝึกฝนกันสักพักครับ ถึงจะพูดแบบนี้ได้ แล้วมันก็ใช้ได้กับทุดหน่วยงานจริงๆครับ ^^
@เอิง >>> แหมๆ ไม่ได้พกเครื่องรางของคลังอะไรแบบนั้นหรอกครับ Skill พี่เขาล้วนๆ แต่ถ้ามีสาลิกาลิ้นทองก็อย่าลืมเอามาให้สักการะบ้างนะครับ ^^
@คุณครูใจดี >>> สวัสดีเช่นกันครับ... อย่าใช้คำว่าขาดเลยครับ... เอาเป็นว่ายังไม่ทราบจะดีกว่า ที่แห่งนี้ยินดีต้อนรับคุณครูใจดีเสมอครับ เข้ามาแชร์ประสบการณื และความรู้ได้เต็มที่เลยครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ ที่คุณครูใจดีสนใจงานของผม ^^
@แป้ง >>> จริงเนอะแป้ง... ตอนไปฟังนี้แบบว่า เฮ้ยจริงหวะ คล้อยตามเขาไปซะงั้น ทั้งๆที่ตอนแรกยังว่าเขาอยุ่เลย 555+
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นครับ ทุกคอมเม้นมีค่า แชร์ความเห็นกันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^
เจอแบบนี้เข้า คงไม่พ้น ติดกับ เข้าจริงๆค่ะน้องเอิร์ท ^^
อยู่ที่ความไว้เนื้อเชื่อใจตัวแทนด้วยสร้างความรู้จักสนิทสนม