เต๋ากับการบริหาร ในงาน HA Forum - ตอนที่ 8


Those who know do not talk. Those who talk do not know . . . ผู้รู้ไม่พูด ผู้พูดไม่รู้ . . .
         ในบันทึก (ตอนสุดท้าย) นี้ ผมมีตัวอย่างของสิ่งที่ถือว่าเป็น “ก้าวแรก” ที่สำคัญเพื่อที่ท่านผู้อ่านจะได้นำไปทดลองใช้กับตัวเองได้ แต่ต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่า เป็น “ก้าวแรก” สำหรับผมด้วยเช่นกัน ดังนั้นห้ามถามผมในฐานะผู้เชี่ยวชาญโดยเด็ดขาด ให้ถือซะว่าเป็นเพื่อนร่วมทางที่ “กำลัง (หัด) เดิน” ไปด้วยกันจะดีกว่า ขอให้ท่านค่อยๆ ซึมซับภาพ (ข้างล่าง) นี้ดู
 

 
         ที่เห็นอยู่ตรงกลาง (วงสีแดง) หมายถึงว่ามี “บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น” ต่อหน้าต่อตาเรา . . . เรามีการ “รับรู้” ถ้าเราเป็นพวกที่ “ใช้หัว (Head) นำ” ก็จะเต็มไปด้วย “การคิด (Thinking) ” หากเราเป็นพวกที่ “ใช้ใจ (Heart) นำ” ก็จะเต็มไปด้วย “ความรู้สึก (Feeling)” แต่ไม่ว่าจะเป็นพวกไหน พูดง่ายๆ ก็คือจะเต็มไปด้วย “ความรู้สึกนึกคิด” และเราก็มักจะติดอยู่ตรงนั้น จะเห็นได้ว่าทั้งความคิด และความรู้สึก มันต่างก็เสริมแรงซึ่งกันและกัน ตัวอย่างเช่น ยิ่งคิด (ไป) ก็ยิ่ง (ทำให้รู้สึก)โกรธ (มากขึ้น)  หรือ ยิ่งน้อยใจก็ยิ่งคิดมาก อะไรทำนองนั้น ผลก็คือกลายเป็นว่าความรู้สึกนึกคิดทำให้เราวิ่งวนอยู่รอบๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น (ที่อยู่ตรงกลาง) ทำให้ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตามที่เป็นจริง
 
         Osho เคยพูดไว้ (ในหนังสือหลายเล่ม) ว่า  คนทั่วไปมักจะวิ่ง “อยู่ที่เส้นรอบวง” แทนที่จะตรง “เข้าสู่จุดศูนย์กลาง” จากภาพที่ผมสร้างขึ้นมานี้ คงทำให้เห็นแล้วว่าเวลาที่ Osho ใช้คำว่า “Awareness” นั้น ท่านหมายถึงการมี “สติรู้ตัว” เพื่อจะได้เข้าสู่ศูนย์กลาง คือเห็นทุกอย่างตามที่มันเป็น เป็นการก้าวข้าม “Head & Heart” เพื่อเข้าสู่ “Being” หรือ “การดำรงอยู่” ที่แท้จริง เหมือนกับที่ท่านอาจารย์พุทธทาสพูดว่าเห็น “ความเป็นเช่นนั้น หรือ ตถตา” หรือที่ เอ็คฮาร์ท โทลเล่ (Eckhart Tolle) เรียกสภาวะนั้นว่า “Power of Now หรือ Consciousness” สภาวะเข้าสู่ “ศูนย์กลาง” นี้ ผมว่าเป็นสิ่งเดียวกันกับที่ชาวเต๋าพูดว่า “ได้พบกับเต๋า” หรือที่ชาวคริสต์พูดว่า “ได้กลับมาสู่อาณาจักรแห่งพระเป็นเจ้า” . . . ถึงภาษาจะแตกต่างกัน แต่บางทีอาจจะหมายถึงสภาวะอันเดียวกันก็ได้
 
         ในท้ายสุดนี้ ผมอยากเตือนทุกท่านที่อ่านมาครบแปดตอนว่า “โปรดอย่าได้เชื่อที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้” ที่พูดเช่นนี้เป็นเพราะว่าข้อความตอนหนึ่งในบทที่ 56 ของ เต้าเต๋อจิง ได้กล่าวไว้ว่า . . .
 

         Those who know do not talk. Those who talk do not know . . .

       ผู้รู้ไม่พูด ผู้พูดไม่รู้ . . . ถ้าท่านเชื่อเต้าเต๋อจิง ก็อย่าทิ้งคำเตือนนี้! สวัสดีครับ


หมายเลขบันทึก: 345329เขียนเมื่อ 18 มีนาคม 2010 18:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เรียนอาจารย์หมอ JJ . . . ถ้าไม่ได้ไป HA ขอนแก่น คงไม่เป็นไร เพราะผมว่าที่เขียนไว้ที่นี่ ละเอียดกว่าบรรยายอีกนะครับ

ด้ายยย...งายยย...กานนนนน....

(เขาล็อคคออาจารย์ไว้แล้วค่ะ...อิอิ)

ขอบคุณอาจารย์สำหรับรายละเอียดของการขยายความปรัชญาและข้อคิดเต๋าที่ผ่านมาในหลายๆบันทึกค่ะ ทำให้ได้คิดในอีกหลายๆเรื่อง... ข้อคิดนี้ต่อยอดความคิดได้อีกมากมายมหาศาลค่ะ

ที่สำคัญ(จริงๆ)...มาตบท้ายว่า “โปรดอย่าได้เชื่อที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้” ... ยิ่งน่านับถือใหญ่เลยค่ะ... ขอคารวะท่าน อีก 10 จอกค่ะ(เอาให้เมาน้ำชาไปเลย)

 

คุณติ๋ว . . . ขอเปลี่ยนจากน้ำชาเป็น . . . ได้ไหม? . . . ผมหมายถึง "น้ำส้ม" น่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท