เรื่องเล่าระหว่างวันที่ ๘ - ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๓


 

๑๓  มีนาคม  ๒๕๕๓

เรียน  เพื่อนครูและผู้บริหารที่รักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๘  มีนาคม  ๒๕๕๓  สโมสรเขตวันนี้เต็มไปด้วยผู้บริหารโรงเรียนที่มาประชุมโครงการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการของผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษา  ยังไม่ถึงเวลาจึงมาดื่มน้ำชากาแฟพูดคุยกันเหมือนสภากาแฟยามเช้า  ได้ทักทายกันเพียงบางรายเพราะต้องขึ้นห้องทำงานจัดการกับแฟ้มเอกสารที่เร่งด่วนทั้งหลายให้เป็นที่เรียบร้อย ไม่เป็นปัญหาอุปสรรคในช่วงที่ไปมาเลเซีย  ๑ สัปดาห์  สาย ๆ ได้รับโทรศัพท์แจ้งจากเจ้าหน้าที่กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักนโยบายและแผน  สพฐ. ว่า ท่านเลขาธิการ กพฐ. ได้อนุมัติการเดินทางไปราชการต่างประเทศของคณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  จึงเป็นความโล่งใจสำหรับหัวหน้าคณะ  เวลา ๑๐.๐๐ น. ได้เปิดการประชุมสัมมนาและบรรยายพิเศษ  มีท่านผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบจ.ปทุมธานี คุณสมยศ  นวลลออ  และนายก อบจ.ปทุมธานี นายชาญ  พวงเพ็ชร์ มาพบปะผู้เข้าประชุมได้แจ้งนโยบายที่จะสนับสนุนการศึกษาทั้งบุคลากร สิ่งก่อสร้างและกิจกรรมการศึกษา โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมนี้จะนำครูทุกคนในจังหวัดปทุมธานีไปศึกษาดูงานภายในประเทศที่จังหวัดในภาคเหนือ สำหรับการบรรยายพิเศษของผมในวันนี้เน้นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อคนต่องานและต่อตนเอง ด้วยเห็นว่า ตัวทัศนคติ เป็นพลังขับเคลื่อนไปได้ทั้งทางบวกและทางลบ สร้างความสำเร็จและความล้มเหลวต่องานได้มากกว่าความขยัน ความเกียจคร้าน ความฉลาดและความเขลา  แม้แต่การจะไปศึกษาดูงานหากคิดว่าดูไปก็เท่านั้นไม่สามารถนำมาใช้กับบ้านเราได้ แค่คิดก็ล้มแล้ว แต่หากคิดว่าพบเห็นอะไรพอจะนำมาใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างไรเราก็ไม่ควรละเว้น อย่างนี้จะได้ประโยชน์  บ่ายให้คณะเตรียมตัวเตรียมกระเป๋าเดินทางให้พร้อมที่จะออกเดินทางในเวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น.เพราะไม่อยากให้รถวิ่งเร็วกลัวอุบัติเหตุ  ผมก็ต้องกลับบ้านไปเก็บรถและเตรียมกระเป๋าเดินทางเหมือนกัน สำหรับผู้ที่พร้อมรบมาตั้งแต่เช้าก็ใช้บริการสโมสรรอเวลาไปเรื่อย ๆ  พวกเราเดินทางสู่หาดใหญ่ด้วยรสบัสปรับอากาศขนาดใหญ่  ๓ คัน และรถตู้ ๑๐ ที่นั่งอีก ๑ คัน ที่จ้างเหมาของเอกชน  รถตู้ตัวเล็กออกเดินทางก่อนประมาณ ๑๖.๐๐ น. มาแวะทานข้าวเย็นที่ร้านต้นม่วง  จังหวัดเพชรบุรี มีผู้บริหารโรงเรียนและลูกน้องจากเพชรบุรี เขต ๒ มารับอำนวยความสะดวก  อิ่มแล้วเดินทางต่อ มีการประสานกับรถบัสใหญ่เป็นระยะ ๆ  การนั่งรถตู้เดินทางไกลเวลาค่ำคืนหาความสะดวกสบายไม่ได้เลย เพราะมีคนขับเพียงคนเดียว ขับด้วยความเร็วสูงแบบไม่ผ่อนความเร็วแม้เป็นทางแยก จึงต้องใช้ปากเบรกกันอยู่บ่อย ๆ เหมือนทะเลาะกันไปตลอดทาง  มาแวะพักรถที่ร้านคุณสาหร่าย  จังหวัดชุมพร บัสใหญ่ก็จะแวะมาทานข้าวต้มที่นี่เหมือนกัน 

 

วันอังคารที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๓  เดินทางต่อไปไม่ได้หลับได้นอนจนถึงหาดใหญ่เวลา ๐๕.๐๐ น. เข้าพักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่โรงแรมหาดใหญ่รามา ถือโอกาสงีบ ๒๐ นาที รถบัสใหญ่มาถึงสายกว่ากำหนดการเดิม  จึงต้องรอให้เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  พร้อมกันได้ประมาณ ๐๘.๐๐ น. เปลี่ยนไปขึ้นรถของมาเลเซียที่จอดเรียงรายอยู่ด้านหลังโรงแรม ๔ คัน เป็นรถบัสสำหรับนำเที่ยวชั้นเดียว เก้าอี้ใหญ่นั่งสบายไม่ปวดหลัง  ผม ท่านรองฯ คณะจาก อบจ.ปทุมธานีและเจ้าหน้าที่ในเขตนั่งคันที่ ๑ ที่เหลืออีก ๓ บัสเป็นผู้บริหารและครู  บริษัททัวร์ที่บริการนำเที่ยวครั้งนี้คือ หจก.มิราเคิล ทัวร์ หาดใหญ่ (ไทยแลนด์) ของคุณยุ้ยที่เคยใช้บริการมาครั้งหนึ่ง เห็นบริการดีไม่เอาเปรียบลูกค้าจึงใช้บริการอีกครั้ง  อาหารเช้าพวกติ่มซำ บะกุ๊ดเต๋ และน้ำชา กาแฟในร้านชื่อดังเมืองหาดใหญ่ เป็นมื้อแรกที่พวกเราฉลองศรัทธากันเต็มที่  อิ่มแล้วรถนำพวกเราเดินทางไปด่านสะเดา ลงเข้าแถวให้ตม.ประทับตราในหนังสือเดินทางออกนอกประเทศ ด่านนี้ไม่ต้องลากกระเป๋าให้ตรวจ  ชุมชนบริเวณด่านสะเดาเป็นที่รู้จักกันดีในบรรดานักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียว่า “ด่านนอก” แหล่งบันเทิงเริงรมย์ทั้งหลายย้ายตัวเองจากหาดใหญ่มาบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว จนหาดใหญ่ซบเซาลงไป  ผ่านพิธีการออกนอกประเทศ กลับขึ้นรถอีกครั้งเพื่อเข้าไปที่ด่านของมาเลเซีย ชื่อด่านบูกิตคายูอีตั้ม ด่านนี้ต้องลากกระเป๋าทุกใบให้เครื่องตรวจ แต่ทุกคนก็ผ่านไปได้ กลับขึ้นรถอีกครั้งนั่งลึกเข้าไปในแดนมาเลเซีย พวกเราปรับเวลาให้เร็วขึ้น ๑ ชั่วโมงเป็นเวลาท้องถิ่นของมาเลเซีย รถมาแวะที่ UNITED FAIRWAY  SDN, BHD PENGURUP WANG BERLESEN LICENTRD MONEY CHANGER เพื่อแลกเงินบาทเป็นเงินริงกิต ราคาแลกเปลี่ยน ๑ หมื่นบาทได้มา ๑ พัน ๒๒ ริงกิต  ที่ศูนย์แลกเงินแห่งนี้ยังเป็นศูนย์อาหารและร้านจำหน่ายสินค้าแบบสะดวกซื้อของนักเดินทางอีกด้วย  ใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาทีรถจึงสามารถเดินทางต่อไปได้เป็นทาง High Way สองข้างทางเป็นทุ่งนาสลับหมู่บ้าน  บ้านแถบนี้ยกเสามีใต้ถุนแบบบ้านไทยภาคใต้ เพราะประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวสยาม เราเสียดินแดนเมืองไทรบุรีแห่งนี้ให้กับอังกฤษ รวมทั้งเกาะหมากหรือปีนังด้วย เมื่อมาเลเซียได้รับเอกราชในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๐๐ ประชาชนจึงต้องมีสัญชาติมาเลเซียไปด้วย แต่วิถีชีวิต ภาษาพูด การนับถือศาสนาพุทธเหมือนคนไทยภาคใต้ทั่วๆไป รถผ่านชุมชนบ้านจังโหลน  เมืองจิตรา อลอสตาร์ สุไหงปัตตานี และบัตเตอร์เวิร์ธ เวลาอาหารกลางวันเลื่อนมาเป็น ๑๔.๐๐ น. เวลาท้องถิ่นที่ร้านอาหารไทยในบัตเตอร์เวิร์ธ ไกด์เล่าว่าผู้ชายมาเลย์แต่งกับสาวไทยปักษ์ใต้แล้วมาเปิดร้านอาหารแห่งนี้  แกงส้ม ไข่เจียวของเขาอร่อยดีเหมือนกัน  อิ่มแล้วเดินทางข้ามสะพานที่ยาว ๑๓.๕ กิโลเมตรข้ามไปเกาะปีนัง เพียงไม่กี่ชั่วโมงเราก็ผ่านดินแดนมาเลเซียถึงของรัฐ คือ รัฐเคดาห์และรัฐปีนัง มองจากสะพานเห็นเกาะปีนังตั้งอยู่ตรงหน้ามีตึกสูงขึ้นอยู่หนาแน่นเป็นหย่อม ๆ  “ปีนัง” ไข่มุกแห่งตะวันออก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรมาลายา รัฐปีนังประกอบด้วยส่วนที่เป็นเกาะซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 285 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่บนแผ่นดินใหญ่ที่เรียกว่า Seberang Perai ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 760 ตารางกิโลเมตร พื้นที่สองส่วนนี้คั่นด้วยช่องแคบซึ่งส่วนที่แคบที่สุดมีความกว้างเพียง 3 กิโลเมตรเท่านั้นแต่สะพานไม่สามารถสร้างในส่วนนี้ได้เพราะเป็นท่าเรือน้ำลึก กำหนดการเดิมจะนั่งรถรางขึ้นไปบนยอดปีนังฮิลล์แต่บังเอิญเขาปิดซ่อมเลยอดชมวิวเกาะปีนัง  พวกเราจึงไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่วัดเขาเต่า  เส้นทางขึ้นวัดค่อย ๆ ลาดขึ้นไปเรื่อย ๆ  สองข้างทางมีร้านค้าขายของที่ระลึกและเสื้อผ้าตลอดสองข้างทาง  มีโอกาสได้เดินชมบรรยากาศร้านค้าบริเวณหน้าวัดมีร้านกาแฟ ก๋วยเตี๋ยว และร้านหนังสือ จากนั้นรถพาพวกเราไปชมห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในปีนังเป็นสินค้าแบรนด์เนมราคาแพง จึงได้แต่ดู มีที่ถูกว่าบ้านเราเป็นปลากระป๋องตราไก่  เย็นไปทานอาหารที่ภัตตาคารริมทะเล อิ่มแล้วจึงเดินทางไปโรงแรมเบย์วิวเพื่อพักค้าง เบย์วิวเป็นโรงแรมห้าดาวของปีนัง ห้องกว้างสะอาดสะดวกสบาย เป็นการนอนหลับแบบม้วนเดียวจบเพราะอดนอนมาทั้งคืน

วันพุธที่ ๑๐  มีนาคม  ๒๕๕๓  อาหารเช้าที่โรงแรมเบย์วิวแบบบุฟเฟ่ มีทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารจีนและฝรั่งให้เลือก คณะออกมาถ่ายภาพที่ระลึกกันหน้าโรงแรม ดูถนนหนทางและบ้านเมืองเขาสะอาดจริง ๆ พนักงานทำความสะอาดก็ไม่ค่อยมีให้เห็น  เวลา ๐๘.๐๐ น. พวกเราเดินทางไปไหว้พระที่วัดไทยและวัดพม่า  วัดไทยชื่อ“วัดไชยมังคลาราม” ที่ใหญ่ที่สุดในปีนัง เพื่อนมัสการพระพุทธไสยาสน  และพระประจำวัน  วัดนี้มีอาคารที่สร้างสมัยจอมพล ป. พิบูลสงครามตั้งชื่อไว้เป็นอนุสรณ์  ตรงข้ามกับวัดไทยเป็นวัดพม่า มีพระพุทธรูปประทับยืนมีพุทธลักษณ์งดงาม  สิ่งปลูกสร้างเป็นสถาปัตยกรรมพม่าที่วิจิตรพิสดาร เข้าวัดทำบุญกันแล้วไปแวะทานกาแฟที่ขึ้นชื่อของเกาะปีนังมีจำหน่ายเป็นกาแฟสำเร็จรูปหลายรส เดินทางออกจากเกาะ เข้าทางด่วนมุ่งหน้าลงใต้ไปเรื่อย ๆ แวะTundas หรือห้องน้ำเป็นระยะ ๆ มาแวะกินข้าวเที่ยงที่เมืองฮิโป เมืองท่าเรือสำคัญในรัฐเปรักของมาเลเซีย เดินทางลงใต้อ้อมเมืองกัวลาลัมเปอร์ไปแวะชมเมืองใหม่ปุตราชายา หรือศูนย์ราชการใหม่ของมาเลเซีย เป็นศูนย์กลางแห่งความดึงดูดใจ เปอร์ดานาปุ ตรา สำนักงานนายกรัฐมนตรี เซอรี่ เปอร์ดานา สถานที่พำนักประจำ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีทางลับเชื่อมต่อไปด้านนอกทั้งทางรถไฟ รถยนต์และท่าเรือ มัสยิดปุตรา มีโดมสีชมพู ก่อสร้างด้วย หินแกรนิตสีกุหลาบ ออกแบบง่ายๆแต่หรูหรา ตกแต่งอย่างสวยงามโดยใช้ทะเลสาบปุตราเป็นเครื่องประดับความโดดเด่น สะพานปุตรา งดงาม ด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสาน เป็นความมุ่งมั่นของ ดร.มหาเธด์ มูฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่จะสร้างภาพลักษณ์ของคนเอเชียให้ยิ่งใหญ่ในสายตาชาวตะวันตก ท่านจึงมักจะทำอะไรที่ติดอันดับโลกเสมอ  ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกแล้วลงไปทานไอศกรีมและกาแฟที่ท่าเรือชั้นล่าง ร่วมกับคณะจาก อบจ.ปทุมธานี  เดินทางกลับเข้ากรุงกัวลาลัมเปอร์ผ่านพระราชวังของกษัตริย์มาเลเซีย รถจอดให้พวกเราไปถ่ายภาพกับทหารม้ารักษาพระองค์ ที่หน้าประตูวัง  รถพาไปทานอาหารเย็นที่ภัตตาคารจีน ก่อนนำไปชมตึกแฝด Petronas twin towers  ที่มีความสูง ๔๕๒ เมตร มองกลางคืนเหมือนแท่งเงินมาวางคู่กันมหัศจรรย์ยิ่ง ภายในตัวตึกเป็นที่ทำการของบริษัทน้ำมันแห่งชาติมาเลเซีย “Petronas”  บริษัทก่อสร้างเป็นของญี่ปุ่น ๑ และของเกาหลี ๑ มีสะพานเชื่อต่อระหว่างตัวตึกที่ชั้น ๓๓และ๓๔ ด้านข้างเป็นห้างสรรพสินค้า Suria Klcc จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงทั้งหลาย  หากเป็นสินค้าที่ผลิตในมาเลเซียราคาจะถูกกว่าบ้านเราเกือบครึ่งเพราะไม่ได้บวกภาษี  โดยเฉพาะยี่ห้อ Vincci ได้ลดราคาจนพวกเราอุดหนุนกันคับคั่ง  ผมไปซื้อยาที่ร้าน Pharmacy เขาต้องให้เภสัชกรมาสั่งยาจึงจะจำหน่ายให้เราได้   คืนนี้พักที่โรงแรม Puteripark hotel   เป็นโรงแรมขนาดเล็กทั้งห้องพักและเตียงนอน แต่เป็นปกติสำหรับโรงแรมในกัวลาลัมเปอร์และสิงคโปร์  ใกล้ ๆ โรงแรมมีร้านขายโรตีจิ้มน้ำแกงที่มีชื่อ จึงชวนสมาชิกไปลองรับประทานกันแทนข้าวต้มรอบดึก

วันพฤหัสบดีที่ ๑๑  มีนาคม  ๒๕๕๓  ตื่นเช้าเพื่อเตรียมตัวไปศึกษาดูงานที่โรงเรียน Methodist Boys’ Secondary School Kuala Lumpur (MBSKL)  ถนน                Jalan Hang Jebat โรงเรียนส่งครูมานำทางจากโรงแรมที่พัก เพราะหนทางค่อนข้างซับซ้อน แม้เป็นชั่วโมงเร่งด่วนการจราจรไม่ได้ติดขัดมากนักต่างจากกรุงเทพฯ บ้านเรา  กัวลาลัมเปอร์เป็นเมืองที่สวยงามร่มรื่นไปด้วยป่าไม้และเนินเขา พื้นที่สูงต่ำจึงดูเป็นสวนสาธารณะ ต่างจากกรุงเทพฯ เป็นพื้นราบตลอดแนว  โรงเรียนแบ่งเป็นแผนกประถมศึกษาและมัธยมศึกษา วันนี้เขาให้เราศึกษาดูงานในระดับมัธยมศึกษา เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. ๑๘๙๗  อาคารสถานที่จึงดูเป็นของโบราณ ประกอบกับคริสตจักรนิกาย Methodist เป็นเจ้าภาพหลักในการก่อสร้างอาคารสถานที่จนถึงปัจจุบัน ห้องประชุมจึงดูเหมือนโบสถ์   ครูใหญ่ Mr.Wong Chee Kheon ได้บรรยายสรุปให้พวกเราฟังและตอบคำถาม เขานำเสนอ MISSION STATEMENT ของ MBSSKL ที่ว่าwill seek excellence in the training of the young to become honest,  courterous and forward-looking citizens, marching purposefully in tune with the progress of our nation. ส่วน VISIONของMBSSKL กำหนดไว้ว่า will strive to be a premier school that provides world class education BY 2010

สำหรับปรัชญาของโรงเรียน (Philosophy of the School) กำหนดไว้ว่า “Education is the all-round development of the child through example and precept with the aim that he will use the acquired knowledge and skills for the good of others and the enrichment of self.”

ได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา(Objectives) ไว้ดังนี้

  • To be a catalyst in the pursuit of knowledge
  • To produce scholars of caliber
  • To maintain excellence in all-round education
  • To develop an efficient, innovative and committed management
  • To inculcate a strong family spirit
  • To inculcate universal human values so as to produce a well-integrated society
  • To contribute to the welfare of society and nation-building

กีฬาหมากรุกถือเป็นเอกลักษณ์ที่โรงเรียนต้องการฝึกให้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าแข่งขันในระดับประเทศ ที่ผ่านมาพวกเขาประสบความสำเร็จในการแข่งขันเสมอมา  รัฐบาลจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอนและเงินเดือนครู  คริสตจักรรับผิดชอบด้านอาคารสถานที่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับ Top 10 ของประเทศ  ได้เดินดูห้องเรียนห้องวิทยาศาสตร์  ครูสามารถควบคุมอุปกรณ์ในชั้นเรียน เช่น เปิดปิดพัดลม เครื่องฉาย อินเตอร์เน็ตผ่านปุ่มควบคุมที่วางไว้บนโต๊ะอย่างง่ายดาย เดินชมกันจนเหนื่อยจึงไปหอประชุมที่เขาจัดอาหารว่างไว้ต้อนรับแบบเต็มสูบคือข้าวสวยแกงไก่ พวกเราก็เกรงใจจึงต้องฉลองศรัทธากันตามธรรมเนียม  ครูใหญ่มอบเอกสารให้มาศึกษาเพิ่มเติมคงได้ใช้ประโยชน์ตอนจัดทำรายงาน  ก่อนเที่ยงได้อำลาซึ่งกันและกัน  วันนี้เป็นวันสุดท้ายของภาคเรียนมีการประกาศผลการสอบไว้ที่บอร์ดมีนักเรียนและผู้ปกครองมาดูกันมาก  ออกจากโรงเรียนไปชมแหล่งประวัติศาสตร์วันได้รับเอกราชของมาเลเซียคือลานเมอร์เดก้า แสควร์ สถานที่ที่มียอดเสาธงสูงที่สุดในโลก และเป็นเสาธงที่ประเทศมาเลเซียได้เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเขาเป็นครั้งแรก เมื่อ 31 สิงหาคม 2500 ด้านข้างเป็นอาคารรูปทรงสวยงามเป็นพิพิธภัณฑ์และกระทรวงวัฒนธรรม ใต้ลานเมอร์เดก้า จะถูกขุดเป็นที่จอดรถขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ คิดถึงสนามหลวงน่าจะทำอย่างนั้นได้เหมือนกัน  หมดภาระการดูงานทัวร์พาไปดูผลิตภัณฑ์ OTOP คือโรงงานช็อกโกเลต มีให้ชิมให้ซื้อตามอัธยาศัย แม้จะอิ่มอาหารว่างจากโรงเรียนแต่เราก็ต้องทานอาหารเที่ยงอีกครั้งตามตาราง เป็นวันที่สามในมาเลเซีย หลายคนเริ่มเลี่ยนกับรสอาหารจีนอาหารแขก หันมาพึ่งน้ำพริกนรกของทัวร์ แต่หลายคนยังมีอาการกลืนไม่เข้าแต่ก็คายไม่ออกจนเกลี้ยงจาน  บ่ายเดินทางขึ้นไปทางเหนือเป้าหมายปลายทางคือGenting Highland ระหว่างทางแวะร้านจำหน่ายนาฬิกาและอุปกรณ์กล้องถ่ายรูป เป็นการพักรถระหว่างทาง จากนั้นรถนำขึ้นทางลาดชันไปเรื่อย ๆ สองข้างทางเป็นป่าสมบูรณ์มีเฟิร์นผักกูดอุดมสมบูรณ์มากใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง คณะก็มาถึงสถานีขึ้นกระเช้าบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน กระเช้าลูกหนึ่งเขาให้นั่งหันหลังชนกันได้ ๘ คน ผ่านยอดเขาและหุบเหวเป็นระยะทาง ๓.๔ กม. กระแสลมพัดแรงมากทำเอาหวาดหวั่นเหมือนกัน ใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาทีก็ถึงสถานีบนเก็นติ้งไฮแลนด์ อากาศบนยอดเขาเย็นและมีฝนตก  ผู้ก่อตั้ง Genting highland ชื่อ ลิม โก ตง  (ตอนนี้เสียชีวิตแล้ว) สร้างได้ครบวงจร มีคาสิโน โรงแรม สวนสนุก แหล่งช็อปปิ้ง สถานบันเทิงครบครัน แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใด อากาศที่นี่เย็นสบาย มีหมอกปกคลุมตลอดปี ค่าเช่าที่ดินบนเขาที่คุณ ลิมโกตง ต้องเสียให้สุลต่านรัฐสลังงอร์เพื่อประกอบกิจการแห่งนี้ปีละ ๑ ริงกิต (ประมาณ ๑๐ บาท) หลักการใหญ่ต้องอนุรักษ์ป่าไม้ใช้พื้นที่ป่าเพียง ๓ % ในการก่อสร้างเท่านั้น  เข้าพักที่โรงแรม First World มาครั้งนี้มีตึกเพิ่มขึ้นเป็น Wing 2 เป็นตึกใหม่  ห้องพักทั้งโรงแรมเพิ่มเป็น ๑ หมื่นห้อง ไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศเพราะอากาศเย็นจนต้องปิดหน้าต่าง  พวกเราทานอาหารเย็นที่ชั้น ๓ ของโรงแรม เป็นบุฟเฟ่ให้เลือกมากมาย อิ่มแล้วสามารถเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าหรือแม้จะเสี่ยงโชค  ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือระบบบริหารจัดการของเขาในการเรียกเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยว การอยู่ร่วมกับธรรมชาติแบบยั่งยืน  การใช้เทคโนโลยีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนเครื่องจักรขนาดใหญ่ และกติกาทางสังคมที่ไม่อนุญาตให้คนมาเลเซียมุสลิมเข้าเล่นการพนันในในบ่อนแห่งนี้ แต่พวกเขาสามารถเป็นพนักงานรับเงินเดือนจากกิจการขนาดใหญ่แห่งนี้ได้อย่างมั่นคง  เดินดูจน ๔ ทุ่มจึงขึ้นพักผ่อนเพราะอ่อนเพลียจากการเดินทาง

วันศุกร์ที่ ๑๒  มีนาคม  ๒๕๕๓  เช้าไปทานบุฟเฟ่ที่ชั้น ๓ ก่อนเดินทางไปสถานีกระเช้า กลับสถานีด้านล่าง ขาลงรู้สึกว่าเร็ว ฝ่าก้อนเมฆในระดับ ๒,๐๐๐ เมตรลงมาสัก ๑๐ นาทีก็เห็นผืนป่าและแสงแดดยามเช้าได้ถ่ายภาพกระเช้าที่ขึ้นสวนทางไปสีแปลก ๆ  แหงนมองย้อนขึ้นยอดเขายังมีเมฆปกคลุมหนาทึบไม่เห็นตัวตึกใด ๆ กระเช้าเทียบสถานี พวกเราลงมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ขาลงรถใช้อีกเส้นทางหนึ่งเป็นทางเก่าเล็ก ๆ ผ่านป่าไม้และหย่อมบ้าน มีฝูงลิงฝูงค่างลงมาเดินเล่นขอบถนน  รถใช้เส้นทางเก่าจึงทำให้เห็นสภาพชุมชนดั้งเดิม  มาแวะทานข้าวกลางวันในเขตเมือง Ipoh ปีก่อนก็เคยแวะมาทานที่ร้านนี้  เขาชอบสะสมของเก่าจำพวกนาฬิกาโบราณ และเตาถ่านรีดผ้า  ติดกันเป็นร้านสะดวกซื้อเล็ก ๆ ให้เลือกหาของขบเคี้ยว  รถมาออกทางด่วนวิ่งฝ่าสายฝนมาตลอด เราเสร็จภารกิจฝนเทลงมาถือว่าโชคดี  หากตกตั้งแต่วันไปคงไม่สะดวกนัก  ถึงด่านมาเลเซียประมาณ ๑๗.๐๐ น. พวกเราลงประทับตราหนังสือเดินทาง ไม่มีการลากกระเป๋าเหมือนขามา นั่งรถมาแวะ Duty free จับจ่ายเงินริงกิตที่เหลือกันอีกครั้งก่อนจะแลกกลับเป็นเงินไทย  ๐๖.๐๐ น.มาเข้าคิวที่ด่านไทยเพื่อประทับตราหนังสือเดินทางเข้าประเทศ วันนี้คนเยอะเพราะมีสมาคมชาวสวนปาล์มประจวบคีรีขันธ์กลับจากกัวลาลัมเปอร์เช่นกัน   รถมาเลเซียมาส่งถึงหาดใหญ่ที่ปั้มน้ำมันบริษัทเชลล์ พวกเราทานอาหารเย็นแบบไทยกันที่นี่ ทั้งข้าวแกงและก๋วยเตี๋ยว เปลี่ยนเป็นรถบัสใหญ่ของไทยเหมือนขามาเดินทางจากหาดใหญ่ประมาณ ๒๑.๓๐ น.  ได้ทราบข่าวว่า สพฐ.เลื่อนการสอบวัดสมรรถนะครูจากพรุ่งนี้ไปไม่มีกำหนดจึงตัดสินใจที่จะลงชุมพรเพื่อช่วยงานบวชลูกชาย ผอ.สำรวจ  ถนอมศักดิ์  โรงเรียนเมืองชุมพรวิทยา ในวันพรุ่งนี้ จึงประสานให้ ผอ.ศักดิ์สิทธิ์  แร่ทอง  โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๖(บ้านพละ) มารับที่สี่แยกปฐมพร เพื่อเข้าเมืองไปพักที่โรงแรมจันทร์สมชุมพร

วันเสาร์ที่ ๑๓ มีนาคม  ๒๕๕๓  แม้จะนอนตี ๓ แต่ก็ตื่นเช้า ๐๘.๐๐ น. ผอ.ธรรมรงค์ เทพไพฑูรย์ โรงเรียนวัดดอนยาง ผอ.เลอศักดิ์  รัชณาการ โรงเรียนบ้านช่องไทรราษฎร์พัฒนา และ ผอ.ศักดิ์สิทธิ์ แร่ทอง มารับไปทานข้าวที่ร้านป้ายินดี ริมคลองท่ายาง  ก่อนกลับไปร่วมงานบวชที่วัดชุมพรรังสรรค์พระอารามหลวง ได้พบผู้บริหาร เพื่อนครูและเจ้าหน้าที่ใน สพท.ชุมพร เขต ๑ หลายราย หลังงานท่านรองฯ พนอ  ทิพย์พิมลรัตน์  ผอ.กิจจา  เก่งการไถ  ผอ.สิรินทร์  นาพญา และทีมเดิมชวนไปดื่มกาแฟร้านเปิดใหม่ถนนกรมหลวงฯ เขาจัดบรรยากาศร้านดีแอบถ่ายภาพมาปรับสโมสรของเราบ้าง เวลา ๑๔.๐๐ น. เดินทางกลับ เดิมจองตั๋วรถทัวร์ไว้แล้วถูกบังคับให้บอกเลิก ผอ.ศักดิ์สิทธิ์  แร่ทอง ขับรถมาส่งถึงกรุงเทพฯ เขาบอกว่า Camry ใช้แก๊สได้ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก มาแวะทานข้าวเย็นกับท่าน ผอ.ยิ่ง ทัศน์แก้ว ที่ร้านต้นม่วง   เพชรบุรี   ฝ่าด่านตำรวจทหารเป็นระยะ ๆ ถึงบ้านพักเกือบ ๔ ทุ่ม  เป็นการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อย  การศึกษาดูงานในต่างประเทศช่วยให้เราเห็นความเป็นไปของประชาคมโลก ทั้งจุดเด่นจุดด้อยที่พบที่เห็นล้วนมาจากคุณภาพของพลเมืองแห่งประเทศนั้น ส่วนคุณภาพของคนก็คงสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคุณภาพการศึกษาอย่างปฏิเสธไม่ได้

         สัปดาห์นี้จะนำเสนอชีวิตของมหาบุรุษชาวมาเลเซียมาเล่าสู่กันฟัง ดร.มหาเธด์ โมฮัมหมัด มหาเธด์ใช้วิธีมองมาเลเซียให้เป็นเหมือนกับบริษัทแห่งหนึ่ง ไม่ใช่ประเทศใหญ่ เพราะฉะนั้นนโยบายในการบริหารประเทศของเขา จึงไม่ต่างอะไรกับการดูแลบริษัทแห่งหนึ่งเท่านั้น เขาเริ่มด้วยการเปลี่ยนความคิดของชาวมาเลเซีย โดยการนำกฎหมายไซเบอร์มาใช้ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นกฎหมายที่เอื้อให้บริษัทต่างๆ สามารถดึงเอาศักยภาพทางด้านสารสนเทศและมัลติมีเดียมาใช้อย่างเต็มที่โครงการของมหาเธด์กำลังจะไปได้ดี ถ้าไม่เจอกับวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” เสียก่อน ค่าเงินริงกิตของมาเลเซียตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เงินลงทุนรั่วไหลออกนอกประเทศ ราคาอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ตลาดหุ้นซบเซานักลงทุนไม่กล้าเสี่ยงนำเงินออกมาใช้ จำนวนคนว่างงานเพิ่มสูงขึ้น นับเป็นช่วงที่ท้าทายความสามารถของผู้นำอย่าง มหาเธด์ มากที่สุด เพราะตลอดระยะเวลา 22 ปี ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มหาเธด์ประสบความสำเร็จด้านนโยบายเศรษฐกิจมาตลอดเขาเริ่มเดินหมากทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่ระมัดระวัง แทนที่จะยอมรับความช่วยเหลือจาก IMF มหาเธด์กลับใช้วิธีจำกัดการนำเงินริงกิตไปลงทุนในต่างประเทศแทน เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมไม่ให้เงินตราไหลออกนอกประเทศ นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นนโยบาย ถอยหลังเข้าคลอง แต่มันช่วยให้ค่าเงินริงกิตแข็งขึ้นมาจากเดิมได้พอควรและในที่สุดมาเลเซียรอดพ้นจากปัญหาทางเศรษฐกิจมาได้ภายในเวลาเพียง 18 เดือนเท่านั้น มหาเธด์สามารถพิสูจน์ให้นานาประเทศเห็นว่า มาเลเซียสามารถแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจได้ด้วยนโยบายการบริหารประเทศที่ชาญฉลาด สิ่งนี้เองที่ทำให้มหาเธร์ชนะใจชาวมาเลเซียทุกคน

กำจัด  คงหนู

ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑

 

หมายเลขบันทึก: 344486เขียนเมื่อ 15 มีนาคม 2010 13:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีท่านกำจัด และขอขอบคุณที่ปรับรูปแบบในการเสนอความเคลื่อนไหวภายในเขตปทุมธานี เขต 1 ดีมาก แต่สิ่งที่ไม่เข้าใจเลยว่า ตำแหน่งครูผู้ช่วยที่สอบไว้ยังมีอยู่ทำไหมท่านจึงเปิดสอบอีก ส่วนตำแหน่งที่หมด ก็มีคณิต อังกฤษ แต่เอกอื่นยังมีอยู่ท่านทำไหมท่านไม่ช่วยให้คนที่สอบได้ขึ้นบัญชีอยู่แล้วบรรจุก่อน หรือว่าไม่ได้อยู่ในสมัยของท่าน คงไม่จริงเพราะที่ท่านมาอยู่มีการบรรจุมากพอสมควรแต่บางเอกไม่ขยับเลย ขอให้ท่านพิจารณาอีกครั้งที่จะเปิดสอบ เขต 2เขายังไม่เปิดสอบเลย ท่านดูนิดหนึ่งนะคะ

ขอขอบคุณมากที่ท่านพิจารณาอีกครั้ง จากผู้ที่รอคอย

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑ ไม่เปิดสอบแข่งขันบุคคลเข้ารับราชการในทุกวิชาเอกครับ

เอกประถมที่รอคอย

ท่านผอ. เขต ที่เคารพ ทำไมเอกประถมบัญชีขยับช้าจังเลยคะ แล้วเรียกเอกประถมน้อยมาก ทำไมไม่บรรจุเอกประถมให้กับโรงเรียนประถมคะ เพราะเอกประถมสามารถสอนได้ทุกวิชาในโรงเรียนประถม แล้วในกรณีวิชาเอกที่หมดบัญชีแล้วแต่โรงเรียนประถมต้องการในเอกนั้นๆ ทางเขตจะทำอย่างไรคะ ขอให้ท่านผอ.เขตสงสารเอกประถมด้วยนะคะ เพราะมีคนเรียนวิชาเอกนี้กันเยอะ และสอบขึ้นบัญชีไว้เยอะด้วยเช่นกันค่ะ ขอขอบคุณท่านมากค่ะ

...อยากทราบว่าตอนกลางคืนไปไหนกันมาค่ะ สถานที่นี้ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย แต่ถ้าเป็นภาพอื่น ๆ ก็คงจะพอเดาได้ว่าที่ไหน...?

ท่านผอ ค่ะเอกเคมีไม่ขยับเลย เรียกน้อยมากเอกเคมีสามารถสอนวิทยาศาสตร์ม.ต้นได้ ช่วยพิจารณาด้วยนะค่ะ ถ้าไม่เรียกบรรจุกรุณาให้เขตอื่นยืมบัญชีหน่อยเถอะค่ะ ถือว่าสงสารช่วยประกาศให้เขตอื่นมายืมเอกเคมีด้วยเถอะค่ะ เพื่อนที่ไปสอบเขตอื่นได้ลำดับที่ 12ไปบรรจุแล้ว หรือพวกหนูไม่มีบุญสอบได้แต่บุญไม่ถึงที่จะบรรจุเป็นครูทุกครั้งที่คนอื่นถามว่าสอบได้ที่เท่าไรก็บอกเพื่อนไปว่าได้ลำดับต้นๆๆแต่ไม่ยอมเรียกบรรจุสักทีเพื่อนบอกว่าเก่งแต่โชคร้ายที่มาสอบที่ปทุมเสียใจมาก การรอคอยมันยาวนานและทำให้ท้อมาก ไม่มีแม้แต่ความหวังที่จะเรียกบรรจุในเดือนพฤษภาคม ถ้าให้คาดคะเนอย่างมากเรียกหนึ่งคน แต่หนูเชื่อว่าไม่เรียกแน่นนอน เพราะที่ผ่านมาเรียกอยากมากและนานมากกว่าจะเรียก 3 เดือนเรียกหนึ่งคน ความในใจของคนที่มีหวังแต่ความหวังทำให้เราเจ็บปวดขอผอ.เขตเมตตา

เป็นกำลังใจให้เอกเคมีทุกคน สู้ๆๆๆอย่าท้อๆๆๆๆๆๆตราบใดที่ยังมีหวังต้องเดินทางต่อไป อย่ายอมแพ้กับโชคชะตา

   "โลกนี้คือโรงแรม"

  โลกใบนี้ไม่ต่างจากห้องพักของโรงแรม
ไม่ว่าเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่
ไม่ว่าหรูหราหรือซอมซ่อ
ใคร ๆ ก็มีสิทธิ์อยู่ได้เพียงชั่วคราว
ไม่ว่าระยะเวลาจะสั้นหรือยาว
ที่สุดแล้วก็ต้องจากไป

** 1. แล้วจะมาชิงดีชิงเด่นให้ใจไม่เป็นสุขทำไม
        ทำไมพวกเราไม่รักกัน
    2. เห็นด้วยกับคุณกุ๊กไก่ เช่น ถาดโรตี(รูปกระป๋องCOKE background สวยๆ)
        ไม่ได้ชิมด้วย อิจฉานิ!!!


สวัสดีค่ะท่านผอ. และชาวโลกทั้งหลาย

ขอต้อนรับกลับปทุมด้วยความดีใจ...พวกท่านไม่อยู่...เหงามากเลย...จึงรู้สัจธรรมข้อที่ 1 ว่า...ทำไมโรงเรียนจึงต้องมีผู้บริหาร...

ข้อที่ 2 ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน...ข้อที่ 3 อยากสบายต้องเป็นใหญ่ให้ได้...

ผอ.กลับมาถึงโรงเรียน...เรียกประชุมแจกของฝากจากมาเลย์...

ของฝากนี่สำคัญ...ทำให้รู้ว่า...เราอยู่ไม่ไกลจากใจผอ...ฮิฮิ

มีใครไม่ได้ของฝากบ้าง...ยกมือขึ้น...55555

ท่านได้ไอเดียจากการไปครั้งนี้ว่า...ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นที่เด็กไทยควรรู้อย่างลึกซึ้ง...ไม่ใช่แบบงูๆปลาๆ...

เพราะท่านหลง...พูดกับเขาก็ไม่รู้เรื่อง...จะถามทางน่ะ...โชคดีพระคุ้มครอง..ให้เจอไกด์..เลยได้กลับโรงแรม...

ไม่งั้นโรงเรียนคงว่างผอ....อีกตำแหน่งแน่..คริคริ..

ท่านสรุปให้พวกเราฟังว่า...คน...เป็นนักคิดที่เยี่ยมยอด...ทำสิ่งที่ไม่น่าจะทำได้ให้เป็นไปได้...

อย่างที่ท่านผอ.เขตเล่าถึงมหาเธย์....นั่นแหละ...

ตอนนี้...ปทุมเขต 1...ก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครทำได้...ในสมัยท่านกำจัดนี่แหละ...ขอคารวะด้วยใจจริง...

เห็นท่านบอกว่า...นายกชาญ...จะพาพวกครูไปศึกษาดูงานตอนปิดเทอม...จริงหรือเปล่า....

นี่ก็จะปิดเทอมแล้วไม่เห็นมีเรื่องแจ้งเข้ามาเลย...แต่การไปเที่ยวคนเยอะ ๆ คงไม่ค่อยได้อะไร

น่าจะจัดไปเป็นทริปละ 2 อำเภอ...ครูมีมากกว่าผู้บริหาร...แค่พวกท่านไป...ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว...แล้วถ้าครูทั้งจังหวัด...อุ...แม่เจ้า

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านเรื่องราว

พร้อมกับชมภาพสวยๆ

ขอบคุณนะคะ

หลับฝันดีค่ะ^__^

สวัสดีค่ะ..ได้แวะหาดใหญ่..คงคิดถึงบ้านน่ะค่ะ..

ภาพสวยงามมากๆค่ะ..โรตี..น่า..หรอยจังหู้น่ะค่ะ

คืนนี้อย่าลืมเชียร์ น้องเบส หมายเลข 9 ลูกสาว ผอ. ที่โรงเรียนน่ะค่ะ..

เผื่อจะได้เข้ารอบกะเขามั่ง..ขอบคุณน่ะค่ะ..

ประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ช่อง 7 ค่ะ..

เรียนท่านผอ.เขตที่เคารพ

ตอนนี้รู้สึกว่าข่าวความเคลื่อนไหวต่างๆ บนเว็บเขตจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวเลยนะครับ เป็นเพราะอะไรหรือครับ ลงไว้ตั้งแต่ 8 มีนาคม แล้วก็นิ่งสนิทเลย ช่วยแจ้ข่าวหน่อยนะครับ โดยเฉพาะข่าวการบรรจุ การขอใช้บัญชีก็ไม่มีความเคลื่อนไหวเลยว่าเอกไหนใครสมัครใจไปบ้าง ช่วยตอบด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท