11 มีค.53

การศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้

           วันนี้ ได้รับโทรศัพท์มาตั้งแต่เช้า เกี่ยวกับการสอบบรรจุข้าราชการครูเป็นครูผู้ช่วย ซึ่งหลายสายคงได้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ในการสอบพร้อมกันทั่วประเทศ ก็เรียนทุกสายไปว่า"ยังไม่เปิดสอบ"คงรอการอนุมัติจาก สพฐ.ก่อน และคงจะมีการสอบทั่วไปคือสอบจากพนักราชการ ครูอัตราจ้างกลุ่มหนึ่ง และสอบจากบุคลทั่วไป กลุ่มหนึ่ง สำหรับบัญชีที่ยังไม่หมดอายุ ก็จะดำเนินการตามนโยบาย สพฐ.ที่จะให้เกิดความยุติธรรมกับทุกฝ่ายให้มากที่สุด

           ช่วงนี้ มีการเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารี กันหลายโรงเรียน ซึ่งกลุ่มเครือข่ายกะลุวอ ซึ่ง ผอ.เจริญ ทองเต็มดวง ประธานเครือข่ายก็จัดกิจกรรมขึ้น นับเป็นการรวมกลุ่มกันจัดกิจกรรมร่วมกันและได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครู นักเรียนและชุมชน โดยมีรองชาติชาย ขันทำ เป็นประธานในพิธีรอบกองไฟในครั้งนี้

            และวันนี้ รองซอมะ ดาแม ได้ประชุมทีมงานวิทยากรอิสลามศึกษาเพื่อกำหนดรูปแบบในการเปิดอาคารละหมาดในวันที่ 16 มีนาคม 2553 นี้ นับเป็นการเริ่มต้นในการแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

           โรงเรียนบ้านกาแร อ.ยี่งอ ก็จัดกิจกรรมบัณฑิตน้อยขึ้น โดยมีรองอารีฝีน เทพลักษณ์ไปเป็นประธานและทราบว่าจัดได้ดีมาก และรองนิตย์ พรหมประสิทธิ์ กับคณะติดตามผลการจัดซื้อจัดจ้าง SP2 ได้ไปตรวจการจัดซื้อจัดจ้างในโรงเรียนต่างๆ ก่อนจะเบิกจ่ายเงินให้กับผู้ประกอบการทุกโรงเรียนที่ส่งเรื่องมาเบิก ทั้งนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ได้มีหนังสือกำชับในการตรวจรับของและการจัดซื้อจัดจ้างขอให้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุอย่างเคร่งครัด  ดำเนินการให้ถูกต้องก่อนส่งมาเบิกเงินที สพท. ซึ่งก็พบว่าบางแห่งขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ และให้โรงเรียนทุกโรงถือเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ

          มีคุณครูหลายคนโทรมาถามเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ว่าการจัดซื้อจัดจ้าง สพท.มีนโยบายอย่างไรในการจัดซื้อ  ขอเรียนว่าให้จัดซื้อตามที่ ภาคี 4 ฝ่ายหรือคณะกรรมการให้ความเห็นชอบ ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไม่มีบุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทหนึ่งบริษัทใด หรือร้านค้าหนังสือใดๆทั้งสิ้น ขอให้ทุกโรงเรียนได้มีอิสระในการจัดซื้อจัดจ้าง และใช้ความเป็นนิติบุคคลให้สมบูรณ์ และหากมีผู้ใดแอบอ้างในการดำเนินการเป็นนายหน้าในนามของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้แจ้งให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทราบได้ทันที ซึ่งถือว่าเป็น "การใช้ตำแหน่งหน้าที่ แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ"และจะดำเนินการทางวินัยแก่กลุ่มที่แอบอ้างหรือหาผลประโยชน์เหล่านั้น และอย่าให้สถานศึกษาอย่าตกเป็นเครื่องมือกับกลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้ หรืออาจจะร้องเรียนไปยัง สพฐ.หรือแจ้งความที่สถานีตำรวจก็ได้ และคงขอบคุณโรงเรียนที่ให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้า และคงจะตำหนิโรงเรียนที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวเพื่อเห็นแก่พวกพ้อง โดยลืมคำว่า "ผลประโยชน์ของโรงเรียน ครูและเด็ก เป็นสำคัญ

        ขอให้ทุกคนจงมีความสุขและร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้สงบสุขร่วมกัน

[ภัทรานิษฐ์]

ขอบคุณที่นำข้อมูลมาฝากค่ะ

มาเยี่ยม

[KRUPOM]

สวัสดีค่ะ  มาติดตามข้อมูลนะคะท่าน