บทร้องประกอบในพิธีทำขวัญนาค ตอนที่ 5 แหล่แกะบายศรี (ห้าชั้น)


เริงระบำรำเข้าแบบ รู้จักเต้นแร็ปแบบเมืองฟ้า เคล้าคลอเคลียกันไปมา เครื่องดนตรีกรุณาบรรเลง...

บทร้องประกอบ (ร้องแยก)

ในพิธีทำขวัญนาค

ตอนที่ 5  แหล่แกะบายศรี

โดย ชำเลือง มณีวงษ์

ผู้มีผลงานดีเด่นเพลงพื้นบ้านรางวัลราชมงคลสรรเสริญ ปี 2547

         ในตอนที่ 5 นี้ ผมขอนำเอาบทร้องแหล่ประกอบในพิธีทำขวัญนาค จัดตามที่ผู้ฟังร้องขอ ในยุคก่อน ๆ บทร้องแหล่แกะบายศรีมัก จะมีผู้ขอให้หมอทำขวัญร้องต่อจากตอนเชิญขวัญนาค ก่อนที่จะมีพิธีเวียนเทียนเบิกบายศรี บทร้องแหล่แกะบายศรีจะเป็นการบรรยายให้เห็นถึงความสวยงามในฝีมือช่างที่ได้แกะสลักบายศรีในแต่ละชั้นเป็นภาพต่าง ๆ ที่สวยงาม ดังปรากฏในบทร้องต่อไปนี้ 

        

        

บทร้องแหล่แกะบายศรี 5 ชั้น 

         แกะบายศรีชั้นต้น                     เลิศล้นงามโสภา

         บวรสะพรั่งไปด้วยนางมยุรา        ดูงามสง่าโสภณ

         ช่างประดิษฐ์คิดประดับ             แซมสลับเป็นสร้อยสน

         กุดั่นดวงพวงจงกล                   ดังจะหล่นลงเรียงราย

         ชั้นที่สอน รองชั้นต้น                 งามสกลมณีฉาย

         อีกทั้งแก้วกรองทองประไพ        เลิศวิไลดังจะลอย

         เป็นสีรุ้งดังจะร่วง                      สลับด้วยพวงระย้าย้อย

         มังกรคู่พู่ห้อย                          โผนเผ่นผล็อยตามนที

         เหนี่ยวกระหวัดรัดเครือวัลย์        แนบกระสันสลับสี

         โผลงสายชลดั้นด้นนที              แหวกสายคีรีรีบมา

         ชั้นที่สามงามไพบูลย์                สลักเป็นหุ่นงามเลิศหล้า

         สุบรรณฉาบคาบนาคา               แล้วโผผวาโบกบิน

         ฉีกกระชากปากก็กัด                 นาคก็รัดสุบรรณดิ้น

         ได้ท่าตีฉาดจับฟาดแผ่นดิน        นาคก็สิ้นซึ่งชีวัน

         ชั้นที่สี่เป็นที่ถิ่น                       กระแสสินธุกระเซ็นซ่าน

         แสนจะสุขสนุกสนาน                 โอฬาฬาลระเริงรมย์

         หมู่มัจฉาก็คลาคล่ำ                   บ้างผุดดำส่งเสียงขรม

         เที่ยวแหวกว่ายกินใกล้ตม          แล้วแฝงร่มบังใต้บัว

         เห็นปักษาทำท่าจะจิก               ขยับหลีกลงซ่อนตัว

         ว่ายหนีนกก้นหนีคนกันนัว          แล้วเอาหัวเข้าซุกโคลน

         ชั้นที่ห้าโอฬาเลิศ                    แสนประเสริฐสถาผล

         ล้วนแล้วแก้วโกมนท์                 สังวาลวนเวียนวง

         จะแกะเป็นสัตว์ทวิบาก              ดูหลายหลากเนินดง

         โขมดป่าผีโป่ง                         ชะนีก็ส่งเสียงร้องครวญ

         ลิงร้องครอกคราง ๆ ครืด            เดือนก็มืดเสียเมื่อจวน

         เสียงหยดย้อยละห้อยหวน         สิรุยาก็ด่วนส่องแสงทอง

         ราชสีห์ตื่นไสยาสน์                   ดูองอาจไวว่อง

         ไขลมคานพานคะนอง               เผ่นลำพองเข้าสู่ดง

         แกะเป็นกวางเดินย่างเหยาะ       เหยียบไม้หักเผาะผางโผง

         ตกใจจริงกวางวิ่งโทง ๆ             เข้าไปในดงไม้แดง

         ราชสีห์ขยับย่อง                      ด้วยว่าท้องกำลังแห้ง

         เมียงเข้าไปข้างไผ่แขนง           แยกเขี้ยวกระโดดโผง

         กวางทรายร่างกายประเปรียว      แลเหนียวทำตาโพลง

         วิ่งเตลิดเปิดวิ่งโก่ง                   วิ่งเข้าดงไม้มะดัน

         สุดท้ายขอแงะแกะสลัก             แกะเป็นฟากเมืองสวรรค์

         ฝูงเทวินทั้งสิ้นทั้งนั้น                จึงชวนกันชื่นอุรา

         เริงระบำรำเข้าแบบ                  รู้จักเต้นแร็ปแบบเมืองฟ้า

         เคล้าคลอเคลียกันไปมา           เครื่องดนตรีกรุณา..บรรเลง....        

 

หมายเลขบันทึก: 343850เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2010 21:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท