สติน้อย ทางเลือกน้อย สติมาก ทางเลือกมาก


คนเราถ้า ไม่ได้ฝึกสติมา  เวลาที่ เจออุปสรรค  เจอปัญหา  เจอความคับข้องใจ
    ก็มัก จะดึง "ความรู้ชุดเดิมๆ"   ความเชื่อเดิมๆ ออกมาใช้ 
  หรือ  ที่ คนจีนเรียกว่า  ซี้ปังเท้า (หัวสี่เหลี่ยม  มาจาก "ไม่พลิกแพลง")
เมื่อ ไม่พลิกแพลง  ก็คือ  ใช้ทางเลือกเดิมๆ   เช่น  ความรุนแรง
ทำคนอื่นเดือดร้อน   เรียกร้องความสนใจแบบเดิมๆ
เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ  ส่งเสียงดัง ทำลายของ
พอโตขึ้น  ก็ คิดแบบเดิมๆ  ส่งเสียงดัง ทำลายข้าวของ
เมื่อ สติไม่ได้ฝึก   ทางเลือกน้อย   ความสังเกตหายไป
เมื่อไม่สังเกต    ก็ใช้ แนวทางเดิม  หรือ  แผ่นเสียงตกร่อง
วังวนเดิมๆ    ไม่กล้ายอมรับ ไม่กล้าให้อภัย 

คนที่ฝึกสติ มามาก  ก็จะมี "ทางเลือก"(Choices) มากขึ้น
เพราะ เขา กล้าที่จะ คิดใหม่  เฉลียใจ  หามุมมองใหม่
เมื่อ เจอ อุปสรรค  เจอ ปัญหา เจอความคับข้องใจ
ก็ ใช้ การสนทนาร่วม (Collective conversation) ก็ได้
ใช้ ปัญญาร่วม (Collective intelligent) กับ เพื่อนๆ ที่ดี

คนสติน้อย จะไม่ฟังใคร  แพ้ไม่เป็น  ทำเสียงดัง
ทำลายข้าวของ  โวยวาย  ฯลฯ  ใช้ทางเลือกเดิม
ใช้ อุปนิสัยเดิมๆ  ตั้งแต่เป็นเด็กๆ ก็ เรียกความสนใจแบบนี้

คนอ่อนแอ คนมีปม  คนขลาด มักนิยม ชอบความรุนแรง
คนกลัวจะทำร้ายคนอื่นก่อนเสมอ


หากเราสังเกตสิ่งใด ได้ไม่สุด ไม่รอบ ไม่ครบ ไม่จบ ไม่ละเอียดพอ
เรา ก็มัก จะ "เลือกข้าง"   เกิดตัว อคติ และ ลำเอียง

ขอให้พวกเรา ฝึก สังเกต ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ในขณะสังเกต  จงห้อยแขวน หรือ ชะลอ การตัดสิน
จงห้อยแขวน หรือ อย่าด่วน พิพากษา 
จง ดูๆๆๆๆๆๆ รู้ๆๆๆๆๆ   รู้ใจตนเอง  สงบหรือไม่สงบ

สุดสัปดาห์นี่แหละ   สอนธรรมะเราชัด
ทำจิตว่างๆ   จิตที่ว่าง ๆ จึงจะ รู้ว่า จิตไม่ว่าง
กายที่ผ่อนคลาย  จึงจะรู้ว่า กายไม่ผ่อนคลายเป็นอย่างไร

จิตว่าง  รู้ได้จาก กายที่ผ่อนคลาย
จิตไม่ว่าง  กายไม่ผ่อนคลาย และ จะผลิตความคิดไม่ปกติออกมา

ถ้า จะคิด  ก็จงคิดเมื่อจิต ปกติ  
ถ้าจิตไม่ปกติ จะผลิต ความคิดแบบ มีอัตตา อคติ ลำเอียง

จง รู้ๆๆๆๆ  โดยอย่าด่วนตีความเอง
อย่าด่วนตัดสิน  อย่าด่วนเลือกข้าง

หมายเลขบันทึก: 343437เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2010 08:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณครับอาจารย์ ที่เตือนสติ ให้ฝึกสติ และให้มองเหตุการณ์ปัจจุบันอย่างมีสติ ไม่เลือกข้าง ผมยอมรับผมฝึกสติมาน้อย บางครั้งกังวล บางครั้งคล้อยตาม (คล้ายโรคจิต) ถ้าเหตุการณยืดเยื้อ ผมไม่รู้ว่า กิเลสฝ่ายใหนในตัวผมจะชนะ ระหว่าง สติฝ่ายลบ(-) คือคล้อยตามและเลือกข้าง กับสติฝ่ายบวก(+) คือพิจารณาเหตุอย่างมีสติ และใช้เหตุนี้ในการฝึกสติ

สติมา ปัญญาเกิด        จิตประเสริฐ ไม่เกิดสี

รู้เรื่องราว เข้าใจดี        ปรกติ นี้คือธรรม

ธรรมะ ธรรมชาติ         วิปลาส อาจถลำ

ปรกติ มิมืดดำ             สตินำ ธรรมปัญญา

ไม่เคยเลือกข้างที่จะเป็น แต่เลือที่จะทำหน้าที่ ของตัวเองให้ดีที่สุด

หากเราเข้าใจ และ มองแบบไร้อคติ เราจะเห็น ...

  • สาธุ สาธุ (ตามมาจาก facebook....อิอิ)
  • Woraphat Phucharoen

เป็นกฏเกณฑ์ ทางธรรมชาติ ที่ผู้คนมักไม่ใส่ใจ ปล่อยประละเลยมานาน ไม่รู้จักฝึกการใช้สติ จึงไม่รู้จักหน้าที่ของมนุษย์ เรียกร้องสิทธิ์ที่ขาดความรอบคอบขาดความรับผิดชอบ คือขาดสติ

สติไม่มีขีดแบ่ง ว่าคนมีการศึกษาดีมีฐานะดี จะมีสติกว่าคนที่ด้อยกว่าทางสถานะภาพ แต่ความอัตคัด และด้อยโอกาส ย่อมตกเป็นเหยื่อของพลังกลุ่มได้โดยไม่ยาก ยิ่งช่วงที่ขาดแคลนไปทุกอย่าง ใครหยิบยื่นอะไรมาก็รับเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เรื่องอื่นๆ คงไม่ต้องคิด แค่อิ่มท้องมีชีวิตรอดก็พอแล้ว คิดยาวๆ คงลำบาก ยิ่งเรื่องสติ ก็คงยาก

คงไม่ลืมคำว่ากองทัพเดินด้วยท้องนะค่ะ

น่าจะรวมหัวกันคิดแก้ปัญหาแล้งนะครับ คงจะดีไม่น้อย ..เรื่องที่ควรทำ ไม่ทำ เรื่องไม่ควรทำ ขยันทำ...

เข้ามาเพื่อหัดฝึกสติและจะยอมรับกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นค่ะ

จิตชอบคิดในแง่ดีค่ะอาจารย์ อาจจะเกิดจากความมั่นใจในกฏแห่งกรรมค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท