แบบทดสอบนักเรียนชั้นม.1


กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีมุ่งหวังให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง สามารถนำความรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิต การอาชีพ และเทคโนโลยี มาประยุกต์ใช้ในการทำงานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เห็นแนวทางการประกอบอาชีพ รักการทำงาน มีเจตคติที่ดีต่อการทำงาน สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียง

 

  

 แบบทดสอบกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1      
โรงเรียนบ้านสร้างม่วงส้มเสี้ยว อำเภอบุณฑริก  จังหวัดอุบลราชธานี   
                                                                       โดย คุณครู สุวิมล  ไวยารัตน์

ข้อที่ 1  ให้นักเรียนอธิบาย   ดังนี้

       1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์

       1.2  ประเภทของงานประดิษฐ์

 

ข้อ  2  ตอนนี้กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาแรง  ให้นักเรียนอธิบาย 

    2.1   วิธีการช่วยลดโลกร้อน  

    2.2   นำเสนอสิ่งประดิษฐ์จากเศษวัสดุเหลือใช้ (บอกชื่อสิ่งประดิษฐ์  วัสดุที่ใช้  และวิธีทำ )

                    

                 แม้เศษความคิดก็มีค่า  ถ้าทุกคนกล้าที่จะคิด (นอกกรอบ) 

หมายเหตุ 

นักเรียนอย่าลืมแนะนำตัวเองก่อนลงมือตอบคำถามนะคะ  โดยบอกชื่อ-สกุล เลขที่

นักเรียนสามารถตอบคำถามได้มากกว่า 1 ครั้ง  

หมายเลขบันทึก: 344251เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2010 13:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (35)
เด็กชายสมประสงค์ ภาคสีดา

ข้อ 1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

เด้กชายสมประสงค์ ภาคสีดา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1/2 เลขที่4 เด็กชายพีระพล สิงหาภู ม.1/2 เลขที่ 6

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

เด็กชายนัฐดนัย วงศ์ษาเสน ม.1/2 เลขที่ 8

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ??

เด็กหญิง สุภาพร เดชคำภู

ความหมายของนวัตกรรม

“นวัตกรรม” หมายถึงความคิด การปฏิบัติ หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อนำ นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย

- - - ประเภทของงานประดิษฐ์ - - -

เราแบ่งงานประดิษฐ์ตามโอกาสใช้สอยได้ดังนี้

๑. ประเภทงานประดิษฐ์ที่เป็นของเล่น เช่น ตุ๊กตา ว่าว รถลาก

๒. ประเภทเครื่องใช้ เช่น ตะหร้า กระด้ง กระจาด เข่ง

๓. เครื่องตกแต่ง เช่น กรอบรูป โคมไฟ งานแกะสลัก และดอกไม้ประดิษฐ์

๔. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธีการ งานประดิษฐ์เครื่องใช้ในงานพิธี

ทำขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา ในช่วงโอกาสต่างๆ และงานประเพณี

เช่น ลอยกระทง งานวันเข้าพรรษา งานออกพรรษา งานศพ งานประดิษฐ์เหล่านี้

เช่น พานพุ่ม มาลัย เครื่องแขวน บายศรี การจัดดอกไม้ในงานศพ

การลดภาวะโลกร้อน

1. ลดการใช้พลังงานในบ้าน ด้วยการปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นับ 1,000 ปอนด์ต่อปี

2. ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮ-ไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมาด้วย จะยังคงมีการใช้ไฟฟ้าแม้ยังอยู่ในโหมด สแตนด์บาย ประหยัดไฟฟ้าและค่าไฟด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงที่ตัดไฟด้วยตัวเอง

3. เปลี่ยนหลอดไฟ เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดที่เรียกว่า compact fluorescent (CFL) แม้อาจจะมีราคาแพงกว่าหลอดแบบเดิม 3-5 เท่าแต่จะกินไฟเพียง 1 ใน 4 ของหลอดไฟแบบเดิม และมีอายุการใช้งานได้นานกว่าหลายปีมาก แต่เมื่อใช้งานหมดอายุแล้วจำเป็นต้องแยกทิ้งหลอดไฟในถังรีไซเคิลเฉพาะ เพราะตัวหลอดยังมีปรอทเคลือบอยู่ราวๆ 5 มิลลิกรัม

4. เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่า และประหยัดกว่าหลอดปกติ 40% สามารถหาซื้อหลอดไฟ LED ที่ใช้สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะและตั้งพื้นได้ด้วย จะเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการให้มีแสงสว่างส่องทาง เช่น ริมถนนหน้าบ้าน การเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี

5. ช่วยกันออกความเห็นหรือรณรงค์ ให้รัฐบาลพิจารณาข้อดีข้อเสียของการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนกับ ภาคการผลิต ตามอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลรูปแบบต่างๆ หรือการใช้ก๊าซโซลีนเป็นรูปแบบการใช้ภาษีทางตรงที่เชื่อว่า หากโรงงานต้องจ่ายค่าภาษีแพงขึ้นก็จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ในกระบวนการผลิตลง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อย CO2 ลงได้ประมาณ 5 %

6. ไปร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool นัดเพื่อนร่วมงานที่มีบ้านอาศัยใกล้ๆ นั่งรถยนต์ไปทำงานด้วยกัน ช่วยประหยัดน้ำมันและยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมด้วย

7. ขับรถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง ด้วยการปั่นจักรยานใช้รถโดยสารประจำทาง หรือใช้การเดินแทนเมื่อต้องการไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน การขับรถยนต์น้อยลงหมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะน้ำมันทุกๆ แกลลอนที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ 20 ปอนด์

8. จัดเส้นทางรถรับส่งพนักงาน ถ้าในหน่วยงานมีพนักงานจำนวนมากอาศัยอยู่ในเส้นทางใกล้ๆ กัน ควรมีสวัสดิการจัดหารถรับส่งพนักงานตามเส้นทางสำคัญๆ เป็น Car Pool ระดับองค์กร

9. เปิดหน้าต่างรับลมแทนเปิดเครื่องปรับอากาศ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้า เพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ ด้วยการเปิดหน้าต่างบ้านรับลมบ้าง โดยเฉพาะในหน้าหนาวหรือหน้าฝน ที่อากาศภายนอกเย็นกว่าฤดูอื่นๆ กลัวยุงและแมลงก็ติดมุ้งลวดที่หน้าต่างเสียเลยหลายครั้งที่เรา จะพบว่าโรงแรมและบ้านพักหลายแห่งที่อยู่ติดทะเลมีห้องพักที่ใช้พัดลมกับห้องพักมีเครื่องปรับอากาศ ให้เลือก เลือกพักห้องพัดลมจะดีกว่า ได้นอนฟังเสียงคลื่นพร้อมกับใช้ไฟฟ้าน้อยลง

10. มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ครั้งต่อไปเมื่อจะซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น ป้ายฉลากเขียวประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพราะการจะได้ใบรับรองนั้นจะต้องมีการประเมินสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นหาวัตถุดิบ

. หลักสูตร

้สิ่งประดิษฐ์สวยด้วยวัสดุเหลือใช้

2. ความสำคัญและความจำเป็นของหลักสูตร

การรู้จักวิธีกำจัดวัสดุเหลือใช้หรือการเปลี่ยนสภาพของวัสดุเหลือใช้อย่างถูกต้อง เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดขยะให้น้อยลง และเพิ่มประโยชน์ในการใช้วัสดุนั้นๆ ทำให้ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ รวมทั้งช่วยลดปัญหามลพิษที่จะกำจัดให้ได้อีกด้วย

3. วัตถุประสงค์

เพื่อให้ผู้เรียนสามารถประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ จากวัสดุที่เหลือใช้ได้

จุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถ

1. บอกประเภทของวัสดุเหลือใช้ในบ้าน

2. บอกวิธีกำจัดวัสดุเหลือใช้ในบ้านได้ถูกต้อง

3. บอกคุณค่าของวัสดุเหลือใช้ได้

4. บอกวิธีและประดิษฐ์สิ่งของจากวัสดุเหลือใช้ตามที่กำหนด

เด็กชายทวีศักดิ์ โทคำเวช ม.1/2 เลขที่10

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

เด็กชายพีระพล สิงหาภู ม.1/2 เลขที่ 6

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ขอบพระคุณมากครับ

สวัสดีครับ ผมเด็กชายสุราวุฒิ วิจารย์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ครับ***

1. งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

2.ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

2. วิธีการลดภาว่ะโลกร้อน

1.ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

2.. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

3. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

ตอนที่ 2

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

สวัสดีค่ะเด็กหญิงมัทนา สวิล ม.1/2

. งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

2.ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

2. วิธีการลดภาว่ะโลกร้อน

1.ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

2.. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

3. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

ตอนที่ 2

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

เด็กชายปัญญา แท่งหิน เลขที่ 21 ม.1/1 เด็กชายเกียร์ติศักดิ์ ปวงสุข เลขที่ 6

งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

2.ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

2. วิธีการลดภาว่ะโลกร้อน

1.ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

2.. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

3. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

ตอนที่ 2

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ถนอมศักดิ์ ทิพประพันธ์ ชั้น ม.1/1 เลขที่ 8 ปฏิภาน ประทีปม.1/1 เลขที่ 2

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

ด.ญ พลอยศิริ กิ่งเเสง เลขที่20 ม.1

ข้อ 1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

อนุภพ นนศิริ ม.1/2 เลขที่11

ทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

เด็กชายจิระศักดิ์ อินทร ชั้นม.1/2 เลขที่2

งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

2.ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

2. วิธีการลดภาว่ะโลกร้อน

1.ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

2.. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

3. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

ตอนที่ 2

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของ

สิรินยากร ภาคสีดา เลขที่16 ม.1/2

ประดิษฐ์ แปลว่า คิดทำขึ้น

งานประดิษฐ์ จึงหมายถึง การนำเอาวัสดุต่างๆ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อประโยชน์ใช้สอยด้านต่างๆ เช่น เป็นของเล่น ของใช้ หรือเพื่อความสวยงาม

ประเภทของงานประดิษฐ์

งานประดิษฐ์ต่างๆ สามารถเลือกทำได้ตามความต้องการและประโยชน์ใช้สอย ซึ่งอาจแบ่งประเภทของงานประดิษฐ์ตามโอกาสใช้สอยดังนี้

1. ประเภทใช้เป็นของเล่น เป็นของเล่นที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวทำให้ลูกหลานเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน เช่น งานปั้นดินเป็นสัตว์ สิ่งของ งานจักสานใบลานเป็นโมบาย งานพับกระดาษ

2. ประเภทของใช้ ทำขึ้นเพื่อเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การสานกระบุง ตะกร้า การทำเครื่องใช้จากดินเผา จากผ้าและเศษวัสดุ

3. ประเภทงานตกแต่ง ใช้ตกแต่งสถานที่ บ้านเรือนให้สวยงาม เช่น งานแกะสลักไม้ การทำกรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์

4. ประเภทเครื่องใช้ในงานพิธี ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ในงานเทศกาลหรือประเพณีต่างๆ เช่น การทำกระทงลอย ทำพานพุ่ม มาลัย บายศรีเพื่อความสวยงาม

กรอบรูปลายใบไม้

เรื่องกรอบรูปนี่มีจดหมายขอมาครับก็เลยเพิ่มไว้ให้อีกแบบซะเลย อาจจะเป็นเพราะเป็นงานที่ทำได้ไม่ยากและสามารถออกแบบให้เป็นของตัวเองไม่เหมือนใคร จะทำไว้ใช้เองหรือขายก็ได้เป็นของตกแต่งบ้านที่ราคาไม่แพงด้วยครับ มาดูกันว่าทำกันยังไง...

กรอบรูปทำด้วยไม้ที่มีลายใบไม้อยู่รอบๆและมีลักษณะนูนขึ้นมา

ดูเป็น 3 มิติ สามารถทำได้ง่ายโดยใช้กระดาษมาทำลายฉลุและทาสี

วัสดุที่ต้องใช้

1 กรอบไม้

2 สีอคลีลิคสีเขียวเข้ม

3 กระดาษทรายละเอียด

4 กระดาษแก้ว

5 กระดาษแข็งอย่างบาง

6

เครื่องมือที่ต้องใช้

1 แปลงทาสี

2 ดินสอ

3 กรรไกร

วิธีทำ

นำสี่อคลีลิดสีเขียวมาทากรอบไม้ ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วทำการแต่งสีโดยนำกระดาษทราบละเอียดขัดตามแนวยาวลงมาเบาๆ

นำกระดาษแก้วลอกลวดลายที่ต้องการแล้วลอกแบบลงบนกระดาษแข็ง หรืออาจออกแบบลายเองก็วาดลงบนกระดาษแข็งโดยตรงเลยก็ได้ จากนั้นตัดออกตามลายที่วาดไว้

นำลายฉลุที่ทำเสร็จแล้วมาวางบนกรอบรูป ระบายสีลงบนแผ่นกระดาษแข็งที่ฉลุลายเรียบร้อยแล้ว ทำลักษณะเดียวกันนี้รอบๆกรอบรูป หรือ ทำตามแบบที่คุณคิดเองก็ได้

เมื่อสีแห้งแล้วใช้กระดาษทราบละเอียดขัดเบาๆอีกครั้งเพื่อให้สีดูของใบไม้ไม่กระด้าง กลมกลืนไปกับสีพื้น

ด้วยหลักการทำกรอบรูวิธีนี้คุณก็สามารถสร้างผลงานได้หลายแบบ หลายขนาดและหลายๆสีได้ตามต้องการ จะทำขายหรือใช้เองหรือจะทำเป็นของฝากให้กับใครซักคนก็ไม่ผิดกติกาครับ เรียกว่า ให้รูปแถมกรอบเก๋ๆด้วยเลย พอถึงเวลาเขาเบื่อเราอาจทิ้งแต่รูปไม่ทิ้งกรอบเพราะดูสวยดี อย่างน้อยก็เหลืออะไรไว้ให้ระลึกถึงเราเน้อ.

1.ลดการใช้พลังงานในบ้านด้วยการปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นับ 1 พันปอนด์ต่อปี

2.ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมาด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงที่ตัดไฟด้วยตัวเอง

3.เปลี่ยนหลอดไฟ เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดที่เรียกว่า Compact Fluorescent Lightbulb (CFL) เพราะจะกินไฟเพียง 1 ใน 4 ของหลอดไฟเดิม และมีอายุการใช้งานได้นานกว่าหลายปีมาก

4.เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่าและประหยัดกว่าหลอดปกติ 40% สามารถหาซื้อหลอดไฟ LED ที่ใช้สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะและตั้งพื้นได้ด้วย จะเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการให้มีแสงสว่างส่องทาง เช่น ริมถนนหน้าบ้าน การเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี

5.ช่วยกันออกความเห็นหรือรณรงค์ให้รัฐบาลพิจารณาข้อดีข้อเสียของการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนกับภาคการผลิต ตามอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลรูปแบบต่างๆ หรือการใช้ก๊าซโซลีน เป็นรูปแบบการใช้ภาษีทางตรงที่เชื่อว่า หากโรงงานต้องจ่ายค่าภาษีแพงขึ้นก็จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในกระบวนการผลิตลง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อย CO2 ลงได้ประมาณ 5%

6.ขับรถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง ด้วยการปั่นจักรยาน ใช้รถโดยสารประจำทาง หรือใช้การเดินแทนเมื่อต้องไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน เพราะการขับรถยนต์น้อยลง หมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพราะน้ำมันทุกๆ แกลลอนที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 20 ปอนด์

7.ไปร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool นัดเพื่อนร่วมงานที่มีบ้านอาศัยใกล้ๆ นั่งรถยนต์ไปทำงานด้วยกัน ช่วยประหยัดน้ำมัน และยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมด้วย

8.จัดเส้นทางรถรับส่งพนักงาน ถ้าในหน่วยงานมีพนักงานจำนวนมากอาศัยอยู่ในเส้นทางใกล้ๆ กัน ควรมีสวัสดิการจัดหารถรับส่งพนักงานตามเส้นทางสำคัญๆ เป็น Car Pool ระดับองค์กร

9.เปิดหน้าต่างรับลมแทนเปิดเครื่องปรับอากาศ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้าเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ

10.มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพราะการจะได้ใบรับรองนั้น จะต้องมีการประเมินสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นหาวัตถุดิบ

น้ำฝน นนท์ศิริ เลขที่19

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

เด็กหญิง อัจฉราพร เดชคำภู

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

ชื่อ ด.ญ.อักษร ใจทน ชั้น ม1/1 เลขที่20ด.ญ.นารีรัตน์ สวิล เลขที่23

นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

ด.ญ.เจนจิรา พรมมุณี

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์ คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

ด.ช.พรเจริญ พันธุมาศ

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์ คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

ด.ญ. ศิริลักษณ์ นิลดวงดี

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์ คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ด.ญ. ศิริลักษณ์ นิลดวงดี

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์ คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำโคมไฟจากแผ่นซีดี

Posted by ธนาคารออมจุ๊บ , ผู้อ่าน : 10482 , 18:01:24 น.

หมวด : งานอดิเรก

พิมพ์หน้านี้

วัสดุที่ใช้

1. สวิทซ์ไฟ สำหรับเปิดปิด

2. หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบยาว

3. แผ่นซีดี 61 แผ่น

4. สายไฟ 1.8 เมตร

หลอดไฟที่ใช้

ถอดส่วนประกอบหลอดไฟออก เพื่อจะได้แยกเอาสวิทซ์กับหลอดไฟ ไว้สำหรับติดนอกกล่องโคมไฟ

เอามากะระยะ ว่าสวิทซ์ กับหลอดไฟจะอยู่ตำแหน่งไหน

ตัดแผ่นไม้อัดหนาขนาด 3/8 นิ้ว เป็นรูปวงกลมขนาด แผ่นซีดี จำนวน 18 แผ่น

แผ่นไม้อัดที่ตัดออกมา

ทาด้วยกาวร้อน แล้วใช้สกรูอัดให้แน่น ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง ประมาณ 20 นาที

ใช้สว่านเจาะช่องตรงกลางไม้ให้ใส่หลอดไฟได้ เจาะช่องให้สายไฟ กับสวิทซ์ไฟใส่ได้

วางหลอดไฟใส่ลงไปในช่องนี้

ใส่สวิทซ์ไฟ กับสายไฟตามช่องที่เจาะไว้

เจาะรูตรงกลางแผ่นซีดี ให้กว้างพอที่จะใส่หลอดไฟได้

เจาะให้ใส่หลอดไฟได้แบบนี้

จับแผ่นซีดีสองแผ่น มาจับคู่ประกบกัน โดยหันด้านที่มันวาวออกทั้งสองด้าน แล้วใช้กาวร้อนทาทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเจาะรู3 รู ไว้สำหรับใส่น็อตยาวเป็นเสาขา 3 ขาดังภาพ ชั้นแรกใส่แผ่นเดียว จากนั้นค่อยใส่วงแหวน รองเพื่อให้เป็นชั้นๆ มีช่องว่าง ให้แสงกระจายออก ใส่ไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสุดท้าย ใช้แผ่นซีดี 4 แผ่นทากาวประกบกัน ปิดเป็นฝาข้างบน

เวลาจะเปลี่ยนหลอดไฟข้างใน ก็ไขน็อตออก แล้วหยิบหลอดไฟมาเปลี่ยน

ประกอบเสร็จแล้ว เมื่อเปิดไฟ จะได้โครมไฟที่สวยงาม

ด.ญ. ศิริลักษณ์ นิลดวงดี

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์ คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ประชาชนคนหนึ่งสามารถลดโลกร้อนด้วยการดำเนินวิถีชีวิตแบบพอเพียง โดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในบ้านเรือนและอาคารสำนักงาน ด้วยการปรับ เปลี่ยนวิธีการใช้พลังงานไฟฟ้าน้ำมันเชื้อเพลิงรวมทั้งหาวิธีอื่นๆ ที่จะช่วยให้โลกร้อนน้อยลงได้ด้วยตัวเอง

1. ลดการใช้พลังงานในบ้าน ด้วยการปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นับ 1,000 ปอนด์ต่อปี

2. ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮ-ไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมาด้วย จะยังคงมีการใช้ไฟฟ้าแม้ยังอยู่ในโหมด สแตนด์บาย ประหยัดไฟฟ้าและค่าไฟด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงที่ตัดไฟด้วยตัวเอง

3. เปลี่ยนหลอดไฟ เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดที่เรียกว่า compact fluorescent (CFL) แม้อาจจะมีราคาแพงกว่าหลอดแบบเดิม 3-5 เท่าแต่จะกินไฟเพียง 1 ใน 4 ของหลอดไฟแบบเดิม และมีอายุการใช้งานได้นานกว่าหลายปีมาก แต่เมื่อใช้งานหมดอายุแล้วจำเป็นต้องแยกทิ้งหลอดไฟในถังรีไซเคิลเฉพาะ เพราะตัวหลอดยังมีปรอทเคลือบอยู่ราวๆ 5 มิลลิกรัม

4. เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่า และประหยัดกว่าหลอดปกติ 40% สามารถหาซื้อหลอดไฟ LED ที่ใช้สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะและตั้งพื้นได้ด้วย จะเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการให้มีแสงสว่างส่องทาง เช่น ริมถนนหน้าบ้าน การเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี

5. ช่วยกันออกความเห็นหรือรณรงค์ ให้รัฐบาลพิจารณาข้อดีข้อเสียของการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนกับ ภาคการผลิต ตามอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลรูปแบบต่างๆ หรือการใช้ก๊าซโซลีนเป็นรูปแบบการใช้ภาษีทางตรงที่เชื่อว่า หากโรงงานต้องจ่ายค่าภาษีแพงขึ้นก็จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ในกระบวนการผลิตลง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อย CO2 ลงได้ประมาณ 5 %

6. ไปร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool นัดเพื่อนร่วมงานที่มีบ้านอาศัยใกล้ๆ นั่งรถยนต์ไปทำงานด้วยกัน ช่วยประหยัดน้ำมันและยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมด้วย

7. ขับรถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง ด้วยการปั่นจักรยานใช้รถโดยสารประจำทาง หรือใช้การเดินแทนเมื่อต้องการไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน การขับรถยนต์น้อยลงหมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะน้ำมันทุกๆ แกลลอนที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ 20 ปอนด์

8. จัดเส้นทางรถรับส่งพนักงาน ถ้าในหน่วยงานมีพนักงานจำนวนมากอาศัยอยู่ในเส้นทางใกล้ๆ กัน ควรมีสวัสดิการจัดหารถรับส่งพนักงานตามเส้นทางสำคัญๆ เป็น Car Pool ระดับองค์กร

9. เปิดหน้าต่างรับลมแทนเปิดเครื่องปรับอากาศ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้า เพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ ด้วยการเปิดหน้าต่างบ้านรับลมบ้าง โดยเฉพาะในหน้าหนาวหรือหน้าฝน ที่อากาศภายนอกเย็นกว่าฤดูอื่นๆ กลัวยุงและแมลงก็ติดมุ้งลวดที่หน้าต่างเสียเลยหลายครั้งที่เรา จะพบว่าโรงแรมและบ้านพักหลายแห่งที่อยู่ติดทะเลมีห้องพักที่ใช้พัดลมกับห้องพักมีเครื่องปรับอากาศ ให้เลือก เลือกพักห้องพัดลมจะดีกว่า ได้นอนฟังเสียงคลื่นพร้อมกับใช้ไฟฟ้าน้อยลง

10. มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ครั้งต่อไปเมื่อจะซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น ป้ายฉลากเขียวประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพราะการจะได้ใบรับรองนั้นจะต้องมีการประเมินสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นหาวัตถุดิบ

11. ไปตลาดสดแทนซุปเปอร์มาเก็ตบ้าง ซื้อผักผลไม้ หมู ไก่ ปลา ในตลาดสดใกล้บ้านแทนการช้อปปิ้ง ในซุปเปอร์มาเก็ตบ้าง ที่อาหารสดทุกอย่างมีการหีบห่อด้วยพลาสติกและโฟมทำให้เกิดขยะจำนวนมากลองหิ้วตระกร้าหรือถุงผ้าไปจ่ายตลาดดูบ้าง

12. เลือกซื้อเลือกใช้ เมื่อต้องซื้อรถยนต์ใช้ในบ้านหรือรถยนต์ประจำสำนักงานก็หันมาเลือกซื้อรถประหยัดพลังงาน รวมทั้งเลือกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน

13. เลือกซื้อรถยนต์ที่มีขนาดตามความจำเป็น โดยพิจารณาจากขนาดครอบครัวและประโยชน์การใช้งาน ได้ขนาดแล้วก็พิจารณารุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเพื่อเปรียบเทียบราคา อาจลองใช้การจัดอันดับรถเพื่อสิ่งแวดล้อม

14. ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเลือก รถโฟว์วีลขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อกินน้ำมันมาก ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเลือกซื้อใช้ ตะแกรงขนสัมภาระบนหลังคารถ ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นเพราะเป็นการเพิ่มน้ำหนักรถให้เปลืองน้ำมัน ยกเว้นจะเลือกแบบที่ถอดเข้าออกได้เผื่อจำเป็นต้องใช้งาน

15. ขับรถอย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะทางไกลการขับรถ ด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20 % หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตันต่อรถยนต์แต่ละคันที่ ใช้งานราว 30,000 กิโลเมตรต่อปี

16. ขับรถเร็วเที่ยวไปลดคาร์บอนไดออกไซด์ไปพร้อมกัน แม้จะอยู่ในช่วงลาพักร้อนไปเที่ยวต่างประเทศ เลือกเช่ารถรุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใช้เอธานอลหรือน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นๆ ด้วย ลองสอบถามบริษัทรถเช่าเมื่อเดินทางไปถึง

17. เลือกใช้บริการโรงแรมที่มีสัญลักษณ์สิ่งแวดล้อม ปัจจุบันโรงแรมหลายแห่งมีบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น มีมาตรการประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน และมีระบบจัดการของเสีย มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น โรงแรมใบไม้สีเขียว มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพ

18. เช็คลมยาง การขับรถที่ลมยางอ่อนอาจทำให้เปลืองน้ำมันได้ถึง 3 %

19. เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอธานอลให้มากขึ้น

20. โล๊ะทิ้งตู้เย็นรุ่นเก่า ตู้เย็นที่ผลิตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ใช้ไฟฟ้ามากเป็น 2 เท่าของตู้เย็นสมัยใหม่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟลงได้มาก และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กิโลกรัมต่อปี

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำโคมไฟจากแผ่นซีดี

Posted by ธนาคารออมจุ๊บ , ผู้อ่าน : 10482 , 18:01:24 น.

หมวด : งานอดิเรก

พิมพ์หน้านี้

วัสดุที่ใช้

1. สวิทซ์ไฟ สำหรับเปิดปิด

2. หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบยาว

3. แผ่นซีดี 61 แผ่น

4. สายไฟ 1.8 เมตร

หลอดไฟที่ใช้

ถอดส่วนประกอบหลอดไฟออก เพื่อจะได้แยกเอาสวิทซ์กับหลอดไฟ ไว้สำหรับติดนอกกล่องโคมไฟ

เอามากะระยะ ว่าสวิทซ์ กับหลอดไฟจะอยู่ตำแหน่งไหน

ตัดแผ่นไม้อัดหนาขนาด 3/8 นิ้ว เป็นรูปวงกลมขนาด แผ่นซีดี จำนวน 18 แผ่น

แผ่นไม้อัดที่ตัดออกมา

ทาด้วยกาวร้อน แล้วใช้สกรูอัดให้แน่น ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง ประมาณ 20 นาที

ใช้สว่านเจาะช่องตรงกลางไม้ให้ใส่หลอดไฟได้ เจาะช่องให้สายไฟ กับสวิทซ์ไฟใส่ได้

วางหลอดไฟใส่ลงไปในช่องนี้

ใส่สวิทซ์ไฟ กับสายไฟตามช่องที่เจาะไว้

เจาะรูตรงกลางแผ่นซีดี ให้กว้างพอที่จะใส่หลอดไฟได้

เจาะให้ใส่หลอดไฟได้แบบนี้

จับแผ่นซีดีสองแผ่น มาจับคู่ประกบกัน โดยหันด้านที่มันวาวออกทั้งสองด้าน แล้วใช้กาวร้อนทาทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเจาะรู3 รู ไว้สำหรับใส่น็อตยาวเป็นเสาขา 3 ขาดังภาพ ชั้นแรกใส่แผ่นเดียว จากนั้นค่อยใส่วงแหวน รองเพื่อให้เป็นชั้นๆ มีช่องว่าง ให้แสงกระจายออก ใส่ไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสุดท้าย ใช้แผ่นซีดี 4 แผ่นทากาวประกบกัน ปิดเป็นฝาข้างบน

เวลาจะเปลี่ยนหลอดไฟข้างใน ก็ไขน็อตออก แล้วหยิบหลอดไฟมาเปลี่ยน

ประกอบเสร็จแล้ว เมื่อเปิดไฟ จะได้โครมไฟที่สวยงาม

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำโคมไฟจากแผ่นซีดี

Posted by ธนาคารออมจุ๊บ , ผู้อ่าน : 10482 , 18:01:24 น.

หมวด : งานอดิเรก

พิมพ์หน้านี้

วัสดุที่ใช้

1. สวิทซ์ไฟ สำหรับเปิดปิด

2. หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบยาว

3. แผ่นซีดี 61 แผ่น

4. สายไฟ 1.8 เมตร

หลอดไฟที่ใช้

ถอดส่วนประกอบหลอดไฟออก เพื่อจะได้แยกเอาสวิทซ์กับหลอดไฟ ไว้สำหรับติดนอกกล่องโคมไฟ

เอามากะระยะ ว่าสวิทซ์ กับหลอดไฟจะอยู่ตำแหน่งไหน

ตัดแผ่นไม้อัดหนาขนาด 3/8 นิ้ว เป็นรูปวงกลมขนาด แผ่นซีดี จำนวน 18 แผ่น

แผ่นไม้อัดที่ตัดออกมา

ทาด้วยกาวร้อน แล้วใช้สกรูอัดให้แน่น ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง ประมาณ 20 นาที

ใช้สว่านเจาะช่องตรงกลางไม้ให้ใส่หลอดไฟได้ เจาะช่องให้สายไฟ กับสวิทซ์ไฟใส่ได้

วางหลอดไฟใส่ลงไปในช่องนี้

ใส่สวิทซ์ไฟ กับสายไฟตามช่องที่เจาะไว้

เจาะรูตรงกลางแผ่นซีดี ให้กว้างพอที่จะใส่หลอดไฟได้

เจาะให้ใส่หลอดไฟได้แบบนี้

จับแผ่นซีดีสองแผ่น มาจับคู่ประกบกัน โดยหันด้านที่มันวาวออกทั้งสองด้าน แล้วใช้กาวร้อนทาทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเจาะรู3 รู ไว้สำหรับใส่น็อตยาวเป็นเสาขา 3 ขาดังภาพ ชั้นแรกใส่แผ่นเดียว จากนั้นค่อยใส่วงแหวน รองเพื่อให้เป็นชั้นๆ มีช่องว่าง ให้แสงกระจายออก ใส่ไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสุดท้าย ใช้แผ่นซีดี 4 แผ่นทากาวประกบกัน ปิดเป็นฝาข้างบน

เวลาจะเปลี่ยนหลอดไฟข้างใน ก็ไขน็อตออก แล้วหยิบหลอดไฟมาเปลี่ยน

ประกอบเสร็จแล้ว เมื่อเปิดไฟ จะได้โครมไฟที่สวยงาม

ธิดาวรรณ สัทนา เลขที่ 13 ชั้น ม.1/2

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์ คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ประชาชนคนหนึ่งสามารถลดโลกร้อนด้วยการดำเนินวิถีชีวิตแบบพอเพียง โดยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในบ้านเรือนและอาคารสำนักงาน ด้วยการปรับ เปลี่ยนวิธีการใช้พลังงานไฟฟ้าน้ำมันเชื้อเพลิงรวมทั้งหาวิธีอื่นๆ ที่จะช่วยให้โลกร้อนน้อยลงได้ด้วยตัวเอง

1. ลดการใช้พลังงานในบ้าน ด้วยการปิดทีวี คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้นับ 1,000 ปอนด์ต่อปี

2. ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮ-ไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมาด้วย จะยังคงมีการใช้ไฟฟ้าแม้ยังอยู่ในโหมด สแตนด์บาย ประหยัดไฟฟ้าและค่าไฟด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงที่ตัดไฟด้วยตัวเอง

3. เปลี่ยนหลอดไฟ เป็นหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดที่เรียกว่า compact fluorescent (CFL) แม้อาจจะมีราคาแพงกว่าหลอดแบบเดิม 3-5 เท่าแต่จะกินไฟเพียง 1 ใน 4 ของหลอดไฟแบบเดิม และมีอายุการใช้งานได้นานกว่าหลายปีมาก แต่เมื่อใช้งานหมดอายุแล้วจำเป็นต้องแยกทิ้งหลอดไฟในถังรีไซเคิลเฉพาะ เพราะตัวหลอดยังมีปรอทเคลือบอยู่ราวๆ 5 มิลลิกรัม

4. เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่า และประหยัดกว่าหลอดปกติ 40% สามารถหาซื้อหลอดไฟ LED ที่ใช้สำหรับโคมไฟตั้งโต๊ะและตั้งพื้นได้ด้วย จะเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการให้มีแสงสว่างส่องทาง เช่น ริมถนนหน้าบ้าน การเปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 150 ปอนด์ต่อปี

5. ช่วยกันออกความเห็นหรือรณรงค์ ให้รัฐบาลพิจารณาข้อดีข้อเสียของการเรียกเก็บภาษีคาร์บอนกับ ภาคการผลิต ตามอัตราการใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลรูปแบบต่างๆ หรือการใช้ก๊าซโซลีนเป็นรูปแบบการใช้ภาษีทางตรงที่เชื่อว่า หากโรงงานต้องจ่ายค่าภาษีแพงขึ้นก็จะลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ในกระบวนการผลิตลง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการปล่อย CO2 ลงได้ประมาณ 5 %

6. ไปร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool นัดเพื่อนร่วมงานที่มีบ้านอาศัยใกล้ๆ นั่งรถยนต์ไปทำงานด้วยกัน ช่วยประหยัดน้ำมันและยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนน ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อมด้วย

7. ขับรถยนต์ส่วนตัวให้น้อยลง ด้วยการปั่นจักรยานใช้รถโดยสารประจำทาง หรือใช้การเดินแทนเมื่อต้องการไปทำกิจกรรมหรือธุระใกล้ๆ บ้าน การขับรถยนต์น้อยลงหมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะน้ำมันทุกๆ แกลลอนที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ 20 ปอนด์

8. จัดเส้นทางรถรับส่งพนักงาน ถ้าในหน่วยงานมีพนักงานจำนวนมากอาศัยอยู่ในเส้นทางใกล้ๆ กัน ควรมีสวัสดิการจัดหารถรับส่งพนักงานตามเส้นทางสำคัญๆ เป็น Car Pool ระดับองค์กร

9. เปิดหน้าต่างรับลมแทนเปิดเครื่องปรับอากาศ ลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้า เพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศ ด้วยการเปิดหน้าต่างบ้านรับลมบ้าง โดยเฉพาะในหน้าหนาวหรือหน้าฝน ที่อากาศภายนอกเย็นกว่าฤดูอื่นๆ กลัวยุงและแมลงก็ติดมุ้งลวดที่หน้าต่างเสียเลยหลายครั้งที่เรา จะพบว่าโรงแรมและบ้านพักหลายแห่งที่อยู่ติดทะเลมีห้องพักที่ใช้พัดลมกับห้องพักมีเครื่องปรับอากาศ ให้เลือก เลือกพักห้องพัดลมจะดีกว่า ได้นอนฟังเสียงคลื่นพร้อมกับใช้ไฟฟ้าน้อยลง

10. มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ครั้งต่อไปเมื่อจะซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น ป้ายฉลากเขียวประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพราะการจะได้ใบรับรองนั้นจะต้องมีการประเมินสินค้าตั้งแต่เริ่มต้นหาวัตถุดิบ

11. ไปตลาดสดแทนซุปเปอร์มาเก็ตบ้าง ซื้อผักผลไม้ หมู ไก่ ปลา ในตลาดสดใกล้บ้านแทนการช้อปปิ้ง ในซุปเปอร์มาเก็ตบ้าง ที่อาหารสดทุกอย่างมีการหีบห่อด้วยพลาสติกและโฟมทำให้เกิดขยะจำนวนมากลองหิ้วตระกร้าหรือถุงผ้าไปจ่ายตลาดดูบ้าง

12. เลือกซื้อเลือกใช้ เมื่อต้องซื้อรถยนต์ใช้ในบ้านหรือรถยนต์ประจำสำนักงานก็หันมาเลือกซื้อรถประหยัดพลังงาน รวมทั้งเลือกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ ทั้งในบ้านและอาคารสำนักงาน

13. เลือกซื้อรถยนต์ที่มีขนาดตามความจำเป็น โดยพิจารณาจากขนาดครอบครัวและประโยชน์การใช้งาน ได้ขนาดแล้วก็พิจารณารุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเพื่อเปรียบเทียบราคา อาจลองใช้การจัดอันดับรถเพื่อสิ่งแวดล้อม

14. ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเลือก รถโฟว์วีลขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อกินน้ำมันมาก ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าเลือกซื้อใช้ ตะแกรงขนสัมภาระบนหลังคารถ ก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็นเพราะเป็นการเพิ่มน้ำหนักรถให้เปลืองน้ำมัน ยกเว้นจะเลือกแบบที่ถอดเข้าออกได้เผื่อจำเป็นต้องใช้งาน

15. ขับรถอย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะทางไกลการขับรถ ด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20 % หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตันต่อรถยนต์แต่ละคันที่ ใช้งานราว 30,000 กิโลเมตรต่อปี

16. ขับรถเร็วเที่ยวไปลดคาร์บอนไดออกไซด์ไปพร้อมกัน แม้จะอยู่ในช่วงลาพักร้อนไปเที่ยวต่างประเทศ เลือกเช่ารถรุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ใช้เอธานอลหรือน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกอื่นๆ ด้วย ลองสอบถามบริษัทรถเช่าเมื่อเดินทางไปถึง

17. เลือกใช้บริการโรงแรมที่มีสัญลักษณ์สิ่งแวดล้อม ปัจจุบันโรงแรมหลายแห่งมีบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น มีมาตรการประหยัดน้ำ ประหยัดพลังงาน และมีระบบจัดการของเสีย มองหาป้ายสัญลักษณ์ เช่น โรงแรมใบไม้สีเขียว มาตรฐานผลิตภัณฑ์คุณภาพ

18. เช็คลมยาง การขับรถที่ลมยางอ่อนอาจทำให้เปลืองน้ำมันได้ถึง 3 %

19. เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอธานอลให้มากขึ้น

20. โล๊ะทิ้งตู้เย็นรุ่นเก่า ตู้เย็นที่ผลิตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ใช้ไฟฟ้ามากเป็น 2 เท่าของตู้เย็นสมัยใหม่ที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟลงได้มาก และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กิโลกรัมต่อปี

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำโคมไฟจากแผ่นซีดี

Posted by ธนาคารออมจุ๊บ , ผู้อ่าน : 10482 , 18:01:24 น.

หมวด : งานอดิเรก

พิมพ์หน้านี้

วัสดุที่ใช้

1. สวิทซ์ไฟ สำหรับเปิดปิด

2. หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบยาว

3. แผ่นซีดี 61 แผ่น

4. สายไฟ 1.8 เมตร

หลอดไฟที่ใช้

ถอดส่วนประกอบหลอดไฟออก เพื่อจะได้แยกเอาสวิทซ์กับหลอดไฟ ไว้สำหรับติดนอกกล่องโคมไฟ

เอามากะระยะ ว่าสวิทซ์ กับหลอดไฟจะอยู่ตำแหน่งไหน

ตัดแผ่นไม้อัดหนาขนาด 3/8 นิ้ว เป็นรูปวงกลมขนาด แผ่นซีดี จำนวน 18 แผ่น

แผ่นไม้อัดที่ตัดออกมา

ทาด้วยกาวร้อน แล้วใช้สกรูอัดให้แน่น ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง ประมาณ 20 นาที

ใช้สว่านเจาะช่องตรงกลางไม้ให้ใส่หลอดไฟได้ เจาะช่องให้สายไฟ กับสวิทซ์ไฟใส่ได้

วางหลอดไฟใส่ลงไปในช่องนี้

ใส่สวิทซ์ไฟ กับสายไฟตามช่องที่เจาะไว้

เจาะรูตรงกลางแผ่นซีดี ให้กว้างพอที่จะใส่หลอดไฟได้

เจาะให้ใส่หลอดไฟได้แบบนี้

จับแผ่นซีดีสองแผ่น มาจับคู่ประกบกัน โดยหันด้านที่มันวาวออกทั้งสองด้าน แล้วใช้กาวร้อนทาทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเจาะรู3 รู ไว้สำหรับใส่น็อตยาวเป็นเสาขา 3 ขาดังภาพ ชั้นแรกใส่แผ่นเดียว จากนั้นค่อยใส่วงแหวน รองเพื่อให้เป็นชั้นๆ มีช่องว่าง ให้แสงกระจายออก ใส่ไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสุดท้าย ใช้แผ่นซีดี 4 แผ่นทากาวประกบกัน ปิดเป็นฝาข้างบน

เวลาจะเปลี่ยนหลอดไฟข้างใน ก็ไขน็อตออก แล้วหยิบหลอดไฟมาเปลี่ยน

ประกอบเสร็จแล้ว เมื่อเปิดไฟ จะได้โครมไฟที่สวยงาม

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำโคมไฟจากแผ่นซีดี

Posted by ธนาคารออมจุ๊บ , ผู้อ่าน : 10482 , 18:01:24 น.

หมวด : งานอดิเรก

พิมพ์หน้านี้

วัสดุที่ใช้

1. สวิทซ์ไฟ สำหรับเปิดปิด

2. หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์แบบยาว

3. แผ่นซีดี 61 แผ่น

4. สายไฟ 1.8 เมตร

หลอดไฟที่ใช้

ถอดส่วนประกอบหลอดไฟออก เพื่อจะได้แยกเอาสวิทซ์กับหลอดไฟ ไว้สำหรับติดนอกกล่องโคมไฟ

เอามากะระยะ ว่าสวิทซ์ กับหลอดไฟจะอยู่ตำแหน่งไหน

ตัดแผ่นไม้อัดหนาขนาด 3/8 นิ้ว เป็นรูปวงกลมขนาด แผ่นซีดี จำนวน 18 แผ่น

แผ่นไม้อัดที่ตัดออกมา

ทาด้วยกาวร้อน แล้วใช้สกรูอัดให้แน่น ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง ประมาณ 20 นาที

ใช้สว่านเจาะช่องตรงกลางไม้ให้ใส่หลอดไฟได้ เจาะช่องให้สายไฟ กับสวิทซ์ไฟใส่ได้

วางหลอดไฟใส่ลงไปในช่องนี้

ใส่สวิทซ์ไฟ กับสายไฟตามช่องที่เจาะไว้

เจาะรูตรงกลางแผ่นซีดี ให้กว้างพอที่จะใส่หลอดไฟได้

เจาะให้ใส่หลอดไฟได้แบบนี้

จับแผ่นซีดีสองแผ่น มาจับคู่ประกบกัน โดยหันด้านที่มันวาวออกทั้งสองด้าน แล้วใช้กาวร้อนทาทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วเจาะรู3 รู ไว้สำหรับใส่น็อตยาวเป็นเสาขา 3 ขาดังภาพ ชั้นแรกใส่แผ่นเดียว จากนั้นค่อยใส่วงแหวน รองเพื่อให้เป็นชั้นๆ มีช่องว่าง ให้แสงกระจายออก ใส่ไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสุดท้าย ใช้แผ่นซีดี 4 แผ่นทากาวประกบกัน ปิดเป็นฝาข้างบน

เวลาจะเปลี่ยนหลอดไฟข้างใน ก็ไขน็อตออก แล้วหยิบหลอดไฟมาเปลี่ยน

ประกอบเสร็จแล้ว เมื่อเปิดไฟ จะได้โครมไฟที่สวยงาม

กมล สายเคน เลขที่ 7 ชั้น ม.1/2

นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

เด็กหญิงสมฤทัย ภาคสีดา

สวัสดีค่ะคุณครูหนู่ได้ความรู้มากมายเลยค่ะ ขอขอบพระคูณมากนะคะที่เเลกเปลี่ยนความรู้ทำให้ไหนูด้รู้คุณค่าของความเป็นคน ข้อสอบอยากมากเลยค่ะ ขอพี่มัธยมศึกษาปีที่1

ด.ช.คงคา ถึงปัชชา เลขที่ 7

นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

เด็กหญิง รัตติยา คำเที่ยง

ข้อที่ 1 ให้นักเรียนอธิบาย ดังนี้

1.1 ความหมายของสิ่งประดิษฐ์ คือ การทำ หรือสร้าง สิ่งของเครื่องใช้ให้เป็นรูปร่างตามที่เราต้องการ อาจจะประดิษฐ์จากเศษวัสดุหรือ ของมีค่าก็ได้ ตามความต้องการแต่ต้องประดิษฐ์ด้วยมือของเราเองนะครับ จึงจะถือเป็นการประดิษฐ์ที่ควรค่าแก่การใช้และรักษา

1.2 ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

ตอนที่1

ข้อที่1

1.2 ความหมายของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ หมายถึง สิ่งที่จัดทำขึ้น โดยใช้ความคิด สร้างสรรค์ให้เกิดความประณีต สวยงาม น่าสนใจ เพื่อประโยชน์ที่พึงประสงค์ เช่น งานประดิษฐ์ดอกไม้ ผ้ารองจาน กระเป๋า ตุ๊กตา ที่คั่นหนังสือ กระทงใบตอง บายศรี พานดอกไม้ มาลัยแบบอื่นๆ

ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์

2.1 ประหยัดค่าใช้จ่าย

2.2 ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

2.3 ความเพลิดเพลิน

2.4 เพิ่มคุณค่าของวัสดุ

2.5 สร้างความแปลกใหม่ที่มีอยู่เดิม

2.6 ชิ้นตรงตามความต้องการ

2.7 เป็นของกำนัลแก่ผู้อื่น

2.8 อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย

2.9 เพิ่มรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว

2.10 เกิดความภูมิใจในตนเอง

ข้อที่2

1.1 ประเภทของงานประดิษฐ์

3.1ของใช้ได้แก่สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต เครื่องใช้ในบ้าน เครื่องใช้ส่วนตัวเป็นต้น

3.2 ของใช้ประดับตกแต่ง นำไปประดับตกแต่งให้เกิดความสวยงามได้แก่ กรอบรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เครื่องแขวน

3.3 ของเล่น มีความสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กช่วยให้เจริญเติบโตแข็งแรงมีสุขภาพดี ทั้งกาย จิตใจ สังคมและสติปัญญา

3.4 ของใช้ในงานพิธี สิ่งที่ผลิตที่ประกอบในงานพิธีได้แก่บายศรี พานพุ่ม มาลัย ชนิดต่างๆ

ตอนที่2

2.1วิธีลดโลกร้อน

1. ปรับ Desktop Wallpaper ของท่านให้เป็นสำเข้ม ยิ่งเป็นสีดำเลยยิ่งดี เพราะว่ามันจะประหยัดไฟมากกว่า รวมไปถึง Screen Saver ก็ให้ตั้ง Blank ไว้ มันจะเป็นหน้าจอดำสนิท ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ได้ใช้งาน เช่น ตอนพักเที่ยง และตอนกลับบ้าน

2. พกผ้าเช็ดหน้า แทนที่จะใช้กระดาษทิชชู สมัยนี้มีกระดาษทิชชูห่อสวยๆพกง่ายๆออกมา หลายคนใช้มันแทนผ้าเช็ดหน้า เพราะว่ามันสะดวกและห่อมันก็น่ารักด้วย แต่กระดาษทิชชูผลิตมาจากต้นไม้ ยิ่งใช้มากก็ยิ่งต้องตัดมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าดีกว่าครับ เก็บต้นไม้ไว้เป็นปอดให้กับโลกเราบ้างเถอะนะ

3. การชาร์ตแบตมือถือ การชาร์ตแบตมือถือของคนทั่วๆไปเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 95% เพราะว่ามักจะเสียบสายค้างไว้ทั้งๆที่แบตเต็มแล้ว ท่านรู้ไหมว่าถึงแบตจะเต็มแล้วแต่ว่าถ้าไม่ถอดออกมันก็จะยังกินไฟอยู่ ฉะนั้นเวลาแบตเต็มแล้วก็ให้ถอดสายออก แต่ถ้ายังเสียบหม้อแปลงกับเต้าเสียบค้างไว้มันก็ยังกินไฟอยู่ดี เพราะฉะนั้นก็ให้ถอดออกให้หมด

4. ประหยัดน้ำ อย่าใช้น้ำแบบสิ้นเปลือง ถ้ามีโอกาสได้เปลี่ยนก๊อกที่บ้าน ก็ให้ใช้ก๊อกน้ำแบบเพิ่มฟองอากาศ น้ำที่ไหลออกมาจะมีฟองอากาศออกมาด้วยทำให้ดูเหมือนมีน้ำเยอะ แต่จะประหยัดกว่าก๊อกธรรมดาถึงครึ่งหนึ่ง ถ้านึกไม่ออกให้ดูห้องน้ำตามห้าง น้ำที่ไหลออกมาจะเป็นแบบนั้น และเวลาใช้น้ำที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านเราก็ควรจะประหยัดด้วย ไม่ใช่คิดว่าของฟรี หรือเวลาไปพักตามโรงแรมก็อย่าคิดว่าใช้ให้คุ้ม เพราะว่าทำแบบนี้แหละโลกถึงร้อน

5. ประหยัดไฟ ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้และถอดปลั๊กด้วย รวมไปถึงหลอดไฟด้วย ถ้ามีโอกาสก็เปลี่ยนหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดไฟ CFL ซะ ที่มันเป็นเกลียวๆ ถึงหลอดพวกนี้จะแพงกว่า แต่ก็ประหยัดไฟกว่ามาก แถมอายุการใช้งานก็ยาวกว่าเยอะ ซึ่งในระยะยาวก็จะคุ้มกว่าแน่นอน

6. ลดใช้ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกทำให้เราสะดวกขึ้นก็จริง แต่มันเป็นภัยต่อโลกอย่างมากมาย กว่าถุงที่เราใช้จะย่อยสลายไป ตัวเรานั้นย่อยสลายก่อนมันไปนานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆก็ให้เก็บไว้เพื่อนำไปใช้ครั้งต่อไปได้อีก เวลาจ่ายตลาดก็ให้ใช้ถุงผ้าแทน ถุงผ้าสวยๆก็มีออกมาขายกันเยอะแยะ

7. ลดอาหารแช่แข็ง อาหารแช่แข็งตอนนี้กำลังมีมากขึ้นเรื่อยๆ และก็เห็นมีคนนิยมบริโภคมากขึ้นเหมือนกัน แต่ท่านรู้ไหมว่าขั้นตอนการผลิตนั้นทำให้สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมาก เพราะว่ากล่องที่ใส่ก็เป็นพลาสติก ขั้นตอนในการขนส่งก็ต้องเก็บไว้ในที่เย็นตลอดเวลา รวมไปถึงตอนที่อยู่ในร้านด้วย แม้กระทั่งตอนจะกินยังต้องใช้พลังงานในการอุ่นอีก เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็อย่ากินเลยครับ มันสิ้นเปลืองพลังงาน กินของสดอร่อยกว่าอีก

8. ใช้จักรยาน เวลาที่ท่านไปทำธุระใกล้ๆบ้าน อาจจะไปซื้อของ จ่ายตลาด นอกจากจะประหยัดน้ำมันในยุคที่น้ำมันแพงแล้ว ยังช่วยให้ท่านได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย ไม่ต้องไปเสียเงินเข้าฟิตเนสแพงๆ

9. ลดการ Shopping หลายคนนั้นการ Shopping เป็นอะไรที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ก็ขอให้ลดการซื้อแบบสิ้นเปลืองลงบ้าง บางทีก็ซื้อๆไปอย่างนั้นแหละ แต่ก็ได้ใส่แค่ครั้งสองครั้ง บางชิ้นอาจไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ แต่อยากซื้อ..อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องซื้อหรอกครับ เอาแค่อันที่เราจะใส่จริงๆ เพราะว่ามันต้องใช้พลังงานมากมายในอุตสาหกรรมพวกนี้

10. ปลูกต้นไม้ ผมว่ามนุษย์ทุกคนชอบธรรมชาติ เวลาที่เราได้เห็นสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงาม ไม่ว่าจะเป็นป่าไม่ที่เขียวชอุ่ม น้ำใสๆ ชายหาดที่ขาวสะอาด เราจะรู้สึกสบายใจและชอบมัน แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้ช่วยกันรักษามัน เพราะฉะนั้นถ้ามีเวลาก็ให้ช่วยกันปลูกต้นไม้ อาจจะเป็นที่สวนหน้าบ้านได้ หรือมีเนื้อที่ตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ใส่กระถางไว้ก็ได้ นอกจากจะทำให้บ้านดูสวยขึ้นแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซพิษในอากาศได้อีกด้วย

2.2นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

ไอเดียเก๋ๆ ที่ทางทีมงานจะนำเสนอในวันนี้ เป็นกรอบรูปธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด ที่ว่าไม่ธรรมดาเพราะเป็นกรอบรูปแบบขอบ ซึ่งเป็นงานกระดาษหรือที่เรียกว่างาน เปเปอร์มาเช่ หลายๆ คนคงรู้จัก ในขณะที่อีกหลายคนคงเห็น ง. สองตัว (งง) ว่า เปเปอร์มาเช่ คืออะไรกันแน่นะ???

เปเปอร์มาเช่ เป็นงานที่สามารถทำได้หลายรูปแบบและทำได้ง่าย ใช้เทคนิคง่ายๆ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ง่ายและราคาถูกคือกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้แล้ว กระดาษพิมพ์ดีดหรือกระดาษที่ไม่มีลวดลายสำหรับปิดชั้นนอกสุดเพื่อเตรียมการลงสีต่างๆ สิ่งเหล่านี้สามารถหาได้ทั่วไปตามท้องตลาด

หลักการทำของงานเปเปอร์มาเช่ คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

เด็กหญิง กัณฐิกา ลาภมูล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 เลขที่ 12

ตอนที่ 1

ข้อ 1.1

สิ่งประดิษฐ์ หมาถึง การสร้างสรรค์สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่เคยมีมาก่อน อาจจะเป็นเครื่องมือง่าย ๆ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต หรือการสร้างสรรค์กระบวนการผลิตใหม่ ๆ หรือ การสร้างเครื่องจักรที่ซับซ้อน ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมานั้นอาจเกิดจากความจำเป็นที่ต้องการจะตอบสนองความต้องการ หรือเกิดจากความบังเอิญ ซึ่งบางอย่างมีวิวัฒนาการ เป็นต้น

ข้อ 1.2

ประเภทของโครงการประเภทสิ่งประดิษฐ์ อาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ดังต่อไปนี้

3.1 อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในบ้าน / สำนักงาน

เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ทุกชนิดที่ช่วยให้เกิดความสะดวกความสบายในการใช้สอยทั่วไป ทั้งภายในบ้านหรือสำนักงาน เช่น เครื่องจ่ายผงซักฟอกแบบหยอดเหรียญ เครื่องเจาะสันหนังสืออัตโนมัติ สไลด์มัลติวิชั่น เป็นต้น

3.2 อุปกรณ์เพื่อการประกอบอาชีพ

เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้เป็นเครื่องทุ่นแรง ในการประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ เช่น เครื่องมือด้านการเกษตร อุตสาหกรรม ศิลปกรรม คหกรรม และพณิชยกรรม เช่น เครื่องดูดถ่ายน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ เครื่องพันขดลวดรีไซเคิล เตาอบยางเศษฐกิจพิชิตขยะรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

3.3 อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยและการแพทย์

เครื่องมือ หรืออุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือป้องกัน หรืออำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ประสบภัยประเภทต่างๆ รวมทั้งเครื่องมือ / อุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ด้วย เช่น ไม้เท้านำทางคนตาบอดอิเล็กทรอนิกส์ รถเข็นไฟฟ้า ระบบเตือนภัยด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

3.4 อุปกรณ์เพื่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน

เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการป้องกัน หรือแก้ไขอันตรายที่เกิดจาก มลพิษ ช่วยบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดจนเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการประหยัดพลังงานอย่างอื่นแทนเชื้อเพลิง หรือไฟฟ้า เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เตาเผาขยะลดมลพิษ เครื่องแยกน้ำมันออกจากน้ำ เป็นต้น

3.5 หุ่นยนต์ ( Robot )

เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นมาให้ทำงานได้คล้ายอวัยวะของมนุษย์ โดยจะสามารถมีปฎิกิริยาต่อสัญญาณที่ได้รับ ใช้เป็นข้อมูลนำไปประมวลผล หลังจากนั้นจะลงมือดำเนินการตามที่สั่ง เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ที่มุ่งเน้นในเรื่องความสวยงามแสดงความคิดสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์ต่อการใช้งาน เช่น รถหุ่นยนต์พ่นสารเคมี แขนกลอัตโนมัติ หุ่นยนต์ ตรวจการณ์ เป็นต้น

ตอนที่ 2

ข้อ 2.1

๑๐ วิธีในการช่วยลดภาวะโลกร้อน

๑. ต้องยอมรับก่อนว่า สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนมิได้มาจากประเทศอุตสาหกรรมหรือประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก

แต่เราทุกคนบนพื้นผิวโลก รวมทั้งคนไทยด้วย ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อน เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟฟ้า การเดินทาง การขนส่ง การบริโภค การสร้างที่พักอาศัย การซื้อของ ล้วนมีส่วนสำคัญในการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ

๒. ประหยัดการใช้พลังงานทุกชนิด

โดยเฉพาะไฟฟ้า เพราะเชื้อเพลิงสำคัญในการผลิตไฟฟ้า คือ น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ล้วนแต่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อภาวะเรือนกระจกทั้งสิ้น เลือกอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า เช่นเปลี่ยนมาใช้หลอดประหยัดพลังงาน เพราะหลอดไฟที่ใช้กันอยู่ทั่วไปเปลี่ยนพลังงานเพียงร้อยละ ๑๐ เท่านั้นให้เป็นแสงสว่าง ส่วนพลังงานอีกร้อยละ ๙๐ สูญเสียไปในรูปของความร้อน และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งาน

๓. หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว

เพื่อเป็นการประหยัดการใช้น้ำมัน ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการโดยสารเครื่องบิน ดังที่รายงานของสถาบันสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศแนะนำว่า ควรใช้บริการรถไฟสำหรับการเดินทางในระยะทางไม่เกิน ๖๔๐ กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเที่ยวบินลงได้ถึงร้อยละ ๔๕ และบรรดานักธุรกิจควรใช้ระบบการประชุมผ่านวิดีโอแทนการให้พนักงานขึ้นเครื่องบินไปร่วมการประชุม

๔. คิดก่อนจะซื้อสิ่งของ

เพราะการผลิตและการขนส่งสินค้าเกือบทุกชนิดล้วนแต่ใช้พลังงานทั้งสิ้น ก่อนจะซื้ออะไรลองถามตัวเองว่า สิ่งนั้นจำเป็นเพียงใด หรือลองเปลี่ยนจากการซื้อของใหม่เป็นการซ่อมหรือใช้ของมือสองแทน

๕. ลดการกินทิ้งกินขว้าง เพราะเศษอาหาร

และของที่บูดเน่า เมื่อไปทับถมอยู่ที่กองขยะ จะกลายเป็นแหล่งผลิตก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง

๖. บริโภคของที่ผลิตในประเทศ

เพราะการซื้อสินค้าจากต่างประเทศย่อมต้องสิ้นเปลืองพลังงานในการขนส่ง การกินอาหารท้องถิ่น จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เช่นหันมากินปลาทูแทนปลาแซลมอน เพราะนอกจากราคาถูก และทำให้เงินทองไม่รั่วไหลออกนอกประเทศแล้ว ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย

๗. พกขวดน้ำติดตัวไปด้วยระหว่างการเดินทาง

ขวดน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิตมหาศาล แถมยังทำให้เกิดขยะล้นโลก และในการกำจัดขยะก็ต้องใช้พลังงานอีกต่างหาก

๘. หลีกเลี่ยงการใช้ถุงพลาสติก

เพราะการผลิตถุงพลาสติกใช้พลังงานอย่างมหาศาล ถ้าให้ดีนำถุงผ้าจากบ้านติดตัวไปด้วยเวลาซื้อของตามร้านค้า หากไม่จำเป็นควรบอกพนักงานขายว่าไม่เอาถุงพลาสติก เพราะเมื่อนำกลับบ้านแล้วคนส่วนใหญ่จะทิ้งลงถังขยะ ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ถุงพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ถึงปีละ ๑ แสนล้านใบ

๙. ประหยัดการใช้กระดาษ

อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ ใช้พลังงานมากเป็นอันดับ ๔ ทั้งยังก่อมลพิษทางน้ำ เป็นต้นเหตุของการทำลายป่าไม้ ซึ่งเป็นตัวดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญด้วย

๑๐. สนับสนุนการซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิต

ที่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท ที่มีส่วนในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ผลิต ที่อยากมีส่วนในการปกป้องโลก และเลิกสนับสนุนสินค้า ของบริษัทที่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อ 2.2

นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

หลักการทำของงาน คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ???

เด็กหญิง ปิยพร ปราบพล นักเรียนชั้ยมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 เลขที่ 11

ตอนที่ 1

ข้อ 1.1

สิ่งประดิษฐ์ หมาถึง การสร้างสรรค์สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่เคยมีมาก่อน อาจจะเป็นเครื่องมือง่าย ๆ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต หรือการสร้างสรรค์กระบวนการผลิตใหม่ ๆ หรือ การสร้างเครื่องจักรที่ซับซ้อน ในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ขึ้นมานั้นอาจเกิดจากความจำเป็นที่ต้องการจะตอบสนองความต้องการ หรือเกิดจากความบังเอิญ ซึ่งบางอย่างมีวิวัฒนาการ เป็นต้น

ข้อ 1.2

ประเภทของโครงการประเภทสิ่งประดิษฐ์ อาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ดังต่อไปนี้

3.1 อุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในบ้าน / สำนักงาน

เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ทุกชนิดที่ช่วยให้เกิดความสะดวกความสบายในการใช้สอยทั่วไป ทั้งภายในบ้านหรือสำนักงาน เช่น เครื่องจ่ายผงซักฟอกแบบหยอดเหรียญ เครื่องเจาะสันหนังสืออัตโนมัติ สไลด์มัลติวิชั่น เป็นต้น

3.2 อุปกรณ์เพื่อการประกอบอาชีพ

เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ใช้เป็นเครื่องทุ่นแรง ในการประกอบอาชีพในสาขาต่างๆ เช่น เครื่องมือด้านการเกษตร อุตสาหกรรม ศิลปกรรม คหกรรม และพณิชยกรรม เช่น เครื่องดูดถ่ายน้ำมันหล่อลื่นเครื่องยนต์ เครื่องพันขดลวดรีไซเคิล เตาอบยางเศษฐกิจพิชิตขยะรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

3.3 อุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยและการแพทย์

เครื่องมือ หรืออุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือป้องกัน หรืออำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ประสบภัยประเภทต่างๆ รวมทั้งเครื่องมือ / อุปกรณ์ที่ใช้ในทางการแพทย์ด้วย เช่น ไม้เท้านำทางคนตาบอดอิเล็กทรอนิกส์ รถเข็นไฟฟ้า ระบบเตือนภัยด้วยคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

3.4 อุปกรณ์เพื่อสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน

เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการป้องกัน หรือแก้ไขอันตรายที่เกิดจาก มลพิษ ช่วยบำรุงรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดจนเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ช่วยในการประหยัดพลังงานอย่างอื่นแทนเชื้อเพลิง หรือไฟฟ้า เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เตาเผาขยะลดมลพิษ เครื่องแยกน้ำมันออกจากน้ำ เป็นต้น

3.5 หุ่นยนต์ ( Robot )

เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นมาให้ทำงานได้คล้ายอวัยวะของมนุษย์ โดยจะสามารถมีปฎิกิริยาต่อสัญญาณที่ได้รับ ใช้เป็นข้อมูลนำไปประมวลผล หลังจากนั้นจะลงมือดำเนินการตามที่สั่ง เป็นส่วนหนึ่งในเรื่องของปัญญาประดิษฐ์ที่มุ่งเน้นในเรื่องความสวยงามแสดงความคิดสร้างสรรค์ และเกิดประโยชน์ต่อการใช้งาน เช่น รถหุ่นยนต์พ่นสารเคมี แขนกลอัตโนมัติ หุ่นยนต์ ตรวจการณ์ เป็นต้น

ตอนที่ 2

ข้อ 2.1

๑๐ วิธีในการช่วยลดภาวะโลกร้อน

๑. ต้องยอมรับก่อนว่า สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนมิได้มาจากประเทศอุตสาหกรรมหรือประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก

แต่เราทุกคนบนพื้นผิวโลก รวมทั้งคนไทยด้วย ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นเหตุให้เกิดภาวะโลกร้อน เพราะการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไฟฟ้า การเดินทาง การขนส่ง การบริโภค การสร้างที่พักอาศัย การซื้อของ ล้วนมีส่วนสำคัญในการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ

๒. ประหยัดการใช้พลังงานทุกชนิด

โดยเฉพาะไฟฟ้า เพราะเชื้อเพลิงสำคัญในการผลิตไฟฟ้า คือ น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ ล้วนแต่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ก่อภาวะเรือนกระจกทั้งสิ้น เลือกอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า เช่นเปลี่ยนมาใช้หลอดประหยัดพลังงาน เพราะหลอดไฟที่ใช้กันอยู่ทั่วไปเปลี่ยนพลังงานเพียงร้อยละ ๑๐ เท่านั้นให้เป็นแสงสว่าง ส่วนพลังงานอีกร้อยละ ๙๐ สูญเสียไปในรูปของความร้อน และถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดเมื่อเลิกใช้งาน

๓. หลีกเลี่ยงการใช้รถยนต์ส่วนตัว

เพื่อเป็นการประหยัดการใช้น้ำมัน ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการโดยสารเครื่องบิน ดังที่รายงานของสถาบันสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศแนะนำว่า ควรใช้บริการรถไฟสำหรับการเดินทางในระยะทางไม่เกิน ๖๔๐ กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเที่ยวบินลงได้ถึงร้อยละ ๔๕ และบรรดานักธุรกิจควรใช้ระบบการประชุมผ่านวิดีโอแทนการให้พนักงานขึ้นเครื่องบินไปร่วมการประชุม

๔. คิดก่อนจะซื้อสิ่งของ

เพราะการผลิตและการขนส่งสินค้าเกือบทุกชนิดล้วนแต่ใช้พลังงานทั้งสิ้น ก่อนจะซื้ออะไรลองถามตัวเองว่า สิ่งนั้นจำเป็นเพียงใด หรือลองเปลี่ยนจากการซื้อของใหม่เป็นการซ่อมหรือใช้ของมือสองแทน

๕. ลดการกินทิ้งกินขว้าง เพราะเศษอาหาร

และของที่บูดเน่า เมื่อไปทับถมอยู่ที่กองขยะ จะกลายเป็นแหล่งผลิตก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญอีกตัวหนึ่ง

๖. บริโภคของที่ผลิตในประเทศ

เพราะการซื้อสินค้าจากต่างประเทศย่อมต้องสิ้นเปลืองพลังงานในการขนส่ง การกินอาหารท้องถิ่น จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า เช่นหันมากินปลาทูแทนปลาแซลมอน เพราะนอกจากราคาถูก และทำให้เงินทองไม่รั่วไหลออกนอกประเทศแล้ว ยังช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกด้วย

๗. พกขวดน้ำติดตัวไปด้วยระหว่างการเดินทาง

ขวดน้ำพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิตมหาศาล แถมยังทำให้เกิดขยะล้นโลก และในการกำจัดขยะก็ต้องใช้พลังงานอีกต่างหาก

๘. หลีกเลี่ยงการใช้ถุงพลาสติก

เพราะการผลิตถุงพลาสติกใช้พลังงานอย่างมหาศาล ถ้าให้ดีนำถุงผ้าจากบ้านติดตัวไปด้วยเวลาซื้อของตามร้านค้า หากไม่จำเป็นควรบอกพนักงานขายว่าไม่เอาถุงพลาสติก เพราะเมื่อนำกลับบ้านแล้วคนส่วนใหญ่จะทิ้งลงถังขยะ ในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้ถุงพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ถึงปีละ ๑ แสนล้านใบ

๙. ประหยัดการใช้กระดาษ

อุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ ใช้พลังงานมากเป็นอันดับ ๔ ทั้งยังก่อมลพิษทางน้ำ เป็นต้นเหตุของการทำลายป่าไม้ ซึ่งเป็นตัวดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สำคัญด้วย

๑๐. สนับสนุนการซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิต

ที่สนใจปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท ที่มีส่วนในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ผลิต ที่อยากมีส่วนในการปกป้องโลก และเลิกสนับสนุนสินค้า ของบริษัทที่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อ 2.2

นำเสนอสิ่งประดิษฐ์เหลือใช้

วิธีทำกรอบรูปเก๋ๆ

หลักการทำของงาน คือ การนำกระดาษที่ถูกตัดเป็นชิ้นเล็กๆ และผ่านการแช่น้ำจนเปื่อยแล้วมาปิดลงบนแบบที่เตรียมไว้ ปิดหลายๆ ชั้น แต่ละชั้นจะทากาวไว้และจะต้องรอให้กาวแห้งก่อน แต่งผิวให้เรียบร้อย เสร็จแล้วจึงตกแต่งด้วยสี เปเปอร์มาเช่เป็นงานที่คุณสามารถสร้างผลงานตามจินตนาการของตัวเองได้โดยไม่ซ้ำแบบใคร แถมยังลงทุนน้อย เป็นการประหยัดกะตังค์ในกระเป๋าอีกด้วยนะค่ะ

สำหรับกรอบรูปที่จะทำกันในวันนี้ จะใช้วัสดุอุปกรณ์ง่ายๆราคาถูกแต่แบบเก๋ไก๋อย่าบอกใครเชียวค่ะ มีลักษณะเป็นกรอบรูปที่ดูเป็นสามมิติ คือมองดูมีความลึก เวลาทำถ้าใครมีรูปแบบลวดลายอะไรก็สามารถดัดแปลงได้ตามใจชอบ (อันนี้ไม่ว่ากันอยู่แล้ว) ดีไม่ดีอาจได้กรอบรูปในสไตล์ที่เป็นแบบของคุณเองหรือเป็นแบบของคนที่คุณต้องการมอบให้ พื้นกรอบรูปควรใช้สีอ่อนๆ หรือใช้สีที่ให้ความรู้สึกอ่อนนุ่มจะได้ไม่ไปแย่งจุดสนใจกับรูปภาพที่จะติดค่ะ จะมัวรอช้ากันอยู่ทำไมล่ะค่ะ เรามาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่าค่ะว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง???

เครื่องไม้เครื่องมือ :

1. มีดคัตเตอร์

2. ไม้บรรทัด

3. ดินสอ

4. แผ่นรองตัด

5. แปลงทาสี

6. กระดาษกาว

วัสดุที่ต้องใช้ :

1. กระดาษลูกฟูก

2. สีโปสเตอร์

3. กระดาษหนังสือพิมพ์

4. กรรไกร

5. สีขาวรองพื้น

6. ดินน้ำมันหรือกระดาษบดปั้นเป็นรูปหัวใจ วิธีทำดู เปเปอร์มาเช่

7. ลวดสำหรับทำที่แขวน

8. วานิชสำหรับเคลือบเงา

9. กาวลาเท็กซ์

10. รูปที่ต้องการติด

วิธีทำ

1. นำกระดาษลูกฟูกมาตัดออกตามรูป (ปรากฎอยู่ทางด้านข้างคุณสามารถนำแบบไปขยายตามขนาดของรูป) จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์มากรีดลงตามเส้นให้เป็นรอย ระวังอย่าให้ลึกเกินไป เราไม่ต้องการให้ขาดออกจากกัน เพียงให้เป็นรอยสะดวกแก่การพับเท่านั้น

2. พับตามรอยที่ได้กรีดไว้ ใช้เทปกาวปิดให้เรียบร้อย

3. นำลวดมาติดไว้ด้านหลัง ใช้สำหรับเป็นที่แขวน ยึดติดลวดกับกรอบรูปด้วยกระดาษกาวเช่นกัน

4. นำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ไม่ใช้แล้วมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 2.5 คูณ 2.5 เซนติเมตร หรือ 1นิ้ว คูณ 1 นิ้ว ทาด้วยกาวลาเท็กซ์และปิดลงบนกรอบให้ทั่วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทิ้งไว้ให้กาวแห้ง

5. นำสีขาวมาทารองพื้นให้ทั่ว ปล่อยให้แห้งแล้วทาซ้ำอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สีขาว ขาวทั่วกันทั้งหมด

6. นำรูปหัวใจที่เครียมไว้ ( อาจทำจากดินเหนียวหรือกระดาษบด) มาติดลงบนกรอบรูป ตกแต่งตามต้องการ

7. ตกแต่งด้วยสีโปสเตอร์แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง ทาด้วยวานิชเพื่อเคลือบอีกชั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง เท่านี้ส่วนที่เป็นกรอบก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

คราวนี้ล่ะ เวลานำรูปถ่ายมาติดให้นำรูปมาติดลงบนกระดาษการด์หรือกระดาษแข็งก่อน แล้วจึงนำไปติดด้านหลังของกรอบรูปอีกทีหนึ่งค่ะ คุณก็จะได้กรอบรูปฝีมือคุณเอง สามารถทำตามแบบที่คิดขึ้นเองไม่ซ้ำใคร ทำขายก็ได้ ให้เป็นของขวัญหรือของที่ระลึกก็ดูประทับใจไม่หยอกเลยใช่มั้ยล่ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท