เสียงปลุกจากโทรศัพท์ดังลั่น เรียกทุกคนซึ่งหลับใหลให้ตื่น ฟ้ายังมืดสนิท มีเพียงแสงไฟสองข้างแนวถนนเท่านั้น ที่ยังคงสว่างจ้าพุ่งตรงสู่ยอดดอยสุเทพ แม้มิใช่เป้าหมายของการเดินทาง แต่ก็ทำให้การตื่นของเช้าวันนี้กระฉับกระเฉงยิ่ง
มาเชียงใหม่หลายครั้งแล้ว สถานที่หนึ่งอยากไปมาก แต่ไม่มีโอกาสสักที จะว่าไม่มีโอกาสก็ไม่เชิง ไม่กล้ามากกว่า แต่วันนี้ตกลงปลงใจแน่นอน จะไปดอยอินทนนท์
ดอยอินทนนท์ คือ ยอดเขาสูงที่สุดในประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,565 เมตร เคยเห็นภาพแค่ในหนังสือ ในทีวี หรือในอินเทอร์เน็ตเท่านั้นครับ สิ่งที่กลัวคือการเดินทาง เนื่องจากรถที่ใช้อยู่เป็นรถเก๋ง เส้นทางที่คาดการณ์ หาข้อมูล รวมทั้งถามคนอื่นบ้าง ลักษณะชัน ขึ้นเขาตลอด แม้พอเชื่อว่ารถเก๋งขึ้นได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เคยไป
มีอยู่ครั้งขับรถเที่ยวแบบไม่ได้วางแผนหรือเตรียมตัวอะไร ไปเรื่อยๆจนถึงแยก อ.หางดง เห็นป้าย อ.สันป่าตองตรงไป อ.สะเมิงเลี้ยวขวา ก็เคยไปสันป่าตองแล้ว วันนั้นจึงเลือกไปสะเมิง ระยะทางไม่ไกลนัก ถ้าจำไม่ผิด สักสี่สิบกว่ากิโล แต่ขับไปๆ จึงรู้ว่าเส้นทางสุดยอด คนใช้น้อย รถน้อย นานๆจะมีรถสวนมาสักคัน แม้ลาดยางตลอด แต่บางช่วงชำรุดเสียหาย เป็นหลุมบ่อ ประกอบกับเป็นเขาชัน แถมโค้งหักศอกไปมาเป็นระยะๆ
มิใช่เป็นอย่างนี้ตั้งแต่แรกนะครับ อย่างนั้นคงได้ย้อนกลับกันแล้ว ทางที่วิบากสำหรับรถเก๋งดังกล่าว ค่อยมากขึ้นๆ แรกๆจะกลับก็เสียดาย หลังๆก็มาไกลเกินกว่าจะกลับ ดันทุรังไปถึงสะเมิงจนได้ ขากลับพบว่ามีเส้นทางจากสะเมิงไป อ.แม่ริม จึงลองใช้ทางนี้ดู ดีกว่ากันมากครับ มิน่าทางที่มาด้วยความยากลำบากนั้น ผู้คนจึงใช้น้อย เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ขยาดที่จะใช้รถเก๋งไปดอยอินทนนท์ยิ่งขึ้น เพราะแค่สะเมิงยังแย่เลย
แต่วันนี้ ความเป็นยอดขุนเขาของดอยอินทนนท์นั่นแหละครับ ที่ทำให้ความไม่กล้าแพ้ความอยาก อย่างไรเสีย คงไม่ถึงกับไม่ไหวดอกกระมัง คนเรามักเป็นอย่างนี้ หากไม่ยอมตัดสินใจ หรือใจไม่เอาเสียแล้ว ก็จะพะวักพะวน ละล้าละลังอยู่อย่างนั้น แต่เมื่อใดตัดสินใจได้ อุปสรรคข้างหน้าจะเป็นเรื่องเล็กทันที
ออกเดินทางโดยใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-หางดง ไปสันป่าตอง และไป อ.จอมทอง ก่อนถึงจอมทองเล็กน้อย จะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาเข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่ถวิลหามานาน
เส้นทางไม่ยากอย่างที่กังวลแม้แต่น้อย ลาดยางอย่างดี ขนาดใหญ่ ไม่มีโค้งหักศอก ค่อยขับไต่ระดับความสูง มีป้ายข้างทางบอกเป็นระยะ ว่าขึ้นมาสูงเหนือระดับน้ำทะเลเท่าไหร่แล้ว พอได้ราวครึ่งทาง ลองเปิดกระจกรถเพื่อสัมผัสอากาศ โอ! เย็นมากๆ ยิ่งกว่าห้องแอร์ รีบบอกภรรยาและลูกสาวซึ่งนั่งมาด้วย พลางเปิดกระจกรถทุกด้าน เพื่อรับความเย็นอย่างลิงโลด
(อุณหภูมิ ณ ยอดดอยอินทนนท์ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 09.28 น.)
“ยิ่งสูงยิ่งหนาว” เป็นเช่นนี้เอง ป่าทั้งสองข้าง จากช่วงแรกที่ขึ้นมาจะเป็นสีน้ำตาล ดูแห้งแล้งตามฤดูกาล แต่พอสูงขึ้นไป ป่าที่เขียวครึ้มเข้ามาแทนที่ นอกจากอุณหภูมิแล้ว ลักษณะป่าก็เปลี่ยนไปตามความสูง ยิ่งสูง อากาศเปลี่ยน ป่าเปลี่ยน สิ่งมีชีวิตเปลี่ยน คนเราก็น่าจะหนีความจริงนี้ยาก
ยิ่งสูงยิ่งหนาว ความหนาวซึ่งเปรียบเทียบกับชีวิต น่าจะหมายถึง ความเหงา ความว้าเหว่ หรือโดดเดี่ยว ยิ่งสูงผู้คนยิ่งน้อย มีไม่กี่คนที่จะขึ้นมายังตำแหน่งแห่งหนที่สูงอย่างนี้ได้ เมื่อคนน้อย จึงรู้สึกเหงา
รถเก๋งคันเล็กๆ ซึ่งประกอบด้วยคนในรถรวม 3 คน เดินทางพิชิตยอดดอยอินทนนท์ได้โดยง่าย เพราะเส้นทางสะดวก ปลอดภัย ทั้งๆที่กว่าจะตัดสินใจ ช่วยกันคิดแล้วคิดอีก ทางจะดีไหม จะชันมากไหม รถจะไหวไหม จะเรียกว่ากลัว ไม่กล้า หรือรอบคอบจนเกินเหตุก็ได้(ฮา) แต่ที่แน่ๆ อาจทำให้เราขาดโอกาสดีๆในการเรียนรู้ไปอย่างน่าเสียดาย
วันนี้ได้เรียนรู้ว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาวจริงๆ แต่หลายคนก็ยังถวิลหาความสูงอยู่ แม้จะหนาวเหน็บเพียงใดก็ตาม พร้อมกับงงๆครับ
เพราะตัวเองนั้นถวิลหาแต่ความหนาว ทั้งๆที่กลัว หรือไม่ปรารถนาความสูงเอาเสียเลย
สวัสดีค่ะ
มาแวะซึมซับเอาความสูงและหนาวค่ะ......มาเก็บเกี่ยวเอาความสวยงามจากบันทึกค่ะ
อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆที่ตรงกับครูกระเเตค่ะ คือพ่อบ้านเป็นคนที่รอบคอบมาก
" รอบคอบจนเกินเหตุ อาจทำให้เราขาดโอกาสดีๆในการเรียนรู้ไปอย่างน่าเสียดาย..".ครูกระเเตว่าใช่เลย
ขอบคุณบันทึกนี้ที่สะกิดใจครูกระเเตค่ะ
ปี 49 ขึ้นไปดอยอ่างขาง
หลังจากนั้นก็เข็ด ขยาด ไม่กล้าขึ้นที่สูงอีกเลย
รู้ว่าสวย แต่กลัวค่ะ กลัวมาก
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ ธนิตย์
ยิ่งสูงยิ่งหนาว ยิ่งสูงยิ่งหามิตรรยาก
แต่พบประจำในหน่วยงานคือ "ยิ่งสูงยิ่งสาย" คงมีภาระมากมายจึงสายที่อยู่สูงน่ะครับ
มาขึ้นดอยตอนเช้าๆกับภาพที่นำมาฝากของท่านอาจารย์..อากาศดีจัง..ตอนไปอากาศคงดี..แต่ตอนนี้อากาศเชียงใหม่เชียงรายกำลังประสบปัญหาควันไฟอยู่เน๊าะ..ดูจากข่าว..นะค่ะ..
ว้าว งามมากๆ ค่ะ ชอบๆ เห็นภาพแล้วอยากไปไต่ดอย ปีนเขาอีกค่ะ
ถวิลหาความหนาวและชอบความสูงแนวธรรมชาติค่ะ ทุกเส้นทางที่สูง ล้วนสร้างความประทับใจและตราตรึง พอไปถึงยอดสูงก็หายเหนื่อย และคุ้มค่ากับการรอคอย
ช่วงนี้ทางเหนือคงเริ่มร้อนแล้ว หากแต่คิดถึงภูกระดึง ช่วงนี้เข้าป่าปิดได้ด้วย? คะ
สวัสดีครับอาจารย์...
แวะมาเยี่ยมครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่ดอยมูเซอ ว่าจะแวะไปทำธุระที่พิษณุโลกสักวัน หากเวลาเหมาะเจาะอาจจะแวะไปเยี่ยมที่โรงเรียนครับ
ไม่รู้ว่าอยู่หรือเปล่า
ผมอยู่เชียงใหม่หลายปี ไปดอยอินทนนท์สีกสี่ห้าคร้ังน่าจะได้
ผมเคยเข้า ๆ ออก ๆ หมู่บ้านหนองเต่า อยู่ใกล้ ๆ ดอยอินทนนท์ เคยไปดอยอินทนนท์จากหมู่บ้านนี้ด้วยครับ
สวัสดีคะ อาจารย์
พอลล่าชอบทะเลมากๆค่ะ แต่ไม่ปรารถนาความดำ อิอิ
ดูรูปทะเลของพอลล่ารึงยังคะ รีบๆนะคะ เดี๋ยวหมด อดดูค่ะ ฮ่าๆๆ
ดีคร่า
มารายงานตัวแว้ว....ววว
ดอยสวยมากๆๆ อยากไป บรรยากาศก้อสวยงาม
สดชื่น ทำหั้ยสบายใจ และอารามณ์ดี (คิดว่าอย่างนั้นนะคะ)
ตอนที่ไปเชียงใหม่ก้อกะว่าจะไปอยู่คะ
แต่ว่าน้ามะยอมพาไป น้าบอกมาทางมันชันมากๆ
เอาไว้คราวหลังแล้วกัน ก้อเลยอดเลย
ไม่เจอกานเลย
คิดถึงอาจารย์ทั้งสองจัง 555++
ไม่รู้เปิดเทอมมาเจอกัน จะแก่ลงไหมน๊า 555+++
อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
ดูแลสุขภาพด้วนะคะ
สวัสดีค่ะ
บรรยากาศดีจังเลยนะคะ ทางใต้ไม่ค่อยมีบรรยากาศแบบนี้ค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นป่าแบบร้อนชื้น ไม่น่าเที่ยวเหมือนป่าทางเหนือ
บี๋เป็นคนที่ชอบอากาศหนาวมากค่ะ แต่ไม่เอานะคะถ้าคนเรายิ่งสูงยิ่งหนาวและไม่มีเพื่อน ขอบายค่ะ ^-^
ต้องแสดงความยินดีนะคะ ที่อาจารย์สามารถพิชิตยอดเขาได้สำเร็จโดยรถเก๋ง
วันหลังชวนบ้างนะคะ จะได้มีเพื่อนขับรถตามๆกันไป เคยไปเที่ยวลักษณะนี้สนุกดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่านเรื่องราว
พร้อมกับชมภาพที่สวยงามค่ะ
ขอบคุณนะคะ
หลับฝันดีค่ะ^__^
*** ช่างกล้าขึ้นไปลุย เก็บภาพสวยมาฝาก ขอบคุณมากเลย อ.ธนิตย์...ชื่นชมกับความอาจหาญ
*** พี่เคยไปค้างคืนที่ยั้งเมินและสะเมิง เอารถ 6 ล้อไปกับวงดนตรี ACPOMED ตอนฤดูหนาวปีใหม่ 2523 ตอนนั้นทางยังเป็นลูกรัง ปีนไปถึงตอน 5 ทุ่ม หิมะแดงเต็มตัว หยิบฝุ่นออกจากขนตาได้เลย
*** ไปถึงทดสอบความเย็นของแอ่งน้ำที่มาจากน้ำตก ... แข่งขันทดสอบความเย็นกับเพื่อนผู้ชาย....ทีมหญิงใจกล้าโดดก่อน....เย็นจนร้องง้ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ...... หงึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...จนผู้ชายขนหัวลุก
*** มิน่ากุหลาบหินถึงเติบโตอยู่ได้ .... อ.ธนิตย์ลองกลับไปใหม่เดือนที่หนาวๆดูอีกครั้ง จะได้อีกบรรยากาศนะ แต่ไม่ต้องลองโดน้ำตอน 5 ทุ่มนะจะเสี่ยงเกินไป
*** ดีใจที่นำเรื่องราวที่ทำให้คิดถึงอดีตของลูกช้างแก่นะน้องน้ำตาล (เดาว่าไปด้วย)
สวัสดีค่ะพี่ธนิตย์
เขาว่ายิ่งสูงยิ่งหวาน คงจริง ไม่ใช่ซิ จริงๆ ด้วย
ไม่เคยไม่ดอยอินทนนท์เหมือนกัน แต่โชคดีที่ได้ชมภาพที่สวยงามฝีมือของเซียน งดงาม ชัดเจน ทั้งเส้นทาง ต้นไม้ ดอกไม้
ภาพที่แสงตะวันส่องลอดเขามาที่ต้นไม่ โอ๊ย สวยมากค่ะ
*** แสดงว่าภาระงานเสร็จแล้วซินะ ถึงตะเวนท่องเที่ยวกันได้ ว่าแต่ ทำไม่ไปแค่ 3 คนละคะ ครอบครัวของพี่ธนิตย์ มี 4 คนไม่ใช่หรอกคะ... ทิ้งอีกคนไปได้งัยเนี่ย....
*** หนูพึ่งเข้าบล็อกวันนี้ ช่วงเย็นๆ นี่แหละ เพราะอบรมหลักสูตรพึ่งเสร็ แต่ะต้องทำต่อให้เสร็จ โรงเรียนบ้านกร่างเรียบร้อยแล้วหรือคะ.... ยินดีด้วยนะคะ....
*** ขอบคุณ ภาพบรรยาศที่นำมาให้ได้ร่วมชื่นชมค่ะ
*** ด้วยความเคารพและระลึกถึง
เอาดอกไม้คนกทม.มาอวดค่ะ
มาชมความสมงามของดอยอินทนนท์อีกครั้งค่ะ... หวงใช่เปล่าค่ะ
** อ้อ... ไปเที่ยวมาตั้งนาน จะล่าให้กันฟัง แหม อุบไว้เสียวนานเลย ฮา....
** หลักสูตรที่หนูรับผิดชอบ (การงานฯ และคอมพิวเตอร์) ใกล้คลอดแล้วแหละ... เล่นเอาปวดหัว จนต้องพึ่งยานอนหลับ คือมันปวดจนหลับไม่ได้ ฮา เอ๊ะ พูดยังงัยเนี่ย... เลยเข้ามบล็อกคลายเครียด ฮ่า ฮ่า
** อ้อ พี่ธนิตย์คะ... โรงเรียนปัจฉิมนิเทศเด็กไปหรือยัง.... ลับแล เลื่อนมาเป็นวันที่ 25 นี้แหละ...
** ไปละ มากวนใจพี่ชายเล่น หายเครียดแล้ว ไปทำงานต่อแล้วค่ะ...
สวัสดีครับ อาจารย์
เข้ามาอ่านบันทึกอาจารย์ทีไรประทับใจทุกครั้งครับ
สวยทั้งภาพงามทั้งคำบรรยาย ขอบพระคุณอาจารย์มากๆครับ
* อากาศเย็นพอๆกับ Washington DC. เลยค่ะ
* เสร็จสิ้นภารกิจการประชุมระดับนานาชาติเมื่อวานนี้เอง ยิ่งฝนตกยิ่งเย็นยะเยือก สะท้านถึงข้างในเลย
* ช่วงนี้ก็ Relax เกี่ยวเก็บประสบการณ์ไปเรื่อยๆ วันที่ ๒๖ นี้จะบินไปรัฐ Maine ดินแดนที่มี Lobster อร่อยที่สุดในโลก สัญญาว่าจะไม่ลืมหม่ำเผื่อแล้วกัน Hu Hu Hu !